ตอนที่ 195 : ผลงานชิ้นโบว์แดงของเทียนหลาง
เมื่อเทียนหลางกลับมาถึงบ้านก็พบกับคุณป้าหลินเดินเข้ามาพร้อมกับกล่าวคําขอบคุณ
“ขอบคุณ คุณชายที่ช่วยเป็นธุระจัดเรื่องของหลินหลินที่โรงเรียนให้นะคะ”
เทียนหลางส่ายหน้าพร้อมกับยิ้ม
“ไม่เป็นไรหรอกครับ หลินหลินก็เหมือนกับน้องสาวของผมเรื่องแค่นี้เอง”
เทียนหลางลูบหัวหลินหลินเล็กน้อยก่อนจะเดินกลับไปที่เรือนมังกร เชิงหยวนกําลังนั่งทานอนพร้อมกับอ่านหนังสืออย่างสบายอารมณ์ก่อนที่จะหันมาถามเทียนหลาง
“จัดการเรื่องของหลินหลินเสร็จแล้วหรอ ?”
เป็นหลางพยักหน้าก่อนจะเล่าเรื่องราวของหลินหลินที่โรงเรียนให้กับเฟิงหยวนได้ฟัง ซึ่งเธอก็ฟังก่อนจะอดไม่ได้ที่ถอนหายใจออกมา
“ไม่ว่าที่ไหนก็มักจะมีคนโลภอยู่เสมอเลยน้า ”
เทียนหลางที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาก่อนจะบอกกับเฟิงหยวนว่า
“แล้วเรื่องอื่นๆคุณจัดการเรียบร้อยแล้วหรอ ?”
เฟิงหยวนพยักหน้า
“เรื่องของศาลาอัญมณี และก็เรื่องกลุ่มอื่นๆก็เรียบร้อยหมดแล้ว ร้านอาหารของเราก็ด้วย”
เทียนหลางพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะกุมมือของเฟิงหยวนเอาไว้
“คุณคงเหนื่อยน่าดูสินะ ที่ต้องจัดการอะไรหลายๆอย่างแบบนี้” เฟิงหยวนยิ้มพร้อมกับส่ายหน้า
“ไม่หรอก จัดการเรื่องที่ตําหนักเทพธิดาวุ่นวายกว่านี้อีก แค่นี้เล็กน้อย”
เทียนหลางที่ได้ยินก็พยักหน้าเห็นด้วยจากนั้นเฟิงหยวนก็ถามเทียนหลางกลับมาว่า
“คุณเถอะ จัดการเรื่องที่อเมริกาเป็นยังไงกันแน่ ?”
เทียนหลางคิดเล็กน้อยก่อนจะเล่าเรื่องที่อเมริกาให้เฟิงหยวนได้ฟัง หลังจากฟังเรื่องราวทั้งหมดเฟิงหยวนก็อดไม่ได้ที่จะสงสัย
“เซรุ่มสุดยอดทหารงั้นเหรอ ? มันฟังดูไซไฟล้ํายุคมากเลยนะ”
เทียนหลางที่ได้ยินแบบนั้นก็พยักหน้าก่อนจะพูดขึ้นว่า
“ใช่ เทคโนโลยีในยุคสมัยนี้ต่อให้พยายามแทบตายก็ไม่ได้เศษเสี้ยวของเจ้าเซรุ่มนั่นเลย ไม่รู้เหมือนกันว่าเธอนั้นทําได้ยังไงกันแน่”
เทียนหลางพูดจบก็หยิบขวดเซรุ่มซุปเปอร์โซลเยอร์ขึ้นมาเขย่าไปมา ของเหลวสีฟ้าด้านในถูกเขย่าไปมาก่อนที่จะเกิดประกายแสงสีแดงขึ้นรางๆ
เฟิงหยวนที่เห็นก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้น
“เป็นไปได้ไหมที่จะเกี่ยวข้องกับพวกปีศาจ หรือศิลาปีศาจ ?”
เทียนหลางพยักหน้า
“มีความเป็นไปได้สูงเลยละ ผมสัมผัสได้ถึงพลังงานด้านลบที่อยู่ภายในแม้มันจะเจือจางจนแทบจะสัมผัสไม่ได้ก็ตาม ดูเหมือนตัวของดร. จะสกัดพลังงานด้านลบออกมาจากที่ไหนสักแห่ง และนํามันมาผสมนั้นนี่จนกลายเป็นเจ้าเซรุ่มเจ้าปัญหานี้ขึ้นมา”
เฟิงหยวนพยักหน้าก่อนจะถามต่อ
“แล้วคุณยังจะมันให้กับรัฐบาลอีกหรอ ?”
เทียนหลางที่ได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับพูดด้วยท่าที่เหนื่อยๆว่า
“มันไม่มีทางเลือกน ภารกิจมันมาแบบนี้แต่ก็คงไม่ต้องห่วงหรอกมั้งเพราะต่อให้ทางกองทัพจะพยายามแค่ไหนพวกเขาก็ไม่มีทางที่จะสกัดเจ้านี่ออกมาได้หรอก ไม่ต้องพูดถึงวัตถุดิบเลย”
“นั่นสินะ เพราะขนาดในเซรุ่มยังเจือจางจนแทบไม่เหลือขนาดนี้ แสดงว่ามันต้องถูกสกัดมาเป็นจํานวนที่น้อยมากแน่ๆ หรือไม่ก็มีวัตถุดิบน้อยจนเกินไป”
ทั้งสองคนมีความเห็นตรงกัน แต่ถึงอย่างนั้นทั้งคู่ก็ไม่อาจไว้วางใจอะไรได้เพราะมันรับประกันไม่ได้ว่าจะไม่มีอัจฉริยะแบบดร.พาเลร่าโผล่ออกมาอีกคน
“ยาที่ทําให้แข็งแกร่งขึ้นมาแบบฉับพลันงั้นรี หี ! พูดแล้วก็คิดถึงเม็ดยาเป่ยหยวนของคุณเลย”
เฟิงหยวนพูดออกมาพร้อมกับมองมาที่เทียนหลาง เทียนหลางเองก็สัมผัสได้ถึงการจับจ้องของเฟิงหยวนก็อดไม่ได้ที่จะผิวปากเพื่อหลบเลี่ยงก่อนจะพูดขึ้นว่า
“อย่าพูดถึงมันสิ เจ้านั่นเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงเลยนะ”
เฟิงหยวนที่ได้ยินแบบนั้นก็เค้นเสียงเย็นชาออกมาทันที
“ผลงานที่ทําให้อาณาจักรอาคู่ยกลายเป็นดินแดนแห่งสงครามน่ะเหรอ ?”
เทียนหลางที่ได้ยินแบบนั้นก็ถึงกับเกาหัวเล็กน้อยก่อนจะพูดกลับไปว่า
“แหม – คุณก็พูดเกินไปอันที่จริงเจ้าเม็ดยาเป่ยหยวนนั่นเป็นสิ่งที่ผมทําออกมาเล่นๆ แถมยังเป็นเม็ดยาที่ล้มเหลวอีกด้วย แต่บังเอิญว่าไอเจ้าราชาปัญญาอ่อนนั่นกลับเอาออกไปใช้”
“และผลที่ตามมาก็อย่างที่เห็นนั่นแหละ อาณาจักรอาคุยกลายเป็นดินแดนแห่งสงคราม ทวีปกวนโต้วล้มสลาย ผมไม่ได้ทําอะไรซะหน่อย ถ้าจะผิดก็ต้องเจ้าราชานั่นต่างหาก”
เทียนหลางพูดจบเขาก็ยิ้มพร้อมกับยักไหล่เบาๆ