อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 1918 หนอนกู้
ตั้นเฉี่ยวเทียนไม่ใช่คนเดียวที่อึ้งกับข้อเสนอของจางเซวียน แม้แต่ผู้อาวุโสอี้ก็ชะงัก เขาอ้าปากค้าง “นายท่านจาง นี่เรื่องใหญ่นะ ขอโทษเถอะ แต่ผมคงต้องขอร้องคุณว่าอย่าสร้างปัญหา!”
ชีวิตของพวกเขาอยู่บนเส้นด้าย แต่อีกฝ่ายยังมีอารมณ์จะพูดตลก ถ้าเขารู้ว่าหมอนี่จะไว้ใจไม่ได้ขนาดนี้ จะไม่มีวันปล่อยให้นายน้อยที่ 3 ช่วยชีวิตและนำตัวหมอนี่กลับมา!
เห็นสีหน้าของทั้งคู่ จางเซวียนดูออกว่าทั้งคู่แคลงใจในความสามารถของเขา จึงเอาสองมือไพล่หลังขณะวางมาดอย่างผู้เชี่ยวชาญตัวจริง แต่การวางมาดของเขาก็ต้องสะดุดเพราะอาการบาดเจ็บที่ได้รับ ทำให้หน้าตาบิดเบี้ยวอย่างน่าสมเพช
จางเซวียนสูดปากเล็กน้อยขณะพยายามระงับความเจ็บปวดและวางมาดผู้เชี่ยวชาญต่อไป “ทางเดินพลังปราณของคุณได้รับบาดเจ็บตั้งแต่คุณอายุยังน้อย ทำให้ร่างกายไม่อาจขับเคลื่อนพลังปราณได้ ในเวลาเดียวกัน จุดตันเถียนของคุณก็บอบช้ำด้วย จึงสะสมพลังงานไว้ไม่ได้เลย ส่งผลให้คุณหมดความสามารถในการฝึกฝนวรยุทธอย่างสิ้นเชิง การวิเคราะห์ของผมถูกต้องไหม?”
ตั้นเฉี่ยวเทียนพยักหน้ารับ
เขาอายุเพียง 6 ขวบตอนที่เกิดเหตุการณ์นั้นขึ้นกับตระกูลตั้น ทำลายทั้งจุดตันเถียนและทางเดินพลังปราณของเขา เขาไม่อาจเยียวยามันได้นับแต่บัดนั้น ด้วยเหตุนี้ แม้จะใช้เวลาฝึกฝนศิลปะเพลงดาบทุกวัน แต่ก็ไม่สามารถถ่ายทอดพลังปราณเข้าสู่ศิลปะเพลงดาบของเขาได้ พูดอีกอย่างก็คือกระบวนท่าของเขาเป็นเพียงรูปแบบภายนอกเท่านั้น ปราศจากแก่นสารที่แท้จริง
ตั้นเฉี่ยวเทียนได้ปรึกษานายแพทย์มากมายเกี่ยวกับอาการของเขา แต่ไม่มีใครรักษาได้ ลงท้ายเขาก็ถอดใจ
“แล้วคุณรู้ไหมว่าสาเหตุที่ทำให้จุดตันเถียนและทางเดินพลังปราณของคุณได้รับความบอบช้ำคืออะไร?” จางเซวียนตั้งคำถาม
“พลังปราณรุนแรงบางชนิดซึมซาบเข้าสู่ร่างของผม ส่งผลทำลายล้างและสร้างความบอบช้ำไปทั่ว ผมยังมีชีวิตอยู่ก็บุญแล้ว” ตั้นเฉี่ยวเทียนตอบ
นั่นคือคำวินิจฉัยของนายแพทย์ส่วนใหญ่ที่เขาได้พบ
“พลังปราณ?” จางเซวียนส่ายหน้า “ถ้ามันคือผลจากพลังปราณของนักรบคนอื่นที่ตกค้างอยู่ในร่างของคุณ ในเมื่อคุณหมั่นเพียรฝึกฝนวรยุทธทุกวันเพื่อหวังจะฟื้นฟูสภาพร่างกายของตัวเอง คุณคิดว่ามันจะเป็นไปไม่ได้เชียวหรือที่อาการจะไม่ดีขึ้นเลยสักนิดทั้งที่เวลาก็ผ่านไปหลายปีแล้ว?”
คำถามนั้นทำให้ตั้นเฉี่ยวเทียนอึ้ง
นั่นคือสิ่งที่เขาสงสัยเช่นกัน
กว่า 10 ปีแล้วที่เขาหาทางปรึกษานายแพทย์ผู้มีชื่อเสียงมากมาย และทดลองวิธีการรักษาหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นยาน้ำ ยาเม็ด การฝังเข็ม การอาบสมุนไพร…แต่ก็ไม่มีวิธีไหนได้ผล ร่างกายของเขาพรุนราวกับกระสอบ ไม่ว่าจะซึมซับพลังจิตวิญญาณชนิดไหนเข้าไปมันก็เสื่อมสลายไปหมด ทำให้เขาไม่อาจยกระดับวรยุทธได้เลย
บรรดานายแพทย์ชื่อดังเหล่านั้นบอกเขาว่ามันคือผลพวงจากพลังปราณฤทธิ์แรงที่ตกค้างอยู่ในร่างกายของเขา ส่งผลให้ความพยายามทั้งหมดทั้งมวลไม่เป็นผล นายแพทย์เหล่านั้นให้คำมั่นว่าวิธีการรักษาของพวกเขาจะช่วยได้ แต่ก็ไม่มีใครทำสำเร็จ
เมื่อเวลาล่วงไป บรรดานายแพทย์ก็ละทิ้งการรักษาเขาไปทีละคนสองคน สุดท้ายก็ล้มเลิก
ตั้นเฉี่ยวเทียนครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตั้งคำถามกับจางเซวียน “ถ้ามันไม่ใช่ผลของพลังปราณรุนแรงที่ตกค้างอยู่ในร่างกายของผม จะมีอะไรที่ทำลายทางเดินพลังปราณและจุดตันเถียนของผมได้ แต่ไม่ทำให้ผมเสียชีวิต?”
ที่น่าประหลาดอย่างยิ่งเกี่ยวกับอาการของเขาก็คือเรื่องนี้ นอกเหนือจากการที่เขาไม่อาจฝึกฝนวรยุทธได้ ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตด้านอื่น เฉว่ชิงกล่าวหาว่าเขาหมดความสามารถในการทำหน้าที่สามี แต่นั่นไม่เป็นความจริง เขารู้ดีกว่าใครว่าตัวเองลืมตาตื่นด้วยอาการตื่นตัวทุกเช้า
“มันคือหนอนกู้” จางเซวียนอธิบาย “มีคนฝังหนอนกู้เข้าไปในตัวคุณ ส่งผลให้การรักษาทุกรูปแบบไม่เป็นผล!”
“หนอนกู้?” ตั้นเฉี่ยวเทียนผงะ “คุณกำลังบอกว่า…มีหนอนอาศัยอยู่ในตัวผมหรือ?”
“ไม่ใช่แค่อาศัยอยู่ มันดูดกลืนพลังงานทั้งหมดที่คุณฝึกฝนมาตลอดระยะเวลาหลายปี ตอนนี้มันจึงมีพลังและแข็งแกร่งมาก!” จางเซวียนเสริม
ด้วยหอสมุดเทียบฟ้า เขาเห็นต้นตอของปัญหาที่เกิดกับตั้นเฉี่ยวเทียนได้ในทันที
เหตุผลที่จุดตันเถียนกับทางเดินพลังปราณของอีกฝ่ายไม่อาจฟื้นคืนสภาพได้ตลอดหลายปีที่ผ่านมาแม้จะใช้ความพยายามมากมาย ก็เพราะมีใครบางคนฝังหนอนกู้เข้าไปในตัวเขา หนอนกู้กลืนกินพลังงานจากการฝึกฝนวรยุทธของตั้นเฉี่ยวเทียนอย่างไม่หยุดหย่อน และนั่นคือต้นเหตุที่ทำให้ ระดับวรยุทธของเขาเสื่อมถอยลงเรื่อยๆตลอด 10 ปีที่ผ่านมา
“มีหนอนที่มีชีวิตอยู่ในตัวผม…”
ตั้นเฉี่ยวเทียนหันไปขมวดคิ้วใส่ผู้อาวุโสอี้ อีกฝ่ายคิดหนักอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหน้า
สิ่งที่พวกเขาได้ฟังเหลือเชื่อเกินกว่าจะรับไหว
ถ้ามีหนอนกู้อยู่ในร่างของตั้นเฉี่ยวเทียนจริงๆตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ทำไมนายแพทย์มากมายที่พวกเขาปรึกษาจึงมองไม่เห็น? แล้วชายหนุ่มคนนี้รู้ได้อย่างไร?
“ผมรู้ว่าพวกคุณแคลงใจ ซึ่งผมก็เข้าใจนะ แต่ผมมีวิธีแก้ปัญหา” จางเซวียนดูออกว่าทั้งคู่ไม่เชื่อในสิ่งที่เขาพูด แต่นั่นไม่ใช่เรื่องใหญ่ “คุณมีเข็มเงินหรืออะไรทำนองนั้นไหม?”
ผู้อาวุโสอี้พยักหน้า เขาเดินเข้าไปในห้อง ไม่ช้าก็กลับมาพร้อมกับกล่องที่บรรจุเข็มเงินจำนวนหนึ่ง “นี่ไง”
อย่างคำพูดที่ว่ากันว่า ‘ผู้ที่เจ็บป่วยเรื้อรัง สุดท้ายก็มักกลายเป็นหมอเสียเอง’ ทั้งคู่พยายามเสาะหาวิธีการรักษาทุกรูปแบบตลอด 10 ปีที่ผ่านมา ดังนั้น ในที่พักของพวกเขาจึงมีอุปกรณ์การแพทย์พื้นฐานเกือบทุกชนิด
“เอาล่ะ ดูให้ดีนะ ผมจะนำมันออกมาเดี๋ยวนี้แหละ!”
จางเซวียนหัวเราะหึๆ จากนั้นก็ถือเข็มเงินไว้แล้วสะบัด
ฟึ่บ!
เข็มเงินทุกเล่มร่วงลงพื้น ห่างจากตัวเขาออกไป 3 เมตร
“ตอนนี้ผมไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง คุณช่วยขยับเข้ามาใกล้ผมอีกหน่อยเถอะ” จางเซวียนพูดอย่างกระอักกระอ่วน
เขาเคยชินกับการสะบัดเข็มเงินจากระยะไกลจนลืมไปว่าตอนนี้ยังใช้พลังปราณของตัวเองไม่ได้
“ได้สิ…”
ถึงตั้นเฉี่ยวเทียนจะยังไม่ค่อยเชื่อใจจางเซวียน แต่หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ขยับเข้าหาอีกฝ่าย
ในเมื่อเหตุการณ์ล่วงเลยมาถึงขนาดนี้แล้ว ก็สมควรตามน้ำไป เขาไม่มีอะไรจะเสีย
จางเซวียนหยิบเข็มเงิน 2-3 เล่มขึ้นมาอีกครั้ง เขาสูดหายใจลึกขณะเปิดใช้งานหอสมุดเทียบฟ้า จากนั้นก็ปักเข็มเข้าสู่ตำแหน่งที่ระบุไว้ในหนังสือของตั้นเฉี่ยวเทียน
ฟึ่บ!
เกิดความผิดพลาดอันคาดไม่ถึงขึ้นอีกครั้ง ทำให้จางเซวียนหน้าแดงก่ำ
ในสภาวะที่เขาอ่อนแอแบบนี้ เขาทำไม่ได้แม้กระทั่งปักเข็มเข้าสู่ผิวหนังของตั้นเฉี่ยวเทียน
ถึงตั้นเฉี่ยวเทียนจะฝึกฝนวรยุทธไม่ได้ แต่ก็ยังเป็นนักรบระดับเซียนขั้น 6 แถมสภาวะร่างกายของเขาก็ได้รับการบ่มเพาะจากพลังจิตวิญญาณที่มีหน้าตาเหมือนปรอทมานานหลายปี ทำให้มีกายเนื้อที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าเหล็ก
ถึงจางเซวียนจะพอเคลื่อนไหวไปมาได้ แต่ก็ยังอ่อนเพลียจากความบอบช้ำที่ได้รับ เขาทำไม่ได้แม้กระทั่งรวบรวมพละกำลังเพื่อปักเข็มลงไปบนผิวของตั้นเฉี่ยวเทียน
“ช่วยผมหน่อย!” จางเซวียนร้องเรียกผู้อาวุโสอี้
ผู้อาวุโสอี้เดินเข้ามา เขาเคาะนิ้ว แล้วกระแสพลังปราณก็ไหลผ่านเข็มเงิน ทำให้มันพุ่งเข้าใส่ตั้นเฉี่ยวเทียนอีกครั้ง
ฉึก!
ปลายเข็มปักเข้าไปในร่างของตั้นเฉี่ยวเทียน
ฟึ่บ!
จางเซวียนกำลังจะควบคุมเข็มเงิน ก็พอดีกับที่มันกระเด็นหวือออกมาด้วยความเร็วสูง และปักลงไปในผนัง
ตั้นเฉี่ยวเทียนกับผู้อาวุโสตาโตอย่างไม่อยากเชื่อ โดยเฉพาะตั้นเฉี่ยวเทียน
ในฐานะผู้ถูกฝังเข็ม เขารู้ดีว่าตัวเองไม่ได้สำแดงพละกำลังใดๆออกไปเลย แต่เข็มเงินพวกนั้นกระเด็นออกมาด้วยความเร็วสูง หรือว่าจะมีบางอย่างที่มีชีวิตอยู่ในร่างของเขาจริงๆ?
“คุณคงรู้สึกได้แล้วนะ หนอนกู้ในตัวคุณน่ะขับมันออกมา” จางเซวียนอธิบาย
หากจะพูดกันตามตรง ตอนนี้จางเซวียนยังไม่มีวิธีสังหารหนอนกู้ แต่การทำให้ตั้นเฉี่ยวเทียนรับรู้ว่ามีหนอนกู้อยู่ ก็พอจะเรียกความไว้วางใจของชายหนุ่มกลับมาได้ ซึ่งหากมีเวลามากพอ จางเซวียนก็มั่นใจว่าจะแก้ปัญหานี้ได้สำเร็จทันทีที่ได้พละกำลังของเขากลับคืนมา
“มีหนอนกู้อยู่ในตัวผมจริงๆ?” ตั้นเฉี่ยวเทียนพูดไม่ออก
เมื่อครู่ก่อน เขายังมั่นใจว่าไม่มีทางที่ของพิสดารแบบนั้นจะอยู่ในตัวเขา แต่สิ่งที่เพิ่งเห็นทำให้ความมั่นใจเหือดหาย
เพราะเรื่องจริงคือเขาไม่ได้สำแดงพละกำลังใดๆออกมาสักนิด หรือต่อให้สำแดง เขาก็ไม่เก่งกาจพอจะส่งเข็มเงินให้กระเด็นไปปักผนังได้
“ถึงการฝังเข็มก่อนหน้านี้จะไม่ได้ทำอันตรายหนอนกู้ แต่ก็บ่งบอกว่าเรารู้ตำแหน่งของมันแล้ว จึงเป็นไปได้ว่าหนอนกู้น่าจะย้ายไปอยู่ที่อื่น ขณะที่มันกำลังย้ายที่ คุณจะสามารถขับเคลื่อนพลังปราณของคุณได้ ขาซ้ายที่ใช้การไม่ได้ของคุณจะฟื้นคืนสภาพขึ้นมาชั่วระยะหนึ่ง” จางเซวียนพูด
“แต่การฟื้นตัวครั้งนี้เป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น ทันทีที่หนอนกู้ได้ตำแหน่งใหม่ ทุกอย่างจะกลับสู่สภาพเดิม วิธีเดียวที่คุณจะแก้ปัญหานี้ได้เบ็ดเสร็จเด็ดขาดก็คือต้องฆ่ามัน!”
“อย่างนั้นหรือ?” ตั้นเฉี่ยวเทียนอึ้งไปเล็กน้อยกับสิ่งที่เกิดขึ้น
ครู่หนึ่งผ่านไป เขาตาโตด้วยความไม่อยากเชื่อ
เป็นอย่างที่จางเซวียนพูดไว้ เขารู้สึกได้ว่าพลังปราณไหลเวียนไปทั่วร่างอีกครั้ง ไม่เพียงเท่านั้น ความรู้สึกยังกลับคืนมาสู่ขาข้างซ้ายที่ไร้ความรู้สึกมานานด้วย!
เขาลองออกเดินสองสามก้าว ซึ่งการเคลื่อนไหวของเขาก็เหมือนคนทั่วไป ไม่มีความผิดแผกแตกต่างแม้แต่น้อย!
แต่ความรู้สึกที่อยู่ในขาข้างซ้ายของเขาก็คงอยู่เพียงสิบอึดใจเท่านั้น ก่อนจะกลับไปแข็งทื่อราวกับท่อนไม้ดังเดิม
เมื่อรู้แล้วว่าตัวเองวินิจฉัยไม่ผิด จางเซวียนหัวเราะหึๆ “ตอนนี้คุณคงไว้ใจผมแล้วนะ ใช่ไหม?”
“ศิษย์สายตรงตั้นเฉี่ยวเทียนคารวะท่านอาจารย์!”
เมื่อรู้แล้วว่านี่คือโอกาสล้ำค่าที่เขาจะได้หลุดพ้นจากสภาวะนี้ ตั้นเฉี่ยวเทียนรีบทรุดตัวลงคุกเข่าและโค้งคำนับ
นายแพทย์ผู้มีชื่อเสียงหลายต่อหลายคนได้ตรวจสอบอาการของเขา แต่ไม่มีการรักษาใดได้ผล แต่สำหรับจางเซวียน เพียงแค่มองไกลๆ ชายหนุ่มก็ระบุต้นตอของปัญหาและแสดงให้เขาเห็นชัดๆได้ เพียงเท่านี้ก็บ่งบอกแล้วว่าอีกฝ่ายมีความสามารถ ไม่ว่าภายนอกเขาจะดูเป็นอย่างไรก็ตาม
“ลุกขึ้นเถอะ!”
หลังจากตั้นเฉี่ยวเทียนยอมรับจางเซวียนเป็นอาจารย์อย่างเป็นทางการแล้ว จางเซวียนก็พยุงอีกฝ่ายให้ลุกขึ้น
อันที่จริงเขาตั้งใจจะอยู่ห่างจากเรื่องราวต่างๆของมิติเบื้องบนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ตั้งใจจะมุ่งตามหาหลัวลั่วชิงเท่านั้น แต่ในเมื่อตั้นเฉี่ยวเทียนช่วยชีวิตเขาไว้ เขาจึงอยากตอบแทนบุญคุณ
เมื่อยอมรับจางเซวียนเป็นอาจารย์แล้ว ตั้นเฉี่ยวเทียนมองชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าอย่างคาดหวังและตั้งคำถาม “ท่านอาจารย์ ไม่ทราบว่าผมจะกำจัดหนอนกู้ในตัวผมได้อย่างไร?”
แค่คิดว่ามีหนอนคืบคลานอยู่ในตัวเขาและกัดแทะร่างกายของเขาอยู่ ก็เกินพอจะทำให้ขนลุกขนชันแล้ว ที่ผ่านมาเขาไม่รู้สึกเพราะไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน แต่ตอนนี้คงไม่มีทางข่มตาหลับได้หากหนอนกู้ยังมีชีวิตอยู่
“ผมนำหนอนกู้ออกจากตัวคุณได้ แต่ตอนนี้ผมอ่อนแอเกินไป คงต้องเยียวยาอาการบาดเจ็บก่อน” จางเซวียนตอบ
ถ้าไม่ใช่เพราะอาการบาดเจ็บสาหัสของเขา แค่การระเบิดพลังปราณเทียบฟ้าสักครั้งก็เพียงพอจะเล่นงานหนอนกู้ที่คืบคลานอยู่ในร่างของตั้นเฉี่ยวเทียนได้แล้ว แต่ในสภาพนี้ แม้จะสำแดงพลังปราณก็ยังทำไม่ได้ ดังนั้น ถึงจะรู้ว่าหนอนกู้อยู่ตรงไหน ก็เล่นงานมันไม่สำเร็จ
ที่สำคัญกว่านั้น หนอนกู้เก่งกาจถึงขนาดขับเข็มเงินของเขาออกมาด้วยพละกำลังหนักหน่วงราวกับจะเย้ยหยันความอ่อนแอของเขา สิ่งนี้ทดสอบความอดทนอดกลั้นของจางเซวียนอย่างมาก
“เยียวยาอาการบาดเจ็บ?” ตั้นเฉี่ยวเทียนทวนคำก่อนจะตาโตเมื่อนึกได้ “ผมเกือบลืม ผมมียาเม็ดฟื้นฟูสภาพร่างกายชั้นดีอยู่นิดหน่อย ตั้งใจจะให้คุณกินเพื่อให้อาการบาดเจ็บทุเลา แต่สามวันที่ผ่านมาคุณอยู่ในภาวะโคม่า ผมจึงไม่กล้าใช้มันอย่างบุ่มบ่าม ในเมื่อตอนนี้คุณฟื้นแล้ว ผมจะนำยา นั้นมาให้คุณนะ ทันทีที่พลังงานในยาซึมซาบเข้าสู่ร่าง ไม่ช้าคุณก็จะได้พละกำลังกลับคืนดังเดิม!”
ยาเม็ดฟื้นฟูร่างกายขั้นสูงส่วนใหญ่มีอานุภาพน่าทึ่ง แต่ผู้ที่กินเข้าไปต้องใช้พลังปราณในการซึมซับฤทธิ์ยาด้วย หากผลีผลามใช้กับคนไข้ที่ไม่ได้สติ ก็มีโอกาสที่ฤทธิ์รุนแรงของยาจะทำอันตรายผู้นั้น
ด้วยเหตุนี้ ทุกอย่างจึงถูกรั้งรอไว้