ตอนที่ 2209 สองขีดหมดเลย
เหมยเหมยเองก็คิดว่าสิ่งที่เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนคาดเดาเป็นความจริง ฉางชิงซงใช้วิธีต่ำทรามคิดจะอาศัยลูกในท้องบีบบังคับให้ลุงปาเกินอนุญาตเรื่องงานแต่งงานของเขากับฉีฉีเก๋อ
ตอนนี้เธอก็คิดว่าฉางชิงซงไม่ใช่คนที่คู่ควร เขาอาจจะรักฉีฉีเก๋อจริงๆ แต่เขารักตัวเขาและครอบครัวเขามากกว่า เป็นภรรยาของผู้ชายแบบนี้ต้องเหนื่อยมากแน่ ๆ
แต่รักไม่รักแต่งไม่แต่งคลอดไม่คลอดล้วนเป็นเรื่องของฉีฉีเก๋อ ในฐานะที่พวกเธอเป็นเพื่อนจึงทำได้แค่เกลี้ยกล่อมแต่ตัดสินใจแทนเธอไม่ได้
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเองก็เข้าใจความหมายนี้ดี เธอทุบโต๊ะทีหนึ่งด้วยความโกรธ เอ่ยเสียงแค้นใจ “ฉันแค่โมโห ยายโง่ฉีฉีเก๋อใช้ไม่ได้ปล่อยให้ฉางชิงซงจูงจมูกแบบนี้ รู้งี้ไม่น่าจะสนับสนุนให้เธอยอมคบกับฉางชิงซงแต่แรกดีกว่า เฮ้อ!”
เหมยเหมยเองก็ถอนหายใจเฮือกหนึ่ง สถานการณ์ของฉีฉีเก๋อในตอนนี้เท่ากับขึ้นหลังเสือก็ยากจะลงแล้ว
ฉีฉีเก๋อออกมาจากห้องน้ำแล้วถามเสียงอิดออด “อันนี้ดูอย่างไรเหรอ?”
“ขึ้นกี่ขีด?” เหมยเหมยถาม
“สองขีดหมดเลย” ฉีฉีเก๋อตอบด้วยความหวั่นใจ
“ปัง”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนโกรธจนตบโต๊ะอย่างแรงทีหนึ่งจนเกิดเสียงดังสนั่น
“เธอสารภาพมาตรง ๆเลยนะ นอกจากตอนที่แอบไปด้วยกันคืนนั้นแล้ว หลังจากนั้นฉางชิงซงก็หลอกล่อเธออีกใช่ไหม? พวกเธอทำไปกี่รอบ?” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนตวาดด้วยความเดือดดาล
ตอนที่ซื้อกระดาษที่ตรวจครรภ์มา เธอถามอย่างชัดเจนแล้วว่าหนึ่งขีดเป็นหยิน ไม่ได้ท้อง สองขีดเป็นหยาง ซึ่งมีโอกาสท้องสูงมาก
ฉีฉีเก๋อเขินจนหน้าแดงพิงประตูห้องน้ำก้มหน้าลง คงไม่ต้องตอบเหมยเหมยกับเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนก็รู้ได้แล้วว่าตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมาฉางชิงซงกับฉีฉีเก๋อต้องแอบทำกันมาไม่น้อย
“ทำไมเธอไม่ใส่ใจสักนิด? ตอนนั้นเธอสัญญากับพวกเราอย่างไร? บอกว่าวันหลังจะคบกับฉางชิงซงดี ๆ ไม่นอนด้วยกันแน่นอน สัญญาของเธอล่ะ? โดนหมากลืนไปแล้วเหรอ? …ให้ตายสิ…จะแอบลักกินก็ลักกินเถอะ ไม่รู้จักใส่ถุงยางหรือไง…หาซื้อที่ร้านยาไหนก็ได้…เธอโดนประตูหนีบสมองมาหรือไง!”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนระงับโทสะไม่ไหวอีกต่อไป พุ่งไปหน้าฉีฉีเก๋อแล้วด่ากราดพ่นน้ำลายใส่เต็มหน้าอีกฝ่าย
ฉีฉีเก๋อเองก็หดคอไม่กล้าโต้ตอบ น้ำตาคลอเบ้า ตอนนี้เธอลนแล้วเพราะไม่รู้ควรทำอย่างไรดี ความคิดที่จะกลับบ้านก็ตัดทิ้งไป
ถ้าให้พ่อกับแม่รู้ว่าเธอท้องเกรงว่าต้องโมโหจนตายสินะ?
“ให้ตาย…ฉันไม่ปล่อยไอ้เลวนั่นไปแน่ ฉันจะไปบริษัทภาพยนตร์เดี๋ยวนี้เลย!”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนหันหลังหมายจะไปคิดบัญชีกับฉางชิงซงแต่ฉีฉีเก๋อคว้าแขนเธอไว้ พูดอ้อนวอน “ไม่เกี่ยวกับรุ่นพี่ฉางหรอก แต่เป็นฉันเอง…”
“เธออย่ามาแก้ตัวแทนเขา เขาไม่ได้หลอกล่อเธอแล้วหมายถึงอย่างไร? เธอมีความกล้าที่จะยั่วเขาเหรอ…เหอะ…”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนไม่เชื่อสักนิด อย่าเห็นแค่ว่าฉีฉีเก๋อเป็นคนโผงผางตรงไปตรงมา แต่กับเรื่องรัก ๆใคร่ ๆดันขี้อายเหลือเกิน เป็นไปไม่ได้เด็ดขาดว่าจะเป็นฝ่ายยั่วยวนผู้ชายก่อน
เหมยเหมยเกลี้ยกล่อมเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนที่กำลังเดือดดาลอยู่ “อย่าโมโหเลย ตอนนี้ต่อให้เธอตีฉางชิงซงจนตายก็เปล่าประโยชน์ มาคิดว่าจะทำอย่างไรต่อดีหลังจากนี้ดีกว่า”
เธอหันไปมองฉีฉีเก๋อที่ทำหน้าหมองแล้วพูดอ้อม ๆ “ฉีฉีเก๋อ เรื่องนี้เธออย่าเพิ่งบอกฉางชิงซง หลังจากเธอคุยกับพ่อแม่เธอเสร็จค่อยบอกเรื่องนี้ให้ฉางชิงซงรู้แล้วกัน”
หากให้ฉางชิงซงรู้ว่าฉีฉีเก๋อตั้งครรภ์เกรงว่าคนในครอบครัวเขาจะใช้เรื่องนี้มาข่มขู่ จากนั้นฉีฉีเก๋อก็จะกลายเป็นฝ่ายถูกกระทำ ตอนนี้เธอเหมือนเหริ่นเชี่ยนเชี่ยนที่ไม่ค่อยไว้วางใจในตัวฉางชิงซง รวมถึงคนในครอบครัวของเขาด้วย ระวังไว้หน่อยจะดีกว่า
“ใช่ เธออย่าเพิ่งบอกอะไรให้ไอ้ชั่วสกุลฉางนั่นรู้เด็ดขาด โทรหาพ่อเธอตอนนี้เลย”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนฉุดฉีฉีเก๋อไปหน้าโทรศัพท์ ฉีฉีเก๋อจับขอบประตูแน่นไม่ยอมโทร
……………………………
ตอนที่ 2210 อยากเก็บไว้
“ฉันไม่กล้าบอก…พ่อฉันต้องโกรธมากแน่ ๆ…” ฉีฉีเก๋อพูดเสียงติดสะอื้น
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเริ่มมีน้ำโหอีกครั้ง “รู้ว่าพ่อเธอต้องโกรธตายแน่ ๆ แล้วทำไมไม่รู้จักรัดเข็มขัดกางเกงให้ดีล่ะ?”
ฉีฉีเก๋อก้มหน้างุดลงอย่างรู้สึกอายแล้วพูดแก้ตัวเสียงอ่อน “เธอกับอิงจวี้กังก็อยู่ด้วยกันเหมือนกันนี่..”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนโกรธจนแทบหงายหลัง “กล้าเทียบกับฉันเหรอ? ฉันจะบอกเธอให้นะว่าฉันสั่งให้อิงจวี้กังไปทิศตะวันออกอิงจวี้กังก็ไม่กล้าไปทิศใต้หรอก ฉันกำราบเขาจนอยู่ในโอวาทอย่างดีแต่เธอกลับตรงกันข้ามที่ต้องถูกฉางชิงซงบงการทุกอย่าง แล้วอีกอย่างฉันท้องไหมล่ะ หา?”
ฉีฉีเก๋อหลบหนีการโจมตีทางน้ำลายของคุณหนูใหญ่เหริ่นไม่กล้าสวนกลับแม้แต่ประโยคเดียว
เหมยเหมยพูดเสริม “ฉันกับเชี่ยนเชี่ยนไม่ได้ห้ามเธอตามหารักแท้ แต่ผู้หญิงอย่างเราสำคัญที่สุดต้องรู้จักปกป้องตัวเอง ตอนนี้เธอทำตัวเองจนท้องโตแล้วเธอคิดจะทำอย่างไรต่อ?”
“ฉันอยากเก็บเอาไว้!” ฉีฉีเก๋อลังเลเพียงอึดใจเดียวก็ตัดสินใจ
ตอนเพิ่งรู้ว่าตนเองตั้งครรภ์เธอยังมึนงงอยู่บ้างแต่พอสงบสติอารมณ์ลงได้ ฉีฉีเก๋อก็ย่อมต้องคาดหวังปนดีใจในฐานะคนเป็นแม่อยู่แล้ว เธออยากเก็บลูกคนนี้เอาไว้ นี่เป็นโซ่ทองคล้องใจของเธอกับรุ่นพี่ฉางเชียวนะ!
“เก็บบ้าบออะไร…”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเป็นคนใจร้อนฉุนเฉียวจึงอ้าปากหมายจะด่ากราดโดยไม่ยั้งคิด เหมยเหมยรีบหยิกหลังเธอแรง ๆทีหนึ่ง
เธอเข้าใจความรู้สึกของฉีฉีเก๋ออย่างมาก ซึ่งคล้ายเธอที่พอรู้ว่าตัวเองท้องความคิดแรกก็คือต้องการที่จะปกป้องลูกให้ดี ทานของอร่อย ๆให้ลูกได้รับสารอาหารที่เพียงพอ นี่เป็นปฏิกิริยาปกติของคนเป็นแม่ทั่วไป
ฉีฉีเก๋ออยากเก็บลูกเอาไว้ก็พอเข้าใจได้ เพียงแต่สถานการณ์ของเธอในตอนนี้…
“เธอโทรหาลุงปาเกินก่อนดีกว่า ฉีฉีเก๋อ ต่อให้เธออยากหนีเช่นไรก็เปล่าประโยชน์ เรื่องนี้เธอจะปิดบังพ่อแม่เธอไปตลอดชีวิตก็ไม่ได้ถูกไหม?” เหมยเหมยพูดโน้มน้าว
“ฉันกลัว…”
ฉีฉีเก๋อพูดเสียงแผ่ว คุณพ่อไม่ชอบรุ่นพี่ฉาง ตอนนี้เธอสร้างปัญหาจนเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นมา อาป๊าจะต้องผิดหวังในตัวเธอมากเลยใช่ไหม?
“รู้แต่ก็ยังทำ…” เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนแค่นเสียงที
ภายใต้การเกลี้ยกล่อมซ้ำ ๆของเหมยเหมยสุดท้ายฉีฉีเก๋อก็ยอมโทรหาลุงปาเกิน แต่พอโทรติดเธอกลับไม่รู้จะพูดอย่างไร อ้ำ ๆอึ้ง ๆอยู่พักใหญ่ก็พูดไม่เป็นคำสักที ลุงปาเกินที่อยู่ปลายสายร้อนใจแทบตายหลงคิดว่าเกิดเรื่องใหญ่กับลูกสาวแล้วเสียอีก
เหมยเหมยแย่งหูโทรศัพท์มาก่อนจะเอ่ย “ลุงอย่าเพิ่งร้อนใจ ฉีฉีเก๋อทานข้าวที่บ้านหนู ตอนนี้มีเรื่องหนึ่งที่หนูคิดว่าลุงควรรับรู้ ฉีฉีเก๋อท้องแล้ว เพิ่งใช้ที่ตรวจครรภ์ตรวจเสร็จไปค่ะ”
“ตุบ”
เสียงดังสนั่นแว่วมาจากปลายสาย ฉีฉีเก๋อห่อตัวกัดริมฝีปากแน่น
“ลูกของเจ้าฉางชิงซงเหรอ?” เสียงพูดเล็ดรอดไรฟันของลุงปาเกินดังขึ้น แม้จะคุยผ่านโทรศัพท์ยังรู้สึกได้ถึงความโกรธและกดดันจากเขา
“ใช่ค่ะ”
“ให้ฉีฉีเก๋อรับสาย ฉันมีเรื่องจะคุยกับเขา”
เหมยเหมยยื่นหูโทรศัพท์ให้ฉีฉีเก๋อ ลุงปาเกินพูดแค่ไม่กี่ประโยคก็วางสายไป ฉีฉีเก๋อทำหน้าเศร้าคล้ายจะร้องไห้กล่าว “พ่อกับแม่ฉันจะมาเดี๋ยวนี้”
เหมยเหมยถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ฉีฉีเก๋อเป็นคนใสซื่อเสียเปรียบง่าย แต่ลุงปาเกินกลับเป็นคนเจ้าเล่ห์เจ้าแผนการไม่มีทางปล่อยให้ลูกสาวตนถูกเอารัดเอาเปรียบแน่นอน
“พอแล้ว เธอไม่ต้องคิดอะไรแล้ว ทุกอย่างฟังที่พ่อแม่เธอบอก พวกเขาไม่มีทางทำร้ายเธอแน่นอน” เหมยเหมยพูดชี้ทาง
“ใช่ พ่อแม่เธอสั่งให้เธอทำอย่างไรก็ทำไปตามนั้น อย่างอื่นไม่ต้องไปคิดถึงมันแล้ว”
เหริ่นเชี่ยนเชี่ยนเห็นด้วยกับคำพูดของเหมยเหมยมาก ลำพังยัยโง่อย่างฉีฉีเก๋อโดนเอาไปขายคงจะช่วยอีกฝ่ายนับเงินอยู่มากกว่าน่ะสิ เป็นเด็กดีเชื่อฟังคำสั่งพ่อแม่ดีกว่า อย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลปัจจัยพื้นฐานของชีวิตล่ะนะ
แต่พวกเธอกลับไม่รู้ว่าลูกสาวที่เชื่อฟังเป็นเด็กดีมากเพียงใด หลังจากตกหลุมพรางความรักก็จะกลายเป็นคนหัวรั้นและเริ่มต่อต้านพ่อแม่จนทำการตัดสินใจที่อาจทำให้เธอต้องเสียใจไปตลอดชีวิต
……………………..