ตอนที่ 2257 คุณปู่อยู่บนเขา
“ที่นี่ไม่มีคุณปู่หรอก ฉันมาตามหาสิบกว่ารอบแล้ว”
เฮ่อเหลียนเช่อผิดหวังเล็กน้อย เขาไม่ควรตั้งความหวังไว้กับเด็กเล็ก ๆขนาดนี้เลย บางทีเสี่ยวเป่าอาจเคยอยู่ที่นี่มาก่อน นั่นเลยเป็นเหตุผลที่คิดว่าหนิงเฉินเซวียนจะอยู่ที่นี่
เสี่ยวเป่ายังคงไม่สนใจเขา ทั้งยังร้องอ้อแอ้จะลงจากรถ เหมยซูหานจำต้องอุ้มเขาลงไป ต่อให้หนิงเฉินเซวียนไม่อยู่ก็อุ้มเสี่ยวเป่าไปเดินดูสักรอบหน่อยแล้วกัน เจ้าเด็กนี่จะได้ล้มเลิกความคิดไปสักที
ภายในบ้านยังมีคนรับใช้ทำงานอยู่ ทุกอย่างยังเหมือนเคยเพียงแต่ไม่มีเจ้านายอยู่
พวกเขาเห็นเฮ่อเหลียนเช่อก็เข้ามาทักทาย เฮ่อเหลียนเช่อโบกมือให้พวกเขาแยกย้ายไป
เสี่ยวเป่าพาพวกเขาเดินไปยังท้ายสวน สวนด้านหลังเป็นสนามม้าที่หนิงเฉินเซวียนรักที่สุด เฮ่อเหลียนเช่อใจชาวาบ สนามม้าเขาก็ตามหาหมดแล้ว ทั้งยังถึงขั้นขุดหลุมไปหลายจุดเพราะอยากรู้ว่าด้านล่างจะมีห้องใต้ดินอยู่ไหม แต่แล้ว…ก็ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง
ในสนามม้ายังมีม้าขังไว้อีกหลายตัว เว้นเสียแต่ม้าเซ็กเธาว์ที่ถูกโฉ่วโฉ่วม้าของเฮ่อเหลียนชิงเอาไปทำเมียแล้ว เสี่ยวเป่ารู้สึกผิดหวังเมื่อไม่เจอหั่วหั่ว เพราะหั่วหั่วเป็นม้าที่ฉลาดที่สุดในนี้เลยนะ!
แต่ไม่เป็นไรม้าตัวอื่นก็ฉลาดเหมือนกัน
เสี่ยวเป่ามุดตัวเข้าไปในคอกม้าก้าวขาอวบ ๆวิ่งไปตรงหน้าม้าอาหรับสุดหล่อ เหมยซูหานและเฮ่อเหลียนเช่อต่างก็ไม่รู้สึกตกใจอะไร เพราะพวกเขารู้มานานแล้วว่าระหว่างเสี่ยวเป่ากับสัตว์มีความเข้ากันได้บางอย่างที่ยากจะอธิบาย
แม้แต่งูเห่า ยามที่อยู่ต่อหน้าของเสี่ยวเป่าก็จะอ่อนโยนดั่งงูไร้พิษ
ดังนั้นพวกเขาไม่กังวลเลยสักนิดว่าม้าจะทำร้ายเสี่ยวเป่า
เสี่ยวเป่ายืนอยู่ใต้ท้องม้าอาหรับได้สักพัก ก่อนจะปีนออกมา จากนั้นก็วิ่งไปหาม้าอีกตัวที่ดูแก่กว่า
เพราะม้าอาหรับบอกเขาว่า มันมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นานจึงรู้เรื่องราวต่าง ๆค่อนข้างน้อย มันให้เขาไปถามม้ามองโกเลียที่แก่ที่สุด บางทีตาแก่นั่นอาจจะรู้อะไรบ้างก็ได้
เสี่ยวเป่าไม่ผิดหวังกับม้ามองโกเลียตัวนั้นเลยเพราะได้ข่าวดีตามคาด
ม้ามองโกเลียทำเสียงฮึดฮัดแล้วกินหญ้าสดอย่างช้า ๆ อายุมากแล้วฟันไม่ค่อยดี ต้องเคี้ยวให้ละเอียดหน่อยไม่งั้นย่อยยาก
“เห็นภูเขาลูกนั้นไหม? เจ้านายอยู่ในนั้นแหละ ตอนกลางคืนฉันเห็นเขามุดเข้าไปที่นั่นกับตาตัวเองเลย อายุมากแล้ว นอนหลับยากเหลือเกิน…”
ม้ามองโกเลียแก่บ่นพึมพำมากมาย เสี่ยวเป่าฟังมันพูดจนจบอย่างตั้งใจโดยไม่มีแม้แต่จะรำคาญเลยสักนิด
จนม้ามองโกเลียแก่บ่นจบเสี่ยวเป่าถึงได้ปีนออกมา วิ่งไปตรงหน้าของเฮ่อเหลียนเช่อ แล้วชี้ไปยังภูเขาลูกที่อยู่ใกล้กับสนามม้าด้วยท่าทีจริงจัง
บ้านพักอาศัยของหนิงเฉินเซวียนไม่ได้ตั้งอยู่ใจกลางเมืองหลวงแต่อยู่ในเขตชานเมือง ฐานะเดิมคือองค์ชายแห่งราชวงศ์องศ์ก่อน เนื่องจากชอบขึ้นเขาล่าสัตว์ ดังนั้นองค์ชายท่านนี้จึงได้สร้างตำหนักไว้ด้านล่างภูเขา
สนามม้าจึงถูกสร้างขึ้นตามแนวภูเขา พอเสี่ยวเป่าชี้ไปเฮ่อเหลียนเช่อก็เข้าใจในทันที จึงถามหยั่งเชิง “คุณปู่อยู่ในภูเขาเหรอ?”
“อือ…” เสี่ยวเป่าพยักหน้า
เฮ่อเหลียนเช่อและเหมยซูหานสบตากัน หนิงเฉินเซวียนหลบอยู่ในภูเขา?
“นายพาเสี่ยวเป่ากลับไปก่อน ฉันจะลองไปตามหาดู” เฮ่อเหลียนเช่อกล่าว
“นายระวังตัวหน่อยนะ!” เหมยซูหานอุ้มเสี่ยวเป่าขึ้นมา เขาอยู่ด้วยก็ช่วยอะไรไม่ได้ กลับกันอาจจะสร้างปัญหาให้อีกก็ได้ อีกอย่างหนิงเฉินเซวียนคงไม่ถึงขั้นทำร้ายเฮ่อเหลียนเช่อหรอก
…
หนึ่งวันผ่านไป
เหยียนหมิงซุ่นเตรียมตัวออกเดินทางไปทางตะวันตกเฉียงใต้ งานทำลายฐานลับระเบิดปรมาณูเป็นภารกิจที่อันตรายมาก คนอื่นที่ไปก็มีแต่ตายกลับมา เขามีสมรรถภาพทางร่างกายที่ดีและมีฝีมือที่เก่งกาจอยู่บ้าง บางทีอาจจะเอาตัวรอดกลับมาได้ก็ได้
เฮ่อเหลียนเช่อมาหาถึงบ้านยื่นข้อเสนอว่าจะขอร่วมด้วย “ฉันรู้ว่านายจะไปฐานลับ ฉันจะไปกับนายด้วย!”
…………………………………………………………………………
ตอนที่ 2258 ชักจูงล้มเหลว
“นายยังตามหาตัวหนิงเฉินเซวียนไม่เจอเหรอ?” เหยียนหมิงซุ่นถามกลับ
“ใช่ ยังไม่เจอ”
เฮ่อเหลียนเช่อพูดโกหก เมื่อวานเขาเจอตัวหนิงเฉินเซวียนแล้ว อยู่บนภูเขาจริง ๆ และบนนั้นก็มีทั้งอาหารการกิน หนังสือ โรงหนัง ตู้เหล้า เครื่องผลิตไฟฟ้าทุกอย่างครบครัน
มีแม้กระทั่งโรงเรือนผัก ดวงอาทิตย์ประดิษฐ์ขนาดเล็กทำให้ผักสดขึ้นได้ดีกว่าบนพื้นที่ราบเสียอีก
หนิงเฉินเซวียนสามารถอาศัยอยู่ที่นั่นได้สองสามปีเต็ม ๆ แถมยังอุดมสมบูรณ์มากด้วย
สำหรับการมาเยือนของเฮ่อเหลียนเช่อไม่ได้ทำให้หนิงเฉินเซวียนตกใจมากนัก ราวกับว่าเขาเดาออกว่าเฮ่อเหลียนเช่อจะต้องตามหาที่นี่เจออยู่แล้ว ครั้งนี้เฮ่อเหลียนเช่อรู้จักที่จะเรียนรู้จึงไม่เอ่ยถามถึงเรื่องฐานลับแต่อย่างใด และยังแสร้งทำเป็นว่าห่วงความปลอดภัยของเขาจึงได้มาตามหาถึงที่นี่
เขาอยู่บนภูเขามาหนึ่งคืน แถมยังคุยเป็นเพื่อนหนิงเฉินเซวียนมากมาย บางทีอาจเพราะอยู่บนภูเขาคนเดียวจนเหงาเกินไป หรือบางทีอาจเพราะไม่อยากจะปิดบังลูกชายเพียงหนึ่งเดียวของเขาอีกหนิงเฉินเซวียนจึงพูดความจริงออกมา
เขาพูดถึงความรุ่งเรืองของตระกูลหนิงเมื่อหนึ่งพันปีก่อน และเขายังได้บอกถึงความทะเยอทะยานที่อยากจะเป็นฮ่องเต้เพื่อครอบครองโลกใบนี้ออกมา…พูดหลายสิ่งหลายอย่างมากมาย แต่มีเพียงหนึ่งเดียวที่ไม่พูดถึงเลยคือเรื่องฐานลับนั่น
“พ่อครับ…เราไปใช้ชีวิตที่ต่างประเทศกันเถอะ พาเสี่ยวเป่าไปด้วย ไปอยู่ในประเทศที่ไม่มีใครรู้จักเราและใช้ชีวิตอย่างเสรี ผมกับซูหานจะกตัญญูให้มาก…ดีไหมครับ?”
จู่ ๆเฮ่อเหลียนเช่อก็เอ่ยปากเรียกเขาว่าพ่อขึ้นมา และนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเรียกว่าพ่อ
หนิงเฉินเซวียนชะงักไปชั่วขณะ จับจ้องลูกชายเพียงคนเดียวของเขาอย่างลึกซึ้ง นี่คือการตกผลึกความรักของเขากับเสี่ยวซี หน้าตาดูละม้ายคล้ายคลึงกับเสี่ยวซีมากเหลือเกิน!
หนิงเฉินเซวียนที่เกือบเหมือนคนบ้า จิตใจที่แข็งกร้าวและไร้ซึ่งความปรานีดูอ่อนลงมากแต่มันก็แค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งยังห่างไกลจากความปรารถนาของเขาที่ต้องการจะเป็นฮ่องเต้…ดังนั้น
“เมื่อก่อนฉันสอนแกว่าอย่างไร สิ่งที่ตระกูลหนิงของเราต้องทำคือโด่งดังไปทั่วโลก ไม่ใช่การหลบ ๆซ่อน ๆใช้ชีวิตอยู่ในประเทศนี้ การที่ไม่มีคนรู้จักตระกูลหนิงของเรา ต่อให้ต้องกินเนื้อมังกรในทุกวันฉันก็ไม่มีความสุขหรอก…”
หนิงเฉินเซวียนสั่งสอนเฮ่อเหลียนเช่อไปยกหนึ่ง โมโหเขาที่ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ
ทั้งหมดเป็นเพราะเหมยซูหานนั่น ทำร้ายลูกชายที่ใจโหดเหี้ยมอำมหิตของเขาจนกลายเป็นแค่คนขี้ขลาดที่ต้องการแค่ซ่อนตัวและใช้ชีวิตอย่างมีความสุขไปวัน ๆ …
หึ เป็นถึงผู้ชายตระกูลหนิงจะขี้ขลาดได้อย่างไร?
การฟื้นฟูตระกูลหนิงถือเป็นภาระหน้าที่ของคนในตระกูลหนิงทุกคน ลูกชายของหนิงเฉินเซวียนอย่างเขาจะเป็นเหมือนชายอื่นในตระกูลที่ลืมเลือนบรรพบุรุษต้นตระกูลไม่ได้!
“พ่อครับ…เรื่องฮ่องเต้มันไม่มีวันเป็นจริงหรอก…พ่อดูสิว่ามีประเทศไหนที่ใช้ฮ่องเต้ปกครองบ้าง? แม้แต่ราชวงศ์กษัตริย์ของยุโรปยังมีแค่ประดับไว้เอง ไม่ได้มีอำนาจจริง ๆเลยสักนิด พ่อคิดว่าทำแบบนั้นไปจะมีความหมายอะไร?”
เฮ่อเหลียนเช่อพูดเกลี้ยกล่อมอย่างยากลำบาก เขารู้สึกว่าความคิดของหนิงเฉินเซวียนนั้นตลกเกินไป
กาลเวลานั้นเดินต่อไปข้างหน้า อารยะธรรมไม่สามารถย้อนกลับมาได้ นี่คือกฎแห่งธรรมชาติ มนุษย์ไม่สามารถขัดต่อกฎนี้ได้เลย
นึกไม่ถึงเลยว่าหนิงเฉินเซวียนจะคิดต่อกรกับพลังธรรมชาติ ซึ่งมันเป็นเรื่องแปลกมาก และเป็นเรื่องน่าตลกที่สุดในโลกด้วย!
“แกจะไปเข้าใจอะไรล่ะ ไม่ต้องพูดแล้ว ฉันตัดสินใจไปแล้ว” หนิงเฉินเซวียนด่ากลับอย่างโมโห ทั้งยังไม่พอใจกับความไม่เอาไหนของเฮ่อเหลียนเช่ออย่างมาก และตั้งใจไว้ว่าหลังจากภารกิจจบจะจัดการเหมยซูหานเสีย ลูกชายดี ๆของเขาถูกไอ้เด็กนั่นพาเสียคนหมด
…
เฮ่อเหลียนเช่อพูดหว่านล้อมหนิงเฉินเซวียนที่บ้าคลั่งไม่สำเร็จ เดิมทีเขาอยากจะอยู่ต่ออีกหลายคืนแต่เช้าของวันถัดมา หนิงเฉินเซวียนก็ไล่เขากลับ บอกเพียงว่าให้เขาดูแลเสี่ยวเป่าให้ดี ส่วนเรื่องอื่นไม่ต้องไปสนใจ
เฮ่อเหลียนเช่อกลับมานอนขบคิดอยู่ที่บ้านหนึ่งวันหนึ่งคืน จนในที่สุดก็ตัดสินใจได้
ดังนั้นเขาจึงมาพบเหยียนหมิงซุ่น!
“พวกเรามีเวลาเหลือมากสุดแค่สามวัน ดังนั้นต้องเร่งมือหน่อย!” เฮ่อเหลียนเช่อเอ่ยเสียงขรึม
เรื่องเวลาเขาเป็นคนประมาณการณ์ไว้เอง เพราะหนิงเฉินเซวียนบอกเขาว่าช่วงสามวันนี้ห้ามออกจากบ้านไปไหน แต่จะเห็นได้ว่าความอดทนของหนิงเฉินเซวียนใกล้จะหมดลงแล้ว สามวันคือขีดจำกัดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาแล้ว
…………………………………………………………