อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 1743 ความเก่งกาจของปลาคาร์พ
แก๊สพิษที่ต้นโพธิ์ปล่อยออกมาสามารถเล่นงานนักรบคนไหนก็ได้แต่สำหรับเว่ยหรูเหยียน มันไม่ต่างอะไรกับน้ำทิพย์ ขณะที่เธอซึมซับควันเข้าสู่ร่างกาย นัยน์ตากลมดำราวลูกปัดก็เปล่งประกายด้วยความตื่นเต้น
“คุณใช้ควันสีดำนี้ยกระดับวรยุทธได้?” จางเซวียนชะงัก
เว่ยหรูเหยียนพยักหน้า
“สมแล้วที่เป็นสภาวะกายพิษแต่กำเนิด” จางเซวียนตั้งข้อสังเกตด้วยความยำเกรง
สภาวะพิเศษนี้ช่างทรงพลังจริงๆ
หากนักรบคนอื่นถูกควันพิษนี้รม คงตายภายในไม่กี่นาที แต่เว่ยหรูเหยียนสามารถใช้สิ่งนี้เพื่อการยกระดับวรยุทธของตัวเองแม้แต่จางเซวียนก็ยังอดอิจฉาความสามารถข้อนี้ของเธอไม่ได้
เว่ยหรูเหยียนใช้เวลาไม่นานก็ซึมซับพลังงานที่อยู่ในควันสีดำได้สำเร็จ เธอรีบนำกล่องหยกใบหนึ่งออกมาจากแหวนเก็บสมบัติและนำผลโพธิ์ใส่เข้าไปในนั้น เมื่อเสร็จเรียบร้อย เธอก็ตรงเข้าเก็บผลโพธิ์ผลต่อไปและดำเนินกระบวนการเดิมซ้ำ
ควันสีดำพวยพุ่งออกมาและโอบล้อมเว่ยหรูเหยียนไว้ แต่คราวนี้ดูเหมือนจะเข้มข้นกว่าเดิมมาก เมื่อเจอกับการโจมตีของมัน ร่างของสาวน้อยถึงสั่นสะท้าน ใบหน้าซีดเผือด
“เกิดอะไรขึ้น?” จางเซวียนถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“แก๊สพิษนี้รุนแรงเกินไป มันมากเกินกว่าที่ฉันจะซึมซับได้” เว่ยหรูเหยียนตอบตามตรง
ต่อให้เป็นผู้ที่มีสภาวะกายพิษแต่กำเนิด แต่ปริมาณยาพิษที่เธอรับไว้และซึมซับได้นั้นก็ยังมีจำกัด หากพยายามนำยาพิษเข้าสู่ร่างกายมากเกินไป ก็เสี่ยงกับอันตราย
แก๊สพิษที่ผลโพธิ์ผลที่สองปล่อยออกมานั้นเข้มข้นกว่าผลแรกมากและนั่นเป็นสิ่งที่เธอคาดไม่ถึง
เว่ยหรูเหยียนใช้เวลาครู่ใหญ่กว่าจะกดข่มแก๊สพิษที่พลุ่งพล่านอยู่ในร่างกายได้สำเร็จ เธอถอนหายใจอย่างโล่งอก จากนั้นก็หันกลับไปเพื่อเก็บผลโพธิ์ผลที่สาม
ซรืดดดดด!
คราวนี้ ควันสีดำที่ต้นโพธิ์ปล่อยออกมารุนแรงกว่าเก่า เมื่อต้องซึมซับแก๊สพิษปริมาณมากเข้าไปในคราวเดียว ร่างของเว่ยหรูเหยียนสั่นสะท้านไม่หยุด ใบหน้าซีดเผือดลงเรื่อยๆ แต่ขณะที่ใกล้จะหมดความอดทนเต็มแก่ ก็รู้สึกได้ว่าใครคนหนึ่งทาบฝ่ามือเข้ากับแผ่นหลังของเธอ
จากนั้นท่านอาจารย์เอ่ยขึ้น “ใช้ควันสีดำนี้เพื่อการฝ่าด่านวรยุทธ!”
“ได้ ท่านอาจารย์”
รู้ดีว่าอาจารย์ตั้งใจช่วยเธอยกระดับวรยุทธ เว่ยหรูเหยียนรีบเพ่งสมาธิกับการส่งแก๊สพิษเข้าทำลายด่านคอขวดของเธอ
แก๊สพิษที่ต้นโพธิ์ปล่อยออกมานั้นมีอานุภาพเป็นพิษถึงตาย แต่ถือเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาอันทรงพลังในการยกระดับสภาวะจิตใจ จางเซวียนใช้พลังปราณเทียบฟ้าของเขากำจัดสิ่งอุดตันที่อยู่ในทางเดินพลังปราณของเว่ยหรูเหยียน เพื่อเธอจะได้ควบคุมพลังปราณให้ไหลเวียนได้ดีขึ้น
เมื่อเว่ยหรูเหยียนเก็บผลโพธิ์เพิ่มอีกหนึ่งผล แก๊สพิษที่ต้นโพธิ์ปล่อยออกมาก็มีฤทธิ์รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อเธอเก็บผลที่หก แก๊สพิษนั้นก็ทรงพลังเสียจนแทบจะกัดกร่อนได้แม้แต่มิติที่อยู่โดยรอบ
จางเซวียนดูแลการไหลเวียนของพลังงานในร่างของเว่ยหรูเหยียนอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้แน่ใจว่าการขับเคลื่อนพลังปราณของเธอจะเป็นไปอย่างราบรื่น
ครู่ต่อมา เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นจากทางเดินพลังปราณของเว่ยหรูเหยียน เป็นสัญญาณว่าเธอทำลายด่านคอขวดได้สำเร็จแล้ว รังสีของเว่ยหรูเหยียนแผ่ซ่านออกมา ไม่ช้าระดับวรยุทธของเธอก็เข้าสู่ขั้นชั่วกัลปาวสานโลกจารึกเหมือนกับจ้าวหย่า
หลังจากขัดเกลาพละกำลังส่วนเกินที่ไหลเวียนอยู่ภายในร่างกายแล้ว เว่ยหรูเหยียนก็ประสานมือและโค้งคำนับด้วยความตื่นเต้น“ขอบคุณ ท่านอาจารย์!”
ถ้าไม่ใช่เพราะอาจารย์คอยช่วยเหลือ เธอคงต้องสูญเสียโอกาสในการใช้ประโยชน์แก๊สพิษไปกว่าครึ่ง และหากมีบางอย่างผิดพลาดเธออาจต้องถึงกับได้รับบาดเจ็บสาหัสเพราะร่างกายไม่อาจต้านทานอานุภาพของมันได้
ด้วยวรยุทธขั้นชั่วกัลปาวสานโลกจารึกและสภาวะกายพิษแต่กำเนิดอันทรงพลัง แน่นอนว่าแทบไม่มีนักรบคนไหนที่มีวรยุทธต่ำกว่าขั้นนักปราชญ์โบราณที่จะเอาชนะเว่ยหรูเหยียนได้
จางเซวียนที่กำลังเต็มตื้นพยักหน้ารับ จากนั้นสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นเย็นชาขณะที่หันไปมองกลุ่มเด็กวัยรุ่นทั้ง 9 ที่กำลังสู้รบปรบมือกับหลัวฉีฉี
ถ้าไม่ใช่เพราะความจริงที่ว่าเขาอยู่ด้วย เว่ยหรูเหยียนคงได้รับบาดเจ็บสาหัสไปแล้วเพราะแก๊สพิษของต้นโพธิ์ที่เพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ผลโพธิ์เพียงผลเดียวจะชดเชยได้!
เด็กวัยรุ่นกลุ่มนี้ต้องการให้เว่ยหรูเหยียนเก็บผลโพธิ์ให้ แต่กลับไม่มีมาตรการป้องกันใดๆเพื่อปกป้องเธอเลย เห็นได้ชัดว่าคนพวกนี้เห็นเว่ยหรูเหยียนไม่ต่างกับลูกไก่ในกำมือที่จะบีบให้ตายเมื่อไหร่ก็ได้หากไร้ประโยชน์แล้ว
ในตอนนั้น การสู้รบระหว่างหลัวฉีฉีกับเด็กวัยรุ่นทั้ง 9 จาก 100สำนักแห่งนักปราชญ์ก็สิ้นสุดลง ประสิทธิภาพการต่อสู้ของหลัวฉีฉีที่ผนวกเข้ากับเครื่องเก็บงำมิตินั้นถือว่าทรงพลังมาก แม้อีกฝ่ายจะผนึกกำลังกันก็ยังสู้ไม่ไหว ทุกคนหน้าซีดเผือดและต่างก็ได้รับบาดเจ็บ สีหน้าของพวกเขาดูย่ำแย่
ข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขาได้รับเลือกให้เข้าสู่หอบริวารเพื่อตามหาผลโพธิ์ ก็หมายความว่าสถานภาพของคนเหล่านี้ใน 100 สำนักแห่งนักปราชญ์คงจะสูงส่งไม่น้อย
พวกเขาได้รับความเคารพจากคนรอบข้าง แต่ลงท้ายกลับมาถูกซ้อมจนหมดสภาพในภารกิจสำคัญ นี่ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาจะยอมรับได้
“จางเซวียนกับเว่ยหรูเหยียน, ผลโพธิ์เหล่านี้มีความสำคัญสูงสุดต่อ 100 สำนักแห่งนักปราชญ์ ผมหวังว่าคุณจะมอบมันให้พวกเรา”ชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะเป็นผู้นำกลุ่มกัดฟันพูด
แต่จางเซวียนโบกมืออย่างไม่แยแสและเอ่ยว่า “หักแขนขาของคนพวกนี้และจับโยนออกไป!”
ไม่ว่าพวกเขาจะจงใจหรือไม่ จางเซวียนก็ไม่อาจยอมรับความจริงที่ว่าคนเหล่านี้ทำให้ลูกศิษย์ของเขาต้องตกอยู่ในอันตราย เพราะฉะนั้นก็ต้องยอมรับผลจากการกระทำของตัวเอง
“ได้เลย!” หม้อต้นกำเนิดทองคำกระโจนออกมาแล้วพุ่งเข้าใส่เด็กวัยรุ่นทั้ง 9
ไม่ช้า แขนขาที่ถูกหม้อต้นกำเนิดทองคำหักเป็นท่อนๆก็ถูกโยนออกไปจากหอสงบใจอย่างไร้ความปรานี
สำหรับเด็กวัยรุ่นกลุ่มนี้ ไม่มีใครในหมู่พวกเขาที่เกรงกลัวหม้อต้นกำเนิดทองคำ แต่หลังจากถูกหลัวฉีฉีเล่นงาน ก็ไม่เหลือพละกำลังมากพอจะตอบโต้
“ท่านอาจารย์ ฉันจะมอบผลโพธิ์เหล่านี้ให้คุณตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรต่อนะ” เว่ยหรูเหยียนพูดขณะมอบผลโพธิ์ทั้งหมดให้
“อือ” จางเซวียนรับผลโพธิ์มาและเก็บทุกผลเข้าไปในแหวนเก็บสมบัติ เหลือไว้แค่ผลเดียว เขายื่นผลโพธิ์นั้นให้เว่ยหรูเหยียนและพูดว่า “คุณคือผู้เก็บผลโพธิ์ได้มากมาย เพราะฉะนั้นควรจะได้ไว้ 1 ผล แต่อย่ารีบร้อนใช้มันนะ ผมมีวิธีที่จะช่วยยกระดับความล้ำลึกของจิตวิญญาณให้คุณได้ ผมอยากให้คุณฝึกฝนวรยุทธใต้ต้นโพธิ์และยกระดับความล้ำลึกของจิตวิญญาณให้แตะ 29.9 ก่อน เมื่อทำสำเร็จแล้ว ก็ค่อยใช้ผลโพธิ์เพื่อฝ่าด่านวรยุทธไปสู่ขั้นนักปราชญ์โบราณ”
“ได้” เว่ยหรูเหยียนพยักหน้า
จางเซวียนกระดิกนิ้ว จากนั้นก็ถ่ายทอดศาสตร์ลับเพื่อการบ่มเพาะสภาวะจิตใจให้เว่ยหรูเหยียน
“จ้าวหย่า ผลนี้ของคุณ”
จางเซวียนยื่นผลโพธิ์อีกผลหนึ่งให้จ้าวหย่าพร้อมกับศาสตร์ลับ
เพราะสภาวะพิเศษของทั้งคู่ จ้าวหย่ากับเว่ยหรูเหยียนจึงสามารถยกระดับวรยุทธของพลังปราณได้อย่างรวดเร็ว แต่นั่นก็ส่งผลให้ระดับวรยุทธของสภาวะจิตใจยังคงล้าหลัง ผลโพธิ์เป็นโอกาสดีที่จะช่วยให้ทั้งคู่ปิดช่องว่างนี้ได้
“ฉีฉี ผลนี้ของคุณ…”
หลังจากดูแลลูกศิษย์ทั้งสองของเขาแล้ว จางเซวียนก็มอบผลโพธิ์อีกผลหนึ่งให้หลัวฉีฉี
หลัวฉีฉีมาถึงหอสงบใจก่อนหน้าพวกเขา ซึ่งต่อให้เขาไม่อยู่ประสิทธิภาพการต่อสู้ของเธอก็สูงพอจะแย่งชิงผลโพธิ์ผลหนึ่งมาเป็นของตัวเองได้อยู่แล้ว
“ขอบคุณมาก” หลัวฉีฉีรับผลโพธิ์มา แต่นัยน์ตาของเธอยังคงจับจ้องอยู่ที่จางเซวียน ความสับสนปรากฏในดวงตาคู่นั้นขณะที่เอ่ยว่า “ปรมาจารย์จาง…”
ดูเหมือนจะรู้ว่าเธอคิดจะพูดอะไร จางเซวียนโบกมือและพูดว่า “ผมเคยสอนคุณเรื่องการหลอมยามาก่อน ซึ่งนั่นหมายถึงความสัมพันธ์ระหว่างเราในฐานะอาจารย์กับศิษย์ การฝืนความรู้สึกนั้นเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ แต่ความเหมาะสมก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรละเลยเช่นกัน ไม่มีทางที่เราสองคนจะเป็นแบบนั้นได้ การหมั้นหมายระหว่างเราทั้งคู่เป็นความเข้าใจผิดครั้งใหญ่ตั้งแต่แรก และผมเชื่อว่าคุณคงรู้ดีว่าผมมีคนที่ผมรักอยู่ เพราะฉะนั้น…ผมเสียใจ”
ในเมื่อเขาไม่อาจมอบความสุขให้เธอได้ พูดจาออกไปให้เด็ดขาดก็ย่อมดีกว่า
การขุดคุ้ยมันขึ้นมามีแต่จะทำให้อีกฝ่ายเจ็บปวดมากขึ้น แต่เขาก็ไม่อยากให้หลัวฉีฉีต้องใช้ชีวิตที่เหลือวนเวียนอยู่กับความสูญเปล่า
“ฉัน…” หลัวฉีฉีหน้าเสียขณะร่างสั่นเทา
เธอรู้ดีว่าความปรารถนาของเธอนั้นแทบไม่มีทางเป็นไปได้ แต่ก็ไม่คิดว่าจะถูกปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมาขนาดนี้
ส่วนจ้าวหย่าก็มีสีหน้าไม่สู้ดีเมื่อได้ฟัง
อย่างคำพูดที่ว่ากันว่า “1 วัน เป็นอาจารย์, เคารพดั่งบิดาชั่วชีวิต!”
ลูกศิษย์ไม่ได้รับอนุญาตให้มีความสัมพันธ์รูปแบบอื่นใดกับอาจารย์ของตัวเอง ไม่อย่างนั้นก็จะถือเป็นความไม่เหมาะสมอย่างรุนแรง สิ่งนี้เป็นเรื่องที่ทวีปแห่งปรมาจารย์ไม่ยอมรับ
เธอเองก็อยากตามหาความสุข แต่ก็รู้ดีว่าความพยายามของเธอมีแต่จะทำให้ชื่อเสียงของท่านอาจารย์แปดเปื้อน นี่เป็นเรื่องกลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่ทำให้จ้าวหย่ารู้สึกขัดแย้งอย่างล้ำลึกอยู่ในใจตลอดมา
เห็นสีหน้าหม่นหมองของหลัวฉีฉีกับจ้าวหย่า จางเซวียนแอบถอนหายใจเฮือกขณะยิ้มให้ “สำหรับตอนนี้ พวกคุณควรใช้สมาธิกับการยกระดับวรยุทธเสียก่อน พวกคุณอายุยังน้อย ยังมีชีวิตและประสบการณ์อีกมากที่ยังไม่ได้พบเจอ วันหนึ่งคุณจะต้องพบใครสักคนที่เหมาะสมกับคุณมากกว่าผมแน่!”
หากมีทางเลือก เขาก็ไม่อยากทำร้ายจิตใจของทั้งคู่ แต่หากเขายังคงแสดงทีท่าแบบเดิม ก็มีแต่จะเป็นการมอบความหวังลมๆแล้งๆซึ่งไม่มีอะไรที่เจ็บปวดไปกว่าการไขว่คว้าสิ่งที่ไม่มีวันเป็นไปได้
รู้ดีว่าทั้งคู่ของต้องการเวลาระยะหนึ่งเพื่อระงับจิตใจ จางเซวียนโบกมือและพูดว่า “ผมจะปล่อยพวกคุณให้ฝึกฝนวรยุทธที่นี่นะพยายามเต็มที่ที่จะยกระดับความล้ำลึกของจิตวิญญาณให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ก็แล้วกัน ระหว่างนี้ ผมจะไปตามหาหยวนเทา”
ขณะที่จางเซวียนกำลังจะจากไป เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นในหัว “นายท่านผมขุดรากถอนโคนต้นไม้ต้นนี้ให้คุณได้นะ คุณอยากนำมันไปด้วยไหม?”
“คุณขุดมันขึ้นมาได้หรือ?” จางเซวียนชะงัก
“ฮ่า ผมน่ะคือหัวใจของมิติแห่งนี้นะ คุณก็รู้นี่นา แน่นอนว่าต้นไม้แค่ต้นเดียวน่ะ ผมถอนได้อยู่แล้ว!” ปลาคาร์พคุยโว