ตอนที่ 2273 ติดต่อเหยียนหมิงซุ่นไม่ได้
ภูเขาสือว่านพระอาทิตย์จะขึ้นช้ากว่าที่อื่นเล็กน้อย แสงแดดรุ่งอรุณส่องผ่านใบไม้ที่หนาแน่น เหยียนหมิงซุ่นและเฮ่อเหลียนเช่อตื่นขึ้นมาในเวลาเดียวพร้อมกัน
พวกเขาทั้งคู่นอนพิงต้นไม้ใหญ่พักผ่อนทั้งคืน ความแข็งแกร่งทางกายภาพถูกเติมเต็มพร้อมพลังสดชื่นกระปรี้กระเปร่า
“ตอนนี้เข้าไปได้แล้วมั้ง หากยังไม่เข้าไปอีก ตะวันจะส่องก้นแล้วนะ”
เฮ่อเหลียนเช่อเด็ดใบไม้เล็ก ๆรูปร่างกลมมนจากต้นไม้พุ่มเตี้ยมาสองสามใบแล้วยื่นส่งให้เหยียนหมิงซุ่น จากนั้นทั้งสองก็เอาเข้าปากเคี้ยว กลิ่นของใบไม้ชนิดนี้หอมสดชื่นมาก นอกจากนี้ยังสามารถฆ่าเชื้อโรคได้อีกด้วย ตอนปฏิบัติภารกิจในป่าพวกเขาจะเคี้ยวใบไม้เหล่านี้แทนการบ้วนปากเพื่อประหยัดน้ำ
“หาอะไรกินก่อนแล้วกัน…ตอนนี้ยังไม่ต้องรีบร้อน”
เหยียนหมิงซุ่นหยิบขนมปังกรอบอัดถุงออกมาส่งให้เฮ่อเหลียนเช่อ อันที่จริงในตัวฉิวฉิวมีของอร่อยมากมายแต่เขาเอาออกมาไม่ได้ เฮ่อเหลียนเช่อไม่ได้จะตบตาหลอกง่ายดายขนาดนั้น
ฉิวฉิวปีนขึ้นต้นไม้เพื่อแบ่งปันอาหารมื้อใหญ่กับฉาฉาแล้วทอดมองไปด้านนอกเป็นพัก ๆ ตอนที่มันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายจากระยะไม่ใกล้ไม่ไกลก็ยิ้มออกมาอย่างสบายใจ
มากันแล้วจริง ๆ!
ฉิวฉิวกระโดดไม่กี่ทีก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าเหล่าสัตว์ทั้งหลายที่มารวมตัวกัน ยามปกติพวกมันเป็นคู่แข่งกันแต่ในเวลานี้กลับปรองดองกันเป็นพิเศษ เพียงแต่งูที่รวมตัวกันอยู่อย่างหนาแน่นเหล่านั้นทำเอาคนเห็นต่างพากันขนลุกซู่กันถ้วนหน้า
ฉิวฉิวไม่ได้ให้พวกมันเข้าไป บอกแค่ให้พวกมันรออยู่ข้างนอก เมื่อถึงเวลามันจะส่งสัญญาณเรียก
เหล่าสัตว์ทั้งหลายต่างอยู่ภายใต้คำสั่งของผู้นำตัวเองด้วยความเงียบสงบ ในอากาศมีกลิ่นเฉพาะตัวของสัตว์เหล่านี้แผ่กระจายออกมา
ฉิวฉิวมองสัตว์พวกนี้ที่อัดเบียดเสียดด้วยความสงสาร พวกมันทั้งหมดมาเพื่อตายแท้ ๆ ตัวที่รอดคงมีไม่เกินห้าตัวหรืออาจจะน้อยกว่านั้นแน่นอน
เฮ้อ!
เฮ่อเหลียนเช่อกินขนมปังกรอบอัดถุงเสร็จก็ทำจมูกฟุดฟิด เอ่ยอย่างสงสัยว่า “ทำไมเหม็นขนาดนี้ เหยียนหมิงซุ่นนายได้กลิ่นไหม?”
ประสาทสัมผัสการรับกลิ่นของเหยียนหมิงซุ่นไวกว่าเขาเยอะ แน่นอนว่าเขาได้กลิ่นนานแล้ว เขาเองก็งงงวยมากเช่นกัน เขาได้กลิ่นเหมือนสุนัขจิ้งจอก แล้วก็ยังมีกลิ่นเหมือนงู…
แปลกมาก!
ฉิวฉิวพุ่งลงมาจากต้นไม้แล้วชี้ไปที่ฐานลับ ทำท่าทางสื่อว่าพวกเขาเข้าไปด้านในได้แล้ว
เหยียนหมิงซุ่นกินขนมปังกรอบอัดถุงไปอีกสองสามคำตามด้วยน้ำเปล่าไปอีกหนึ่งอึก จากนั้นก็เตรียมพร้อมปฏิบัติภารกิจ
ภายในฐานลับเงียบมาก การป้องกันไม่หนาแน่นซึ่งอาจจะเป็นเพราะอยู่ในป่าลึก ดังนั้นหนิงเฉินเซวียนจึงไม่กังวลว่าจะมีคนนอกบุกเข้ามาจึงจัดคนคุ้มกันเอาไว้ไม่มาก
“ฉันไปทางนี้ นายไปทางนั้น แล้วมาเจอกันที่นี่ในอีกหนึ่งชั่วโมงข้างหน้า”
เหยียนหมิงซุ่นทำมือสื่อสาร เฮ่อเหลียนเช่อก็ทำมือโอเคกลับเพื่อตอบรับ ทั้งสองแยกย้ายกันอย่างรวดเร็ว หนึ่งคนไปทางทิศตะวันออก ส่วนอีกคนไปทางทิศตะวันตก ในไม่ช้าก็หายวับไปไม่เห็นเงาพวกเขาแล้ว แน่นอนว่าฉิวฉิวและฉาฉาก็ตามติดเหยียนหมิงซุ่นไปด้วย
ลุงเหลาที่อยู่เมืองหลวงก็คิดหาวิธีนับไม่ถ้วนแต่ก็ติดต่อเหยียนหมิงซุ่นไม่ได้ ด้านในป่าทึบไม่มีสัญญาณเลย เครื่องบินก็บินเข้าไปไม่ได้เช่นกัน เขาทำได้แค่ส่งคนเดินเข้าป่าไปตามหาแต่ก็ใช่ว่าจะทันเสมอไป
“ติดต่อไม่ได้เหรอ…พี่หมิงซุ่นเข้าฐานลับไปแล้วหรือเปล่า…ลุงเหลา ลุงรีบไปจับตาดูความเคลื่อนไหวทางนั้นว่ามีการระเบิดเกิดขึ้นไหม…”
เหมยเหมยพูดคำว่าระเบิดด้วยความยากลำบาก หากฐานลับปรมาณูระเบิด อะไรจะเกิดขึ้น…
เธอไม่กล้าคิดเรื่องนี้แต่เธอก็อดคิดไม่ได้…
หัวใจของเหมยเหมยบีบแน่นราวกับมีมือมาบีบไว้ ไม่ได้เจ็บปวดแต่รู้สึกหายใจไม่ออก ในที่สุดเธอก็เข้าใจรสชาติของคำว่า ’เป็นห่วงจับใจ’ มันเป็นเช่นไร
ตาแก่บ้าหนิงเฉินเซวียนหายตัวไป เหยียนหมิงซุ่นก็ติดต่อไม่ได้อีก ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง
เหมยเหมยรู้สึกราวกับฟ้าจะถล่มลงมาแต่ไม่มีที่ให้หลบหนี
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เหยียนซินหย่าที่เพิ่งกลับมาจากการไปทำงานต่างเมืองโทรมาหาเพราะเป็นห่วงสุขภาพของเธอ
“ไม่เป็นไรค่ะ หนูกินได้นอนหลับสบายดีจะตายไป แม่ไม่ต้องมาหรอกอากาศร้อนขนาดนี้ แม่พักผ่อนอยู่บ้านนั่นแหละ อีกสองสามวันหนูจะกลับบ้านไปหาแม่นะ”
เหมยเหมยพยายามฝืนยิ้มแสร้งทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วห้ามไม่ให้เหยียนซินหย่ามาหา
สารรูปของเธอตอนนี้จะให้เหยียนซินหย่าเห็นไม่ได้ ให้เธอร้อนใจคนเดียวพอแล้ว
…………………………………………..
ตอนที่ 2274 คงจะดีหากมีใครสักคนอยู่ร่วมทนทุกข์ด้วยกัน
เหยียนซินหย่าฟังน้ำเสียงที่ผิดปกติของเหมยเหมยออก แม่มักรู้จักลูกสาวดีกว่าใคร แค่เธอฟังน้ำเสียงก็รู้แล้วว่าเหมยเหมยกำลังปิดบังอะไรเธออยู่และคงเป็นเรื่องที่ไม่ดีอีกด้วย
เธอวางสายโทรศัพท์โดยไม่ได้เอะอะโวยวายอะไร แล้วรีบออกไปข้างนอกโดยไม่คิดจะพักผ่อน
เหมยเหมยวางสายพร้อมถอนหายใจ แต่เธอยังไม่ทันได้นั่งคุณย่าหยางก็โทรมาถามไถ่ด้วยความห่วงใย เธอใช้เวลานานกว่าจะพูดเอาใจหญิงชราได้
โชคดีที่หญิงชราโน้มน้าวใจง่ายเหมยเหมยจึงไม่ได้เปลืองน้ำลายมากนักแต่ก็พูดจนปากแห้งกันเลยทีเดียว ฉับพลันในใจก็ยิ่งโศกเศร้ามากกว่าเดิม เธอต้องการใครสักคนมาแบ่งเบาความทุกข์ทรมานนี้เหลือเกิน
“ศาสตราจารย์เหยียนมาแล้วเหรอคะ…คุณหนูอยู่ในบ้านค่ะ…”
เสียงของป้าฟางดังแว่วเข้ามา เหมยเหมยตกตะลึงรีบปาดน้ำตาทิ้งแล้วพยายามฝืนยิ้ม จากนั้นก็มองเหยียนซินหย่าที่กำลังเดินเข้ามา
“ทำไมแม่ถึงมานี่ได้ล่ะ หนูให้แม่พักผ่อนอยู่บ้านไม่ใช่เหรอ!”
พอเหยียนซินหย่าเห็นหน้าตาซีดเซียวของลูกสาวขอบตาก็แดงก่ำ “ลูกเป็นแบบนี้แล้วยังจะปิดบังแม่อีก ลูกดูตัวเองสิว่าผอมจนหนังติดกระดูกแล้ว ผอมกว่าก่อนท้องอีก นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”
เหมยเหมยเสแสร้งต่อไปอีกไม่ไหวแล้ว หยาดน้ำตารินไหลอาบแก้ม จากนั้นก็พุ่งตัวเข้าไปในอ้อมแขนของเหยียนซินหย่าแล้วปล่อยโฮออกมา
“ไม่ต้องร้องนะ…แม่อยู่นี่แล้ว ต่อให้ฟ้าถล่มลงมาก็ยังมีพ่อคอยดันไว้ให้ พวกเราไม่ต้องกลัว…” เหยียนซินหย่าเองก็เริ่มขอบตาแดง เธอลูบหลังเหมยเหมยอย่างแผ่วเบา
เสี่ยวเป่าที่เพิ่งกลับมาจากการไปเล่นในสวนหลังบ้าน พอเขาเห็นเหมยเหมยร้องไห้อย่างปวดใจก็รีบวิ่งเข้ามาหยิบเอาของสุดรักสุดหวงส่งให้เหมยเหมย พร้อมเอ่ยด้วยน้ำเสียงใสซื่อว่า “คุณน้า…อย่าร้องนะ…หนอน ๆ…”
เหมยเหมยฟังไม่เข้าใจว่าเสี่ยวเป่าพูดอะไร เธอแค่เอื้อมมือไปรับสิ่งที่เขามอบให้โดยไม่รู้ตัว แต่เพิ่งจะรับมาก็สัมผัสได้ถึงความนุ่มนิ่มเย็น ๆเล็กน้อย…จึงก้มหน้าลงมอง…
“อ๊าก…”
เหมยเหมยสะบัดทิ้งด้วยความตกใจจนลืมแม้กระทั่งร้องไห้ ใบหน้างดงามซีดไร้เลือดฝาด หนอนสีเขียวตัวอวบอ้วนดิ้นไปมาบนพื้น เหมยเหมยรู้สึกหนังศีรษะชาไปหมดแล้ว
คนที่ตกใจไม่น้อยอีกคนก็คือเหยียนซินหย่า แต่ว่าเธอยังคงยืนอยู่ตรงหน้าเหมยเหมยได้อย่างกล้าหาญพลางพูดปลอบใจว่า “ไม่ต้องกลัว…แค่หนอนผีเสื้อ มันไม่กัดคนหรอก”
เหมยเหมยลูบแขนด้วยความขยะแขยง บนแขนมีตุ่มขนลุกขนพองขึ้นเต็มไปหมด ผู้หญิงเกิดมาพร้อมกับความกลัวสัตว์ตัวนุ่มนิ่มพวกนี้จากส่วนลึกของจิตวิญญาณ ไม่เกี่ยวหรอกว่ามันจะกัดหรือไม่กัด
“เสี่ยวเป่า…รีบเอาหนอนออกไปเลยนะ…” เหมยเหมยพยายามที่จะระงับความคิดตีก้นของเจ้าตัวเล็กไว้ เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนและแอบเตือนตัวเองว่า
เธอคือผู้ใหญ่ ไม่ควรจะถือสาอะไรกับเด็กน้อย!
แต่ว่า…อยากจะตีก้นเล็ก ๆนั้นจริง ๆเลย!
เสี่ยวเป่าเบะปากด้วยความน้อยใจ จากนั้นก็เก็บหนอนสุดที่รักของเขาขึ้นมาจากพื้น กว่าเขาจะหาของสุดรักสุดหวงนี้เจอมันไม่ง่ายเลยนะ เขาเก็บใส่กระเป๋าเพราะอยากเลี้ยงเอาไว้เล่นด้วยกัน
เหมยเหมยมองจนไฟแทบลุกออกมาจากดวงตาอยู่แล้ว นี่ยังจะเก็บหนอนที่น่าขยะแขยงใส่กระเป๋าอีก ถ้าหากนั่งยอง ๆหรือว่าโดนทับขึ้นมา หนอนตัวอวบอ้วนนุ่มนิ่มของหนอนผีเสื้อก็คงระเบิดเละ…
ภาพนั้นยากเกินที่จะจินตนาการ เพียงแค่คิดก็อยากจะอ้วกแล้ว!
“เสี่ยวเป่าส่งหนอนคืนกลับบ้านดีไหม หากหนอนต้องแยกจากพ่อแม่ไปคงเสียใจน่าดูเลย…” เหมยเหมยพยายามอดกลั้นต่ออาการคลื่นไส้ไว้และหาเหตุผลมาพูดคุยกับเสี่ยวเป่า ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกว่าการกลับบ้านที่ดีที่สุดสำหรับหนอนผีเสื้อก็คือเป็นอาหารอันโอชะให้ฝูงไก่ที่ป้าฟางเลี้ยงไว้ก็ตามที
เสี่ยวเป่าขบคิดสักพักก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง จากนั้นเขาก็วิ่งไปที่สวนหลังบ้านพร้อมกับหนอนแล้ววิ่งกลับมาอีกครั้ง พร้อมแบมือสีขาวนุ่มทั้งสองข้างให้เหมยเหมยดู
“เด็กดี…”
เหมยเหมยขอให้ป้าฟางพาเสี่ยวเป่าไปล้างมือ จากนั้นก็ทานของว่าง พอโดนเสี่ยวเป่าก่อกวนก็ทำให้ความเศร้าของเธอจางลงไปบ้าง เธอไม่ได้ปวดใจเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว
เหยียนซินหย่าถามเธออีกครั้งว่าเกิดอะไรขึ้น เหมยเหมยไม่ได้เล่าให้ฟังหมดทุกอย่าง เธอไม่ต้องการให้คนในครอบครัวมากังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้
“ไม่มีอะไรมากค่ะ แค่พี่หมิงซุ่นไปทำธุระ หนูอยู่บ้านคนเดียวเลยรู้สึกไม่ดี…”
เหยียนซินหย่าถอนหายใจ ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ช่วงตั้งครรภ์ผู้หญิงมักมีอารมณ์อ่อนไหวง่าย เธอก็เคยเป็นแบบนี้เหมือนกันเลยไม่นึกสงสัยอะไร
“คุณหนู…โฉ่วโฉ่วมา…” ป้าฟางรีบพุ่งเข้ามาด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
…………………………………………..