อัจฉริยะสมองเพชร 天道图书馆
ตอนที่ 2050 สำนักเจ็ดดาว?
“หัวหน้าเจิ้ง ผมจะส่งศิษย์สายตรงกับอสูรอมตะตัวหนึ่งเพื่อไปส่งคุณนะ พวกเราไม่อาจปล่อยให้คุณขี่อสูรอมตะไปเองได้หรอก!” ผู้อาวุโสฉิงพูด
เป็นเรื่องที่รู้ทั่วกันแล้วว่าหัวหน้าหอนานาอสูรคนใหม่คือผู้ที่ทำให้มังกรอสรพิษยอมจำนน หากเขาขี่มังกรอสรพิษออกไปตอนนี้ ก็เท่ากับประกาศให้โลกรู้ว่าเขาคือใคร ดังนั้น จึงควรใช้อสูรอมตะบินได้ทั่วๆไปที่มีอยู่ในหอนานาอสูร
“ก็ได้” จางเซวียนยอมรับข้อเสนอ
ไม่ช้าการเตรียมการต่างๆก็เสร็จสิ้น จางเซวียนออกเดินทางโดยมุ่งหน้าขึ้นสู่ทิศเหนือ
ผู้อาวุโสฉิงเตรียมอสูรอมตะขั้นสูงระดับล่างไว้ให้เขา ส่วนศิษย์สายตรงที่เป็นผู้บังคับมันก็เป็นนักรบอมตะตัวจริงสรวงสวรรค์ การที่พวกเขาทำอะไรไม่ให้โดดเด่นเกินไปนั้นถือว่าดีที่สุด
พวกเขาบินไปเป็นเวลา 3 วันเต็ม
“หัวหน้าเจิ้ง ตอนนี้เราอยู่ไม่ไกลจากเมืองปี้หยวนแล้ว สำนักเจ็ดดาวซึ่งเป็น 1 ใน 6 สำนักใหญ่ก็ตั้งอยู่ที่นั่น มันคือเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในดินแดนนี้ ถ้าคุณอยากได้อะไรจากหอนิรันดร์ ที่นั่นก็จะเป็นสถานที่ที่เหมาะที่สุด” ศิษย์สายตรงที่ทำหน้าที่บังคับอสูรอมตะพูดยิ้มๆ
ตลอด 3 วันที่ผ่านมา ทั้งคู่เกิดความสนิทสนมคุ้นเคยกัน และเขาก็ได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วจางเซวียนเป็นหัวหน้าหอนานาอสูรคนใหม่
“สำนักเจ็ดดาว?” จางเซวียนพึมพำขณะมองทัศนียภาพที่อยู่ตรงหน้า
เมืองขนาดใหญ่ปรากฏให้เห็นที่ขอบฟ้า ลำพังแค่ความกว้างใหญ่ของมัน ก็เห็นได้ชัดแล้วว่ามีขนาดใหญ่โตกว่าเมืองอู๋ไห่มาก
“ไปดูกันเถอะ” จางเซวียนสั่งการด้วยนัยน์ตาเป็นประกาย
น้ำเต้าตงฉู่อยากได้ยาเม็ดอมตะขั้นพิเศษจำนวน 200 เม็ดเพื่อทำลายฉนวนที่ปิดกั้นร่างของมันไว้ บางทีเขาอาจจะหายาจำนวนนั้นได้จากที่นี่!
หานเจี้ยนชิวเคยอธิบายรายละเอียดของ 6 สํานักใหญ่ให้เขาฟังแล้ว สำนักดาวเจ็ดดวงได้ชื่อว่าเป็นองค์กรธุรกิจที่มีระบบการจัดการใหญ่ที่สุดในตลาดของทวีปที่ถูกลืม พวกเขาขายของล้ำค่าทรงพลังและอาวุธยุทโธปกรณ์ทุกชนิด
ยาเม็ดอมตะขั้นพิเศษ 200 เม็ดอาจมีมูลค่ามหาศาลสำหรับที่อื่น ขนาดในเมืองใหญ่ระดับเมืองอู๋ไห่ก็ยังไม่มียาจำนวนนั้น แต่หากเป็นเมืองปี้หยวนซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าขายของสำนักดาวเจ็ดดวง ก็น่าจะหาได้
ไม่ช้าอสูรอมตะก็ร่อนลงที่จัตุรัสขนาดมหึมาภายในเมือง
“หัวหน้าเจิ้ง นั่นคือสำนักดาวเจ็ดดวง” ศิษย์สายตรงแนะนำพร้อมกับยิ้มให้
เขารู้จักเมืองปี้หยวนดีเพราะเคยมาที่นี่บ่อยๆ
จางเซวียนมองไป เห็นตึกรามบ้านช่องสูงตระหง่านมากมายตรงหน้า มีทั้งหมด 7 หลัง จัดเรียงกันตามตำแหน่งที่เป็นรูปแบบของค่ายกลกระบวยใหญ่ ทั้งยังมีค่ายกลขนาดมหึมาที่กลมกลืนสัมพันธ์กันกับหมู่ดาวบนท้องฟ้า
ดูเหมือนเราไม่อาจสบประมาทศักยภาพของสำนักดาวเจ็ดดวงได้ แม้กิจการหลักของพวกเขาจะเป็นแค่การค้า…จางเซวียนคิด
จะต้องมีบางอย่างที่ไม่ธรรมดาเกี่ยวกับสำนักดาวเจ็ดดวง มันถึงกลายเป็น 1 ใน 6 สำนักใหญ่ของทวีปที่ถูกลืม
ในแง่โครงสร้าง สำนักดาวเจ็ดดวงไม่ได้ดูสง่าผ่าเผยอย่างสำนักดาบเมฆเหินและหอนานาอสูร แต่ผู้ที่พอมีความเข้าใจเรื่องค่ายกลอยู่บ้างจะรู้ดีว่าการประสานแกนกลางของค่ายกลเข้ากับหมู่ดาวบนท้องฟ้านั้นไม่ใช่เรื่องง่าย และนั่นคือสิ่งที่สำนักดาวเจ็ดดวงทำสำเร็จ
ด้วยการคุ้มกันของค่ายกล การจะโจมตีสำนักดาวเจ็ดดวงถือว่ายากมาก
“หัวหน้าเจิ้ง คุณอยากเข้าไปดูข้างในไหม?” ศิษย์สายตรงตั้งคำถาม
“ก็ดี ว่าแต่หอนิรันดร์ของเมืองปี้หยวนอยู่ที่ไหน? พาผมไปที” จางเซวียนตอบ
เขาไม่อยากได้ของล้ำค่าหรืออาวุธใดๆ จึงไม่ได้สนใจจะเข้าไปสำรวจสำนักดาวเจ็ดดวง อีกอย่าง ถ้าเขาเข้าไปที่นั่นแล้วอีกฝ่ายเกิดยืนกรานให้เขารับตำแหน่งเจ้าสำนักขึ้นมา คราวนี้จะทำอย่างไร?
นักรบที่โดดเด่นจะเหมือนหิ่งห้อยยามค่ำคืนไม่ว่าจะไปไหน ต่อให้พยายามปกปิดแสงของตัวเอง ใครต่อใครก็ยังถูกเขาดึงดูดราวกับแมลงเม่าที่บินเข้ากองไฟ
แค่เขาเป็นผู้นำของสองสำนักใหญ่ก็เกินพอแล้ว อะไรที่เกินกว่านั้นคงสร้างความยุ่งยากเอาการ
“หอนิรันดร์ของที่นี่อยู่ถัดไปจากสำนักดาวเจ็ดดวง” ศิษย์สายตรงตอบ
จางเซวียนมองตาม และเห็นอาคารสูงหลังหนึ่งตั้งอยู่ไม่ห่างจากสำนักดาวเจ็ดดวงมากนัก อาคารนี้ไม่ได้สง่างามหรือคลาคล่ำไปด้วยผู้คนเหมือนกับสำนักดาวเจ็ดดวง แต่ก็โดดเด่นไม่น้อย
เขารีบตามฝูงชนเข้าสู่หอนิรันดร์
“ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลของนักรบอมตะตัวจริงราคาเท่าไหร่?” จางเซวียนถาม
“2,700 เหรียญดาวหรือเหรียญสำนักดาบ” เจ้าหน้าที่ตอบ
“ผมรับอันหนึ่ง” จางเซวียนแจ้งความจำนงขณะถอนหายใจอย่างโล่งอก
มูลค่าของเหรียญนิรันดร์ที่นี่ดูจะพอๆกันกับเมืองอู๋ไห่ ดังนั้น 2,700 เหรียญนิรันดร์จึงเป็นจำนวนที่เขาพอรับได้
เมื่อได้ตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาล จางเซวียนเปิดใช้งานห้องส่วนตัวห้องหนึ่ง เขาสั่งการให้ศิษย์สายตรงจากหอนานาอสูรรออยู่ข้างนอก ขณะที่ตัวเขาติดตั้งค่ายกลปิดกั้นจำนวนหลายอันรอบห้องนั้นก่อนจะทรุดตัวลงนั่ง
จางเซวียนถือตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลไว้ในมือ เขารีบเปิดใช้งานก่อนจะเพ่งสมาธิเข้าไปข้างใน ไม่ช้าก็มาอยู่ในหอนิรันดร์ที่มีสภาพเสมือนจริง
จางเซวียนตรงไปที่เคาน์เตอร์ของเจ้าหน้าที่ต้อนรับ จากนั้นก็แสดงตราสัญลักษณ์ของปรมาจารย์ขงก่อนจะกล่าวว่า “ผมอยากซื้อทรัพยากรสำหรับการฝึกฝนวรยุทธสักหน่อย”
เจ้าหน้าที่ตาโตเมื่อเห็นตราสัญลักษณ์ เธอรีบบอกจางเซวียน “กรุณารอสักครู่” ก่อนจะพรวดพราดเข้าไปในห้องที่อยู่ด้านหลังเคาน์เตอร์
ไม่ช้า ผู้อาวุโสคนหนึ่งก็เดินออกมาและโค้งคำนับอย่างงามให้จางเซวียน “ท่านแขกผู้มีเกียรติ ตราสัญลักษณ์ที่คุณถืออยู่คือเหรียญเกียรติยศของหัวหน้าของพวกเรา ซึ่งทำให้คุณมีสิทธิพิเศษที่นี่เช่นเดียวกับท่านหัวหน้า ไม่ทราบว่าคุณจะซื้ออะไร?”
“ผมขอซื้อยาเม็ดอมตะขั้นพิเศษ 200 เม็ด” จางเซวียนตอบ
“ยาเม็ดอมตะขั้นพิเศษ 200 เม็ด?” ผู้อาวุโสตกใจจนแทบกระโดด
เขาทำงานที่หอนิรันดร์มาหลายปีดีดัก แต่เคยเห็นนักรบมาซื้อยาเม็ดอมตะขั้นพิเศษอย่างมากที่สุดก็แค่ 10 เม็ด ส่วนชายหนุ่มคนนี้ต้องการถึง 200 เม็ดในคราวเดียว เขาคิดจะเอาไปกินเล่นฆ่าเวลาหรือไง?
ยาเม็ดอมตะขั้นพิเศษนั้นแพงหูฉี่ แต่ละเม็ดมีสนนราคาที่ 20,000 เหรียญนิรันดร์ หรือพูดอีกอย่างก็คือ การซื้อขายครั้งนี้จะมีมูลค่าถึง 4 ล้านเหรียญนิรันดร์เลยทีเดียว!
ราคานี้เกินพอจะซื้อเมืองได้ทั้งเมือง!
“ใช่ อย่ามัวอ้อมค้อมอยู่เลย บอกผมมาตามตรงว่าจะหายาจำนวนนี้ได้ไหม?” จางเซวียนพูดต่อพร้อมกับขมวดคิ้ว
“คือ…” ผู้อาวุโสลังเลอยู่ครู่หนึ่ง “ถ้าเรารวบรวมทุกอย่างที่เรามีในเมืองปี้หยวน ก็พอจะหายาเม็ดอมตะขั้นพิเศษจำนวน 200 เม็ดได้ แต่เราต้องรายงานการซื้อขายครั้งนี้ไปยังสำนักงานใหญ่เพื่อขอการอนุมัติก่อน กรุณารอสักครู่”
“เอาเถอะ ทำในสิ่งที่คุณต้องทำก็แล้วกัน” จางเซวียนตอบพร้อมกับพยักหน้า
หลังจากปรึกษาทางสำนักงานใหญ่ ผู้อาวุโสก็กลับมาพร้อมกับยิ้มให้ “ทางสำนักงานใหญ่อนุมัติการซื้อขายครั้งนี้แล้ว ท่านแขกผู้มีเกียรติ เพียงแค่คุณเปิดใช้งานค่ายกลทะลุมิติที่อยู่บนตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาล ก็จะนำสินค้าของคุณออกมาใช้ได้!”
“ขอรบกวนคุณด้วย” จางเซวียนพยักหน้าก่อนจะถอนจิตใต้สำนึกของเขาออกจากหอนิรันดร์
เมื่อกลับถึงห้องส่วนตัว จางเซวียนเคาะตราสัญลักษณ์นิรันดร์กาลของเขาเบาๆ
ฟึ่บ!
ขวดหยก 20 ใบปรากฏตรงหน้า แต่ละใบบรรจุยาเม็ดอมตะขั้นพิเศษจำนวน 10 เม็ด
“นี่คือยาเม็ดอมตะขั้นพิเศษ 200 เม็ด ถ้าแกกินเข้าไปแล้วยังทำลายฉนวนที่สกัดกั้นตัวแกไว้ไม่ได้ล่ะก็…เอาเถอะ รอดูก็แล้วกันว่าฉันจะจัดการแกอย่างไร!” จางเซวียนเรียกน้ำเต้าตงฉู่ออกจากจุดตันเถียนของเขาและคำรามใส่
“วางใจเถอะน่ะ ผมคืออสูรในตำนานที่ครั้งหนึ่งมีอำนาจบงการทั่วทั้งดินแดน ผมแค่ถูกกักขังไว้ในร่างพิลึกพิลั่นนี้เป็นการชั่วคราวเท่านั้น ทันทีที่รวบรวมพลังงานได้มากพอ ผมก็จะทำลายฉนวนที่ปิดกั้นร่างของผมไว้ จนได้เป็นอิสระและกลับคืนสู่ตัวตนเก่าของผมที่ทรงพลังเหมือนเดิม…” น้ำเต้าตงฉู่คุยโวอย่างภาคภูมิใจ
“หยุดโม้ได้แล้ว กินๆเข้าไปแล้วจัดการซะ!” จางเซวียนโบกมืออย่างรำคาญ คร้านจะทนฟังนิยายของน้ำเต้าตงฉู่
น้ำเต้าตงฉู่กระโดดเข้าใส่ขวดหยกทั้ง 10 ใบ ด้วยการสูดหายใจลึกเพียงครั้งเดียว มันก็กลืนยาเม็ดอมตะขั้นพิเศษลงไปทั้ง 200 เม็ด
ฟึ่บ!
แม้จะกลืนเข้าไปทีเดียว 200 เม็ด แต่น้ำเต้าตงฉู่ก็ดูไม่อึดอัดสักนิด รังสีของมันกลับแผดกล้าขึ้นเรื่อยๆ
สิ่งที่น้ำเต้าตงฉู่เคยกินก่อนหน้านี้คือยาเม็ดอมตะขั้นพื้นฐาน แต่ยา 200 เม็ดนี้คือยาเม็ดอมตะขั้นพิเศษ ศักยภาพของยาทั้ง 2 ชนิดแตกต่างกันมาก ไม่ช้า น้ำเต้าตงฉู่ก็ตัวสั่นไม่หยุด
บึ้มมมม!
รังสีรุนแรงระเบิดออกจากร่างของน้ำเต้าตงฉู่ รอยแยกของมิติปรากฏขึ้นโดยรอบ ดูเหมือนแม้แต่มิติที่มั่นคงของทวีปที่ถูกลืมก็ไม่อาจต้านทานพละกำลังมหาศาลที่น้ำเต้าตงฉู่ปล่อยออกมาได้
“น่าทึ่งจริงๆ…” จางเซวียนตาโตด้วยความตื่นเต้น
ดูเหมือนน้ำเต้าตงฉู่ไม่ได้โกหกเขา
ลำพังแค่รังสีของมัน น้ำเต้าตงฉู่ก็แข็งแกร่งพอจะเอาชนะนักรบอมตะขั้นสูงได้อย่างง่ายดายแล้ว อย่างน้อยที่สุด ชายเสื้อคลุมสีดำที่เป็นนักรบอมตะขั้นสูงสรวงสวรรค์ที่จางเซวียนเคยเผชิญหน้าในครั้งนั้นก็คงสู้มันไม่ได้
ด้วยสิ่งนี้ จางเซวียนแน่ใจว่ายาเม็ดอมตะขั้นพิเศษ 200 เม็ดที่เสียไปจะไม่สูญเปล่า
โชคดีที่เขาติดตั้งปราการป้องกันไว้หลายชั้นในห้องส่วนตัวแห่งนี้ ไม่อย่างนั้น ความอึกทึกครึกโครมที่เกิดขึ้นคงดึงดูดให้ใครต่อใครเข้ามามุงดูแน่
ขณะที่น้ำเต้าตงฉู่สั่งสมพลังงานมากขึ้นเรื่อยๆ รอยร้าวก็ปรากฏบริเวณศีรษะของมัน สุดท้ายก็แยกออก ดูเหมือนน้ำเต้าตงฉู่พร้อมจะปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระได้ทุกเมื่อ
“เร็วๆนี้แหละ…” จางเซวียนเฝ้าดูเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยลมหายใจถี่กระชั้น
พูดกันตามตรง เขาอยากรู้มากว่าแท้ที่จริงแล้วน้ำเต้าตงฉู่คืออะไร มันอ้างว่าตัวเองคืออสูรในตำนานที่มีอำนาจบงการทั่วทั้งดินแดน แต่จางเซวียนก็คิดไม่ออกว่ารูปร่างหน้าตาจริงๆของมันน่าจะเป็นอย่างไร
ครืดดดดด!
รอยร้าวลุกลามลงมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ศีรษะจนถึงส่วนเอว ก่อนจะหยุดกึก ด้วยเหตุผลอะไรบางอย่าง ดูเหมือนมันจะไม่ลุกลามต่ำลงไปกว่านั้น
ในเวลาเดียวกัน รังสีที่น้ำเต้าตงฉู่แผ่ออกมาก็เริ่มสลายตัวไป
“เกิดอะไรขึ้น?” จางเซวียนถามอย่างงุนงง
“คือ…” น้ำเต้าตงฉู่หัวเราะแหะๆ “ผมคิดว่าผมคงประเมินปริมาณพลังงานที่ต้องใช้ต่ำไปหน่อย ผมยังอยากได้มากกว่านี้ เอ่อ…ทำไมคุณไม่ไปหายาเม็ดอมตะขั้นพิเศษอีกสัก 200 เม็ดมาให้ผมล่ะ? ผมสัญญาว่าคราวนี้ผมจะปลดปล่อยตัวเองให้เป็นอิสระได้จริงๆ!”
“ยาเม็ดอมตะขั้นพิเศษอีก 200 เม็ด?” จางเซวียนแทบลมจับ