EP 188.1 10 ต่อ 1
By loop
การจับกุม แดนดาเหล่ย?
หลิวดาไห่ เมื่อได้ยินเรื่องนี้และรู้ว่า ดงซูบินและหัวหน้าแผนกการเงินอย่างวูจุนได้ทำการเจรจากันแล้วแต่กับล้มเหลว วูจุนเองก็ยังคงปฏิเสธที่จะส่งเงินจูงใจในการทำงานให้กับเขา ซึ่งสถานีอื่น ๆ ทั้งหมดได้รับเงินจูงใจสำหรับเจ้าหน้าที่หมดแล้วยกเว้นสถานีหมู่บ้านฮุ่ยเทียน การกระทำเช่นนี้นี่มันมากเกินไปและ ทำให้หลิวดาไห่เองก็โกรธมาก แต่เขายังคงรักษาความสงบ “ หัวหน้าซูบินพี่เขยของหัวหน้าแผนกวูนั้น เกิดที่หมู่บ้านต้าหวังและหมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ติดกับเหมืองทอง คนงานเหมืองและอันธพาลหลายคนเป็นลูกน้องของเขา เราเองก็เคยต้องการจับกุมเขาในอดีตเนื่องจากพวกนั้นชอบทะเลาะวิวาทและคุกคามผู้หญิง แต่เจ้าหน้าที่สองคนที่ไปจับกุมเขากลับถูกพวกอันธพาลรุมทำซ้อม ท้ายที่สุดแล้วคนพวกนั้นก็ไม่ถูกจับ มันแน่นอนว่า นี้ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรับมือกับคนเหล่านั้นไว”
ดงซูบินเองก็แสดงท่าทางที่จริงก่อนจะถามออกไปอย่างจริงจังว่า “ เขาทำร้ายเจ้าหน้าที่ของเรา?”
หลิวดาไห่ ตอบ “ ผมได้ยินมาว่าพวกมันหักขาชาวบ้านสองคนที่มีปัญหากับพวกมัน และไม่มีเรื่องไหนที่พวกมันไม่กล้าทำ”
ดงซูบินนั้นก็โกรธมาก “ พี่หลิว พี่เป็นหัวหน้าสถานีแบบไหนกัน?! ห่ะ? ทำไมพี่ถึงไม่รายงานเรื่องนี้ต่อสำนักงานเขต”
“ ผมเองก็รายงานไปตั้งนานแล้ว แต่สำนักงานเขตไม่ตอบกลับและดูเหมือนว่าเรื่องนี้จะหายไปจากสาระบบแล้ว” หลิวดาไห่ก็ รู้ว่า วูจุน และ หัวหน้าหู สนิทกันและนี่คือเหตุผลที่สำนักงานเขตไม่ได้หยิบเรื่องนี้มาดำเนินการ
ดงซูบินเองก็กระแทกโต๊ะของเขา “ ไอ้พวกนี้! พวกมันจะต้องถูกลงโทษอย่างหนัก! พวกมันไม่สนกฏหมายเลยหรือยังไงกัน! พวกมันคงคิดว่าพวกมันสามารถทำอะไรก็ได้ที่ต้องการเพราะมีคนคอยหนุนหลังมันอยู่สินะ? ตาเฒ่าหลิว! เรียกรวมเจ้าหน้าของเราที่เก่งที่สุดมา และนำปืนไปด้วย! เราจะไปจับกุมพวกมัน! ฉันเองจะเป็นคนรับผิดชอบเรื่องนี้เอง!” ดงซูบินเองก็ไม่ได้คาดหวังว่ามันจะร้ายแรงขนาดนี้ แม่และลุงของเขาบอกเขาว่าแดนดาเหล่ยนั้นเป็นคนอันธพาล แต่พวกเขาไม่ได้พูดกับดงซูบิน เกี่ยวกับการที่พวกมันทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจและทำให้ขาชาวบ้านขาหัก พวกแก! วูจุนกับแดนดาเหล่ยดูเหมือนว่าทั้งสองคนนี้จะเป็นตัวอันตรายเลยทีเดียว!
หลิวดาไห่เองก็กัดฟัน “ใช่! ผมจะไปจัดการมันด้วยตัวเอง!” ตอนนี้หลิวดาไห่หมดความกังวลแล้วหลังจากได้ยินสิ่งที่ดงซูบิน พูด เจ้าหน้าที่ที่ถูกทุบตีโดยพี่เขยของวูจุนนั้นสนิทกับหลิวดาไห่มาก เนื่องจากพวกเขามาจากบ้านเกิดเดียวกัน แต่หลิวดาไห่เองก็ต้องการจับกุมแดนดาเหล่ยมานานแล้ว
“ ใครคือเจ้าหน้าที่ที่ดูแลหมู่บ้าน ดาหวัง”
“ เสี่ยวจางครับ หัวหน้า”
“ตกลง. บอกให้เสี่ยวจางไปสอดแนมหมู่บ้านและแจ้งให้พวกเราทราบเกี่ยวตำแหน่งของแดนดาเหล่ย! จำไว้ว่าฉันไม่ต้องการให้ข่าวการปฏิบัติการนี้รั่วไหล!” ดงซูบิ ไม่ต้องการเข้าไปในหมู่บ้านและจับกุมแดนดาเหล่ยอย่างเปิดเผย หากพวกเขาปะทะกับชาวบ้านหรือพวกอันธพาลสิ่งต่างๆจะยิ่งแย่ลงไปอีก การดำเนินการนี้จะต้องดำเนินการอย่างลับๆ
นายสถานีเริ่มขยับ
เสี่ยวจางเองก็ค่อนข้างมีเส้นสายในหมู่บ้านและเขาได้ระบุตำแหน่งของแดนดาเหล่ยเล่ยอย่างรวดเร็ว ตอนนั้นแดนดาเหล่ย กำลังดื่มอยู่กับเพื่อนในร้านอาหารเล็ก ๆ ใกล้ทางเข้าหมู่บ้าน เขาอยู่กับเพื่อนเพียง 2 คนเท่านั้นและนี่เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการจับกุมเขา ดงซูบินสั่งให้เจ้าหน้าที่เตรียมพร้อมและขึ้นรถตู้ของสถานีหลิวดาไห่ และ เฉินฟาง ได้ขึ้นไปบนรถเอ็มพีวี ของดงซูบิน
หมู่บ้านดาหวัง.
หมู่บ้านแห่งนี้ล้อมรอบด้วยภูเขาและค่อนข้างมีหมอกหนา
ตอนนี้มีเจ้าหน้าที่ 7 ถึง 8 คนลงจากรถตู้ใกล้กับทางเข้าหมู่บ้านดงซูบินเริ่มออกคำสั่ง:“ ร้านอาหารอยู่ตรงนั้น ทุกคนต้องดำเนินการอย่างรวดเร็ว หลังจากที่พวกนายจับกุมเขาและคนอื่นได้ทั้งหมดแล้วให้นำเขากลับมาที่สถานีทันที หากจำเป็นนายทุกคนสามารถใช้ปืนได้เลย แต่พยายามอย่ายิ่งเว้นแต่จำเป็น” เพราะเมื่อยิงออกไปแล้วมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ทันีและนี่ไม่ใช่สิ่งที่ดงซูบินต้องการ มีเพียงคนที่พกอาวุธมาคือ หลิวดาไห่, เฉินฟาง และเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ที่เหลือไม่มีอาวุธรวมถึง ดงซูบินซึ่งปืนที่สำนักงานออกให้ก็ยังคงอยู่ที่สำนักงานเขต และเขาไม่มีเวลากลับไปเอาปืนอีกด้วย
หลังจากชี้แจงคำสั่งเจ้าหน้าที่ก็ขึ้นรถตู้อีกครั้ง
ซูม…รถตู้และรถเอ็มพีวี เร่งเข้ามาในหมู่บ้านและมาหยุดที่หน้าร้านอาหาร!
ประตูเปิดออกดงซูบินและหลิวดาไห่ เตะประตูร้านอาหารที่เปิดและเข้าไปพร้อมกับคนของพวกเขา
มีเพียงลูกค้าโต๊ะหนึ่งในร้านอาหาร ก่อนการดำเนินการนี้ดงซูบินได้อ่านประวัติอาชญากรรมของแดนดาเหล่ยและจดจำใบหน้าจากรูปถ่ายของเขา มันทำให้ดงซูบินจำแดนดาเหล่ยได้ทันที แดนดาเหล่ยเองกำลังดื่มเบียร์กับสองอันธพาล
“ อย่าขยับ! นี้ตำรวจ!”
“ แดนดาแหล่ย! มาพร้อมกับเรา!”
แดนดาเหล่ย และสองอันธพาลประหลาดใจที่เห็นเจ้าหน้าที่เข้ามาในร้านอาหารและหลังจากนั้นไม่นานพวกเขาก็เริ่มหัวเราะ แดนดาเหล่ยยกแก้วขึ้นแล้วโบกมือให้เจ้าหน้าที่อย่างหยิ่งผยองก่อนจะดื่มมันลงไป “คุณ. ตำรวจ คุณมาผิดที่หรือเปล่า? คุณต้องการให้ฉันติดตามคุณกลับไปที่สถานีอย่างงั้นหรอ? ฉันเองเป็นพลเมืองที่ปฏิบัติตามกฎหมาย นอกจากเหยียบมดตามท้องถนนแล้วฉันก็ไม่ได้ก่ออาชญากรรมใด ๆเลย !”
อันธพาลคนหนึ่งหัวเราะและยกแก้วขึ้น “ พี่เหล่ยมาทานเบียร์กันเถอะ!”
แดนดาเหล่ย เคาะแก้วของจิ๊กโก๋คนนั้น “หมดแก้ว! อย่าสนใจพวกมันเลย”
กลุ่มของแดนดาเหล่ยนั้นค่อนข้างหยิ่งพยองมาก พวกมันคิดว่าพวกมันอยู่เหนือกฎหมายและไม่มีใครสามารถทำอะไรพวกมันได้ เจ้าหน้าที่สองสามคนมองไปที่ดงซูบิน และ ดงซูบินก็กล่าวอย่างเย็นชาว่า “ ทำไมทุกคนถึงมองมาที่ฉัน! จับกุมแดนดาเหล่ย และพาเขากลับมา!”
เจ้าหน้าที่สองสามคนเข้ามาล้อมตัวแดนดาเหล่ยไว้ทันที
ใบหน้าของแดนดาเหล่ยเปลี่ยนเป็นเย็นชาและวางแก้วลง “ ใครกล้าจะจับฉัน!”
ดงซูบินเองก็หัวเราะขึ้นมา “ ถ้าฉันไม่รู้ว่า นายเป็นพวกจิ๊กโก๋ฉันคงคิดว่า นายคือวูจุนนะเนี่ย”
คนอันธพาลคนหนึ่งยืนขึ้นและชี้ไปที่เจ้าหน้าที่ “ ลองมาแต่ตัวพี่เหล่ยดูสิ ฉันจะฆ่าแกแน่!”
เจ้าหน้าที่เพิกเฉยต่อพวกนักเลงเหล่านั้นและเดินไปจับแดนดาเหล่ยลงบนโต๊ะ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งใส่กุญแจมือเขาไว้!
จนถึงตอนนี้แดนดาเหล่ยยังคงยิ้มอย่างเย็นชา “พวกเวรนิ. พวกแกกล้ามากที่มาจับกุมตัวฉัน ฉันอยากเห็นว่าพวกแกจะพาฉันกลับไปได้อย่างไร!”
ดงซูบินตบหลังศีรษะของแดนดาเหล่ย “ อย่าหลับตาและเบิกตากว้างๆ”
แดนดาเหล่ย ถูกพาออกจากร้านอาหารพร้อมกับผ้าพันแขนและชาวบ้านก็เห็นเหตุการณ์นี้ชัดเจน พวกเขาตกใจและกระโดดโล่ดเต้นอย่างมีความสุขอยู่ในใจ เพราะแดนดาเหล่ยสร้างความหายนะให้กับหมู่บ้านในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ชาวบ้านหลายคนถูกเขารังแกและไม่มีใครกล้าตอบโต้พวกนั้น ทุกคนรู้ว่า แดนดาเหล่ยมีเส้นสายที่ดีและยังมีกลุ่มอันธพาลเป็นลูกน้อง แต่ชาวบ้านจำได้ว่าครั้งก่อนที่ตำรวจพยายามจับตัวเขาเขาและพวกอันธพาลทุบตีเจ้าหน้าที่เหล่านั้นและทำตัวราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น!
ทันใดนั้นฉูเฟิงที่เฝ้าอยู่ข้างนอกก็วิ่งเข้ามา “ หัวหน้าซูบิน!”
ดงซูบิน ขมวดคิ้ว “ เกิดอะไรขึ้น?”
ฉูเฟิงหอบขณะชี้ไปที่ทางเข้า “ พวกอันธพาลมันมาที่นี้ มันมีประมาณ 20 คนและทุกคนถือไม้มาด้วย”
ดงซูบินนิ่งไปสักก่อนที่จะหันไปหาหลิวดาไห่ “ เร็วเข้า! พาแดนดาเหล่ยขึ้นรถแล้วกลับไปที่สถานี!”
แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ขึ้นรถตู้และรถเอ็มพีวีกลุ่มอันธพาลก็วิ่งแซงขึ้นไป พวกมันมีจำนวนมากกว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจมากกว่า 3 เท่า พวกอันธพาลล้อมรอบรถอย่างรวดเร็วและพวกมันมีอาวุธเป็นไม้และมีด อันธพาลคนหนึ่งถือกระบองตำรวจ “ ไอ้เวรนี้! ปล่อยตัวพี่เหล่ยเดียวนี้! ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้ออกไปไหนทั้งนั้น!”
“ ปล่อยตัวเขาออกมา! ปล่อยลูกพี่พวกเราออกมา!”
“ถูกแล้ว! เราจะฆ่าพวกแกทั้งหมดถ้าแกไม่ปล่อยเขา!”
“ ตำรวจสามารถจับกุมใครก็ได้ที่ต้องการอย่างงั้นหรอ? พี่เหล่ยไม่ได้ก่อคดีอะไรเลย! ปล่อยเขาเดียวนี้!”
แดนดาเหล่ยเองก็หัวเราะอย่างเย็นชาในรถตู้และมองไปที่รถเอ็มพีวี
ดงซูบินเองนั่งอยู่ในรถเอ็มพีวี ของเขาอย่างเงียบ ๆ หลิวด่าไห่รู้ว่าเรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่จริงจังมากและเขาก็ขมวดคิ้ว เขาไม่รู้ว่าจะจัดการเรื่องยุ่งนี้ได้อย่างไร “ หัวหน้าซูบินงผู้ชายหัวโล้นคนนั้นที่นำพวกอันธพาลเป็นญาติของวูจุนด้วย ชื่อของเขาคือ แดนดาพิง และยังเป็นพี่เขยของวูจุน แม้ว่าเขาอาจไม่ได้เกี่ยวข้องกันโดยตรง แต่เขาก็คลุกคลีกับแดนดาเหล่ยและพวกอันธพาลตลอดเวลา อันธพาลทั้งหมดที่นี่อยู่ภายใต้การสั่งการของพี่น้องสองคนนี้”
ดงซูบินพยักหน้า “ หัวหน้าแผนกวูนี้มีญาติเป็นคนดีๆทั้งนั้นเลยนะ!”
หลิวดาไห่ ถาม “ ตอนนี้เราควรทำอย่างไรดี”
ดงซูบินเองก็คิดอยู่สักพัก “ ยิงขึ้นฟ้าเตือนไปก่อน! ฉันเองก็อยากเห็นใครจะกล้าหยุดพวกเรา!”
หลิวดาไห่รู้สึกว่านี่เป็นทางออกเดียวและมองไปที่เฉินฟาง เฉินฟาพยักหน้าและชักปืนออกมา เขาไม่ได้ลงจากรถและยิงปืนขึ้นฟ้าจากหน้าต่าง “นี้ตำรวจ! ถอยออกไปจากเราไม่งั้นเราจะยิง!”
พวกอันธพาลเริ่มพูดกวนประสาท
แดนดาผิงเองก็มองไปที่พวกอันธพาลและสั่งการพวกมัน เขาเหวี่ยงกระบองไปที่แขนของเฉินฟาซึ่งอยู่นอกหน้าต่าง! กระบองกระแทกไปที่แขนของเฉินฟางและเขาตะโกนออกมาด้วยความเจ็บปวด โชคดีที่เขาไม่ปล่อยการจับปืนและรีบถอยแขนกลับเข้ามาในรถ!
ดงซูบินเห็นพวกอันธพาลทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเปิดเผยและโกรธมาก “ พี่เฉินกระดูกของพี่หักรึเปล่า”
เฉินฟางเหงื่อแตกขณะที่เขาตอบ “ กระดูกของผมปกติดีครับ ไอ้พวกเวรพวกนี้!”
แดนดาผิงเองก็หัวเราะ “ เด็กๆ! อย่าไปกลัวพวกมัน! พวกมันไม่กล้ายิงเราหรอก!”
พวกอันธพาลเหล่านั้นดูหึกเหิมขึ้นและโบกอาวุธของพวกมันไปมา “ ปล่อยลูกพี่เราออกมา! ปล่อยเขาออกมา!”
ดงซูบินหยิบโทรศัพท์ของเขาออกมาและโทรหาวูจุนนอกจากนี้วูจุนยังได้รับข่าวว่าหัวหน้าซูบิน ได้นำทีมเจ้าหน้าที่ไปจับกุมพี่เขยของเขา ตอนแรกเขาโกรธมาก แต่หลังจากนั้นเขาก็หัวเราะ ดงซูบินกล้าที่จะจับกุมใครก็ตามที่เขาต้องการ เขาไม่รู้หรือว่า แดนดาเหล่ยมีอิทธิพลแค่ไหนในหมู่บ้านนั้น? เมื่อเขาเห็นดงซูบินโทรหาเขาเขาก็ยิ้มและตอบ “ หัวหน้าซูบิน? มีอะไรให้ผมช่วยอย่างงั้นหรอ”
ดงซูบินหรี่ตา “ หัวหน้าแผนกวู่ในฐานะผู้นำของสำนักงานรักษาความปลอดภัยสาธารณะของมณฑลคุณเคยสั่งสอนญาติของคุณบ้างไหม? ห่ะ?”
วูจุนตอบอย่างเย็นชา “ คุณกำลังพูดถึงอะไร”
“ พี่เขยของคุณก่ออาชญากรรมหลายอย่างในหมู่บ้านและฉันได้จับกุมเขาแล้ว แต่พี่ชายและคนของเขาได้ล้อมรถตำรวจของเราและทำร้ายเรา พวกเขาทำร้ายหัวหน้าสถานีเฉินด้วยซ้ำ หัวหน้าส่วนวูนี่เป็นญาติของคุณเหรอ? คุณจะปล่อยให้ญาติของคุณเช่นนี้ได้อย่างไร”
วูจุนตอบ “ หยุดพูดเรื่องไร้สาระ ผมเองไม่ค่อยคลุกคลีกับครอบครัวของฝ่ายภรรยา แล้วผมไปเกี่ยวข้องอะไรด้วย”
“ นี้คุณกล้ายังจะโยนความผิดอีกหรอ? เวรเอ๋ย. แม้ว่าสิ่งนี้จะไม่เกี่ยวข้องกับคุณ แต่ฉันก็อยากให้คุณโทรหา แดนดาผิงเพื่อขอให้เขาและคนของเขาถอยออกไป!”
วูจุนกล่าว “ หัวหน้าซูบิน ผมบอกว่าผมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับพวกเขาและมันอยู่เหนือการควบคุมของผม”
ทุกคนเองมีความลำเอียง แต่ควรมีขีด จำกัดดงซูบินเองก็เข้าข้างเพื่อนและญาติของเขาเช่นกัน แต่มันไม่ใช่ทุกครั้ง หากเพื่อนของเขาก่อคดีฆาตกรรม ดงซูบินก็จะไม่ยอมให้พวกเขาหลุดรอดการจับกุมไปได้ นี่เป็นเรื่องของหลักการและดงซูบินเองเกลียดคนอย่างวูจุนที่ไม่ถือหลักการตรงนี้ “ ญาติของคุณทำร้ายตำรวจและคุณยังเพิกเฉยอยู่อีกหรอ? คุณกำลังพยายามปกปิดนี้ไปอีกนานเมื่อไรกัน? ผมสามารถรายงานเรื่องนี้ให้ผู้บังคับบัญชาระดับสูงเลยใช่ไหม”