ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น – บทที่ 2559 ห้ามช่วย + ตอนที่ 2560 สร้างความน่าเกรงขาม

บทที่ 2559 ห้ามช่วย + ตอนที่ 2560 สร้างความน่าเกรงขาม

ตอนที่ 2559 ห้ามช่วย

ทุกคนถึงนึกขึ้นได้ว่ายังขาดคุณแม่พระคนนี้ไป พลันหันไปมองหัวหน้าทีมอย่างพร้อมเพรียงว่าเขาคิดเห็นอย่างไร

หัวหน้าทีมด่าเจ้าคนที่เตือนสติในใจไปยกหนึ่ง ให้ตาย—ไม่พูดแล้วจะตายหรือไง?

เขาสังเกตเห็นแต่แรกแล้วว่าคุณริโกะยังไม่กลับมาแต่เขาแกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้ ยายผู้หญิงสมควรตายคนนั้นทำให้พวกเขาเกือบตายยกคันรถ ชีวิตของฟูจิตะคุงก็อยู่ในขีดอันตราย…ในหัวเขาคงมีแต่ขี้น่ะสิถึงไปช่วยน่ะ!

ให้เธอพึ่งพาตัวเองแล้วกัน!

แต่เขาเป็นถึงหัวหน้าทีมเชียว ต้องรักษาภาพพจน์ผู้ใจบุญมีความใจกว้างยุติธรรมต่อหน้าคนนอกเข้าไว้…ฉะนั้น–

“อ้าว…คุณริโกะไปไหนแล้ว? ทำไมไม่ตามกลุ่มอีกแล้ว…จริง ๆเลยนะ…” หัวหน้าทีมทำหน้าระอาแล้วชะเง้อคอไปนอกหน้าต่างก่อนตะโกน “คุณริโกะรีบขึ้นรถ ถ้าคุณเคลื่อนไหวโดยพลการไม่ฟังคำสั่งอีก…ผมจะรายงานศูนย์ประจำการใหญ่ให้ไล่คุณออกแน่!”

“หัวหน้า…คุณริโกะถูกพวกเขาจับตัวไปแล้ว!” คนที่เตือนเมื่อครู่เอ่ยเสริมอีกประโยคด้วยเสียงอ่อนแรง คนอื่น ๆหันไปมองเขาด้วยสีหน้าแปลกใจทำท่าเหมือนกำลังมองคนโง่คนหนึ่งอยู่

ไม่เห็นหรือไงว่าหัวหน้าทีมผู้ใจดีเหมือนคุณป้าคนนี้กำลังเล่นละครอยู่?

หัวหน้าทีมที่หนีเอาตัวรอดแต่ยังไม่ลืมแม้กระทั่งฟูจิตะคุงกับยา แล้วจะลืมคุณริโกะที่ชอบแสดงตัวตนมากขนาดนั้นได้อย่างไร?

โง่เสียจริง!

หัวหน้าทีมสูดหายใจเข้าลึก ๆแล้วเค้นรอยยิ้มใจดีออกมามองคนโง่ผู้นั้นด้วยสายตาแฝงนัยยะแวบหนึ่ง เขาวางแผนว่าไปถึงค่ายะโทรหาศูนย์ประจำการใหญ่ให้เรียกตัวเจ้าโง่นี่กลับไปซะ!

“งั้นโอโนะคุงอยากกลับไปช่วยคุณริโกะไหมล่ะ?”

เจ้าโง่โอโนะตัวสั่นระริกส่ายศีรษะรัว ๆ “ผมไม่กล้า…”

หัวหน้าทีมผ่อนลมหายใจหลงคิดว่าในที่สุดเจ้าโง่นี่ก็สำนึกผิดแล้ว แต่…เขาคิดง่ายเกินไป

เจ้าโง่ชี้ไปที่สี่คนบนรถกันกระสุนแล้วพูดเสียงเบา “พวกเขากำราบศัตรูได้ สั่งให้พวกมันคืนคุณริโกะกลับมาก็ได้นี่นา”

เหมยเหมยเลิกคิ้วมองเขาแวบหนึ่ง พูดไม่ผิดหรอก ขอเพียงสี่คนนั้นออกคำสั่งศัตรู ผู้ก่อการร้ายคงไม่มีทางไม่รับปาก แต่–

เธอไม่ตกลง!

คุณริโกะคนนี้คือคนที่คิดจะทำร้ายเธอเมื่อครู่ เธอไม่ใช่แม่พระสักหน่อยแล้วทำไมต้องปล่อยคนที่เคยคิดร้ายต่อตัวเองไปล่ะ?

“ห้ามจอดรถ!”

เหมยเหมยตะโกนไปที่หน้ารถทำเอาทุกคนสะดุ้งเฮือก รีบนั่งตัวตรงไม่กล้ากระดิกตัว

เจ้าโง่โอโนะมองเธอด้วยความโกรธแล้วกล่าวตำหนิ “คุณเลือดเย็นขนาดนี้ได้อย่างไร? ทั้งที่ให้พวกเขาช่วยคุณริโกะก็ได้!”

เขายื่นศีรษะออกไปนอกหน้าต่างพลางตะโกนใส่รถกันกระสุน “ยังมีคุณริโกะที่ยังไม่กลับมา ให้พวกเขาปล่อยตัวมา…”

ลูกน้องกับชาวตะวันตกบนรถกันกระสุนมองเหยียดเขาแวบหนึ่งแต่ก็ไม่คิดจะสนใจเขาอีก เหยียบคันเร่งให้ไวกว่าเดิม

เจ้าขี้เหร่นั่นกล้าทำร้ายคุณนาย…แล้วยังทำให้พวกเขาเกือบทำภารกิจไม่สำเร็จ ต่อให้ไม่ถูกจับตัวไปพวกเขาก็ต้องหาทางจัดการยัยนั่นอยู่แล้ว!

“พวกคุณเลือดเย็นขนาดนี้ได้อย่างไร…เราคือทีมเดียวกันนะ…จะเพิกเฉยไม่ยอมช่วยไม่ได้…” เจ้าโง่โอโนะตะโกนด้วยร้อนรนแต่ไม่มีใครสนใจเขา

“หยุดตะโกนได้แล้ว พวกเขาฟังแค่คำสั่งของฉัน คุณตะโกนให้เสียงแหบก็ไม่มีประโยชน์หรอก!”

เหมยเหมยเตือนเสียงเย็นชา เธอไม่ได้โง่จริง ๆสักหน่อย จู่ ๆก็โผล่มาอย่างไร้เหตุผลรวมถึงเมื่อกี้ทั้งสี่คนยังคอยปกป้องเธอกับลูก ๆอยู่ลับ ๆ ไหนจะวิชาต่อสู้ขั้นสูงอีก…ทั้งหมดต่างเปิดเผยสถานะของพวกเขาชัดเจนแล้ว

คนพวกนี้ต้องถูกเหยียนหมิงซุ่นสั่งมาปกป้องเธอกับลูกแน่นอน!

หึ…อย่างไรเสียเธอจะแสร้งทำเป็นไม่รู้ แต่ก็ถือว่าครั้งนี้เขาได้ชดใช้ความผิดไปแล้วเล็กน้อย หลังจากนี้ก็ค่อยดูพฤติกรรมของเขาอีกทีแล้วกัน!

………………………

ตอนที่ 2560 สร้างความน่าเกรงขาม

เหมยเหมยกวาดตามองภายในรถรอบหนึ่งแล้วเอ่ยเสียงสูงว่า “คุณอย่าลืมละว่าคุณริโกะที่คุณคิดจะช่วยนั่นแหละที่ไร้จิตวิญญาณการทำงานเป็นทีม ทำอะไรโดยพลการไม่ฟังคำสั่งทำให้เราทุกคนต้องตกอยู่ในอันตราย แถมยังทำให้ฟูจิตะคุงต้องบาดเจ็บสาหัส ถ้าไม่ใช่เพราะเธอตอนนี้เราคงไปถึงค่ายแล้ว”

“อีกอย่าง…ถ้าไม่ใช่คนของฉัน คุณคิดว่าคุณยังมีชีวิตรอดอยู่อีกไหม? ฉะนั้น…จะช่วยหรือไม่ช่วยฉันเป็นคนตัดสินใจ คุณริโกะที่เคยคิดทำร้ายฉัน…ฉันไม่มีวันช่วยเด็ดขาด ถ้าคุณอยากช่วยก็ลงจากรถไป ฉันไม่ห้ามแน่นอน!”

ถ้อยคำนี้เธอพูดให้เจ้าโง่โอโนะฟังและพูดให้คนทั้งคันรถฟังด้วย

ในสถานที่วุ่นวายแห่งนี้ผู้แข็งแกร่งกว่าเป็นใหญ่ เธอต้องให้คนพวกนี้ยำเกรงต่อตัวเอง เช่นนี้หลังจากนี้ถึงจะมีปัญหาน้อยลง!

คนอื่น ๆปิดปากแน่นสนิทไม่ปริเสียง แม้จะไม่พอใจกับท่าทีเหิมเกริมของเหมยเหมยอยู่บ้างแต่ก็ไม่กล้าขัดขืน

เขามีบอดี้การ์ดมากฝีมือตั้งสี่คนคอยปกป้อง พวกเขาจะกล้าขัดขืนเสียที่ไหน?

นอกจากนี้เธอเองก็พูดไม่ผิดว่าคนของเธอช่วยทุกคนไว้จริง ๆ ส่วนคุณริโกะนั่นก็ทำตัวเองทั้งนั้น คงโทษคนอื่นว่าไม่ยอมช่วยเธอไม่ได้!

เจ้าโง่โอโนะก้มหน้าลงอีกคนแล้วมองไปนอกหน้าต่างอย่างนึกเสียดาย เขามีความรู้สึกบางอย่างที่บอกไม่ถูกต่อคุณริโกะแต่ยังไม่ถึงขั้นยอมสละชีวิตให้

ดังนั้น…เขาไม่มีทางเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยงเพื่อช่วยเธอแน่!

เหมยเหมยมองเขาด้วยความเหยียดหยามแวบหนึ่ง ตัวเองไม่มีความกล้าแต่จะให้คนอื่นเสี่ยงอันตราย แล้วยังใช้หลักศีลธรรมมาอ้าง น่ารังเกียจเสียจริง!

“กลับมาได้แล้ว!”

เธอตะโกนไปนอกหน้าต่างอีกที ทุกคนมองตามด้วยความแปลกใจ จากนั้นก็เห็นหมาป่าสีขาวเมื่อครู่ที่วิ่งเร็วดั่งสายลมวิ่งตามรถได้ทันในเวลาอันรวดเร็วก่อนจะกระโดดเข้ามาจากหน้าต่างแล้วฟุบอยู่ข้างเท้าเด็กสองคน

“เด็กดี…วันนี้ประพฤติตัวได้ดีนะ!”

เหมยเหมยเอาเนื้อแดดเดียวจากกระเป๋ามาป้อนให้เสวี่ยเอ๋อร์ซึ่งแน่นอนว่าไม่ลืมเจ้าฉิวตัวอ้วนด้วย แม้เจ้าหมอนี่ขี้เกียจจนเธอโมโหแต่ยามคับขันก็ออกเรี่ยวออกแรงอยู่บ้าง

ทุกคนมองเสวี่ยเอ๋อร์กับฉิวฉิวอย่างตกตะลึงถึงเพิ่งนึกได้ว่าสัตว์สองตัวนี้อยู่บนรถตลอด แต่พวกเขากลับคิดว่าเป็นเพียงสุนัขกับกระรอกธรรมดาเท่านั้น…

น่าขันที่พวกเขามีตาหามีแววไม่!

“นี่…คือหมาป่างั้นเหรอ?” หัวหน้าทีมถามด้วยความตกใจ

เมื่อครู่ตอนที่เสวี่ยเอ๋อร์กับฉิวฉิวลงมือช่วยก็เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่สัตว์ธรรมดาทั่วไป…เขายิ่งสงสัยสถานะของเหมยเหมยมากขึ้นเรื่อย ๆแล้ว!

ไปไหนมีบอดี้การ์ดที่มีวิชาการต่อสู้ขั้นสูงตามประกบแล้วยังมีสัตว์เทวะคอยปกป้อง…มิน่าถึงกล้าพาลูกตะลอนไปทั่วโลก!

“ใช่…เสวี่ยเอ๋อร์คือเจ้าหญิงหมาป่าแสนสวย วางใจได้ เสวี่ยเอ๋อร์ไม่ทำร้ายใครง่าย ๆหรอก มันเชื่อฟังยิ่งกว่าใครหลายคนด้วยซ้ำ!” เหมยเหมยเอ่ยกระแนะกระแหน

เล่อเล่อกอดคอเสวี่ยเอ๋อร์แน่นแล้วจุ๊บหน้ามันหลายที เสวี่ยเอ๋อร์เองก็แอบลิ้นออกมาเลียมือเล่อเล่ออย่างสนิทสนมรักใคร่

รถกันกระสุนขับมาสักระยะก็จอด จากนั้นลูกน้องทั้งสี่คนก็ขึ้นรถคันเดียวกับพวกเหมยเหมยแล้วทิ้งรถกันกระสุนไว้กลางทะเลทราย

“รีบขับต่อไป คนของนาสซาร์จะตามมาในไม่ช้า!” ลูกน้องคนหนึ่งบอกกับคนขับรถ

“ขอบคุณพวกคุณที่ช่วยทุกคนเอาไว้!” หัวหน้าทีมโค้งตัวให้ทีหนึ่ง

“ไม่เป็นไร เรื่องเล็กน้อย!” ลูกน้องตอบกลับไปประโยคหนึ่ง ทำเอาหัวหน้าทีมรู้สึกเจ็บใจนัก ฟังจากน้ำเสียงเหมือนเขากับเพื่อนร่วมทีมแค่แวะมาซื้อผักเท่านั้น!

หนึ่งชั่วโมงให้หลังในที่สุดพวกเขาก็มาถึงค่ายสักที สัญลักษณ์สภากาชาดกลางอากาศโดดเด่นสะดุดตา ทุกคนต่างถอนหายใจโล่งอก ถึงที่หมายอย่างปลอดภัยเสียที

ฟูจิตะคุงถูกพาตัวเข้าห้องฉุกเฉินโดยมีผู้รับผิดชอบค่ายคอยจัดการที่พักแก่พวกเขา นอกจากนี้ก็ได้ถามไถ่ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระหว่างทาง ทุกคนต่างทำหน้าหนักอึ้งในเมื่อสมาชิกหายไปตั้งคนหนึ่ง!

เหมยเหมยไม่สนใจเรื่องพวกนี้หรอก พอเธอจัดการเรื่องตัวเองเสร็จก็ไปหาคนชื่อเหมยหานทันที ระหว่างทางถามคนอื่นอยู่ไม่น้อยจนไม่นานก็เจอตัวเธอ เด็กสาวกำลังทำแผลให้คนไข้คนหนึ่งโดยยืนหลังให้เธออยู่

…………………

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

จุดจบที่ความตาย กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นบันดาลให้เธอได้ย้อนกลับไปในปี 1985

เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างตัวเองวัย 12 ปี!

เมื่อได้รับชีวิตที่เหมือนได้เกิดใหม่คราวนี้ เธอจึงตัดสินใจลิขิตชะตาด้วยสองเป้าหมาย…

หนึ่ง… มีชีวิตอย่างอิสรเสรี ไม่สนใจสายตาใคร และไม่รับความรักอันน้อยนิดที่ญาติมิตรมีให้

สอง… แก้แค้น สิ่งที่พี่สาวกับอดีตคนรักติดค้างไว้ เธอจะต้องเอาคืนให้หมดในชาตินี้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท