ตอนที่ 2969 สตรีไม่เป็นรองบุรุษ
“ตะขาบ…พระเจ้า…” มีคนอุทานออกมาพร้อมทำหน้าหวาดกลัว
ตะขาบขนาดใหญ่สองตัวไต่ออกมาจากรองเท้าของคิมิโกะซึ่งแต่ละตัวยาวเกือบครึ่งฟุตและตัวหนาเท่านิ้วก้อย โดยเฉพาะส่วนหัวออกสีม่วงที่ดูก็รู้ว่าต้องมีพิษร้ายแรงแน่
“ช่วยฉันด้วย…ขอร้องพวกเธอล่ะ…” คิมิโกะที่พิษเริ่มออกฤทธิ์มองเสี่ยวเป่าด้วยท่าทีวิงวอน
สัญชาตญาณของผู้หญิงทำให้เธอมั่นใจว่าเสี่ยวเป่าสามารถช่วยเธอได้ เธอไม่อยากตายนะ!
“โฮ้…นี่มันตะขาบทองสีม่วงที่มีพิษร้ายแรงที่สุดที่ฆ่าได้แม้กระทั่งช้างของหลิงหนานเลยนะ แถมเจอตั้งสองตัวอีก หมดหนทางช่วยแล้วล่ะ ขุดหลุมฝังเถอะ!”
สือเอ้อร์จับตะขาบน่าผวานั่นมาสำรวจใกล้ ๆ ผ่านไปครู่หนึ่งก็ปล่อยตะขาบแสนน่ากลัวลงราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นก็ปัดมือแล้วกล่าวสรุป
ถูกตะขาบตัวเดียวกัดยังพอมีโอกาสรอด แต่โดนตะขาบสองตัวกัดฝ่าเท้าขนาดนี้ ต่อให้ต้าหลัวจินเซียน[1]อยู่ก็ช่วยไม่ได้หรอก!
สือเอ้อร์มองเสี่ยวเป่าแวบหนึ่งด้วยสีหน้านิ่งเฉย บางทีหมอนี่อาจช่วยได้
แต่จะช่วยทำไมกัน ตายไปก็ยิ่งดี!
“ช่วยฉันที…ขอร้องละ…ช่วยฉันด้วย…ฉันผิดไปแล้ว…” คิมิโกะหน้าซีดลงเรื่อยอๆ เสียงแผ่วลงเรื่อยอๆ ตาจดจ้องเสี่ยวเป่านิ่งหวังว่าเขาจะเมตตาช่วยชีวิตเธอสักครั้ง
เสี่ยวเป่าไม่ได้มองเธอแต่กลับเอ่ยกับเล่อเล่อว่า “กินข้าวเถอะ พี่ตุ๋นน้ำซุปไก่ไว้”
“ได้ เดี๋ยวฉันจะไปหาไข่ป่ามาปิ้งกินคู่กัน” เล่อเล่อกลืนน้ำลายพลางนึกถึงไข่นกปิ้งหอมกรุ่น เธอหิวแล้ว
“คืนนี้ค่อยทำ กินเม็ดเกาลัดย่างก่อน”
“เม็ดเกาลัดเผาอร่อย…” เล่อเล่อตาวาวพุ่งกลับถิ่นของตัวเอง บนพื้นมีเม็ดเกาลัดเผาเกรียมกองอยู่ซึ่งฉิวฉิวเริ่มลงมือยัดเข้าปากทีละลูก ๆแล้ว
เล่อเล่อรีบโถมตัวไปกวาดเม็ดเกาลัดมากองเล็ก ๆจากใต้กรงเล็บของคุณชายฉิวแล้วคุ้มกันดั่งของรักของหวง ฉิวฉิวกลอกตาใส่เธอแวบหนึ่งอย่างไม่พอใจ ขี้เหนียวเสียจริง เจ้านายเหมยเหมยสิใจกว้างไม่เคยแย่งของกินกับเขาเลย
เสี่ยวเป่าอมยิ้มกล่าว “ทางนั้นมีต้นเกาลัดหลายต้นออกผลตั้งเยอะ พอให้พวกเธอทานแน่”
เล่อเล่อเหลียวมองรอบตัวก็เห็นต้นเกาลัดสูงใหญ่บนเนินหลายต้นและออกผลเป็นเม็ดอวบจริง ๆ อีกทั้งบนต้นยังมีกระรอกหลายตัวปีนป่ายไปมาพลางมองกลุ่มคนด้านล่างอย่างนึกแปลกใจ
“ไป ไปเด็ดมาเผาอีกหน่อย” เล่อเล่อผลักเน่าเน่าไป หมอนี่ถนัดเรื่องปีนต้นไม้ แถมเร็วยิ่งกว่าลิงเสียอีก
“ฉันไปด้วย!” สือเอ้อร์ตามไปอีกคนอย่างกระตือรือร้น
เน่าเน่าปีนขึ้นต้นไม้ได้ในพริบตาแล้วจิ้มลูกให้ตกพื้นทีลูก ๆ สือเอ้อร์รับหน้าที่เก็บใส่กระสอบซึ่งไม่นานก็เต็มกระสอบ แล้วหอบวิ่งกลับมาโยนเข้ากองไฟ จากนั้นก็ไปเก็บอีกหนึ่งกระสอบแล้วถึงกลับมา
เม็ดเกาลัดแค่เผาไปพร้อมเปลือกก็พอ ยามสุกเปลือกจะแตกเอง เวลาปอกจะสะดวกมากและช่วยขจัดขนเกาลัดได้ง่ายดายมากด้วย
“อร่อยจัง ทั้งหอมทั้งหวาน อร่อยกว่าเกาลัดคั่วน้ำตาลซะอีก” เล่อเล่อใช้มีดแกะลูกหนึ่งที่เผาสุกแล้ว ไอร้อนลอยโขมงพร้อมกลิ่นหอมหวานของเนื้อเกาลัดยั่วให้คนน้ำลายสอ
กลิ่นหอมที่ลอยเตะจมูกช่วยดับความประหม่าของทุกคน คิมิโกะตายเป็นที่เรียบร้อย หน้าเขียวช้ำตัวแข็งตาเบิกโพลงนอนตายตาไม่หลับ
หลายคนแสดงน้ำใจช่วยกันขุดหลุมฝังคิมิโกะ
ทั้งทีมเหลือแค่แปดคน
คนที่เดิมทีไม่ใส่ใจอะไรนัก ทว่า ณ ตอนนี้กลับไม่กล้าประมาทอีก สงครามยังไม่เริ่มก็ตายเงียบ ๆถึงสี่คนแล้ว ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต่อไปจะเป็นคนดวงซวยคนไหน!
สือเอ้อร์ถามเสียงเบา “ทำไมต้องยุ่งยากขนาดนี้ด้วย ปล่อยเป็นหน้าที่ฉันเถอะ รับรองว่าจัดการหมดในครึ่งชั่วโมง”
ถ้าเอ่ยถึงพวกเขาทั้งหมด คนที่มีพลังทำลายล้างมากที่สุดคงไม่พ้นสือเอ้อร์ และตามด้วยเล่อเล่อ
สตรีย่อมไม่เป็นรองบุรุษ
…………………………….
ตอนที่ 2970 เหลือไว้ครึ่งหนึ่ง
เล่อเล่อตบหลังศีรษะสือเอ้อร์พร้อมดุเสียงต่ำ “จะอวดความเก่งสินะ เชื่อฟังคำสั่งของพี่เสี่ยวเป่า ถ้ากล้าทำเองโดยพลการฉันจะฆ่าเธอซะ!”
สือเอ้อร์หดคอบ่นอุบอย่างไม่พอใจ “พวกพี่ไม่รู้สึกอึดอัดใจเหรอ? ทั้ง ๆที่จัดการได้สบาย ๆแต่ดันทำให้เรื่องยุ่งยากขนาดนี้ แถมคอยตามต้อย ๆอยู่ทุกวันน่ารำคาญจะตายชัก”
“ตายหมดก็หมดสนุกสิ!” เสี่ยวเป่าพูดเสียงเบาพร้อมตักน้ำซุปยื่นให้เล่อเล่อ ในน้ำซุปมีเห็ดหอมแสนอร่อยส่งกลิ่นหอมโชยเตะจมูก
เล่อเล่อรับถ้วยน้ำซุปมาอย่างดีใจ ไม่ต้องลิ้มลองก็รู้ว่าเป็นอาหารชั้นเลิศ อาหารฝีมือเสี่ยวเป่าไม่จำเป็นต้องใส่เครื่องปรุงรสมากมายก็สามารถโชว์ความหอมอร่อยในตัวของมันให้ออกมาอย่างเต็มที่ได้ พี่เสี่ยวเป่าทำอร่อยกว่าพวกเชฟใหญ่เหล่านั้นมากโข
สือเอ้อร์เบะปากน้อย ๆแล้วพึมพำเสียงเบา “เก๊กอีกแล้ว”
เธอรำคาญหนิงเสี่ยวเป่าที่มักจะแสดงท่าทางเหนือกว่าคนอื่นประจำที่สุดราวกับไม่เคยกินข้าวมนุษย์แต่กินลมทองคำน้ำค้างหยกชั้นเลิศเท่านั้น ทั้ง ๆที่ความจริงหนิงเสี่ยวเป่าฆ่าคนมากกว่าเธอตั้งเยอะ แถมยังเป็นจอมตะกละคนหนึ่งอีกด้วย
คนขี้เก๊กขนาดนี้ไม่เข้าตาเธอเอาเสียเลย!
“ไม่เก๊กเท่าพ่อของเธอหรอก พ่อของเธอต่างหากเก๊กเก่งที่สุดในโลก!” เล่อเล่อโต้กลับไป กล้านินทาเสี่ยวเป่าต่อหน้าเธอนี่อยากตายนักหรือไง!
อีกอย่างเสี่ยวเป่าเก๊กได้เท่าพ่อแท้ ๆของสือเอ้อร์เสียที่ไหนล่ะ คุณอาลี่ออกจากบ้านทีก็เชิดหน้าจนจมูกแทบชี้ฟ้าอยู่แล้ว เวลาคุยกับใครก็ทำท่ากวนประสาทเหมือนกับ ‘ข้าเก่งที่สุดในเลิศหล้า’ แต่เสียดายที่จนวันนี้ก็ไม่มีใครล้มเขาอย่างจริงจังได้สักคน
นอกจากคน ๆหนึ่ง
นั่นก็คือคุณนายลี่ที่เธอยกย่องมากที่สุด ผู้หญิงที่ฆ่าคนยังคล่องมือกว่าฆ่าไก่เสียอีก
ได้ยินมาว่าคุณอาลี่ถูกคุณนายของเขาซัดไปยกหนึ่ง เขาลืมผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เลยตามหาแม่ของสือเอ้อร์ทั่วทุกหนแห่งจนสุดท้ายก็ได้สาวงามมาครอบครองดั่งใจ เล่อเล่อเดาว่าตอนอยู่บ้านพ่อของสือเอ้อร์คงโดนดีไม่น้อย คนแบบนี้ต้องเป็นพวกชอบทรมานตัวเองแหง
สือเอ้อร์ได้แต่หุบปากเงียบ พ่อของเธอขี้เก๊กจริง ๆ เธอไม่อาจยอกย้อนได้
“ตอนนี้พ่อของฉันอ่อนโยนขึ้นเยอะแล้ว” สือเอ้อร์แย้งเสียงเบาเพื่อกอบกู้ชื่อเสียงให้พ่อตัวเอง
เล่อเล่อแค่นเสียงทีหนึ่ง ขนาดผียังไม่เชื่อเลย ผู้ชายที่ควรถูกตั้งชื่อว่าหลงอ้าวเทียน[2]นั่นวันไหนไม่ได้เก๊กคงมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้หรอก!
หลังจบมื้อเช้าเล่อเล่อก็เก็บเกาลัดเผาใส่ถุงผ้าไว้เป็นของทานเล่นระหว่างทาง
“ไปทางนั้น” เสี่ยวจูศึกษาแผนที่ก่อนจะชี้ทางให้
พวกเขาเดินทางต่อไปโดยมีแปดคนที่เหลือตามอยู่ด้านหลัง คนพวกนี้ต่างมีสีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง สายตาเริ่มระแวงไม่กล้าประมาทแม้แต่น้อย
หลงถู่กับหลงเฟิงก็ตามมาติด ๆ เมื่อผ่านหลุมศพของคิมิโกะหลงถู่ก็อดถามไม่ได้ว่า “จะเป็นฝีมือของหนิงเสี่ยวเป่าหรือเปล่า?”
การตายของทั้งสี่คนนี้ไม่ว่าคนไหนก็ดูเหมือนเป็นอุบัติเหตุทั้งหมด แต่หลงถู่กลับรู้สึกว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับเสี่ยวเป่า แค่ครั้งสองครั้งอาจจะเป็นความบังเอิญได้ แต่พอมีครั้งที่สี่ครั้งที่ห้าก็ชวนให้สงสัยอย่างห้ามไม่ได้
หลงเฟิงเองก็คิดไม่ตก ไม่รู้ว่าเสี่ยวเป่าลงมือได้อย่างเงียบเชียบเช่นนี้ได้อย่างไร สิ่งที่เขากังวลยิ่งกว่านั้นคือหลังจากแปดคนที่เหลือตายแล้ว เสี่ยวเป่าจะลงมือกับพวกเขาหรือเปล่า?
สามวันให้หลังก็เริ่มเข้าใกล้จุดขุมสมบัติมากขึ้นเรื่อย ๆ
“อีกสามวันน่าจะถึง จะทำอย่างไรกับแปดคนนั่นต่อ?” เสี่ยวจูถาม
เสี่ยวจูมองไปด้านหลังแวบหนึ่งแล้วพูดเสียงเรียบ “ฝากพวกนายด้วย เหลือไว้ครึ่งหนึ่งพอ รวมถึงสองคนนั่น”
เขาชี้ไปยังเจสันที่กำลังบ่นเรื่องแมลงกับเพื่อนร่วมทาง
“พี่เป็นเพื่อนกับพวกเขาเหรอ?” สือเอ้อร์ถามด้วยความแปลกใจ
“น่าสนใจดี” เสี่ยวเป่าหัวเราะ สองคนนี้ไม่ค่อยขัดหูขัดตาเขาเท่าไร ขอเพียงไม่ทำอะไรเกินกว่าเหตุเขาก็ไม่มีวันลงมือหรอก
สือเอ้อร์ไม่ค่อยพอใจกับคำสั่งที่ให้จัดการแค่สี่คน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมากไปกว่านั้น
“คืนนี้ก็ลงมือเลย” สือเอ้อร์ตัดสินวันสิ้นชะตากรรมของคนดวงซวยทั้งสี่
เน่าเน่าลูบปลายคางพลางยิ้มร้ายกล่าว “จัดการสี่คนในครั้งเดียวออกจะชัดเจนเกินไปหน่อย ฉันจะฆ่าก่อนหนึ่งคน งั้นจัดการเจ้าคนที่วัน ๆเอาแต่ไหว้พระนั่นก่อนแล้วกัน!”
……………………………..
[1] คนที่บรรลุเป็นเซียนต้าหลัวเทียน หรือแดนสวรรค์ต้าหลัว เป็นภูมิสวรรค์ชั้นยอดในทางลัทธิเต๋า
[2] เปรียบความหมายชื่อว่าเป็นคนเย่อหยิ่ง