ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น – บทที่ 2175 แม่เป็นชนกลุ่มน้อยเผ่าเซอ + ตอนที่ 2176 เด็กมาได้อย่างไร?

บทที่ 2175 แม่เป็นชนกลุ่มน้อยเผ่าเซอ + ตอนที่ 2176 เด็กมาได้อย่างไร?

ตอนที่ 2175 แม่เป็นชนกลุ่มน้อยเผ่าเซอ

เหมยเหมยสดใสขึ้นมาทันที ลุกขึ้นนั่งมองหน้าเหยียนซินหย่าแล้วถามด้วยความร้อนใจ “แม่มีวิธีอะไรเหรอ? ถ้าเรื่องผิดกฎหมายทำไม่ได้นะ!”

เหยียนซินหย่าถลึงตาใส่เธออย่างไม่พอใจแวบหนึ่ง “แม่จะทำเรื่องผิดกฎหมายได้เหรอ?”

อย่างมากก็แค่หาช่องโหว่ทางกฎหมายเท่านั้นเอง!

เธอเอ่ยอย่างดีใจ “หลายวันก่อนแม่คุยกับเพื่อน เขาพูดถึงนโยบายรัฐลูกคนที่สองว่าคู่สามีภรรยาต้องมีคนใดคนหนึ่งเป็นชนกลุ่มน้อยถึงจะมีลูกคนที่สองได้ แม่ตั้งใจไปถามมาให้แล้วสรุปว่าได้จริง ๆด้วย!”

พอเหมยเหมยได้ยินว่าเป็นเรื่องนี้ก็อารมณ์ห่อเหี่ยวในฉับพลัน “หนูรู้ตั้งนานแล้ว ต่อให้ได้แล้วอย่างไรล่ะคะ หนูกับพี่หมิงซุ่นไม่ใช่ชนกลุ่มน้อยสักหน่อย”

“ใครว่าลูกไม่ใช่ชนกลุ่มน้อยกันล่ะ?” เหยียนซินหย่ากลอกตาใส่เธออีกที เหมยเหมยก็เกิดตื่นเต้นอารมณ์ฮึกเหิมขึ้นมาทันที เบิกตาโตจับจ้องใบหน้าแม่ของตนเอง

“แม่ แม่ไม่ได้เข้าใจผิดหรอกใช่ไหม? ในทะเบียนบ้านของหนูเขียนว่าชาวฮั่นนะ แล้วจะเป็นชนกลุ่มน้อยได้อย่างไร?”

ตอนนั้นเธอเคยคิดถึงเรื่องนโยบายนี้เลยไปตามย้อนดูประวัติบรรพบุรุษตระกูลเหยียนและตระกูลจ้าว แต่เสียดายที่รากฐานล้วนแต่เป็นชาวฮั่นอย่างแท้จริง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับชนกลุ่มน้อยเลยสักนิด

เหยียนหมิงซุ่นก็ไม่อยากทำสิ่งผิดกฎหมายเหมยเหมยเลยต้องตัดใจเรื่องนี้ไป ทว่าตอนนี้เหยียนซินหย่าได้เอ่ยขึ้นอีกครั้งเลยทำให้ความคิดที่ดับสลายไปแล้วถูกจุดประกายขึ้นใหม่ในฉับพลัน หรือว่าแม่ของเธอมีวิธีดี ๆจริงหรือ?

เหยียนซินหย่ามองค้อนใส่ทีหนึ่ง ทำท่าได้ใจอย่างมาก “คนไร้หัวใจ แม่ของลูกก็คือชนกลุ่มน้อยไง ลูกนี่ไม่สนใจแม่เลยจริง ๆ”

ปากเล็กของเหมยเหมยอ้าหวอเป็นรูปตัวโอ ดวงตาเบิกโตเท่าขนาดปาก แม่ของตนเป็นชนกลุ่มน้อย ทำไมเธอไม่เคยรู้เลยล่ะ?

“แม่ แม่เป็นชนกลุ่มน้อยไหนเหรอ? เผ่าม้งหรือเผ่าไต หรือว่าเผ่าต้ง เผ่าเย้า เผ่าป๋าย…”

เหมยเหมยพ่นชื่อชนกลุ่มน้อยแถบทางตอนใต้ออกมายาวเหยียดแต่ก็ยังไม่น่าเชื่ออยู่ดี เพราะคุณตาของตนเป็นคนมณฑลเจ้อเจียงโดยกำเนิด แล้วเจ้อเจียงมีชนกลุ่มน้อยด้วยหรือ?

เหมยเหมยไม่ค่อยมั่นใจนักเพราะเธอไม่ถนัดวิชาภูมิศาสตร์เลยจริง ๆ คำถามที่มีชั้นเชิงแบบนี้เธอมักให้เหยียนหมิงซุ่นเป็นคนคิดเสมอ แต่ในความทรงจำของเธอคล้ายว่าแถบหูหนานต่างหากที่มีชนกลุ่มน้อยมากที่สุด ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าเจ้อเจียงมีอำเภอปกครองตัวเองด้วย!

หรือว่าบรรพบุรุษคุณตาเธออพยพมาอยู่ที่เจ้อเจียงกันนะ?

“ไม่ใช่ทั้งนั้น แม่เป็นเผ่าเซอ เคยได้ยินไหม?” เหยียนซินหย่ามองลูกสาวด้วยความคาดหวัง

เหมยเหมยกะพริบตาปริบ ๆ เผ่าเซอหรือ?

เซอตัวไหน?

“เซอที่แปลว่าค้างจ่ายเหรอ?” เหมยเหมยถามหยั่งเชิงก่อนจะถูกดีดหน้าผากแรง ๆทีหนึ่ง

“ตัวนั้นไง…เฮ้อ แม่เขียนให้ดู!”

เหยียนซินหย่านึกอยู่พักใหญ่ก็ไม่รู้ควรใช้คำไหนอธิบายเลยไปค้นเอากระดาษปากกาจากลิ้นชักมาด้วยความโมโห “นี่ไง เซอตัวนี้”

เหมยเหมยมองอยู่นาน บอกตามตรงหากเหยียนซินหย่าไม่ได้เขียนออกมาเธอคงไม่เคยเห็นตัวอักษรตัวนี้เลยจริง ๆ และไม่รู้ว่ามันอ่านว่าอย่างไรด้วย?

คำถามคือชนกลุ่มน้อยทั้งห้าสิบหกเผ่าในฮวาเซี่ยมีเผ่าเซอนี้ด้วยหรือ?

ทำไมเธอถึงไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยล่ะ?

“แม่ คุณตาเป็นคนเผ่าเซอเหรอ? ท่านไม่ใช่คนอู่เจิ้นเหรอ? อู่เจิ้นมีชนกลุ่มน้อยด้วยเหรอ?” เหมยเหมยคิดไม่ตก อู่เจิ้นอยู่ไม่ไกลจากบ้านของคุณยายเหยียนหมิงซุ่นเท่าไร เธอเคยไปมาหลายครั้ง แต่เธอไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าที่นั่นมีชนกลุ่มน้อยด้วย!

“ไม่ใช่คุณตาของลูกแต่เป็นคุณยายของลูก คุณยายเป็นคนเผ่าเซอ ตอนที่แจ้งทะเบียนบ้าน คุณตาของลูกเปลี่ยนชนเผ่าของแม่ตามคุณยาย ฉะนั้นแม่เป็นคนเผ่าเซอ” เหยียนซินหย่าลอบยิ้มดีใจ

โชคดีที่คุณพ่อตัดสินใจเรื่องนี้อย่างชาญฉลาด ตอนนี้เธอถึงมีหลานเพิ่มมาอีกคน!

เหมยเหมยได้ยินก็เริ่มมีเรี่ยวแรงขึ้นมา เรื่องนี้พอจะมีหวังแล้วสินะ!

“แม่ คุณยายก็เป็นคนอู่เจิ้นเหมือนกันไม่ใช่เหรอ? ทำไมถึงเป็นคนเผ่าเซอไปได้ล่ะ? งั้นครอบครัวเหอปี้อวิ๋นก็เป็นคนเผ่าเซอทั้งหมดน่ะสิ? ทำไมหนูไม่เคยได้ยินชื่อเผ่านี้มาก่อนเลย” เหมยเหมยมีคำถามเต็มไปหมด

………………………..

ตอนที่ 2176 เด็กมาได้อย่างไร?

เหยียนซินหย่าอธิบายอย่างใจเย็น “ใช่ ตระกูลเหอเป็นคนเผ่าเซอทั้งหมด พวกเขาอพยพมาจากเขตปกครองตัวเองจิ่งหนิงเมืองลี่สุ่ยแล้วมาอยู่ที่อู่เจิ้น ทางเมืองจิ่งหนิงมีเขตปกครองตัวเองเผ่าเซออยู่ วันหลังไปไหนอย่าบอกเชียวนะว่าไม่เคยได้ยินชื่อเผ่าเซอมาก่อน น่าอาย!”

เหมยเหมยยิ้มตาหยีอย่างอารมณ์ดี เธอคิดอยู่นานแต่ก็หาทางแก้ปัญหาไม่ได้ ทว่าตอนนี้กลับถูกแม่ของตนจัดการได้อย่างง่ายดาย

“แม่…แม่เก่งจัง!”

เหมยเหมยกอดเหยียนซินหย่าแล้วหอมแก้มเธอฟอดใหญ่

การที่จะมีลูกชายลูกสาวครบคู่ไม่ใช่เรื่องฝันหวานอีกต่อไปแล้ว!

แค่คิดว่าเธอจะมีลูกน้อยแสนน่ารักสองคนตามเรียกคุณแม่อยู่ด้านหลัง เหมยเหมยก็ยิ้มจนแทบลืมตาไม่ขึ้นแล้ว

แต่ไม่นานเธอก็นึกถึงปัญหาอีกข้อได้–

“แม่ แต่ทะเบียนบ้านของหนูยังอยู่ที่คุณปู่อยู่เลย!”

เมื่อครั้นที่กลับตระกูลจ้าว จ้าวหวายซานเอ็นดูหลานสาวมากเลยยืนกรานจะให้จ้าวอิงหัวย้ายทะเบียนบ้านมาที่ตระกูลจ้าวในเมืองหลวง กระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่ย้ายกลับมา

เหยียนซินหย่าไม่ใส่ใจ “ง่ายมาก แม่ให้พ่อของลูกไปย้ายกลับมาแล้วก็เปลี่ยนมาเป็นชนเผ่าเดียวกับแม่ เรื่องเล็กแค่นี้ถ้าพ่อของลูกจัดการไม่ได้ก็ให้เขาไปนอนกลางถนนเถอะ!”

เหมยเหมยหลุดขำแล้วพูดคล้อยตาม “ใช่ ถ้าทำไม่ได้ก็ให้พ่อหนูไปนอนใต้สะพานเลย!”

สองแม่ลูกหัวเราะเสียงร่วน บรรยากาศงดงามดั่งภาพวาด

จ้าวอิงหัวกับเหยียนหมิงซุ่นกำลังนั่งจ้องตากันอยู่ในห้องนั่งเล่น บรรยากาศน่าอึดอัดจนฉิวฉิวแทบทนดูไม่ได้เลยหยิบเอาช็อกโกแลตจากลิ้นชักมาหลายแท่ง ก่อนจะปีนขึ้นบนเครื่องปรับอากาศที่ช่วงนี้เขารักเป็นพิเศษ

ผึ่งลมเย็นชื่นใจ แทะช็อกโกแลตที่ทานเท่าไรก็ไม่เบื่อ คุณชายฉิวรู้สึกว่าต่อให้อยู่บนโลกสวรรค์ก็เท่านั้นแหละ!

“ตอนนี้เหมยเหมยสุขภาพไม่ดี ฉันรับเธอกลับไปพักฟื้นที่บ้านดีกว่า แกทำงานยุ่งทุกวัน ออกเช้ากลับค่ำ อยู่ดูแลเหมยเหมยไม่ได้ด้วยซ้ำ” จ้าวอิงหัวเอ่ยปากทำลายความเงียบโดยเสนอว่าจะรับตัวลูกสาวกลับบ้าน

เมื่อครู่เขาลองขบคิดอย่างใจเย็นดูแล้วและรู้สึกดีใจขึ้นมาในฉับพลัน ลูกสาวสุดที่รักตั้งครรภ์ก็รับกลับบ้านไปสิ นี่เป็นข้ออ้างที่สมเหตุสมผลยิ่งเสียกว่าอะไร ทีนี้เหยียนหมิงซุ่นคงไม่มีข้ออ้างคัดค้านแล้วล่ะ!

แต่เขาไม่ลองคิดดูเลยว่าถ้าเหยียนหมิงซุ่นคุยง่ายขนาดนี้ เขาคงไม่พ่ายแพ้ทุกรอบตลอดหลายปีที่ผ่านมาหรอก!

“ผมจะพยายามลดปริมาณงานลงเพื่ออยู่ดูแลเหมยเหมยที่บ้าน อีกอย่างมีป้าฟางกับลุงเหลาอยู่ด้วย เหมยเหมยจะได้รับการดูแลอย่างดีที่สุด คุณคิดมากไปแล้ว” เหยียนหมิงซุ่นปฏิเสธเสียงกร้าวและไม่เปิดโอกาสให้ต่อรองเลยสักนิด

“คนอื่นดูแลจะใส่ใจเท่าคนเป็นพ่อเป็นแม่ได้อย่างไร แกไว้ใจแต่ฉันไม่ไว้ใจ” จ้าวอิงหัวเถียงคอเป็นเอ็นด้วยท่าทีแข็งกร้าวและยืนกรานจะพาเหมยเหมยกลับบ้านให้ได้

“คุณจะดูแลอย่างไร? คุณทำกับข้าวหรือต้มซุปเป็นเหรอ? อีกอย่างหนึ่งเดือนคุณต้องไปสัมมนาข้างนอกเกือบครึ่งเดือน แม่ของเธอก็เหมือนกัน สรุปก็ต้องจ้างคนมาดูแลเหมยเหมยอยู่ดีไม่ใช่เหรอ?”

เหยียนหมิงซุ่นคัดค้านเสียงเย็นชาไม่ไว้หน้าจ้าวอิงหัวเลยสักนิด

กล้ามาแย่งภรรยากับเขา ไม่ว่าอีกฝ่ายจะเป็นคุณพ่อตาหรือเง็กเซียนฮ่องเต้ก็จะตอกกลับอยู่ดี!

“เรื่องนี้ไม่ให้ต่อรอง เหมยเหมยอยู่บ้านนี่แหละไม่ไปไหน คุณสามารถมาเยี่ยมได้เสมอ แถมข้าวก็มีให้ทานด้วย”

เหยียนหมิงซุ่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่ยากจะปฏิเสธได้

จ้าวอิงหัวทิ้งตัวลงบนโซฟาอย่างละเหี่ยใจ อันที่จริงเขาไม่พอใจเลย ทั้ง ๆที่เขาเป็นผู้อาวุโสกว่าแท้ ๆ เจ้าเหยียนหมิงซุ่นไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่เอาซะเลย มันน่าโมโหจริง ๆ!

“นี่ เมื่อก่อนแกเคยบอกว่ารออีกหน่อยค่อยมีลูกไม่ใช่เหรอ? ทำไมจู่ ๆถึงมีได้ล่ะ? แกอย่าบอกเชียวนะว่าซื้อสินค้าไร้ประสิทธิภาพมา?” จ้าวอิงหัวมองเหยียนหมิงซุ่นอย่างเย้ยหยันและได้ใจ ในที่สุดก็ถูกเขาจับจุดอ่อนได้สักที

………………………

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

จุดจบที่ความตาย กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นบันดาลให้เธอได้ย้อนกลับไปในปี 1985

เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างตัวเองวัย 12 ปี!

เมื่อได้รับชีวิตที่เหมือนได้เกิดใหม่คราวนี้ เธอจึงตัดสินใจลิขิตชะตาด้วยสองเป้าหมาย…

หนึ่ง… มีชีวิตอย่างอิสรเสรี ไม่สนใจสายตาใคร และไม่รับความรักอันน้อยนิดที่ญาติมิตรมีให้

สอง… แก้แค้น สิ่งที่พี่สาวกับอดีตคนรักติดค้างไว้ เธอจะต้องเอาคืนให้หมดในชาตินี้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท