ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น – บทที่ 1988 ยิ่งซ่อนยิ่งเห็นชัด + ตอนที่ 1989 ของขวัญวันเกิดที่เตรียมไว้อย่าง

บทที่ 1988 ยิ่งซ่อนยิ่งเห็นชัด + ตอนที่ 1989 ของขวัญวันเกิดที่เตรียมไว้อย่าง

ตอนที่ 1988 ยิ่งซ่อนยิ่งเห็นชัด

พอบรรดาแขกได้ยินคำว่ารอยแผลเป็นก็หูตั้ง แอบร้องเฮในใจว่ามีเรื่องสนุก ๆให้ดูแล้ว

คนที่สมองดีหน่อยเพียงแค่ขบคิดเล็กน้อยไม่นานก็สามารถประติดประต่อเรื่องราวเข้ากับรูปถ่ายของโจวจื่อหัวได้ เจ้าพ่อโจวบอกอย่างชัดเจนว่าชู้รักคนนั้นของเขาสักรูปนกฟินิกซ์ไว้ตรงช่วงไหล่มาถึงช่วงหน้าอกตัวหนึ่งอย่างสวยงาม นอกจากนี้ตรงไหปลาร้ายังมีไฝแดงอีกหนึ่งเม็ด

หลังจากนั้นเฮ่อเหลียนเช่อก็เงียบไปแต่อยู่ ๆก็จัดงานเลี้ยงฉลองวันคล้ายวันเกิดให้หนิงเฉินเซวียน วันอากาศหนาวเหน็บอย่างนี้เจ้าภาพกลับสวมชุดตัวบางแบบนี้

ความหมายที่แอบแฝงอยู่ขอแค่มีสมองสักนิดก็คิดได้ทั้งนั้น!

มิน่าคุณหนูจ้าวกับคุณชายหมิงถึงร่วมมือกันเล่นงานคุณนายเฮ่อเหลียน!

อู่เยวี่ยก้มมองรอยแผลเป็นที่ตนอุตส่าห์หาทางปกปิดมันด้วยแววตาที่ฉายแววลนลานชั่ววูบ แผลพวกนี้มีมากเกินไป ต่อให้ใช้ยารักษาแผลเป็นที่ดีที่สุดก็ไม่หาย เธอจำใจต้องสักลายนกฟินิกซ์ทับรอยแผลเป็นพวกนี้

แต่ตอนนี้…

อู่เยวี่ยรู้สึกสลดใจ ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้?

จ้าวเหมยกลายเป็นคนฝีมือฉกาจขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร?

“คุณหนูจ้าวจะตะโกนเสียงดังทำไม พวกนี้แค่แผลน้ำร้อนลวกเท่านั้นเอง สมัยที่เรียนต่างประเทศเมื่อไม่กี่ปีก่อน เพราะต้องทำงานหาค่าเทอมที่ร้านอาหารเลยโดนน้ำซุปร้อนลวกใส่โดยไม่ทันระวังตัวถึงได้มีสภาพน่ารังเกียจอย่างตอนนี้ ถ้าคุณจ้าวรู้สึกไม่สวยก็อย่ามองเถอะ”

ไม่นานอู่เยวี่ยก็ได้ทำการตอบโต้แถมยังรักษาภาพลักษณ์อันดีให้ตัวเองอย่างไม่มีวันตาย ช่างฉลาดเสียจริง

เหมยเหมยอมยิ้มน้อย ๆ “ที่แท้ก็แผลโดนน้ำร้อนลวกนี่เอง เมื่อกี้เห็นฉันคิดว่าโดนอะไรกรีดมาซะอีก อย่างเช่นกรีดเอาลายดอกไม้เอยดอกหญ้าเอยนกเอยปลาเอยอะไรเทือกนี้ออกไปจากบนผิวหนัง”

อู่เยวี่ยอดประชดไม่ได้ “จ้าวเหมยเธอไม่มีความรู้ก็อ่านหนังสือเยอะ ๆหน่อย ลบรอยสักใช้เลเซอร์ในการลบ กรีดบ้าบออะไรกัน!”

“ที่แท้ลบรอยสักใช้แสงเลเซอร์เองหรอกเหรอ ฉันคิดว่าใช้มีดกรีดเอาชั้นผิวหนังที่โดนสักทิ้งซะอีก ได้ความรู้ใหม่แล้วจริง ๆ โอหยางซานซานเธอรู้เยอะจัง เธอเคยลบมาหรือเปล่า?”

เหมยเหมยทำหน้าเกินจริงพร้อมการแสดงท่าทางเกินจริงซึ่งใคร ๆก็ดูออกว่าเธอกำลังปั่นหัวอยู่ ในตอนนี้อู่เยวี่ยเพิ่งรู้สึกตัวจึงลอบด่าอีกฝ่ายในใจ โดนวางกับดักเข้าเสียได้

“ฉันจะเคยลบรอยสักได้อย่างไรกัน ฉันรู้สึกไม่ค่อยสบายต้องขอตัวก่อนล่ะ”

อู่เยวี่ยตีหน้านิ่งเลิกชายกระโปรงขึ้นกลับเข้าห้องไป คราวนี้เหมยเหมยไม่ได้ห้ามเธอไว้ในเมื่อบรรลุเป้าหมายแล้วนี่นา!

เชื่อว่าแขกในที่นี้ทุกคน ตอนนี้คงรู้แล้วว่าความจริงคืออะไร

“คุณชายเช่อ วันนี้ต้องขอโทษด้วยจริง ๆ ไว้กลับไปฉันจะให้คนเอาโสมป่าอายุห้าสิบปีมาให้เป็นการไถ่โทษ ขอให้คุณนายกับลูกสุขภาพแข็งแรงปลอดภัยนะ!” เหยียนหมิงซุ่นถ่อมตัว ต่อให้เฮ่อเหลียนเช่อจะมีไฟโทสะสุมอยู่เต็มอกก็ไม่อาจระบายออกมาได้ ทำได้เพียงเก็บอัดอั้นไว้อย่างนั้น

“ไม่จำเป็น บ้านฉันขาดแคลนโสมป่าซะเมื่อไร”

เสียงพูดเล็ดลอดไรฟัน เฮ่อเหลียนเช่อใช้สายตาดุดันมองมายังสองคนนี้ เขาเสียแรงวางแผนมาตั้งนานแต่ดันถูกสองคนนี้ทำลายจนไม่เหลือสภาพ

“พี่ คุณชายเช่อมีกิจการใหญ่โตทั้งเป็นคนใจกว้าง คงไม่ถือสาเราหรอก เรารีบไปทานข้าวกันเถอะ หิวจนท้องแฟบไปหมดแล้ว”

เหมยเหมยเสียดายโสมป่าแม้จะเป็นเพียงโสมอายุห้าสิบปีและไม่ใช่ของหายาก ในเมื่อมีคุณชายฉิวผู้มากความสามารถอยู่ ต่อให้เป็นโสมอายุห้าร้อยปีก็ไม่ใช่ปัญหา แต่เธอไม่อยากให้คนแพศยาอู่เยวี่ย ยอมป้อนให้หมากินยังจะดีเสียกว่า

“ตัวแสบ!”

เหยียนหมิงซุ่นมองเหมยเหมยอย่างรักใคร่แล้วยิ้มให้เฮ่อเหลียนเช่อที่ทำสีหน้าถมึงทึง “ในเมื่อคุณชายเช่อไม่ถูกใจ งั้นฉันทำตามความต้องการของคุณแต่โดยดีแล้วกัน เดี๋ยวฉันจะส่งแตงโมมาให้หนึ่งคันรถ คุณนายอารมณ์ฉุนเฉียวจะไม่ดีกับเด็กในท้อง ทานแตงโมช่วยดับไฟหน่อยแล้วกันนะ”

“แกเก็บไว้ทานเอง…”

เฮ่อเหลียนเช่อยังไม่ทันพูดจบเหยียนหมิงซุ่นกับเหมยเหมยกลับเดินหนีไปไกลเสียแล้ว เสียงของเขาจึงลอยหายไปตามสายลม…

ให้ตายเถอะ!

……………………….

ตอนที่ 1989 ของขวัญวันเกิดที่เตรียมไว้อย่างดี

หลังจากหนิงเฉินเซวียนรับแขกเสร็จก็รู้เรื่องที่เหมยเหมยทำกับอู่เยวี่ยจากลูกน้องจนสีหน้าถมึงทึงในฉับพลัน แม้ภายหลังได้พยายามเค้นรอยยิ้มแล้วแต่เพราะอารมณ์ไม่ดีเลยยิ้มได้ค่อนข้างน่าสะพรึงพอสมควร

บวกกับมีเจ้าคนที่เกรงว่าโลกนี้ยังป่วนไม่พออย่างเฮ่อเหลียนชิง หากอยู่ว่าง ๆก็ก่อเรื่องได้ ตอนนี้เปิดฉากได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว ฉะนั้นเขาจะไม่ใช้ประโยชน์จากตรงนี้ได้อย่างไร

เฮ่อเหลียนชิงออกตัวขอนั่งร่วมโต๊ะเจ้าของวันเกิดด้วยตัวเองด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นเพื่อนกับเจ้าของวันเกิดมาหลายปีเลยต้องนั่งด้วยกัน แบบนี้จะได้แสดงให้เห็นถึงมิตรภาพที่แน่นแฟ้นของพวกเขา

“ตาแก่หนิง ฉันให้เกียรติแกมากเลยนะที่หาเวลาว่างมาร่วมแสดงความยินดีกับแก ของขวัญวันเกิดฉันใช้เวลาตั้งสองเดือนกว่าจะได้มา เสียแรงไม่น้อยเชียว!”

เฮ่อเหลียนชิงยิ้มร่าหน้าสดใส ต่างไปจากหนิงเฉินเซวียนที่สีหน้าบึ้งตึงอารมณ์ไม่ดีจะแย่อยู่แล้ว

ตอนนี้เขาเห็นลูกสะใภ้จ้าวเหมยเข้าตาขึ้นเรื่อย ๆ ช่างถูกใจคนแก่อย่างเขาเหลือเกิน!

เหยียนหมิงซุ่นแววตาใช้ได้ ทั้งยังมีความแน่วแน่มั่นคงไม่ได้เปลี่ยนใจภายใต้คำขู่เข็ญจากเขา ไม่เลว ไม่เลวจริง ๆ

อนาคตลูกของสองคนนี้คงฉลาดซุกซนไม่เบา เห็นทีคงน่าสนุกยิ่งกว่าต้าหวงที่อ้วนขึ้นเรื่อย ๆตัวนั้นแน่ เฮ่อเหลียนชิงเริ่มจินตนาการถึงชีวิตอนาคตที่หยอกแมวเล่นกับหลานอย่างมีความสุข ใบหน้ายิ้มกว้างขึ้นเรื่อย ๆ

สีหน้าของหนิงเฉินเซวียนตรงกันข้ามกับเฮ่อเหลียนชิงอย่างเห็นได้ชัด หน้าบูดเสียยิ่งกว่าอะไร เขามองเฮ่อเหลียนชิงอย่างนึกแค้นใจก่อนจะโต้กลับอย่างไม่เกรงใจ “ฉันไม่ได้ต้องการให้แกมา ไม่ได้ส่งบัตรเชิญไปให้แกด้วยซ้ำ แกจะกลับเมื่อไรก็เชิญ”

แขกร่วมโต๊ะคนอื่น ๆส่วนมากเป็นเจ้าพ่อประจำเมืองหลวงและสถานะไม่ต่ำต้อยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พวกเขาไม่ได้เกรงกลัวหนิงเฉินเซวียนกับเฮ่อเหลียนชิงเหมือนคนอื่น ๆแต่กลับทานข้าวไปพลางยิ้มแย้มดูเรื่องสนุก ๆไป

“เหล่าหนิงอย่าโมโหไป อายุปูนนี้แล้วเราจะยังมีชีวิตดี ๆอีกสักกี่ปีเชียว เรื่องอดีตก็อย่าไปคิดถึงมันเลย ถือซะว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เราดื่มด่ำกับชีวิตบั้นปลายอันน้อยนิดนี้อย่างมีความสุขกันเถอะ!” มีคนพูดโน้มน้าว

คนอื่น ๆต่างพยักหน้าเห็นด้วย กว่าครึ่งชีวิตที่เอาแต่ลำบากต่อสู้เพื่อการปฏิวัติ ชีวิตบั้นปลายนี้ควรได้เสวยสุขสักทีแล้ว

เฮ่อเหลียนชิงตบโต๊ะทีหนึ่งพลางกล่าว “ฉันเป็นคนใจกว้าง เรื่องในอดีตก็ลืมเลือนไปบ้างแล้ว พวกแกดูตาแก่หนิงสิใจแคบเหลือเกินไม่ส่งบัตรเชิญมาให้ฉัน ฉันไม่ถือสามันถึงได้หน้าด้านมาร่วมงานด้วย ไหนจะเอาของขวัญวันเกิดที่อุตส่าห์เตรียมไว้ดิบดีมาด้วย ทำฉันเสียแรงไม่น้อยเชียว”

เขาเอ่ยถึงของขวัญวันเกิดเป็นครั้งที่สอง คนอื่น ๆอยากจะเพิกเฉยยังทำไม่ได้ ในเมื่อไม่ใช่คนหูตึงสักหน่อย

แต่คนพวกนี้รู้กันดีว่าเฮ่อเหลียนชิงจะใจกว้างขนาดนั้นได้อย่างไร?

ทั่วทั้งเมืองหลวงแทบจะหาคนใจแคบเท่าเขาไม่ได้อีกแล้ว เจ้าคิดเจ้าแค้นยิ่งกว่าผู้หญิง คนแบบนี้จะเตรียมของขวัญดี ๆอะไรไว้ได้กันล่ะ?

พวกเขาไม่อยากซวยไปด้วยหรอกนะ

“แกนี่ใส่ใจดีจังนะ รีบทานข้าว กับข้าวพวกนี้รสชาติดีไม่หยอก ฝีมือดีจริง ๆ” มีคนพูดกลบเกลื่อน

หนิงเฉินเซวียนจุดยิ้มจาง ๆ “ทุกอย่างอาเช่อเป็นคนเตรียมเองเลย เหมือนว่าจะเป็นเชฟที่เชิญมาจากโรงแรมเมืองหลวง วัตถุดิบก็ใช้เครื่องบินส่งมา ทุกคนทานได้ตามสบายเลยนะ รับรองว่าสดแน่นอน”

“อาเช่อช่างกตัญญูเสียจริง เป็นบุญของเหล่าหนิงละ!”

……

คนอื่น ๆก็พูดเอาใจคล้อยตามด้วยบางส่วน ล้วนมีแต่คำชมเฮ่อเหลียนเช่อกตัญญูนับเป็นบุญของหนิงเฉินเซวียน นี่จึงทำให้หนิงเฉินเซวียนอารมณ์ดีขึ้นเล็กน้อย บรรยากาศก็ดีขึ้นตามลำดับ แต่เฮ่อเหลียนชิงกลับอารมณ์ไม่ดีแทน

ลูกชายกตัญญูที่ทุกคนเอ่ยถึงเดิมทีควรเป็นของเขา!

ตอนนี้กลับถูกไอ้สารเลวนี่แย่งไป!

เขาแค่นหัวเราะทีหนึ่งแล้วพูดเสียงดัง “ตาแก่หนิง ฉันยังไม่ได้เอาของขวัญวันเกิดให้แกสินะ งั้นก็ให้ซะตอนนี้เลย เสี่ยวเมิ่ง เอาของขวัญวันเกิดที่ฉันใช้เวลาสองเดือนกว่าจะหาเจอมาให้หน่อย ระวังหน่อยนะ เจ้าเขียวขี้กลัว อย่าทำให้มันตกใจล่ะ…”

เฮ่อเหลียนชิงจู้จี้ไม่หยุด เสี่ยวเมิ่งหน้าเรียบนิ่งแต่ตัวกลับแข็งทื่อรักษาท่าทีที่พร้อมจะถอนตัวกลับตลอดเวลา

………………………

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

จุดจบที่ความตาย กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นบันดาลให้เธอได้ย้อนกลับไปในปี 1985

เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างตัวเองวัย 12 ปี!

เมื่อได้รับชีวิตที่เหมือนได้เกิดใหม่คราวนี้ เธอจึงตัดสินใจลิขิตชะตาด้วยสองเป้าหมาย…

หนึ่ง… มีชีวิตอย่างอิสรเสรี ไม่สนใจสายตาใคร และไม่รับความรักอันน้อยนิดที่ญาติมิตรมีให้

สอง… แก้แค้น สิ่งที่พี่สาวกับอดีตคนรักติดค้างไว้ เธอจะต้องเอาคืนให้หมดในชาตินี้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท