อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 1740 ตกปลา
สระน้ำนั้นไม่ลึกมากนัก มีความลึกราว 10 เมตร และที่ลึกลงไปกว่านั้นคือฉนวนแห่งมิติซึ่งนำไปสู่มิติต่อไป
แทนที่จะเข้าสู่ฉนวนแห่งมิติ จางเซวียนเลือกที่จะว่ายสำรวจโดยรอบเพื่อตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน
แต่หลังจากว่ายวนได้รอบหนึ่ง เขาก็ไม่พบอะไรเลย อย่าว่าแต่สิ่งมีชีวิต จางเซวียนไม่พบแม้กระทั่งก้อนหิน สินแร่ หรือสิ่งอื่นใดที่ดูใกล้เคียงกับของล้ำค่า ทั้งหมดมีแต่น้ำใส
“เราเดาผิดหรือ? หรือว่าหัวใจของมิติไม่ได้อยู่ที่นี่? หรือมีใครบางคนฉกฉวยมันตัดหน้าเราไปแล้ว?” จางเซวียนขมวดคิ้ว “ไม่ใช่หรอก อย่างนั้นไม่ถูก ถ้ามีใครนำหัวใจของค่ายกลไป พิษที่อบอวลอยู่ในอากาศตอนนี้จะต้องเสื่อมลง…”
ในมิติผืนทราย ทะเลทรายหายวับไปทันทีหลังจากที่เขานำไม้ทรายเหลืองวิปลาสมา ในมิติผืนป่า ทันทีที่เขาออกมาพร้อมกับ 5 อสูรผู้ยิ่งใหญ่ ก็ไม่ชัดเจนนักว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เมื่อไม่มีอำนาจของ 5 ผู้ยิ่งใหญ่ เหล่าอสูรที่อยู่ในมิตินั้นก็คงไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างเป็นระเบียบแบบเดิม
มิติยาพิษก็เป็นแบบเดียวกัน ในเมื่อพิษยังคงอบอวลอยู่ในอากาศและสระน้ำยังคงมีคุณสมบัติเป็นยาถอนพิษ ก็น่าจะมีความเป็นไปได้สูงที่หัวใจของมิติยังไม่ถูกค้นพบ
“ดวงตาหยั่งรู้!”
จางเซวียนสำรวจทุกอณูภายในสระน้ำ ไม่ช้าก็พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ
สสารที่ทำหน้าที่เจือจางพิษที่อยู่โดยรอบดูเหมือนจะลดน้อยถอยลงทุกที
จางเซวียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะโผขึ้นจากสระน้ำ เขารออยู่ 2-3 นาทีก่อนจะตรวจสอบสสารนั้นอีกครั้ง และพบว่ามันยังคงอยู่เต็มเปี่ยมภายในสระ
“ท่านอาจารย์ คุณพบมันหรือยัง?” จ้าวหย่าถาม
“ยังเลย แต่ผมค่อนข้างแน่ใจว่าหัวใจของค่ายกลคืออะไร นำต้นไผ่มาให้ผมที” จางเซวียนสั่งการพร้อมกับยิ้มให้
จ้าวหย่าออกจากบริเวณนั้นไป ไม่ช้าก็กลับมาพร้อมกับต้นไผ่ในมือ
จางเซวียนนำต้นไผ่มาเขย่าเบาๆเพื่อให้ใบไผ่ร่วงหลุดไป เขาขับเคลื่อนพลังปราณเข้าสู่ต้นไผ่และแปรสภาพพลังปราณให้กลายเป็นเส้นด้ายบางๆ ที่ปลายอีกด้านหนึ่งของต้นไผ่ ก่อนจะเพิ่มความเข้มข้นของพลังปราณที่ปลายเส้นด้ายนั้น ราวกับเตรียมเหยื่อล่ออันโอชะให้ผู้โชคร้ายมาติดกับ
“นี่มัน…เบ็ดตกปลา? ท่านอาจารย์ คุณคิดจะตกปลาในสระนี้หรือ?” จ้าวหย่าชะงัก
“ตกปลาด้วยเบ็ด ไม่ใช่ด้วยแห ไม่ตามล่าเหยื่อที่นอนรัง ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด หัวใจของมิติแห่งนี้จะถูกนำขึ้นมาได้ด้วยการตกมันเท่านั้น หากใช้วิธีอื่นก็มีแต่จะผลักดันให้มันหนีไป” จางเซวียนอธิบาย
ก่อนหน้านี้ เขาเคยอ่านหนังสือเกี่ยวกับปรมาจารย์ขง และมีข้อความหนึ่งที่กล่าวไว้ว่า ‘ตกปลาด้วยเบ็ด ไม่ใช่ด้วยแห ไม่ตามล่าเหยื่อที่นอนรัง’ ซึ่งหมายความว่าปรมาจารย์ขงตกปลาโดยใช้เบ็ดตกปลา ไม่ได้ใช้แห และแม้จะใช้คันธนูกับลูกธนูเพื่อล่าสัตว์ ก็จะไม่พยายามยิงสัตว์ที่กำลังพักผ่อนอยู่
นี่เป็นการเปรียบเทียบให้เห็นถึงความเมตตากรุณาของปรมาจารย์ขง แต่ดูเหมือนจะมีความหมายล้ำลึกกว่านั้น การใช้พละกำลังจะไม่ทำให้จางเซวียนได้สิ่งที่เขาอยากได้ซึ่งอยู่ในสระ มีวิธีเดียวก็คือต้องตกมันขึ้นมา
จางเซวียนนำเหยื่อมีพิษล่อไว้ในสระน้ำก่อนจะนั่งรออย่างเงียบๆ
การตกปลาสามารถบ่มเพาะสภาวะจิตใจ คลายความว้าวุ่นและความกังวลของผู้นั้นได้ ทำให้เข้าถึงธรรมชาติได้มากขึ้น
แม้แต่มนุษย์ธรรมดาสามัญก็สามารถหลอมรวมตัวเองเข้ากับสภาพแวดล้อมได้ในขณะตกปลา สามารถรังสรรค์ทัศนียภาพที่มีชีวิตชีวาราวกับภาพวาดได้ นับประสาอะไรกับนักรบที่มีวรยุทธระดับจางเซวียน
ขณะที่สายตกปลาที่จางเซวียนทำจากพลังปราณส่ายไปมาอยู่ในสระน้ำ เขาก็พลันรู้สึกว่ามิติยาพิษไม่ได้น่าสะพรึงอย่างที่ดูเหมือนจะเป็น มันเป็นแค่การรังสรรค์อีกรูปแบบหนึ่งของธรรมชาติ ทั้งสมจริงและน่าทึ่ง
ในยุคดึกดำบรรพ์ เมื่อครั้งที่โลกยังเปี่ยมด้วยพลังจิตวิญญาณ ไม่มีมนุษย์คนไหนกล้าย่างกรายเข้าสู่ป่าดึกดำบรรพ์ สภาพแวดล้อมที่เป็นพิษมีอยู่ทั่วไปในผืนป่า สิ่งมีชีวิตมีพิษเพ่นพ่านไปทั่ว พร้อมจะปล่อยพิษเข้าสู่จิตวิญญาณดวงไหนก็ตามที่ขาดความระมัดระวัง ก็เหมือนกันกับมิติยาพิษที่เขาอยู่ในตอนนี้
มันไม่ใช่ของปลอม ไม่ใช่ของทำเลียนแบบ แต่เป็นหนึ่งในป่าดึกดำบรรพ์ที่อยู่คงทนยาวนาน ผ่านการทดสอบของกาลเวลา
ในป่าแห่งนี้ นักรบทุกคนจะได้สัมผัสถึงธรรมชาติที่แท้จริงของธรรมชาติ
จางเซวียนขับเคลื่อนเทคนิควรยุทธที่เขาได้ฝึกฝนระหว่างการฝ่าด่านวรยุทธไปสู่ขั้นนักปราชญ์ผู้ยิ่งใหญ่ ดูเหมือนเขาจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติไปด้วย โดยหลอมรวมเข้ากับก้อนหิน ต้นไม้ และฝุ่นละอองที่อยู่โดยรอบ
ภายใต้ความสุขุมเยือกเย็นสูงสุด ระดับความล้ำลึกของจิตวิญญาณของจางเซวียนค่อยๆเพิ่มขึ้น
29.91!
29.92!
…..
ขณะที่จางเซวียนกำลังตกอยู่ในภวังค์ ผืนน้ำที่อยู่ตรงหน้าเขาก็กระเพื่อม จากนั้น เสียงร้องอย่างตื่นเต้นก็ดังขึ้น
“ท่านอาจารย์ ปลาฮุบเหยื่อแล้ว!”
จางเซวียนก้มลงมอง และเห็นปลาคาร์ฟสีแดงสดตัวหนึ่งห้อยต่องแต่งอยู่ที่ปลายเส้นด้ายพลังปราณของเขา มันกำลังดิ้นรนสุดชีวิต น้ำกระเซ็นไปทั่ว
“น่าเสียดายจริง!”
การที่เขาตกปลาได้ก็เป็นเรื่องดี แต่มันก็ทำให้เขาต้องออกจากภวังค์
ถ้าไม่อย่างนั้น ระดับความล้ำลึกของจิตวิญญาณของจางเซวียนก็จะแตะ 30.0 บรรลุเงื่อนไขหนึ่งของการจะได้เป็นนักปราชญ์โบราณ!
ฟึ่บ!
จางเซวียนลดข้อมือลงต่ำ ก่อนจะเหวี่ยงเบ็ดกลับมาอย่างแรง ปลาคาร์ฟสีแดงสดกระเด็นขึ้นจากสระน้ำ
เมื่อออกมาพ้นน้ำ ปลาคาร์พดิ้นรนอยู่ครู่หนึ่งขณะอ้าปากสลับกับหุบปากอย่างสิ้นหวัง ดูเหมือนจะหายใจไม่ออก ครู่ต่อมา มันก็พลิกตัวหงายท้อง นัยน์ตาถลนออกจากเบ้า ดูเหมือนกำลังจะสูญเสียลมหายใจเฮือกสุดท้าย
“ท่านอาจารย์ ปลาตัวนี้…ตายหรือเปล่า?” จ้าวหย่าถามด้วยความไม่แน่ใจ
สิ่งนี้คือหัวใจของมิติไม่ใช่หรือ?
ทำไมถูกตกขึ้นมาปุ๊บ ก็ตายปั๊บ?
มันไม่ได้มีไว้ให้ถูกตกขึ้นมาหรืออย่างไร?
“เอาล่ะ พอได้แล้ว!” จางเซวียนเตะตัวปลาคาร์พเบาๆ มันกระเด้งกระดอน 2-3 ครั้ง ก่อนจะร่วงลงไปกองกับพื้นอีกรอบ คราวนี้ดูเหมือนจะตายจริง
จางเซวียนไม่รู้จะพูดอย่างไร เขากระดิกนิ้วและปล่อยลูกไฟสีดำพร้อมกับสายฟ้าเขาใส่ปลาคาร์พและขู่ “แกเล่นสนุกพอหรือยัง? หรืออยากถูกย่าง?”
ปลาคาร์พที่นอนอยู่กับพื้นพลิกตัวตั้งตรงและยืนด้วยหางของมัน “ขออภัยด้วย มันก็แค่นิสัยหนึ่งของผม ผมไม่ค่อยได้อยู่บนฝั่งนานนัก จึงมีปัญหาเรื่องการหายใจ และคิดว่าอาจจะตายได้…”
จ้าวหย่าอ้าปากค้างเมื่อได้ยินคำพูดนั้น
ปลาตัวหนึ่งลุกขึ้นยืนและกำลังพูด
แถมปลาตัวนี้ยังมีนิสัยที่ออกจะแปลกประหลาดมาก
“อย่าประมาทเจ้านี่นะ มันมีวรยุทธขั้นชั่วกัลปาวสานโลกจารึก อย่าว่าแต่ขึ้นมาอยู่บนฝั่งเลย ต่อให้ถูกโยนลงไปในหม้อน้ำมันเดือดๆก็ไม่ตาย!” จางเซวียนอธิบาย
ความตกตะลึงในตอนแรกของจ้าวหย่าแปรเปลี่ยนเป็นความสงสัยขณะที่เธอตั้งคำถาม “ถ้ามันมีพละกำลังแข็งแกร่งขนาดนั้น ทำไมถึงถูกตกขึ้นมา?”
ปลาที่มีวรยุทธขั้นชั่วกัลปาวสานโลกจารึกน่าจะเฉลียวฉลาดมาก แต่กลับถูกตกขึ้นมาอย่างง่ายๆโดยใช้คันเบ็ดไม้ไผ่…ไม่น่าเชื่อเลย
“ผมก็ไม่รู้จะว่าอย่างไร มันเป็นนิสัยน่ะ เมื่อครั้งอดีต ปรมาจารย์ขงมาตกผมอยู่บ่อยๆ เขาจะตกผมขึ้นมา และทุกครั้งก็จะปล่อยผมไป ในแต่ละครั้งที่ปรมาจารย์ขงมา ผมจะถูกตกหลายสิบรอบ ลงท้ายผมก็เลยเคยชินกับมัน” ปลาคาร์พอธิบาย
จ้าวหย่ายังคงอ้าปากค้าง
ทั้งที่มีพละกำลังขนาดนี้ มันก็ยังปล่อยให้ตัวเองถูกตกขึ้นมาวันแล้ววันเล่า และเท่าที่เห็น ก็ดูเหมือนมันจะสนุกสนานกับกระบวนการนี้ด้วย จะดูน่าเบื่อไปหน่อยไหม?
ที่สำคัญกว่านั้น ตกปลาตัวเดิมทุกวี่วัน ปรมาจารย์ขงคงเบื่อแย่!
“อย่าไปฟังคำพูดเลอะเทอะของเจ้านี่ ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด ปรมาจารย์ขงใช้พลังปราณของเขาแทนสายเบ็ดและเหยื่อล่อ และสิ่งที่เจ้านี่สนใจน่ะ ไม่ใช่เฉพาะเหยื่อล่อ แต่เป็นสายเบ็ดด้วย ผมพูดถูกไหม?” จางเซวียนส่ายหน้าพร้อมกับหัวเราะหึๆก่อนจะหันมาจ้องปลาคาร์พ
“เอ่อ…ทั้งหมดก็คือ…หมู่เมฆลอยละล่อง!” ปลาคาร์พพูดอย่างกระอักกระอ่วน
“ฉันเข้าใจแล้ว” จ้าวหย่าตาโตเมื่อนึกได้
ไม่น่าแปลกใจแล้วที่ปลาธรรมดาตัวหนึ่งจะฝึกฝนวรยุทธจนมีวรยุทธขั้นชั่วกัลปาวสานโลกจารึก เรื่องของเรื่องก็คือตลอดเวลาที่ผ่านมา มันได้ซึมซับพลังปราณของปรมาจารย์ขง
จึงเป็นธรรมดาที่มันจะไม่มีวันปล่อยโอกาสงามแบบนี้ให้ตกไปถึงปลาตัวอื่น
“ผมก็ว่าก่อนหน้านี้ผมซ่อนตัวอย่างดีแล้วนะ คุณหาผมเจอได้ไงน่ะ?” ปลาคาร์พถามจางเซวียนด้วยความสงสัย
วิธีการที่มันใช้ซ่อนตัวนั้นจัดว่าแนบเนียนมาก แทบเป็นไปไม่ได้ที่นักรบคนไหนจะหาเจอ ต่อให้มีดวงตาหยั่งรู้ก็ตาม ก่อนหน้านี้ก็มีนักรบ 2-3 กลุ่มที่มาถึงก่อนหน้าชายหนุ่ม แต่ก็ไม่พบตัวมัน
ชายหนุ่มคนนี้รู้วิธีที่จะใช้คันเบ็ดเพื่อตกมัน และทำให้มันกระหายที่จะติดเบ็ด ด้วยเหตุนี้ มันจึงอดไม่ได้ที่จะฮุบเหยื่อและปล่อยให้ตัวเองถูกนำตัวขึ้นมา
“ยาถอนพิษที่คุณทิ้งไว้ในน้ำน่ะมีอานุภาพเหมือนกันกับพลังปราณของผม ไม่ใช่สิ่งที่ใครจะสร้างมันขึ้นมาก็ได้” จางเซวียนอธิบาย “ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด มันมีต้นกำเนิดจากปรมาจารย์ขงใช่ไหม?”