ตอนที่ 2105 ป้อนกุ้งมังกรน้อย
“จะไม่มีเงินได้ไง ขายให้กับสถานีโทรทัศน์เมืองหลวงก็ต้องได้ราคาอย่างน้อยสองสามล้านมั้งสิ?” เหมยเหมยรู้สึกแปลกใจ
จ้าวเสวียเอ๋อร์ยิ้มอย่างขมขื่น “โยกย้ายเงินออกไปหมดแล้ว ในบริษัทมีแต่หุ้นติดลบ”
อู่เจิ้งซือคนนี้มือเท้าว่องไวจริง ๆ!
เหมยเหมยถึงได้เข้าใจแอบด่าอู่เจิ้งซือว่าเจ้าเล่ห์ “งั้นก็จับเขาเข้าไปอยู่ในคุกตลอดชีวิต!”
โยกย้ายทรัพย์สินใช่ไหม?
จะทำให้ทรัพย์สินที่มันโยกย้ายไปไม่มีวาสนาได้ใช้ให้ไปนอนอยู่ในคุก ดูสิว่าอู่เจิ้งซือจะใช้เงินอย่างไร!
จ้าวเสวียเอ๋อร์กลับคิดว่าเหมยเหมยจะจัดการบังคับให้อู่เจิ้งซือคายเงินพวกนั้นออกมาตอนอยู่ในคุก เขาจึงมีความสุขขึ้นมาทันที ถามเหมยเหมยว่าจะจัดการกับอู่เจิ้งซืออย่างไร
“แล้วจะจัดการอย่างไรได้อีกล่ะ จับมันเข้าไปดื่มด่ำชีวิตในคุกสิ!”
เหมยเหมยพูดออกมาโดยไม่ต้องคิดและวางสายไป
เธอไม่ได้สนใจเงินพวกนั้นมากนัก เป้าหมายของเธอสำเร็จแล้ว ละครโทรทัศน์เรื่องซินเดอเรลล่ากลายเป็นเรื่องฉาวโฉ่ ทั่วประเทศรายงานข่าวเรื่องการลอกเลียนแบบจนเป็นเรื่องโกลาหลไม่น้อยเลย
บรรดาผู้อาวุโสที่มีคุณธรรมในวงการนี้ อีกทั้งนักวิชาการบางท่านต่างสนทนากันอย่างออกรสเกี่ยวกับคดีนี้ ในเวลาเดียวกันสถานีโทรทัศน์หลักทั้งหมด หนังสือพิมพ์และสื่ออื่น ๆต่างถกประเด็นเรื่องนี้กันหมด
ความคิดเห็นคำวิพากษ์วิจารณ์ของสื่อมวลชนต่างก็ด่าทอบริษัทหวนอวี่อย่างท่วมท้นว่าทำไม่ถูก วิจารณ์ว่าทำน่าเกลียดและทำลายจรรยาบรรณของวงการนี้ด้วย!
กล่าวได้เพียงว่าอู่เจิ้งซือสร้างความโกรธให้แก่ประชาชนไม่น้อย คนอื่นต่อให้จะลอกเลียนแบบก็ยังปรับบทบ้าง ไม่สิ้นคิดและหยาบโลนเหมือนอู่เจิ้งซือที่แค่แย่งพล็อตเรื่องมาแล้วก็ใช้โต้ง ๆแบบนี้เลย
นี่ไม่สามารถพูดได้ว่าเป็นการคัดลอกความคิด แต่มันคือการขโมยดี ๆนี่เอง!
หลังจากเรื่องนี้อู่เจิ้งซือก็มีชื่อเสียงฉาวโฉ่ในวงการภาพยนตร์โทรทัศน์ ต่อให้เขาจะมีเงินห้าล้านก็ตาม แต่วงการนี้ไม่มีที่ยืนสำหรับเขาอีกต่อไปอีกต่อไป
อู่เจิ้งซือยังคงฝันถึงชีวิตอันรุ่งโรจน์สวยงามยังไม่ยอมตื่นสักที เขาถูกจับเข้าคุกแล้ว อีกทั้งยังเป็นห้องขังที่มีนักโทษข่มขืนรวมตัวกันด้วย ต่อให้เป็นนักโทษฆ่าคนตายก็ยังไม่เต็มใจจะมาอยู่ที่นี่เลย
เพราะชื่อเสียงของอู่เจิ้งซือไม่ดี เรื่องการโอนทรัพย์สินของเขาเหมยเหมยไม่คิดสงสัยอู่เยวี่ยเลย ตอนนี้อู่เยวี่ยถูกเฮ่อเหลียนเช่อจับตามองอย่างใกล้ชิด เธอจึงไม่สามารถติดต่ออู่เจิ้งซือได้เลย
เหมยเหมยคุยกับเหยียนหมิงซุ่นเรื่องคดีความ “พี่คิดว่าอู่เยวี่ยคิดทำอะไรอยู่? ให้เงินอู่เจิ้งซือมากขนาดนี้แต่เธอกลับไม่ได้แม้แต่แดงเดียว!”
เหยียนหมิงซุ่นหัวเราะเบา ๆ “ตอนแรอู่เยวี่ยจะรู้ได้ไงว่าวันหนึ่งเธอจะถูกเฮ่อเหลียนเช่อกักบริเวณในบ้าน แต่โชคดีที่ครั้งนี้เธอถูกกักบริเวณไว้ ไม่งั้นคดีนี้คงไม่จบง่าย ๆขนาดนี้แน่!”
อู่เยวี่ยเป็นผู้หญิงเล่ห์เหลี่ยมจัด มีเธอคอยกำกับอู่เจิ้งซืออยู่เบื้องหลังคงต้องเจอเรื่องลำบากมากมายแน่ นับว่าเฮ่อเหลียนเช่อก็ทำเรื่องดี ๆเหมือนกันแฮะ!
“สมน้ำหน้า เธอสร้างบาปกรรมเองแท้ ๆ น่าเสียดายที่เสี่ยวเป่ายังอายุไม่ถึงหกเดือนยังเหลือเวลาอีกหลายเดือนกว่าจะหนึ่งขวบเลยนะ!” เหมยเหมยพูดอย่างขมขื่น เกลียดที่เวลาผ่านไปช้าเกินไปจนต้องปล่อยให้อู่เยวี่ยลอยหน้าลอยตาอยู่อีกตั้งหลายเดือน
“เฮ่อเหลียนเช่อร้อนใจกว่าเธออีก อำ…อ้าปาก!”
เหยียนหมิงซุ่นปอกเปลือกกุ้งมังกรน้อยทำท่าทางบอกให้เหมยเหมยอ้าปาก คีบกุ้งมังกรน้อยขาวนุ่มเข้าปาก
พอเหมยเหมยได้กินเนื้อกุ้งมังกรน้อยแสนอร่อยก็รู้สึกดีขึ้นมาในทันที เธอเร่งให้เหยียนหมิงซุ่นแกะกุ้งเร็ว ๆ “พี่แกะเร็ว ๆสิ…ฉันกินหมดแล้วนะ…ช้าจริงๆเลย…”
วิธีการกินกุ้งมังกรน้อยให้มีความสุขที่สุดต้องทำอย่างไรเหรอ?
แน่นอนว่าต้องให้คนอื่นแกะให้กินยังไงล่ะ!
เหมยเหมยนั่งเหมือนยายแก่ออกคำสั่งให้เหยียนหมิงซุ่นแกะกุ้งมังกรน้อย กุ้งมังกรน้อยเหล่านี้เธอตั้งใจให้เกษตรกรในเขตชานเมืองจับกลับมาเป็นพิเศษ ในตอนนี้ต่อให้โยนกุ้งมังกรน้อยทิ้งเกลื่อนถนนก็ยังไม่มีใครต้องการเลย แม่น้ำในชนบทมีมากมายจับตรงไหนก็ได้เยอะทั้งนั้น
เหยียนหมิงซุ่นมองเหมยเหมยที่น้ำตาไหลเพราะความเผ็ดแต่ก็ยังกินไม่หยุดอย่างระอาและเอ็นดู ไม่เข้าใจจริง ๆว่าทำไมถึงชอบกินกุ้งที่มีเปลือกแข็งและไม่มีเนื้อแบบนี้นักนะ?
“อร่อยขนาดนั้นเลยเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นหยิบทิชชู่มาเช็ดพริกที่อยู่ตรงมุมปากของเธอแล้วก็ป้อนกุ้งอีกตัวหนึ่งให้เธอกิน
…………………………………………..
ตอนที่ 2106 อยากให้เธอป้อนให้กิน
“อร่อยสิ…ฉันจะบอกพี่ให้นะ…ผ่านไปอีกสิบปี…ไม่สิ ไม่เกินห้าปี กุ้งมังกรจะถูกกินจนเกือบสูญพันธุ์เลยทีเดียวล่ะ”
เหมยเหมยเคี้ยวเนื้อกุ้งตุ้ย ๆ พูดจาอู้อี้ดูน่ารักเหลือเกิน
เหยียนหมิงซุ่นที่ได้รับการฝึกฝนมาหลายครั้ง ภายในหนึ่งวินาทีก็แกะกุ้งได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว แต่ก็ยังไม่ทันความเร็วในการกินของเหมยเหมย
“ของที่ทั้งสกปรกและไม่มีคุณค่าทางโภชนาการแบบนี้จะเป็นไปได้อย่างไร?” เห็นได้ชัดว่าเหยียนหมิงซุ่นไม่เชื่อ มองไปกุ้งมังกรน้อยผัดหมาล่าบนจานอย่างดูถูก
หากไม่ใช่เพราะว่าเอาชนะการออดอ้อนของยัยปีศาจน้อยไม่ได้ละก็ เขาไม่เห็นด้วยกับการที่เหมยเหมจะกินกุ้งมังกรน้อยนี่เลย เพราะอาศัยอยู่ในน้ำที่สกปรกที่สุดและกินซากพืชที่เต็มไปด้วยแบคทีเรียและไวรัส เป็นสิ่งมีชีวิตที่สกปรกยิ่งกว่าขยะ มองไม่เห็นข้อดีของมันเลยแม้แต่น้อย
กุ้งมังกรน้อยหนึ่งตัวแกะออกมามีเนื้อเพียงน้อยนิด เขามองไปที่กุ้งมังกรน้อยเต็มจานใหญ่แต่อันที่จริงกลับให้พลังงานได้ไม่เท่าไรนัก เขายอมกินจิ้งจกและงูเพื่อเพิ่มพลังงานยังดีกว่าแตะต้องของที่แกะยากเย็นแบบนี้อีก
ขยะประเภทนี้ คาดไม่ถึงว่าจะโดนกินจนสูญพันธุ์ได้?
จะเป็นไปได้อย่างไรกัน?
ประชาชนทั้งประเทศจะน้ำเข้าสมองจนโง่ไปกันหมดเลยหรือไง?
“เธอกินให้น้อย ๆหน่อย ถ้าวันนี้กินจานนี้หมดก็รออีกครึ่งเดือนถึงจะกินได้อีกนะ” เหยียนหมิงซุ่นดึงหน้าตึงตั้งกฎระเบียบขึ้นมา
“ไม่เอา…ฉันอยากกินกุ้งมังกรน้อย ตอนนี้มีตั้งเยอะ แถมยังถูกด้วย ฉันต้องกินให้หายอยากก่อน…” เหมยเหมยยู่ปากออดอ้อน
เธอให้เกษตรกรจับกุ้งมังกรน้อยมาเต็มตะกร้าใช้เงินไม่กี่หยวนเท่านั้นเอง หากผ่านไปอีกสิบปีใช้เงินหลายร้อยหยวนก็ยังไม่ได้ขนาดนี้เลย และตอนนี้กุ้งมังกรน้อยก็เติบโตอยู่ตามสภาพแวดล้อมธรรมชาติ มีกลิ่นหอมกว่ากุ้งมังกรน้อยที่เลี้ยงในฟาร์มเยอะ ถ้าไม่กินเธอก็โง่เต็มทีแล้ว!
“ไม่ให้กิน…ของพวกนี้สกปรกจะตาย มีแต่แบคทีเรียและปรสิตทั้งนั้น หากกินแล้วเกิดปัญหาอะไรขึ้นจะทำอย่างไร?” เหยียนหมิงซุ่นยืนหยัดอย่างแน่วแน่ไม่เปลี่ยนแปลง ทั้งยังเผยท่าทางน่าเกรงขามของผู้นำออกมาด้วย
“ไม่ว่าจะเป็นปรสิตแบคทีเรียอะไรทุกอย่างจะถูกฆ่าภายใต้อุณหภูมิสูง แล้วจะเกิดอะไรขึ้นได้อย่างไร ฉันไม่สน ฉันจะกินอยู่ดี ถ้าพี่ไม่ให้ฉันกิน ฉันก็จะกลับไปกินที่บ้าน…”
เหมยเหมยบิดตัวไปมาไม่หยุด แถมยังถลึงตาใส่เหยียนหมิงซุ่นเป็นครั้งคราว
กล้าไม่ให้เธอกินกุ้งมังกรน้อยเหรอ งั้นเธอก็จะออกจากบ้าน!
เหยียนหมิงซุ่นมุมปากกระตุก คิดจะใช้กลอุบายแบบนี้กับเขาเหรอ?
“กลับบ้านอะไรกัน พ่อแม่เธอออกไปทำงานต่างถิ่น ใครจะทำให้เธอทานฮะ? นั่งลง…อ้าปาก!” เหยียนหมิงซุ่นดึงหน้าตึง ถึงเขาจะฝีปากร้ายไปบ้างแต่มือก็ป้อนให้ไม่หยุด เนื้อกุ้งที่สมบูรณ์แบบอีกตัวถูกแกะยัดเข้าปากเหมยเหมย
“ที่รัก…พี่ดีที่สุดเลย…รักพี่ที่สุดเลย…”
เหมยเหมยหน้าบานเป็นกระด้งทันที ทำปากจุ๊บประทับรอยน้ำมันพริกแดง ๆไว้บนใบหน้าของเหยียนหมิงซุ่น แต่อันเดียวยังไม่พอจึงประทับให้อีกรอย พอเห็นว่าทั้งสองข้างเท่ากันแล้วถึงพอใจ
เหยียนหมิงซุ่นเช็ดน้ำมันออกจากใบหน้าของเขาด้วยความหงุดหงิด ถ้ามีของให้กินก็เรียกที่รัก แต่พอไม่มีให้กินก็กลับไปบ้านแม่ เลือกอยู่แต่กับคนที่มีผลประโยชน์ต่อตัวเองจริง ๆ!
“ที่รัก ฉันแกะให้พี่กินชิ้นหนึ่งนะ พี่ลองกินดูมันอร่อยจริง ๆนะ…”
เหมยเหมยแกะกุ้งอย่างเชี่ยวชาญเร็วใช้ได้เลย ความเร็วพัฒนาขึ้นหลังจากที่เธอฆ่ากุ้งมังกรน้อยนับพันตัวในชาติที่แล้ว เหยียนหมิงซุ่นจับจ้องไม่วางตา
“เธอบอกว่าแกะไม่เป็นไม่ใช่เหรอ?”
ความเร็วไม่ช้าไปกว่าเขาเลย แถมยังบอกว่าแกะไม่เป็นอีกต่างหาก พระเจ้ารู้ดีว่าเขารำคาญกุ้งมังกรน้อยพวกนี้แค่ไหน เขายอมปอกเปลือกกุ้งนางยังจะดีกว่า!
เหมยเหมยใจกระตุกวูบ แย่แล้ว ลืมไปชั่วขณะ
“เฮ้ย…ฉันโดนปลายแหลมของมันตำมือเข้าแล้ว…พี่ดูที่มือของฉันสิ…แดงหมดเลย…” แผนแกล้งป่วยต่อหน้าคนรักมักใช้ได้ผลเสมอ
เหยียนหมิงซุ่นเหลือบมองนิ้วสีขาว ๆที่ยื่นออกมาตรงหน้าเขา วงกลมสีแดงบนนั้นมันคือน้ำพริกเผาต่างหาก!
ช่างเป็นยัยปีศาจตัวน้อยจริง ๆ!
แต่เขาก็ยังจะกินชิ้นนี้!
เหยียนหมิงซุ่นเช็ดน้ำพริกเผาบนนิ้วมือของเหมยเหมยอย่างเป็นห่วง อีกเดี๋ยวยัยบื้อนี่ต้องเอามือขยี้ตาแน่นอน ถึงตอนนั้นก็จะร้องไห้อีก!
“นั่งดี ๆ…มาตั้งกฎกันก่อน กุ้งมังกรน้อยกินได้แค่สามมื้อต่อเดือน” เหยียนหมิงซุ่นแกะกุ้งไปพูดไป
“ไม่เอา…หกมื้อ…” เพิ่มเป็นสองเท่า
“สองมื้อ!”
“ก็ได้ สามมื้อก็สามมื้อ” เหมยเหมยตกลงอย่างเชื่อฟัง ถึงเวลานั้นก็ให้ป้าฟางเพิ่มให้มากขึ้นอีกหน่อยแล้วกัน
เหยียนหมิงซุ่นมองความคิดในใจของเธอออกจึงกลั้นยิ้มและพูดว่า “หนึ่งมื้อกินได้แค่สองขีด”
เหมยเหมยนิ่งตะลึงงั้น ‘…หน้าเลือดชะมัดเลย!’
…………………………………………..