อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 1794 ซึมซับแม่เหล็ก
อำมาตย์ทั้งสองไม่ได้มีพละกำลังอ่อนด้อยกว่าเขา อันที่จริง ด้วยสถานภาพของทั้งคู่ พวกเขามีองครักษ์มากมายนับไม่ถ้วนคอยคุ้มกัน การจะเข้าท้าทายพวกเขาย่อมหมายถึงการฆ่าตัวตาย!
ต่อให้เขาได้เทคนิคการควบคุมอำนาจของแม่เหล็กมา ก็ต้องรักษาชีวิตไว้ให้ได้เพื่อจะได้ใช้ประโยชน์จากมัน!
“นักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวินคงไม่ได้กลัวสองอำมาตย์นั่นหรอกนะ ใช่ไหม?” จางเซวียนถามพร้อมกับยิ้มน้อยๆ
“ผมไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับการต่อสู้แย่งชิงอำนาจภายในเผ่าพันธุ์ปีศาจอีกแล้ว และไม่ต้องการเสี่ยงอันตรายเพราะมันด้วย” นักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวินตอบอย่างสุขุมพร้อมกับโบกมือ “ถ้าเรื่องนี้ทำให้คุณคิดว่าผมขี้ขลาดล่ะก็ เชิญคิดตามสบาย!”
“ในเมื่อคุณพูดอย่างนั้น นักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวิน, ก็คงไม่เหมาะนักที่พวกเราจะรบกวนคุณอีก แต่ก่อนที่จะอำลา มีอย่างหนึ่งที่ผมจะขอแนะนำคุณ” จางเซวียนพูดพร้อมกับหรี่ตา
“อำนาจของแม่เหล็กเป็นพละกำลังพิเศษที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ผมเข้าใจเหตุผลของคุณที่เลือก ศึกษาอำนาจนี้ เพื่อจะได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองและสำเร็จวรยุทธขั้นผู้ทำลายล้างมิติ แต่การกระทำแบบนั้นไม่ต่างอะไรกับความพยายามกลืนกินอำนาจสวรรค์ ทั้งกายเนื้อและจิตวิญญาณของคุณจะต้องได้รับผลกระทบจากแรงตีกลับของการกระทำนั้น…”
“ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด การที่คุณอยู่ที่ภูเขาสินแร่แม่เหล็กดึกดำบรรพ์ถึง 3000 ปีน่ะไม่ใช่เพราะคุณไม่อยากไปจากที่นี่ แต่เพราะการจะทำอย่างนั้นเป็นเรื่องยากมาก ใช่ไหม?”
แม้ดูเผินๆ นักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวินจะทรงพลัง แต่อันที่จริง เขาอยู่ในสถานภาพที่ล่อแหลมมาก พฤติกรรมของเขาในการพยายามกลืนกินอำนาจของแม่เหล็กอาจเรียกได้ว่าเป็นการท้าทายเจตจำนงของสวรรค์ หากเขาทิ้งภูเขาสินแร่แม่เหล็กดึกดำบรรพ์ไป ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการลงทัณฑ์จากสวรรค์จะต้องตรงเข้าเล่นงานเขาแน่
ด้วยเหตุนี้ แม้จะเป็นนักรบขั้นการฟื้นคืนชีพของสายเลือดผู้หยิ่งผยอง แต่ลงท้าย เขาก็เลือกที่จะ ฝังตัวอยู่ในดินแดนรกร้างแห่งนี้ ไม่กล้าจากมันไป
นักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวินนัยน์ตาเบิกโพลงเมื่อได้ยินคำพูดของจางเซวียน แต่ก็ปฏิเสธทันควันพร้อมกับคำราม “ด้วยพละกำลังของผมในตอนนี้ คุณคิดว่าผมจะหวาดกลัวกับแค่การลงทัณฑ์ของสวรรค์หรือ? ถ้าผมอยากออกไป ก็ไม่มีใครยับยั้งผมได้ ต่อให้สวรรค์ก็เถอะ!”
ก็จริงที่ว่าเขาเกรงกลัวการลงทัณฑ์จากสวรรค์ แต่ตราบใดที่เขาทุ่มสุดตัว ก็มั่นใจว่าจะสามารถออกไปโดยยังมีชีวิตอยู่ได้ เพียงแต่จะมีความเสี่ยงมากสักหน่อยเท่านั้น
“ผมเข้าใจ…ผมดีใจนะที่ได้รู้ว่าคุณมั่นใจ ขออภัยด้วยที่จุ้นจ้านไปสักหน่อย แต่ผมอยากให้คำแนะนำกับคุณเป็นข้อสุดท้าย อำนาจของแม่เหล็กเป็นแหล่งพละกำลังอันน่าทึ่ง แต่การจะหลอมรวมมันเข้ากับสายเลือดของคุณน่ะไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก เพราะมันจะทำให้คุณพบเจอกับปัญหาไม่จบไม่สิ้นในอนาคต คุณจะไม่อาจทำนายได้เลยว่าทางเดินพลังปราณกับร่างกายของคุณจะแปรสภาพไปอย่างไรบ้างจากผลของมัน!”
จางเซวียนส่ายหัวและหันกลับไปพูดกับหวู่เฉิน “ไปกันเถอะ!”
“ไป?” หวู่เฉินถึงกับชะงัก
เหตุผลที่เขาลงทุนมาถึงนี่ก็เพื่อจะหว่านล้อมให้นักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวินยอมเป็นพรรคพวก แต่นี่เพิ่งพูดคุยกันได้ไม่กี่คำ ยังไม่ได้ตกลงอะไรกันเลย ก็จะกลับเสียแล้ว
การขอความช่วยเหลือจากนักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวินไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นสิ่งที่พวกเขาต้องทำ หากอีกฝ่ายไม่ช่วย โอกาสที่พวกเขาจะประสบความสำเร็จก็มีน้อยมาก หรือบางทีอาจไม่มีทางเป็นไปได้เลย!
ฟิ้วววว!
ขณะที่หวู่เฉินกำลังครุ่นคิดหนัก จางเซวียนก็ออกจากพื้นที่ไปแล้ว หวู่เฉินลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจตามชายหนุ่มไป
เพราะได้เข้าสู่อาณาจักรโบร่ำโบราณที่ภูเขาห้วยขาวพร้อมกับจางเซวียน หวู่เฉินจึงรู้ดีว่าชายหนุ่มมีความสามารถพิเศษเหนือกว่าใครๆ เขาคงมีเหตุผลที่เลือกทำแบบนี้
หลังจากบินไปได้ครู่หนึ่ง จางเซวียนก็หยุดกึก เขาลอยตัวอยู่กลางอากาศและเขม้นมองไปยังทิศทางที่เพิ่งจากมา
“คราวนี้เราจะทำอย่างไร?” หวู่เฉินตั้งคำถามพร้อมกับขมวดคิ้ว
“เราจะรออยู่ที่นี่แหละ ใครจะรู้? บางทีนักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวินอาจเปลี่ยนใจมาเข้าร่วมกับเราก็ได้” จางเซวียนตอบพร้อมส่งรอยยิ้มลึกลับ
คำถามมากมายนับไม่ถ้วนผุดขึ้นในสมองของหวู่เฉิน
นักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวินรู้ตัวว่าจะต้องรับการลงทัณฑ์จากสวรรค์หากออกไปจากภูเขาสินแร่แม่เหล็กดึกดำบรรพ์ แล้วมันเรื่องอะไรที่จู่ๆเขาจะเปลี่ยนใจและยอมเสี่ยงด้วยการมาเข้าร่วมกับพวกเขา?
แต่หวู่เฉินก็รู้ว่าจางเซวียนคงไม่พูดอะไรแบบนั้นโดยปราศจากเหตุผล จึงยืนอยู่เงียบๆและเขม้นมองไปทางทิศที่หลุมดำตั้งอยู่
…..
“เจ้าหนุ่มนั่นรู้ได้อย่างไรว่าเรากำลังซึมซับสินแร่แม่เหล็กในหลุมดำเข้าสู่ร่างกาย?” นักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวินพึมพำอย่างงุนงง
เหตุผลที่เขาสามารถควบคุมอำนาจของแม่เหล็กได้ไม่ใช่เพราะความปราดเปรื่องที่เหนือชั้นกว่าธรรมดา แต่เพราะเขาได้ใช้เวลาถึง 3 พันปีในส่วนลึกของหลุมดำเพื่อซึมซับสินแร่แม่เหล็กเข้าสู่ร่างกายของเขา
สินแร่แม่เหล็กเป็นแม่เหล็กชนิดหนึ่งที่แผ่สนามแม่เหล็กอันทรงพลังออกจากตัวมัน หากใครสักคนสามารถควบคุมสนามแม่เหล็กตามธรรมชาติของโลกได้ ผู้นั้นก็จะสามารถบังคับและโจมตีพลังปราณของคู่ต่อสู้ ทำให้อีกฝ่ายปราศจากเรี่ยวแรง
“ช่างมันเถอะ มัวคิดมากเรื่องที่เจ้าหนุ่มนั่นพูดก็ไม่มีประโยชน์ อีกเพียงก้าวเดียวเราก็จะซึมซับสินแร่แม่เหล็กเข้าสู่ร่างกายของเราได้แล้ว รีบทำมันให้สำเร็จก่อนจะเจอเรื่องยุ่งยากกว่านี้จะดีกว่า…”
เมื่อไม่อาจทำความเข้าใจคำพูดของชายหนุ่ม นักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวินตัดสินใจทิ้งเรื่องนั้นไป เขาดำดิ่งกลับเข้าสู่ความมืดมิดของหลุมดำ และไม่ช้าก็มาถึงบริเวณที่ลึกที่สุด
มีหิน 5 สีก้อนหนึ่งวางอยู่ตรงหน้าเขา มันแผ่ลำแสงเจิดจ้าออกมา ดูเหมือนจะเป็นแหล่งพลังงาน แม่เหล็กปริมาณมหาศาลที่อยู่ในพื้นที่ นักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวินทาบฝ่ามือลงไป จากนั้นก็สูดหายใจลึกก่อนจะปล่อยพลังเข้าใส่สินแร่แม่เหล็ก พยายามซึมซับมัน
เขาใช้เวลาถึงหนึ่งพันปีเพื่อเข้าใกล้สินแร่แม่เหล็ก และอีกหนึ่งพันปีเพื่อจะได้ทาบฝ่ามือลงบนสินแร่นั้น ในตอนนี้ ขอแค่เขาถ่ายทอดพลังปราณเข้าสู่สินแร่แม่เหล็กได้ ก็จะซึมซับมันได้สำเร็จ
สิ่งที่ยังขาดอยู่คือก้าวสุดท้าย
ทันทีที่เขาทำสำเร็จ ตัวเขาจะไม่ต่างอะไรกับภูเขาสินแร่แม่เหล็กดึกดำบรรพ์ที่เคลื่อนที่ได้ เขาไม่จำเป็นต้องหวาดกลัวการลงทัณฑ์จากสวรรค์ และพร้อมเล่นงานคู่ต่อสู้ทุกคนอย่างง่ายดาย
ฟิ้วววว!
ขณะที่นักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวินปล่อยพลังปราณเข้าสู่สินแร่แม่เหล็กเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ร่างของเขาก็ดูจะหลอมรวมเข้ากับอำนาจของแม่เหล็ก ไม่ช้า สินแร่แม่เหล็กก็เริ่มจำนนต่อพละกำลังของเขา มันค่อยๆหลอมรวมเข้ากับฝ่ามือของเขาอย่างช้าๆ
“สำเร็จแล้ว!” นักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวินนัยน์ตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น เขารีบส่งพลังงานเข้าไปเพื่อเร่งกระบวนการซึมซับ
บึ้มมมม!
เมื่อก้อนหิน 5 สีกลายเป็นหนึ่งเดียวกับมือของเขา ลำแสงเจิดจ้าก็ระเบิดออกจากร่าง ราวกับจะบ่งบอกถึงวิวัฒนาการในการก้าวสู่ขั้นที่สูงขึ้น
เมื่อรู้สึกได้ถึงอำนาจของแม่เหล็กที่พลุ่งพล่านทั่วร่างกาย นักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวินหัวเราะร่าราวกับจะประกาศชัยชนะ เขาพยายามขับเคลื่อนพลังปราณเพื่อทดสอบประสิทธิภาพการต่อสู้ที่ได้มาใหม่ ก็พอดีกับที่ต้องตัวแข็งทื่อไป ด้วยเหตุผลอะไรสักอย่าง พลังปราณในร่างของเขาดูจะถูก พละกำลังบางชนิดสกัดกั้นไว้ ทำให้ไม่อาจขับเคลื่อนมันได้อย่างอิสระเหมือนเดิม
“เกิดอะไรขึ้น?” นักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวินหรี่ตาด้วยความตกตะลึง
เขารีบตรวจสอบร่างกายของตัวเอง พริบตาต่อมา ใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดด้วยความพรั่นพรึง
นักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวินพบว่าทางเดินพลังปราณของเขาสูญเสียความยืดหยุ่นที่เคยมีแต่เดิม มันสะท้อนประกายโลหะออกมา ราวกับว่าพวกมันทำจากเหล็ก การเปลี่ยนแปลงคุณสมบัติของทางเดินพลังปราณของเขาทำให้พลังปราณไหลเวียนผ่านมันไปได้ยากมาก
“มันค่อยๆแปรสภาพกลายเป็นหิน…นี่เรากำลังกลายเป็นหินหรือ?”
ความเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ทางเดินพลังปราณ แต่ทั้งกล้ามเนื้อและเส้นเลือดก็เริ่มแข็งทื่อ เขารู้สึกได้อย่างชัดเจนว่าประสาทสัมผัสเสื่อมสภาพไป ราวกับความตายกำลังเดินทางเข้ามาและกลืนกินจิตใต้สำนึกของเขาไปอย่างช้าๆ
ในตอนนั้น ไม่มีทางที่นักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวินจะไม่รู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น
ขณะที่เขาพยายามซึมซับสินแร่แม่เหล็กเพื่อดึงอำนาจของแม่เหล็กมาเป็นของตัวเอง อำนาจของแม่เหล็กก็ได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างในร่างกายของเขาอย่างเงียบๆ พยายามจะเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นแม่เหล็กอันใหญ่!
อีกนัยหนึ่ง สิ่งนี้เหมือนกับการที่วัตถุซึ่งมีอำนาจแม่เหล็กจะมีคุณสมบัติเหมือนแม่เหล็กหากได้สัมผัสกับสนามแม่เหล็กอย่างต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน
โครงสร้างภายในร่างกายของเขาถูกปรับเปลี่ยนอย่างช้าๆโดยที่เขาไม่รู้ตัว
หากเขาเป็นสิ่งไม่มีชีวิต การเปลี่ยนแปลงแบบนี้คงไม่ทำให้เกิดอะไรขึ้น แต่เขาเป็นสิ่งมีชีวิต! ทันทีที่ร่างกายและทางเดินพลังปราณของเขาแปรสภาพเป็นหินทั้งหมด เขาจะยังพูดหรือสู้รบได้หรือ? สติสัมปชัญญะของเขาจะยังคงอยู่หรือเปล่า?
แม้แต่จิตวิญญาณของเราก็กำลังถูกอำนาจของแม่เหล็กดูดกลืน นักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวินครุ่นคิดด้วยความพรั่นพรึง เหงื่อเย็นๆเกาะพราวที่หน้าผาก
ไม่ใช่แค่ทางเดินพลังปราณและร่างกายของเขาเท่านั้นที่ค่อยๆแข็งตัว แม้แต่เลือดและจิตวิญญาณของเขาก็ไม่ได้รับการละเว้น นักปราชญ์โบราณผู้ทรงพลังอย่างเขาจะต้องจบชีวิตแบบนี้จริงๆหรือ?
“ปัญหาไม่จบไม่สิ้น, การแปรสภาพ…เจ้าหนุ่มนั่นต้องรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้แน่…” เมื่อรู้แล้วว่าตัวเขาเข้าใกล้ความตายเต็มที นักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวินนึกถึงคำพูดที่เคยได้ยินจากชายหนุ่ม เขากำหมัดแน่น
ไม่เพียงแต่เจ้าหนุ่มคนนั้นจะรู้ว่าเขากำลังซึมซับสินแร่แม่เหล็ก ยังรู้แม้กระทั่งผลกระทบของการทำแบบนั้นด้วย ถ้าเขาอยากจะหลุดพ้นจากสภาพที่เป็นอยู่ตอนนี้ เดิมพันที่เข้าท่าที่สุดก็คือต้องขอความช่วยเหลือจากชายหนุ่ม!
ฟิ้วววว!
นักปราชญ์โบราณเฮ่าฉวินรู้แล้วว่าชีวิตของเขากำลังนับถอยหลัง แล้วจะมัวลังเลได้อย่างไร? เขาบินขึ้นจากหลุมดำและพุ่งตรงไปยังทิศทางที่จางเซวียนกับหวู่เฉินหายลับไป