อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 1744 กงฉี่ฉิง
“อย่างนั้นหรือ? ถ้างั้นก็ถอนมันออกมา!” จางเซวียนตาโตด้วยความตื่นเต้น
ที่ผ่านมา เขาคิดมาตลอดว่าคงจะดีไม่น้อยหากนำต้นโพธิ์ติดตัวไปได้ เพราะจะเป็นโอกาสชั้นยอด ที่จะผลักดันให้ระดับความล้ำลึกของจิตวิญญาณของเขาแตะ 30.0 ใครจะไปคิดว่าปลาคาร์พตัวน้อยจะทำสิ่งนี้ให้เขาได้?
แต่เมื่อคิดๆดู เรื่องนี้ก็พอมีเหตุผล
เพราะปลาคาร์พคือหัวใจของมิติยาพิษ และมิติยาพิษก็เชื่อมโยงกับหอสงบใจ เป็นไปได้ว่าน่าจะมีสายสัมพันธ์อันเหนียวแน่นระหว่างทั้งคู่ คงมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้ปรมาจารย์ขงเลือกบ่มเพาะปลาคาร์ฟและปล่อยมันไว้ในมิติยาพิษตั้งแต่แรก
“ได้เลย” เมื่อได้รับอนุญาตจากจางเซวียน ปลาคาร์พกระโจนออกมา ด้วยการสะบัดหาง มันพุ่งลงสู่สระน้ำที่อยู่ใจกลางสวนด้านหลัง
ฟิ้ววววว!
น้ำในสระเริ่มหมุนวนเป็นเกลียวขนาดใหญ่
จากนั้นเกลียวน้ำก็ค่อยๆพุ่งสูงขึ้นสู่กลางอากาศและโอบล้อมต้นโพธิ์ไว้ ฉุดลำต้นของมันลอยสูงขึ้นจากพื้น
“เฮ้ย…”
จางเซวียนไม่คิดว่าการถอนต้นโพธิ์ล้ำค่าจะง่ายดายขนาดนี้ เขาตาโตด้วยความตื่นเต้น
ฟึ่บ!
จางเซวียนรีบเก็บต้นโพธิ์เข้าสู่รังนางพญามดและหาพื้นที่ว่างเพื่อปลูกมัน หลังจากที่ปลูกต้นโพธิ์เสร็จได้ไม่นาน สระน้ำก็มาปรากฏอยู่บริเวณโดยรอบต้นโพธิ์ ปลาคาร์ฟหลายตัวว่ายวนอย่างรื่นเริงเบิกบานอยู่ในนั้น เกิดน้ำกระเซ็นออกมาเป็นระยะ
จางเซวียนรีบสำรวจต้นโพธิ์ที่ปลูกใหม่และสังเกตเห็นว่าแม้จะถูกเคลื่อนย้าย มันก็ไม่เหี่ยวแห้ง พุ่มใบของมันกลับดกหนาและเขียวชอุ่มขึ้นอีก แถมยังดูเหมือนจะเข้ากันได้ดีกับต้นโพธิ์อีกต้นหนึ่งที่เขาได้มาจากราชวงศ์แห่งจักรวรรดิหงหย่วนด้วย ทั้งสองรวมกันเป็นหนึ่ง ก่อเกิดเป็นเส้นทางที่สามารถบ่มเพาะทั้งจิตวิญญาณและระดับความล้ำลึกของจิตวิญญาณของผู้ได้พบเห็น
“ด้วยสิ่งนี้ เราจะไม่ต้องเผชิญปัญหากับการพยายามฝ่าด่านวรยุทธไปสู่ขั้นนักปราชญ์โบราณอีกแล้ว!” จางเซวียนหัวเราะหึๆ
เมื่อมีต้นโพธิ์อยู่ในรังนางพญามด เขาก็สามารถฝึกฝนวรยุทธได้ทุกเมื่อที่มีเวลา การที่ระดับความล้ำลึกของจิตวิญญาณของเขาจะแตะ 30.0 คงกลายเป็นความจริงได้ในอีกไม่นาน
แน่นอนว่าวิธีการที่เร็วที่สุดก็ยังคงเป็นการกินผลโพธิ์ แต่แม้ระดับความล้ำลึกของจิตวิญญาณของเขาใกล้จะแตะระดับของการฝ่าด่านวรยุทธเต็มที แต่วรยุทธก็ยังอ่อนด้อยอยู่ เขารู้สึกว่าผลโพธิ์น่าจะมีประโยชน์มากกว่าหากมอบให้ท่านพ่อท่านแม่ของเขาและคนอื่นๆ
“ท่านอาจารย์…”
เห็นต้นโพธิ์ถูกถอนออกไป จ้าวหย่ากับคนอื่นๆถึงกับตกตะลึง เมื่อครู่นี้เองที่ท่านอาจารย์เพิ่งสั่งการให้พวกเธอฝึกฝนวรยุทธใต้ต้นโพธิ์ แต่พริบตาต่อมา เขาก็นำมันออกไปเสียแล้ว
จางเซวียนกระแอมให้ลำคอโล่งและพูดว่า “พวกคุณควรเข้าไปฝึกฝนวรยุทธในมิติลี้ลับของผม”
ในเมื่อเขาถอนต้นโพธิ์ออกมาแล้ว ก็ไม่มีเหตุผลที่ทุกคนจะต้องอ้อยอิ่งอยู่ในพื้นที่นี้อีก จางเซวียนจึงโบกมือและสั่งการให้หญิงสาวทั้งสามเข้าสู่รังนางพญามด จากนั้นก็ปล่อยให้พวกเธอฝึกฝนระดับความล้ำลึกของจิตวิญญาณ แล้วเขาก็รีบเดินทางออกจากหอสงบใจ
…..
หลังจากที่ถูกจับโยนออกจากหอสงบใจพร้อมกับกระดูกกระเดี้ยวที่หักไม่มีชิ้นดี เด็กวัยรุ่นทั้ง 9 จาก 100 สำนักแห่งนักปราชญ์พากันตัวสั่นด้วยความโกรธเกรี้ยว สีหน้าของพวกเขาคลุ้มคลั่ง ดูเหมือนแต่ละคนใกล้จะถูกธาตุไฟเข้าแทรกเต็มที
หลังจากกินยาเม็ดฟื้นฟูร่างกายขนานใหญ่เกรด 9 แล้ว กระดูกที่แตกหักก็เริ่มสมานตัวเข้าด้วยกัน แต่ความเคืองแค้นของพวกเขายังคงฝังรากลึก
เมื่อทนไม่ไหวอีกต่อไป วัยรุ่นคนหนึ่งตั้งคำถาม “กงฉี่ฉิง คราวนี้เราจะทำอย่างไร?”
ชายหนุ่มที่ชื่อกงฉี่ฉิงเป็นหัวหน้ากลุ่ม เขาคือคนที่ก่อนหน้านี้ได้ออกคำสั่งกับเว่ยหรูเหยียนและจางเซวียน เป็นทายาทของนักปราชญ์โบราณจื่อหัว
“เราจะปล่อยให้เรื่องนี้ผ่านไปไม่ได้!” กงฉี่ฉิงกัดฟันตอบอย่างโกรธแค้น
เพราะเป็นทายาทของ 100 สำนักแห่งนักปราชญ์ ในสายตาของเขา พลเมืองของทวีปแห่งปรมาจารย์ก็ไม่ต่างอะไรกับคนป่า
คนป่าพวกนี้ควรจะภาคภูมิใจที่ได้ทำประโยชน์ให้กับพวกเขาในวิหารแห่งขงจื๊อแต่ไม่เพียงคนเหล่านั้นจะฉกฉวยทรัพย์สมบัติล้ำค่าไป ยังซ้อมพวกเขาจนอยู่ในสภาพนี้ด้วย มันคืออาชญากรรมขั้นร้ายแรง ให้อภัยไม่ได้!
“เราจะต้องสั่งสอนบทเรียนให้พวกนั้น เพื่อที่มันจะได้รู้ว่าอย่ามาล้ำเส้นกับ 100 สำนักแห่งนักปราชญ์อีก”
“เจ้าจางเซวียนนั่นดูไม่แข็งแกร่งเท่าไหร่ แต่สาวน้อยคนนั้นที่ชื่อหลัวฉีฉีน่ะมีวรยุทธสูงเกินกว่าที่พวกเราจะรับมือได้ในตอนนี้”
“จ้าวหย่ากับเว่ยหรูเหยียนก็สำเร็จวรยุทธขั้นชั่วกัลปาวสาน โลกจารึกแล้วเช่นกัน”
“ถ้าสู้กันล่ะก็ พวกเราคงรับมือไม่ไหวหรอก!”
…..
ต่างคนต่างหารือกันด้วยความกังวล
พวกเขาโมโห แต่ก็รู้ดีว่าคู่ต่อสู้เหนือชั้นกว่ามาก
“เราอาจรับมือกับพวกเขาไม่ไหว แต่การต้องสูญเสียผลโพธิ์ไปถือเป็นเรื่องใหญ่ บรรพบุรุษเก่าแก่ของเราจะต้องรับรู้เรื่องนี้ ผมจะส่งข้อความหาเขาเดี๋ยวนี้แหละ…” กงฉี่ฉิงคำราม
กงฉี่ฉิงกัดฟันอดทนกับความเจ็บปวดจากกระดูกที่เพิ่งสมานตัวใหม่ เขานำตราหยกสัญลักษณ์ออกมาอันหนึ่งและส่งรายละเอียดเรื่องความขัดแย้งที่เกิดขึ้นออกไป แต่ไม่ได้ลงลึกว่าใครเป็นตัวการ บอกเพียงแค่ว่าผลโพธิ์ถูกขโมยไปและพวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส
หลังจากที่ส่งข้อความไปได้เพียงครู่เดียว แรงกดดันหนักหน่วงก็ถาโถมลงมาจากสวรรค์ มันรุนแรงมหาศาลเสียจนทำให้ทุกคนแทบหายใจหายคอไม่ออก
จากนั้นผู้อาวุโสคนหนึ่งก็ปรากฏตัว หลังจากเห็นสภาพของเด็กวัยรุ่นทั้ง 9, ผู้อาวุโสก็หน้าดำคร่ำเครียดขณะถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”
ขณะที่พูด เลือดหยดหนึ่งก็หยดออกมาจากปลายนิ้วของเขา มันแตกตัวออกเป็น 9 ส่วน และแต่ละส่วนก็ถูกซึมซับเข้าสู่ร่างของเด็กวัยรุ่นทั้ง 9 คน ในชั่วพริบตา อาการบาดเจ็บที่พวกเขาได้รับก็เริ่มเยียวยาตัวเองอย่างรวดเร็วจนเห็นได้ชัด กระแสพลังงานและความมีชีวิตชีวาพลุ่งพล่านอยู่ในเส้นเลือด เพียงไม่นาน ทุกคนก็ฟื้นคืนสู่พละกำลังระดับเดิม
นี่คือความสามารถหนึ่งของนักปราชญ์โบราณ, การเกิดใหม่ของสายเลือด!
ผู้อาวุโสคนนั้นเป็นนักปราชญ์โบราณ!
“บรรพบุรุษเก่าแก่ คุณต้องชดเชยความเสียหายให้พวกเรานะ”
หลังจากฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ กงฉี่ฉิงกับคนอื่นๆทรุดตัวลงคุกเข่ากับพื้นและร่ำร้องด้วยความเสียใจ
“ใครเป็นตัวการ?” ผู้อาวุโสหรี่ตา รังสีที่เขาแผ่ออกมาเย็นเยียบยิ่งกว่าเดิม
ผู้อาวุโสคนนี้ดูมีอายุราว 60 ปีและไม่มีเครา นัยน์ตาของเขาฉายแววของความเด็ดเดี่ยว แต่ใบหน้าออกจะซีดเผือดเล็กน้อย ยากที่จะบอกได้ว่าเป็นเพราะความเหน็ดเหนื่อยจากการเดินทางทะลุมิติอย่างพรวดพราด หรือเป็นเพราะเขาได้พบอันตรายบางอย่างและได้รับบาดเจ็บ
“ตัวการคือปรมาจารย์คนหนึ่งจากทวีปแห่งปรมาจารย์” กงฉี่ฉิงกัดฟันตอบ “พวกเราพาเว่ยหรูเหยียนเข้าสู่หอสงบใจและจัดการให้เธอบ่มเพาะผลโพธิ์จนสุกเต็มที่ แต่จู่ๆหมอนั่นก็เข้ามาและฉกฉวยผลโพธิ์ที่แก่จัดแล้วไปจากมือของพวกเรา แถมยังทำร้ายเรา หักแข้งขาของพวกเราด้วย…”
“คุณได้แสดงตัวตนของพวกคุณกับเขาหรือเปล่า?”
“พวกเราบอก! เราบอกเขาแล้วว่าเรามาจาก 100 สำนักแห่งนักปราชญ์ และผลโพธิ์เหล่านี้มีความสำคัญกับเรามาก เราถึงกับยอมมอบผลโพธิ์ผลหนึ่งให้เขาเป็นการชดเชยด้วย แต่ไอ้สารเลวนั่นก็ยังโจมตีเรา” กงฉี่ฉิงตอบอย่างหงุดหงิด
“เหล่าปรมาจารย์ของทวีปแห่งปรมาจารย์จองหองขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?” ผู้อาวุโสคำรามด้วยความโกรธเกรี้ยว
ในชั่วพริบตานั้น ก็ราวกับมีใครสักคนจุดไฟให้รังสีของเขา รังสีแผดกล้าออกจากร่างของผู้อาวุโส ทำลายทุกสิ่งที่อยู่รอบตัว ผู้ที่ต้องเผชิญหน้ากับรังสีนี้ก็มีแต่จะตัวสั่นด้วยความหวาดกลัว ไม่กล้าแม้จะพูดสักคำ
ทั้ง 100 สำนักแห่งนักปราชญ์และสภาปรมาจารย์ต่างมีต้นกำเนิดมาจากปรมาจารย์ขง ซึ่งความถูกต้องชอบธรรมเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดสำหรับพวกเขา ในเมื่อ 100 สำนักแห่งนักปราชญ์เป็นผู้บ่มเพาะผลโพธิ์ให้สุกเต็มที่ ก็ถือว่าไม่เหมาะสมที่อีกฝ่ายซึ่งเป็นปรมาจารย์จะเข้ามาใช้พละกำลังฉกฉวยมันไป ถ้าใครต่อใครใช้พละกำลังเข้าต่อสู้แย่งชิงทุกสิ่งทุกอย่างแบบนี้ จะต่างอะไรกับเผ่าพันธุ์ปีศาจ?
“ผู้อาวุโส คุณต้องชดเชยความเสียหายให้พวกเรานะ ขอวิงวอนคุณให้สังหารหมอนั่นให้เราที!”
“ต่อให้ไว้ชีวิตเขา อย่างน้อยที่สุด สิ่งที่เราต้องทำก็คือหักแขนขาของเขาให้หมด เพื่อที่หมอนั่นจะได้เรียนรู้บทเรียนอันเจ็บปวดจากความจองหองของตัวเอง”
เมื่อเห็นว่าสามารถยั่วยุความแค้นเคืองของบรรพบุรุษเก่าแก่ได้ เด็กวัยรุ่นทั้ง 9 ต่างคำรามลั่น
“วางใจเถอะ ผมจะชดเชยความเสียหายให้พวกคุณเอง” ผู้อาวุโสพยักหน้า
เขาแผ่การรับรู้จิตวิญญาณออกไปยังพื้นที่โดยรอบ จากนั้นเสียงของผู้อาวุโสก็ดังกึกก้องไปทั่ว “ปรมาจารย์ที่เพิ่งผ่านเข้ามา ไม่ทราบว่าคุณเป็นทายาทของใคร? ผมหวังว่าคุณจะมีคำอธิบายที่เหมาะสมต่อการที่คุณทำร้ายทายาทของผมแบบนี้ ไม่อย่างนั้น จะมากล่าวหาว่าผมไร้ความปรานีไม่ได้นะ”
ฟิ้วววว!
ลมหอบหนึ่งพัดมา แต่ก็ไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆ
“เท่าที่เห็น ดูเหมือนเขาจะไม่ใช่ทายาทของนักปราชญ์โบราณคนไหนหรอก และในเมื่อเขาไม่ได้อยู่ภายใต้การปกป้องของใคร ผมก็จะไม่เกรงใจละนะ…” ผู้อาวุโสคำราม รังสีโหดเหี้ยมระเบิดออกจากร่างของเขา
ในตอนนั้นเอง เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่ยืนอยู่หลังผู้อาวุโสก็อุทานออกมาอย่างร้อนรน “บรรพบุรุษเก่าแก่ หมอนั่นกำลังมา!”
ไม่ช้า แสงนวลตาก็แผ่ออกมาจากทางเข้าหอสงบใจ ร่างหนึ่งปรากฏขึ้นต่อหน้าต่อตาทุกคน
“เราจะต้องทำให้เขารู้ซึ้งว่าไม่ควรเข้ามาวุ่นวายกับ 100 สำนักแห่งนักปราชญ์!” กงฉี่ฉิงคำราม
แต่พริบตาต่อมา เขาก็เห็นร่างของบรรพบุรุษเก่าแก่แข็งทื่อไป สีหน้าของความไม่อยากเชื่อปรากฏชัดบนใบหน้าของอีกฝ่าย “คนที่พวกคุณพูดถึง…คนที่ฉกฉวยผลโพธิ์ไปจากพวกคุณน่ะ…คือจางเซวียนหรือ?”
“ใช่แล้ว เขาคือไอ้สารเลวที่เล่นงานพวกเรา” กงฉี่ฉิงพยักหน้า
“ผมรู้แล้วล่ะ…แต่พอดีผมมีบางเรื่องที่ต้องรีบจัดการ ต้องขอตัวก่อน เรื่องเล็กน้อยแบบนี้คงไม่ต้องถึงมือผมหรอก พวกคุณจัดการกันเองก็แล้วกันนะ!”
เกิดเสียงดังฟึ่บ!
บรรพบุรุษเก่าแก่หายวับไปทันที
“….” กงฉี่ฉิง
“….” เด็กวัยรุ่นคนอื่นๆ