อัจฉริยะสมองเพชร – ตอนที่ 2043 แกเป็นปีศาจชนิดไหน?
อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 2043 แกเป็นปีศาจชนิดไหน?
ขณะที่พูด มันก็พุ่งเข้าใส่ลูกไฟ
ฟึ่บ!
ลูกไฟที่กำลังขยายตัวลุกลามเป็นวงกว้างหายวับไปในร่างของน้ำเต้าตงฉู่
จางเซวียนถึงกับผงะ
หมอนี่ไม่ใช่แค่กลืนอาวุธได้ ยังเขมือบลูกไฟได้ด้วยหรือ?
จางเซวียนไม่ใช่คนเดียวที่เห็นภาพนั้น นกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัวที่อยู่ตรงข้ามก็ตะลึงจนพูดไม่ออก
อสูรที่มีสายเลือดฟินิกซ์จักรพรรดิจะมีความเชี่ยวชาญพิเศษในการใช้เปลวไฟ เปลวไฟที่พวกมันปล่อยออกมาเหนือชั้นกว่าเปลวไฟทั่วไปมาก แม้แต่นักรบอมตะขั้นสูงก็ยังต้องใช้พลังปราณของพวกเขาหากจะต้องรับมือกับเปลวไฟของมัน
ก็เพราะคุณสมบัติพิเศษนี้ที่ทำให้มันเอาชนะเหล่าผู้อาวุโสของหอนานาอสูรได้อย่างง่ายดาย
แต่น้ำเต้าตงฉู่กลืนลูกไฟของมันลงไปอย่างสบายใจ ทำให้การโจมตีของมันไร้ผล…
เป็นแบบนี้ได้อย่างไรกัน?
“ขอดูหน่อยเถอะว่าคุณจะกินได้สักเท่าไหร่!”
ฟู่!
นกฟีนิกซ์กรีดร้องแหลม หัวทั้งเก้าของมันปล่อยลูกไฟออกมาพร้อมกัน การระเบิดของลูกไฟทั้งเก้าหลอมรวมเข้าด้วยกันกลายเป็นมังกรไฟตัวใหญ่ที่พุ่งเข้าใส่จางเซวียน ฉีกกระชากอากาศให้แยกออก
“ร้อน!”
เมื่อรู้สึกได้ถึงอุณหภูมิของลูกไฟ ขนาดจางเซวียนที่มีความทนทานอย่างไม่ธรรมดาต่อความร้อนก็ยังถูกบีบให้ล่าถอย เขาไม่อาจรับมือกับมันด้วยเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้าและดาบถงซังได้ ต่อให้ตัวเขาก็ต้องบาดเจ็บหากคิดจะทำแบบนั้น
น้ำเต้าตงฉู่กลืนลูกไฟแบบนี้ได้ด้วยหรือ?
จางเซวียนที่กำลังสงสัยเริ่มขับเคลื่อนเจตจำนงเพลงดาบของเขา ตั้งใจจะพุ่งเข้าช่วยเหลือหากน้ำเต้าตงฉู่รับมือไม่ไหว ส่วนอีกด้านหนึ่ง แม้จะกำลังเผชิญหน้ากับลมหายใจที่ถูกปล่อยออกมาเป็นลูกไฟอย่างโกรธเกรี้ยว น้ำเต้าตงฉู่ก็ยังส่ายก้นของมันอย่างสบายใจ
ฟึ่บ!
เปลวไฟที่ลุกโพลงหายวับไปอีกครั้ง ใช้เวลาเพียงครู่เดียว ลูกไฟทั้งหมดก็มอดสนิท
จางเซวียนงุนงงอย่างหนัก นึกไม่ถึงว่าน้ำเต้าตงฉู่ที่เขาดูถูกดูแคลนมานานจะเป็นพันธมิตรที่ล้ำค่าขนาดนี้ บางที ความสามารถพิเศษของน้ำเต้าตงฉู่อาจเป็นการกลืนกินพลังงาน…ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้น ก็หมายความว่าต่อให้กระแสดาบฉีที่แข็งแกร่งที่สุดของเขาก็ไม่อาจทำอะไรน้ำเต้าตงฉู่ได้
ไม่แปลกใจแล้วที่เจ้านั่นแสนจะเย่อหยิ่ง ทั้งยังคุยโวโอ้อวดมากมาย ราวกับไม่ได้ยำเกรงอะไรตัวเขาเลย
“ไม่…มะ-ไม่มีทาง! แกเป็นปีศาจชนิดไหน?”
เห็นเปลวไฟที่มันปล่อยออกมาถูกกลืนกินไปอย่างง่ายดาย นกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัวเกิดความหวาดกลัวอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน ไม่เพียงแต่อีกฝ่ายจะสามารถเปล่งเสียงแปดโน้ตมังกรสวรรค์ได้ ยังมีน้ำเต้าที่เขมือบลูกไฟได้อย่างง่ายดายอีกด้วย
ในสมองของมัน ร่างของจางเซวียนดูจะผงาดขึ้นเรื่อยๆ เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสิ่งมีชีวิตที่เหนือชั้นเกินกว่าที่มันจะทำความเข้าใจได้ นกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัวตัวสั่นด้วยความพรั่นพรึง
ไม่ว่าน้ำเต้านั่นจะเป็นอะไร มันก็เป็นแค่ของล้ำค่าชิ้นหนึ่ง ถึงอย่างไรก็ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของชายวัยกลางคนผู้นั้น หากเราเอาชนะเขาได้ น้ำเต้านั่นก็ไม่เป็นอันตรายต่อเราอีก…นกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัวคิด
ในความคิดของมัน น้ำเต้าตงฉู่ก็เหมือนกับลูกมังกรทะเลเหนือในสายตาของมังกรอสรพิษ เป็นแค่ของล้ำค่าชิ้นหนึ่งที่ถูกสร้างมาเพื่อกลืนกินเปลวไฟของมัน
ไม่ว่าของล้ำค่าชิ้นนั้นจะทรงพลังแค่ไหน ก็เป็นสิ่งไม่มีชีวิต ขอแค่มันเล่นงานเจ้าของได้ ของล้ำค่าก็ย่อมปราศจากอันตราย
ด้วยความคิดนั้น นกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัวกระพือปีกแล้วถลาเข้าใส่จางเซวียน ตวัดกรงเล็บคมกริบของมันใส่เขา
แคว่ก!
กรงเล็บคมกริบนั้นฉีกกระชากอากาศให้แยกออกจากกันราวกับม่านที่ฉีกขาด
“ฮะ…”
เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของจางเซวียนที่ได้เห็นว่าน้ำเต้าตงฉู่ทรงพลังขนาดไหน ตอนนี้เขายืนรากงอกอยู่กับที่ พยายามเค้นหัวสมองเพื่อทำความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น
เขาตั้งใจจะต่อสู้กับนกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัว แต่ทุกครั้งที่ขับเคลื่อนเจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้า การต่อสู้ก็จะต้องถูกขัดจังหวะด้วยเหตุผลอะไรสักอย่าง ยังไม่ทันที่เขาจะได้ทดสอบพละกำลังของตัวเอง คู่ต่อสู้ก็ลงไปคุดคู้อยู่กับพื้นด้วยความหวาดกลัวแล้ว
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
เมื่อเอาชนะนกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัวได้ น้ำเต้าตงฉู่แหวกรอยแยกบนร่างนกฟีนิกซ์ ทำให้เลือดพุ่งออกมาราวกับน้ำพุ จากนั้นก็ดื่มเลือดอย่างมีความสุข
“แกทำอะไรน่ะ?”
เมื่อรู้สึกได้ว่าตัวเองอ่อนแรงลงเรื่อยๆขณะที่เลือดพุ่งกระฉูดออกจากร่าง นกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัวหวาดกลัวสุดขีด มันพยายามลุกขึ้น แต่น้ำเต้าตงฉู่ที่นั่งทับมันอยู่หนักอึ้งราวกับภูเขาที่งอกรากลงกับพื้น มันขยับเขยื้อนเคลื่อนไหวไม่ได้เลย
“ทำตัวดีๆ อยู่นิ่งๆน่ะ ผมแค่ดื่มนิดหน่อยเท่านั้น” น้ำเต้าตงฉู่ส่ายก้นขณะกลืนเลือดของนกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัวเข้าไปอีกใหญ่
เลือดพุ่งกระฉูดออกจากร่างของนกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัวอย่างรวดเร็ว จนมันรู้สึกเหมือนจะตายเพราะอาการเสียเลือดเกินขนาด เมื่อทนไม่ไหว มันก็หันไปร่ำร้องกับจางเซวียน “ผมจะยอมรับคุณเป็นเจ้านาย!”
มันไม่มีทางเลือกอื่น
นกฟีนิกซ์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ห้าวหาญ แต่ไม่เคยพบเห็นน้ำเต้าที่แปลกประหลาดพิสดารขนาดนี้มาก่อน สิ่งนี้น่าสะพรึงยิ่งกว่าทุกสิ่งที่มันเคยพบมา
ไม่เพียงแต่น้ำเต้าจะเขมือบลูกไฟได้ ยังดื่มเลือดของมันได้ด้วย!
ถ้าถึงขนาดนี้แล้วมันยังไม่ยอมจำนนให้ชายวัยกลางคน ก็น่าจะลงเอยด้วยการเป็นซากนกที่เหี่ยวแห้งตายคาพื้น
ถ้าเป็นสถานการณ์อื่น มันคงจะยืนหยัดอย่างมั่นคงเพื่อรักษาศักดิ์ศรี แต่เมื่อนึกถึงว่าแม้แต่สมาชิกที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มของพวกมัน, คือมังกรอสรพิษ ก็ยอมจำนนให้ชายวัยกลางคนผู้นี้แล้ว มันจึงรู้สึกว่าหากมันจะยอมรับอีกฝ่ายเป็นเจ้านายก็คงไม่ใช่เรื่องใหญ่
“คุณจะยอมรับผมเป็นเจ้านายหรือ?” จางเซวียนเกาหัวอย่างลำบากใจ
เขาวางแผนว่าจะใช้กรรมวิธีการฝึกอสูรแบบอัดให้น่วมเพื่อทำให้นกฟีนิกซ์ยอมจำนนภายใน 30 อึดใจ แต่ตอนนี้ดูเหมือนทุกอย่างจะเกิดขึ้นง่ายดายโดยแทบไม่ต้องกระดิกนิ้วเลย
“น้ำเต้าตงฉู่…ไอ้ที่แกกำลังทำน่ะ หยุดเสียก่อนเถอะ” จางเซวียนเดินเข้าไปสั่งการน้ำเต้าตงฉู่
“เอิ๊กกก!” น้ำเต้าเรอออกมาทันที “นายท่าน ผมจะไปย่อยมันก่อนนะ”
หลังจากพูดจบ น้ำเต้าตงฉู่ก็หายวับไป ครู่ต่อมาก็ไปนอนนิ่งอยู่ในจุดตันเถียนของจางเซวียน กรนเสียงดังสนั่นราวกับหลับปุ๋ยไปแล้ว
เห็นเจ้านี่ยังคงไว้ใจไม่ได้เหมือนเดิม จางเซวียนส่ายหน้า เขาเคาะนิ้ว จากนั้นก็ทำสัญญาผูกมัดจิตวิญญาณกับนกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัว
หลังจากจัดการอสูรทั้ง 2 ตัวได้ภายในเวลาไม่กี่นาที จางเซวียนก็หันไปถามเสือเขี้ยวดาบเจ็ดหางที่ยังลอยตัวอยู่กลางอากาศ “แล้วคุณล่ะ?”
เสือเขี้ยวดาบเจ็ดหางแทบเสียสติ
มันรั้งอันดับ 3 ของอสูรอมตะที่แข็งแกร่งที่สุดในภูเขาเมฆเหิน ในแง่ของประสิทธิภาพการต่อสู้ มันเทียบไม่ได้เลยกับมังกรอสรพิษและนกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัว แต่ทั้งสองตัวนั้นก็ต้านทานอยู่ได้เพียงไม่ถึง 1 นาทีก่อนจะต้องยอมจำนน แล้วมันควรทำอย่างไรในสถานการณ์แบบนี้?
ควรยอมจำนนให้ชายวัยกลางคนดีไหม? หรือว่าไม่ควร?
ถ้ามันไม่ยอม ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าจะลงเอยด้วยการลงไปกองอยู่กับพื้นเหมือนทั้งคู่ หลังจากได้เห็นนกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัวถูกเล่นงานจนราบคาบและเสียเลือดมากมาย มันก็ไม่อยากเห็นภาพนั้นเกิดขึ้นกับตัวเอง ถ้าเลือกได้ ก็ไม่อยากอับอายขายหน้าต่อหน้าเหล่าบริวารในสภาพแบบนั้น!
เสือเขี้ยวดาบเจ็ดหางตัดสินใจ “คุณใช้แปดโน้ตมังกรสวรรค์เพื่อทำให้มังกรอสรพิษยอมจำนน จากนั้นก็เล่นงานนกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัวได้ด้วยของล้ำค่าชิ้นหนึ่ง…ผมอยากจะสู้กับคุณโดยที่คุณใช้พละกำลังที่แท้จริงของตัวเอง ถ้าคุณเอาชนะผมได้ในการดวลอันชอบธรรมนี้ ผมก็จะยอมจำนน”
“คุณอยากดวลกับผมอย่างชอบธรรมหรือ? ไม่มีปัญหา!”
จางเซวียนโล่งใจที่ในที่สุดก็ได้ทำอะไรบางอย่างเสียที เขากระโจนขึ้นสู่กลางอากาศ ด้วยการฟาดฟันดาบเพียงครั้งเดียว เจตจำนงเพลงดาบของเทพเจ้าที่พลุ่งพล่านอยู่ในร่างของเขามาระยะหนึ่งแล้วก็ถูกปลดปล่อยออกมาราวกับกระแสน้ำเชี่ยว
ไม่มีภาพติดตาหรือภาพพร่าเลือนใดๆ ดาบถงซังไปจ่ออยู่ตรงหน้าเสือเขี้ยวดาบเจ็ดหางทันที
ควั่บ!
ยังไม่ทันจะรู้ตัว เขี้ยวทั้ง 2 อันที่ยื่นออกจากปากของเสือเขี้ยวดาบเจ็ดหางก็ถูกฟันฉับ เลือดทะลักออกจากจมูกของมัน
“ผมยอมแพ้! ผมจะยอมรับคุณเป็นเจ้านาย!”
เห็นภาพที่แสนจะน่าพรั่นพรึง เสือเขี้ยวดาบเจ็ดหางเหงื่อไหลท่วมตัว มันรีบค้อมตัวลงต่ำด้วยอาการยอมจำนน
มันเคยคิดว่าชายวัยกลางคนผู้นี้ดีแต่ใช้วิธีการที่ผิดทำนองคลองธรรม ใครจะไปรู้ว่าศิลปะเพลงดาบของอีกฝ่ายไร้เทียมทานจริงๆ?
ถ้ามันไม่รีบยอมแพ้ อย่าว่าแต่เขี้ยวของมันเลย ทั้งศีรษะก็คงไม่เหลือ
เสือเขี้ยวดาบเจ็ดหางไม่ได้เป็นตัวเดียวที่อัศจรรย์ใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แม้แต่มังกรอสรพิษกับนกฟีนิกซ์ไฟเก้าหัวก็กลืนน้ำลายอึกใหญ่ด้วยความพรั่นพรึง
อันที่จริง พวกมันออกจะขัดใจเล็กน้อยที่ต้องยอมจำนนให้จางเซวียน เพราะถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็ทำให้พวกมันยอมจำนนได้เพียงเพราะใช้แปดโน้ตมังกรสวรรค์กับน้ำเต้าแปลกประหลาดลูกหนึ่ง พวกมันจึงไม่คิดว่าแท้ที่จริงแล้วชายวัยกลางคนจะมีพละกำลังอะไรมากมาย
แต่หลังจากเห็นภาพนี้ ก็รู้แล้วว่าต่อให้อีกฝ่ายไม่พึ่งพาสิ่งอื่นใด พวกมันก็คงเทียบชั้นกับเขาไม่ได้ในแง่ของพละกำลัง!
การฟาดฟันดาบก่อนหน้านี้ทั้งทรงพลังและล้ำลึกมาก พวกมันไม่อาจหยั่งถึงและต้านทานพละกำลังนั้นได้
ฟึ่บ!
ค่ายกลปิดกั้นสลายตัวไป
หมดเวลา 30 อึดใจแล้ว!
“เขาทำให้อสูรอมตะทั้ง 3 ตัวยอมจำนนได้?”
“ใช้เวลานานแค่ไหน?”
เมื่อเห็นว่าแม้แต่เสือเขี้ยวดาบเจ็ดหางก็ยอมจำนนให้ชายวัยกลางคน ผู้อาวุโสเลี่ยวกับคนอื่นๆแทบคลุ้มคลั่ง
แต่ละคนคือผู้อาวุโสชั้นยอดของหอนานาอสูร เป็นบรมครูด้านการฝึกอสูร
และผู้ที่มากับพวกเขาก็คือผู้เข้ารับการทดสอบเพื่อรับตำแหน่งหัวหน้า
แต่แล้วทีมหนึ่งก็ลงเอยด้วยการแตกฉานซ่านเซ็นไม่มีเหลือ ส่วนผู้อาวุโสหยวนก็ถูกหมาจิ้งจอกหูขาวล่อออกไปเสียไกล ไม่ได้รู้เลยว่าตัวเขาคือผู้ที่ถูกปั่นหัวราวกับคนโง่เง่า
แต่ชายวัยกลางคนผู้นี้จัดการให้อสูรอมตะทั้ง 3 ตัวยอมจำนนได้อย่างรวดเร็ว ราวกับว่าเขาต่างหากคือผู้ที่มาจากหอนานาอสูร ทุกคนรู้สึกว่าตัวเองยังมีทักษะการฝึกอสูรที่อ่อนด้อยอยู่มากหากจะเปรียบเทียบกับอีกฝ่าย
ในตอนนั้น นักฝึกอสูรทุกคนต่างคับอกคับใจจนแทบหายใจไม่ออกขณะจ้องเขม็งที่ภาพตรงหน้า ทุกคนอ้าปากค้าง
ผ่านไประยะหนึ่งกว่าผู้อาวุโสเลี่ยวจะพูดได้อีกครั้ง “ครั้งหนึ่งหัวหน้าเคยพูดว่า ไม่ว่าจะเป็นผู้อาวุโสหยวนหรือผู้อาวุโสหลิว ใครก็ตามที่ทำให้ 1 ใน 4 อสูรอมตะยอมจำนนได้ก่อน จะมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะได้สืบทอดตำแหน่งของเขา แต่ในเมื่อตอนนี้คนหนึ่งถูกสังหาร และอีกคนก็ยังถูกหมาจิ้งจอกหูขาวปั่นหัวอยู่ พวกเราควรรายงานเรื่องนี้ให้ท่านหัวหน้ารู้ไหม?”