ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น – บทที่ 2819 อวดรวย + ตอนที่ 2820 เรื่องอื้อฉาว

บทที่ 2819 อวดรวย + ตอนที่ 2820 เรื่องอื้อฉาว

ตอนที่ 2819 อวดรวย

เด็กที่หญิงสาวผู้นี้จูงอยู่ก็คือเด็กผู้หญิงที่แสดงเป็นราชินีใจร้าย สองแม่ลูกดูคล้ายกันมากทีเดียว โดยเฉพาะสายตาที่ใช้มองคนอื่นราวกับคัดลอกแล้วมาแปะวางเลย

ภายในใจของเหมยเหมยรู้สึกไม่ชอบใจนัก วันนี้เล่อเล่อทำผิดก็จริงแต่เธอก็ยังเด็กอยู่ ถือเป็นความผิดที่ทำร้ายผู้คนได้มากขนาดนั้นเชียวเหรอ?

อีกทั้งยังกระทบกระทั่งผู้ใหญ่ด้วย แค่มองปราดเดียวก็รู้ว่าปกติก็เป็นคนหยิ่งยโสจนเป็นนิสัยอยู่แล้ว

“จะพูดแบบนี้ก็ไม่ได้นะคะ เด็ก ๆเขาเล่นกันเท่านั้นเอง ทำไมต้องจริงจังขนาดนั้นด้วยคะ ฉันกลับคิดว่าการแสดงวันนี้ดีมากเลยนะคะ ฉันหัวเราะจนไม่คิดจะแอบหลับเลยค่ะ”

มีผู้ปกครองหลายท่านพอได้ยินเช่นนั้นต่างก็เดินกรูเข้ามาช่วยพูดโน้มน้าวซึ่งทุกคนต่างจูงมือลูกของตนเองอยู่ หนึ่งในนั้นยังมีเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่แสดงเป็นเจ้าชายและคนที่พูดก็คือแม่ของเขานั่นเอง เธอเป็นผู้หญิงที่ดูมีความคิดอายุราว 40 กว่าได้ซึ่งดูท่าทางไม่ได้อยู่ในวัยสาวแล้ว

“ฉันก็คิดเหมือนกันว่าเป็นการแสดงที่ยอดเยี่ยมมาก แถมรู้สึกว่าน่าสนใจยิ่งกว่าเจ้าหญิงสโนไวท์ที่ฉันดูในโรงละครเสียอีก สนุกมาก ๆเลย!”

“ก็แค่วันเด็กเอง เพื่อความสนุกสนานก็เท่านั้น ไม่ว่าผู้ใหญ่หรือเด็กก็สนุกไปด้วยกัน!”…

ผู้ปกครองส่วนใหญ่เป็นคนใจกว้าง ผู้คนเหล่านี้ล้วนเป็นคนมีฐานะที่ประสบความสำเร็จในสังคมแล้วทั้งนั้น แน่นอนว่าการปลูกฝังระบบทางความคิดย่อมดีกว่าบุคคลทั่วไป ฉะนั้นจะถือสาเรื่องเล็ก ๆน้อย ๆแบบนี้ไปทำไมกัน คนส่วนมากจึงช่วยพูดให้เข้าใจกัน

แต่ทว่าหญิงสาวผู้รากมากดีคนนี้กลับไม่สนใจ แถมเสียงยังแหลมสูงขึ้นกว่าเดิม “ทั้ง ๆที่เป็นการแสดงที่ต้องเอาจริงเอาจังแล้วจะมาทำเล่น ๆได้อย่างไร เด็กที่ไม่ทำตามกฎเกณฑ์แบบนี้ไม่ควรเอาขึ้นเวทีด้วยซ้ำ!”

หญิงสาวผู้นี้ชี้ไปทางเล่อเล่อ เล็บมือทาสีแดงสดราวกับสีเลือดซึ่งอีกเพียงนิดเดียวก็จะข่วนหน้าของเล่อเล่อแล้ว เหมยเหมยโกรธจนดึงเล่อเล่อมาหาแล้วปัดมือของผู้หญิงออกไป กล่าวเสียงขรึมว่า “มีอะไรจะพูดก็พูด อย่าเอามือมาชี้หน้าลูกสาวฉันนะ!”

“โอ้ย…เธอกล้าตีฉันเหรอ มิน่าถึงได้เลี้ยงลูกสาวออกมาไร้การศึกษาแบบนี้…” หญิงสาวมองดูรอยนิ้วมือสีแดงบนหลังมืออวบอ้วนของเธออย่างไม่อยากเชื่อสายตาพร้อมอารมณ์เกรี้ยวโกรธ

“ห้ามรังแกแม่หนูนะ คนเลว!”

เล่อเล่อเท้าสะเอวแล้วยืนปกป้องเหมยเหมยอยู่ด้านหน้า ในท้องแม่มีน้องชายสองคนอยู่ ฉะนั้นเธอจะต้องปกป้องแม่และน้องชายของเธอ

“เธอนั่นแหละคนเลว ใส่เสื้อผ้าของเราแล้วยังแย่งซีนเราอีก หน้าด้าน!” เด็กผู้หญิงที่แสดงเป็นราชินีไม่ยอมแสดงความอ่อนแอร้องตะโกนเสียงแหลมโต้ตอบเล่อเล่อ

ไม่ให้เธอเล่นเป็นเจ้าหญิงสโนไวท์เธอก็รู้สึกไม่พอใจมากแล้ว พอตอนนี้มาแสดงเป็นราชินียังโดนเหยียนเล่อเล่อที่ปกติเธอเกลียดขี้หน้ามากที่สุดแย่งซีนไปอีก เธอจึงรู้สึกโกรธมากกว่าใคร ในใจคิดเพียงว่าเล่อเล่อจงใจแกล้งเธอ

“เสื้อผ้าขาดรุ่ยมีดีตรงไหนกัน เอาไปเลย!”

เล่อเล่อก้มตัวแล้วก็มุดตัวออกจากชุดเห็ดแล้วโยนใส่เด็กผู้หญิงคนนั้น

“เสื้อผ้าฉันไม่ใช่เสื้อผ้าขาด ๆสักหน่อย พวกเธอคงไม่มีเงินซื้อกันหรอกถึงมาใส่เสื้อผ้าของฉัน” ดวงตาของหญิงสาวแดงก่ำด้วยความโกรธ เรื่องที่ควรพูดหรือไม่ควรพูดต่างก็พรั่งพรูออกมาจนหมด

กลุ่มผู้ปกครองที่เดิมทีมาดูเพื่อความสนุกพอได้ยินคำพูดเหล่านี้สีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมาทันที ล้อกันเล่นสินะ แค่ชุดใส่แสดงพวกนี้ด้วยระดับฐานะทางการเงินของพวกเขาจะซื้อร้อยตัวหรือพันตัวก็ไม่ใช่ปัญหาใด ๆเลย

“คุณครูคะ เราคุยกันแล้วไม่ใช่เหรอคะว่าชุดใส่แสดงเป็นทางโรงเรียนรับผิดชอบ? แล้วทำไมตอนนี้กลายเป็นว่าพวกเราไม่มีเงินซื้อไปได้ล่ะ?” มีผู้ปกครองถามด้วยความสงสัยพร้อมน้ำเสียงที่ไม่พอใจอย่างมาก

ผู้ปกครองท่านอื่นก็เช่นกันต่างให้ลูก ๆของตัวเองถอดชุดที่ใส่แสดงออกทีละคน ๆ เดิมทียังคุยกันเรื่องชุดที่ใส่แสดงพวกนี้ว่าหลังจากแสดงเสร็จจะให้เด็ก ๆใส่กลับบ้านเพื่อเก็บเป็นที่ระลึก แต่ตอนนี้พวกเขาไม่กล้าเอาแล้ว

“ถอดให้หมด ถ้าเอากลับบ้านจริง เกรงว่าจะมีคนมาพูดลับหลังว่าบ้านเราเป็นขอทาน เสื้อผ้าพวกนี้ไม่กล้าเอาหรอก รีบถอดออกเลย!”

“ก็ใช่น่ะสิ…ถ้ารู้แต่แรกว่าไม่ใช่ชุดของโรงเรียน ฉันคงไปซื้อที่ดิสนีย์แลนด์อเมริกาแล้ว แค่ชุดใส่แสดงชุดหนึ่งใครจะขาดแคลนเงินแค่นี้กัน”

“จริงด้วย วันก่อนสามีฉันยังประชุมอยู่ที่ฮ่องกงอยู่เลย ที่นั่นก็มีดิสนีย์แลนด์ เรื่องแค่นี้ให้เลขาช่วยวิ่งจัดการให้ก็จบแล้ว”

…….

……………………………………….

ตอนที่ 2820 เรื่องอื้อฉาว

คนที่มาดูการแสดงส่วนมากจะเป็นคุณแม่ซึ่งไม่ได้รังแกกันง่าย ๆ พวกเขาต่างคนต่างแสดงความคิดเห็นกันออกมา แถมแต่ละคนยังพากันโอ้อวดสามีของตัวเอง ถ้าไม่ได้พักผ่อนที่อเมริกาก็เดินทางไปทำงานที่ฮ่องกง หรือไม่ก็ไปเที่ยวแถบยุโรปบ่อย ๆ…

สรุปแล้วก็คือทุกบ้านมีฐานะดีกันทั้งนั้น ไม่ขาดแคลนเงินแค่เรื่องชุด ๆเดียวหรอก

“คุณครูคะ…ฉันคิดว่าเอาเงินค่าเสื้อผ้าให้ผู้ปกครองท่านนี้ ส่วนเรื่องราคาฉันว่าคิดชุดละ 500 หยวนก็พอ ผู้ปกครองท่านอื่นมีความคิดเห็นอย่างไรไหมคะ?” มีผู้ปกครองท่านหนึ่งเด็ดกว่าหักหน้ากันเลย

ผู้ปกครองท่านอื่นจะกล้ามีความคิดเห็นอะไรได้ พวกเขาควักเงินกันออกมา “500 หยวนนี่ถูกมากเลยนะคะ เสื้อยืดของลูกสาวฉันตัวเดียวน้อยๆ ก็พันกว่าแล้วค่ะ!”

“เสื้อผ้าของเด็กสมัยนี้แพงมากเลยเนอะ แบรนด์ในประเทศฉันไม่กล้าใช้เลยค่ะ ใช้แต่แบรนด์ยุโรปทั้งนั้น พันสองพันนี่ถือว่าราคาปกติมาก ห้าร้อยหยวนซื้อแผ่นรองเท้าให้ลูกชายฉันยังไม่ได้เลย…”

มุมปากของเหมยเหมยกระตุก ในยุทธภพนี้มีคนทุกประเภทจริง ๆ

เมื่อก่อนเห็นคุณแม่เหล่านี้ต่างดูผู้ดีสง่างามกันทั้งนั้น คาดไม่ถึงว่าพอด่าขึ้นมาจะเจ็บแสบยิ่งกว่าพิษงูเห่าเสียอีก เธอแอบเหลือบมองหญิงสาวคนนั้น เหอะ ๆ…หน้าซีดเชียว คาดว่าตอนนี้คงอยากจะแทรกแผ่นดินหนีเลยสิท่า

เมื่อเซียวเซียงได้ยินข่าวก็รีบวิ่งหน้าตั้งมาหาแล้วมองคุณครูที่รับผิดชอบการแสดงหน้าขรึม ยิ้มพลางเอ่ย “ขอโทษด้วยนะคะ นี่เป็นความผิดพลาดของโรงเรียนเรา ขอโทษด้วยจริง ๆค่ะ ชุดพวกนี้ไม่ต้องให้ผู้ปกครองเสียค่าใช้จ่ายนะคะ เดี๋ยวสักพักดิฉันจะให้การเงินติดต่อกับผู้ปกครองท่านนี้พร้อมเคลียร์เรื่องค่าใช้จ่ายให้เรียบร้อยค่ะ”

“ไม่ต้อง…ไม่ต้องจ่ายค่ะ ครอบครัวฉันสนับสนุนทางโรงเรียนเอง” หญิงสาวผู้ร่ำรวยพูดเสียงอ้อมแอ้ม แววตาตื่นตระหนกราวกับว่าสร้างเรื่องใหญ่แล้ว

อีกทั้งตอนนี้เธอเพิ่งค้นพบว่าที่แท้กลุ่มผู้ปกครองที่ปกติแต่งตัวธรรมดาแต่ละคนกลับมีฐานะทั้งนั้น แบรนด์ที่พวกเขาพูดถึงเธอยังไม่เคยได้ยินเลยด้วยซ้ำ เธอรู้สึกว่าตัวเองเหมือนเข้าไปอีกโลกหนึ่งที่ไม่รู้จัก

“ขอบคุณในน้ำใจของคุณแต่ว่าทางโรงเรียนนี้ไม่รับเงินสนับสนุนค่ะ ชุดที่ใส่แสดงจะคิดราคาตามตลาดและจ่ายให้คืนแน่นอน” เซียวเซียงปฏิเสธอย่างสุภาพ

หญิงสาวผู้นั้นต่อให้โง่เขลาแค่ไหนก็รู้สึกได้ว่าตัวเองทำเรื่องผิดมหันต์เข้าแล้ว ถ้าเกิดสามีรู้เข้าจะต้องด่าทอและตำหนิเธอยกใหญ่แน่นอน วันหลังก็จะยิ่งหาข้ออ้างออกไปหาเศษหาเรอด้านนอก หญิงสาวหันไปมองเหมยเหมยผู้มีใบหน้างดงาม ภายในใจก่อเกิดความเกลียดชังขึ้นมา

เป็นเพราะพวกเมียน้อยเลี้ยงลูกออกมาได้แบบนี้ทั้งนั้น!

ฉับพลันหญิงสาวผู้นี้ก็รู้สึกคุ้นหน้าเหมยเหมยเหมือนเคยเจอที่ไหนมาก่อน ไม่นานก็นึกขึ้นได้อย่างรวดเร็วแล้วล้วงเอานิตยสารซุบซิบที่ชอบอ่านมากที่สุดออกมาจากกระเป๋า เทียบกันอย่างละเอียด…เป็นเธอจริง ๆด้วย!

“เธอมันนังเมียน้อย ไม่น่าถึงได้เลี้ยงลูกสาวที่ไร้การศึกษาออกมาแบบนี้ได้ ตัวเองก็ไม่ใช่คนดีอะไร พวกคุณดูสิ เมียน้อยคนนี้ก็คือคนที่ไปยั่วยวนมู่มู่นั่นเอง…”

หญิงสาวยกนิตยสารขึ้นมาพร้อมกับร้องตะโกนเสียงดัง สีหน้าดูกระหยิ่มยิ้มย่องมาก

ชอบที่สุดก็คือจัดการกับพวกเมียน้อย

ความสนใจของพวกผู้ปกครองต่างไปอยู่ที่นิตยสารซุบซิบดาราเล่มนั้น นิสัยของผู้หญิงก็คือรักการนินทา ไม่ว่าจะเป็นคนอายุเท่าไรหรือมีการศึกษาระดับไหน…

บนนิตยสารเป็นรูปถ่ายพวกเหมยเหมยและสยงมู่มู่ตอนไปที่โรงพยาบาล ปาปารัสซี่ถ่ายรูปเธอชัดมาก มองแค่แวบเดียวก็เห็นได้อย่างชัดเจน สายตาที่ทุกคนมองมาทางเหมยเหมยจึงเปลี่ยนไปอัตโนมัติ

คาดไม่ถึงว่าหญิงสาววัยเยาว์ที่งดงามคนนี้ชีวิตส่วนตัวกลับเหลวแหลก ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพ่อของเด็กที่แสนน่ารักคนนี้จะเป็นใคร?

ดูท่าคงไม่ใช่ลูกที่เกิดมาจากบนเส้นทางความถูกต้องนักหรอก?

“เธอพูดจาไร้สาระอะไรกัน นี่เป็นหลานสะใภ้ฉัน มู่มู่เป็นลูกพี่ลูกน้องของหล่อน หลานสะใภ้ฉันตั้งท้องอยู่ ในฐานะที่มู่มู่เป็นพี่ชายจะพาเธอไปโรงพยาบาลไม่ได้เหรอ? พวกความคิดต่ำ ๆพอเห็นดอกไม้งดงามกว่าหน่อยก็ชอบนึกว่าเป็นถังส้วมอยู่เรื่อย!”

คุณย่าหยางรีบตามมา พอได้ยินเสียงกรีดร้องของหญิงสาวคนนี้ก็บุกมาปกป้องเหมยเหมยสองแม่ลูกไว้ด้านหลังอย่างห้าวหาญ

………………………

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

ลิขิตรัก ย้อนรอยแค้น

จุดจบที่ความตาย กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นบันดาลให้เธอได้ย้อนกลับไปในปี 1985

เธอตื่นขึ้นมาอีกครั้งในร่างตัวเองวัย 12 ปี!

เมื่อได้รับชีวิตที่เหมือนได้เกิดใหม่คราวนี้ เธอจึงตัดสินใจลิขิตชะตาด้วยสองเป้าหมาย…

หนึ่ง… มีชีวิตอย่างอิสรเสรี ไม่สนใจสายตาใคร และไม่รับความรักอันน้อยนิดที่ญาติมิตรมีให้

สอง… แก้แค้น สิ่งที่พี่สาวกับอดีตคนรักติดค้างไว้ เธอจะต้องเอาคืนให้หมดในชาตินี้!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท