ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น – บทที่ 1918 บรรยากาศหวานชื่นติดต่อกันได้ + ตอนที่ 1919 ทำการแสดงต่อหน้าผู้คน

บทที่ 1918 บรรยากาศหวานชื่นติดต่อกันได้ + ตอนที่ 1919 ทำการแสดงต่อหน้าผู้คน

ตอนที่ 1918 บรรยากาศหวานชื่นติดต่อกันได้

เหมยเหมยจึงครุ่นคิดตาม จนในที่สุดก็นึกขึ้นได้ว่าเมื่อก่อนใครบางคนไม่เคยบอกว่าตนเต้นรำไม่เป็นอย่างที่ว่าจริง ๆ บอกเพียงว่าเขาไม่อยากเต้นรำเธอจึงคิดไปเองว่าหมอนี่เต้นไม่เป็น

“ในเมื่อพี่เต้นเป็นแล้วทำไมถึงไม่เคยเต้นกับฉันล่ะ?” คราวนี้เจ้าแมวน้อยกลายร่างเป็นแม่เสือสาวแยกเขี้ยวข่มขู่

เหยียนหมิงซุ่นจับเธอหมุนรอบตัวเองอีกหลายทีแล้วดึงเข้ามาในอ้อมแขนให้ตัวประกบแนบชิดกันอีกครั้ง บิดลำตัวไปตามจังหวะเพลงด้วยท่วงท่าที่หวานชื่นมาก

เหยียนหมิงซุ่นผ่านการฝึกซ้อมจากครูมืออาชีพมาก่อนส่วนเหมยเหมยยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึง ต่อให้เธอบิดตัวอย่างไม่ตั้งใจก็ดูเย้ายวนจับใจแล้ว นอกจากนี้ทั้งคู่ยังรู้ใจกันจึงเข้าขากันได้ดีมากจนทำให้รู้สึกเหมือนผ่านการซักซ้อมมานับครั้งไม่ถ้วน

นักศึกษาคนอื่น ๆไม่ใช่นักเต้นมืออาชีพเพราะพวกเขามาเต้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น แต่พอเห็นคู่เต้นที่มีความช่ำชอง ผู้ชายหล่อเหลาเต้นคู่กับหญิงสาวสวยน่าเย้ายวน ทั้งยังเต้นได้ดีขนาดนี้อีก…

เอาเสียพวกเขาเทียบไม่ติดเลย!

บรรดานักศึกษาต่างถอยห่างจากพวกเหมยเหมยอย่างเงียบ ๆ ทิ้งพื้นที่กว้างให้คู่นี้ ส่วนพวกเขาเชยชมอยู่ข้าง ๆก็พอแล้ว!

เหมยเหมยกับเหยียนหมิงซุ่นกลายเป็นคู่ที่โดดเด่นมากที่สุดในฟลอร์เต้นรำ พวกเขาไม่รู้ตัวแล้วยังคงเต้นไปตามจังหวะเพลงเรื่อย ๆ

“ความจริงฉันอยากเต้นออกกำลังกายฉบับทหารมากกว่าแต่ที่รักไม่ยอม” เหยียนหมิงซุ่นกระซิบพลางกลั้วหัวเราะเสียงเบาข้างหูเหมยเหมย ทั้งยังแลบลิ้นเลียเบา ๆทีหนึ่ง ความรู้สึกราวกับโดนไฟฟ้าสถิตทำเอาเหมยเหมยร่างอ่อนยวบพลางถลึงตามองค้อนใส่เขาอย่างคุกรุ่นปนเขินอายแวบหนึ่ง

คนนิสัยไม่ดี!

“นี่มันมหาลัยของฉันนะ พี่สงบเสงี่ยมหน่อยอย่าทำอะไรประเจิดประเจ้อสิ!”

“ไม่ได้ทำอะไรเลยแค่ขยับปากนิดเดียวเอง”

เหยียนหมิงซุ่นตอบไปตามความจริงด้วยสีหน้าจริงจังและอารมณ์ดีไม่หยอก เขาเพิ่งค้นพบว่าความจริงการได้เต้นรำกับยัยตัวแสบนี่ก็รู้สึกดีไม่เลว เมื่อก่อนไม่ควรปฏิเสธเลยจริง ๆ

ก่อนออกกำลังกายเต้นวอลซ์ผ่อนคลายสักเพลง ไม่มีวิธีปูทางก่อนบรรเลงเพลงรักได้ดีเท่านี้อีกแล้ว!

เดี๋ยวกลับไปลองสักหน่อยแล้วกัน!

หลังจบเพลงรุมบ้า ไม่นานก็เปลี่ยนเพลงใหม่อย่างรวดเร็วซึ่งครั้งนี้เป็นดนตรีที่ถูกใจเหยียนหมิงซุ่นพอดี ดนตรีเพลงสำหรับการเต้นแบบสไลว์ฟอกซ์ทรอท แสงไฟหรี่สลัวลงตามสไตล์เพลง แสงไฟเหนือศีรษะหมุนไปรอบ ๆอย่างเชื่องช้าโดยปล่อยแสงหลากหลายสีสันออกมาขับให้บรรยากาศดูสลัวยิ่งกว่าเดิม

ท่านผู้บังคับบัญชาการใหญ่เหยียนที่ค้นพบความสนุกสนานจากการเต้นรำย่อมไม่ปล่อยให้เหมยเหมยได้ไปพักผ่อนอย่างง่ายดาย เพื่อไม่เป็นการล่อฝูงหมาป่าอีกครั้งสู้เต้นรำไปแบบนี้ตลอดทั้งคืนยังจะดีเสียกว่า!

เขาเกี่ยวกระชับเอวคอดแน่น เอวคอดที่เล็กผอมบางเสียจนเขาสามารถกอบกุมมันได้เพียงมือเดียว บางครั้งเขาก็นึกแปลกใจว่าทำไมเอวของผู้หญิงถึงได้เล็กขนาดนี้?

มันมหัศจรรย์มากจริง ๆ!

แสงไฟมืดสลัวเป็นตัวกระตุ้นสารฮอร์โมนของทุกคนได้เป็นอย่างดี ปล่อยให้อากาศโดยรอบเต็มไปด้วยกลิ่นอายความรัก หนุ่มสาวมากมายกำลังสวมกอดกันตัวแนบชิดปล่อยร่างกายขยับไปตามจังหวะเพลง คนส่วนมากกำลังเต้นตามดนตรีสไลว์ฟอกซ์ทรอทแต่ก็มีคู่รักบางส่วนเริ่มเอาใบหน้าแนบชิดกัน บรรยากาศดูหวานชื่นยิ่งกว่าเก่า…

บนฟลอร์เต้นรำเหลือเพียงเสียงดนตรี ทุกคนต่างดื่มด่ำอยู่กับเวลาสามนาทีอันแสนล้ำค่านี้

เหมยเหมยก็เริ่มซึมซับบรรยากาศนี้เข้า คิดว่าบรรยากาศหวานชื่นนี้คงติดต่อกันได้สินะ

เธอลอบมองไปทางซ้ายที่ไม่ไกลจากเธอมีคู่รักวัยหนุ่มสาวกำลังโอบจูบกันอยู่ ฝั่งขวาก็มีอีกคู่หนึ่งที่ทำเกินกว่าคู่นั้นอีก ตัดสินใจหยุดเต้นรำแล้วจูบกันอย่างดูดดื่มหลงลืมสิ่งรอบกายทุกอย่างไปชั่วขณะ

ทุกคนต่างใจเย็นกันมาก ท่ามกลางบรรยากาศแบบนี้จะเกิดอะไรขึ้นหน่อยมันเป็นเรื่องปกติยิ่งกว่าอะไร!

หากไม่เกิดอะไรเกินขอบเขตสินับว่าผิดปกติ

เหมยเหมยมองจนเนื้อตัวร้อนรุ่มเช่นเดียวกับเหยียนหมิงซุ่นที่กำลังเต้นรำแบบเนื้อแนบเนื้อประจันหน้าเธออยู่ เพียงแต่ต่อให้เธอสวมรองเท้าส้นสูงก็สูงถึงแค่ปลายคางของเหยียนหมิงซุ่น อยู่ในจุดตำแหน่งลูกกระเดือกแสนเซ็กซี่ที่เธอชื่นชอบมากที่สุด นอกจากนี้ยังรู้สึกได้ถึงจังหวะหัวใจเต้นเร็วตึกตักของเหยียนหมิงซุ่นอย่างชัดเจน

น่าเย้ายวนใจชะมัด!

ลำคอเริ่มแห้งผาก เหมยเหมยแลบลิ้นเลียริมฝีปากน้อย ๆเพราะถูกคู่รักใจกล้ารอบตัวกระตุ้นอารมณ์…

จนเธอเริ่มรู้สึกต้องการขึ้นมา!

…………………………….

ตอนที่ 1919 ทำการแสดงต่อหน้าผู้คน

เหยียนหมิงซุ่นเองก็รู้สึกร้อนรุ่มแทบแย่เพราะเขาสังเกตถึงบรรยากาศร้อนระอุจากรอบข้างตั้งนานแล้ว จากการนับผิวเผินของเขามีคู่รักอย่างน้อยสิบคู่ที่กำลังกอดจูบกันอยู่ มีคู่หนึ่งหนักหนาที่สุดถึงขั้นพากันออกจากงานซึ่งคาดว่าคงไปหาจุดลับตาคนจัดการปัญหาบางอย่างแล้ว

เขาตกใจจริง ๆว่ารั้วมหาวิทยาลัยเปิดกว้างขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร?

แต่มากกว่านั้นคือเขารู้สึกโชคดีที่อย่างน้อยคืนนี้เขาได้ตามมาด้วย สภาพแวดล้อมแบบนี้ต้องพาเหมยเหมยเสียคนแหง!

ทันใดนั้น–

ความรู้สึกร้อนชื้นแผ่ซ่านมาจากส่วนลำคอที่เป็นสัมผัสลื่น ๆร้อนรุ่ม ปนเสียวซ่าน…

เกิดอะไรขึ้น?

เหยียนหมิงซุ่นก้มมองกลับพบว่าใครบางคนกำลังกะพริบตามองเขาอย่างเจ้าเล่ห์ เธอแลบลิ้นสีแดงระเรื่อออกมาเลียลูกกระเดือกเขาแผ่วเบาทีหนึ่งทำเอาเหยียนหมิงซุ่นร่างสะท้าน ความรู้สึกร้อนรุ่มเริ่มก่อตัวขึ้นในท้องน้อยและลำคอแห้งผากยิ่งกว่าเดิม!

ยัยปีศาจน้อยเสียคนแล้วจริง ๆด้วย!

แต่รู้สึกไม่แย่เลยจริง ๆ!

“ที่รัก…”

ยายแมวเหมียวขานเรียกเสียงแผ่วพลางเขย่งปลายเท้าจุ๊บปลายคางเขาอีกที เหยียนหมิงซุ่นจะทนอย่างไรไหวจึงส่งเสียงครางตอบในลำคอก่อนจะสละมือข้างหนึ่งมารั้งท้ายทอยของเหมยเหมยแล้วประกบจูบลงไปอย่างร้อนแรง

ยัยปีศาจน้อยทุ่มเทขนาดนี้แล้วถ้าหากเขายังไม่ทำอะไรอีกคงเสียชื่อความเป็นชายหมด!

ทั้งคู่ต่างหยุดทุกการกระทำพลางกอดจูบตัวแนบชิดอยู่กลางฟลอร์อย่างเร่าร้อน

คู่ของพวกเขากลายเป็นจุดเด่นในงานไปชั่วขณะซึ่งคู่รักอื่น ๆต่างหลบไปแอบจูบกันตรงมุมอื่นอย่างรู้ตัว แต่คู่นี้กลับตรงกันข้ามกลัวคนอื่นจะมองไม่เห็นถึงได้ยืนกอดจูบเร่าร้อนอยู่กลางฟลอร์แบบนี้…

อื้อหือ อิจฉาเสียจริง!

“นั่นดาวมหาลัยไม่ใช่เหรอ? โอ้โห…ดาวมหาลัยมีเจ้าของแล้วเหรอ?” ทุกคนล้วนหยุดท่าเต้นแล้วหันมาชมการแสดงของพวกเหมยเหมยอย่างไม่ละสายตา ทำเอาทุกคนทั้งอิจฉาทั้งริษยา

“ได้ยินมานานแล้วว่าดาวมหาลัยมีคู่หมั้นแล้ว หรือว่าผู้ชายคนนั้นก็คือคู่หมั้นของดาวมหาลัย? หล่อจัง!”

“ดาวมหาลัยก็สวยมากนะ พวกเขาเหมาะสมกันจัง…เหมือนภาพวาดเลย โรแมนติกมาก!”

……

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกับฉีฉีเก๋อต่างเต้นรำอยู่กับคู่ควงของตนบนฟลอร์เต้นรำเช่นกัน พอเห็นเพื่อน ๆกลางฟลอร์หยุดเต้นจึงเบียดเข้าไปมุงอีกคนก่อนจะเบิกตากว้างเสียจนลูกตาแทบถลนออกมา

“เหมยเหมยหน้าด้านขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร? กล้าทำการแสดงต่อหน้าผู้คนแบบนี้เลยเหรอ…จิ๊ ๆ!” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนพร่ำบ่นแต่มากกว่านั้นคือความรู้สึกอิจฉา โรแมนติกดีจัง!

ฉีฉีเก๋อกะพริบตาปริบ ๆพลันผุดคำถามหนึ่งขึ้นมาอย่างจับต้นชนปลายไม่ถูก “จูบนานขนาดนี้หายใจทันเหรอ?”

เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนกลอกตามองบนแล้วตวัดตามองไปทางฉางชิงซงที่เดินตามมาอย่างมีเลศนัยก่อนจะแสร้งพูดขึ้นว่า “เธอลองจูบสักทีก็รู้แล้วนี่!”

ฉีฉีเก๋อหน้าแดงก่ำทันที ถลึงตาใส่เธอด้วยความเขินปนโกรธ “เธอไปจูบเองสิ ฉันจะกลับหอแล้ว”

เธอชอบเต้นรำแต่ไม่ชอบการเต้นรำบอลรูมแบบนี้ เธอชอบการเต้นรำอย่างอิสระบนทุ่งกว้างโดยไม่ต้องคำนึงถึงสิ่งใด ฟลอร์เต้นรำขนาดเล็กเกินไปทำให้เธอรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้องและไม่สบายตัวนัก

ฉางชิงซงเดินตามหลังเธอไป เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนแค่นเสียงเบา ๆทีหนึ่ง หลังจากสองคนนี้กลับไปจะต้องหามุมลับตามืด ๆจูบกันแน่นอน เธอขอพนันด้วยเนื้อวัวแดดเดียวสองถุงเลย!

บทเพลงจบลงอีกครั้ง ฟลอร์เต้นรำตกอยู่ในความเงียบสงัด ไม่นานก็มีคนผิวปากแซวด้วยเสียงหัวเราะ “มาอีกสักเพลง…”

เหมยเหมยที่ถูกจูบจนลืมตัวเพิ่งได้สติกลับมา เธอเพิ่งรู้ตัวว่าเธอจูบกับเหยียนหมิงซุ่นอย่างดูดดื่มต่อหน้าสาธารณชน ความรู้สึกเขินอายถาโถมเข้ามาจนเธอรีบซุกหน้าลงกับอกของเหยียนหมิงซุ่นแล้วไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาอีก

ไม่มีหน้าจะไปเจอใครอีกแล้ว!

เหยียนหมิงซุ่นกลับหน้าด้านกว่ามาก กวาดตามองรอบฟลอร์เต้นรำอย่างใจเย็นด้วยสีหน้าเรียบนิ่งรอบหนึ่งแล้วแผ่รังสีความเยือกเย็นออกมา เรียกให้พวกคนที่กำลังส่งเสียงกู่ร้องเสียวสันหลังวาบพร้อมตัวสั่นสะท้านเฮือก

เสียงทุกอย่างเงียบลงฉับพลัน!

พอได้สติแล้วมองกลับไปยังฟลอร์เต้นรำอีกทีก็พบว่าดาวมหาวิทยาลัยกับคนรักของเธอหายตัวไปแล้ว หายตัวไวปานสายลมก่อนที่เสียงดนตรีสไตล์ดิสโก้จะดังขึ้น ทุกคนรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาทันทีพลางขยับตัวไปมาตามจังหวะอย่างบ้าคลั่ง คืนแสนสนุกได้เริ่มต้นขึ้นแล้ว!

……………………………

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

จุดจบที่ความตาย กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นบันดาลให้เธอได้ย้อนกลับไปในปี 1985

เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างตัวเองวัย 12 ปี!

เมื่อได้รับชีวิตที่เหมือนได้เกิดใหม่คราวนี้ เธอจึงตัดสินใจลิขิตชะตาด้วยสองเป้าหมาย…

หนึ่ง… มีชีวิตอย่างอิสรเสรี ไม่สนใจสายตาใคร และไม่รับความรักอันน้อยนิดที่ญาติมิตรมีให้

สอง… แก้แค้น สิ่งที่พี่สาวกับอดีตคนรักติดค้างไว้ เธอจะต้องเอาคืนให้หมดในชาตินี้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท