ตอนที่ 2101 วรยุทธของคุณ…
“คุณมันไอ้ชั่วร้าย ผมจะฆ่าคุณ!”
ชายชราพุ่งเข้าใส่จางเซวียน แต่ทันทีที่เขาเคลื่อนไหว มิติที่อยู่โดยรอบก็บิดเบี้ยวอีกครั้ง หมอกดำ กระจายตัวปกคลุมทุกหนแห่ง
หมอกนั้นดูคล้ายกับควันที่ลอยโขมงขึ้นจากปล่องภูเขาไฟ แรงระเบิดเมื่อครู่ทำให้เกิดรอยแยกในมิติที่เป็นดินแดนของชายชรา ทำให้หมอกสีดำเล็ดลอดเข้ามาได้
“คุณคิดว่าค่ายกลกักกันระดับนี้จะยับยั้งผมได้หรือ?” ชายชราคำราม “คุณสบประมาทผมเสียแล้วล่ะ เจ้าหนุ่ม, สิ่งนี้ไม่มีความหมายอะไรเลย ผมจะฆ่าอสูรทั้ง 4 ตัวของคุณและลากคุณไปอยู่ตรงหน้านายท่านของผมให้ได้!”
บึ้มมมม!
พลังจิตวิญญาณที่อยู่โดยรอบพุ่งเข้าใส่ร่างของชายชรา อาการบาดเจ็บของเขาดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ดูเหมือนชายชราจะใช้ศาสตร์ลับบางอย่างที่ทำให้เยียวยาตัวเองได้อย่างรวดเร็ว
“ความสามารถในการเยียวยาของคุณช่างเหนือชั้น ผมประทับใจนะ นายท่านของคุณคงแข็งแกร่งกว่านี้มาก แต่คุณไม่คิดว่ามันไร้เดียงสาไปหน่อยหรือที่จะเหมาว่าสิ่งนี้เป็นค่ายกลกักกันทั่วๆไป” จางเซวียนหัวเราะหึๆขณะเฝ้ามองทีท่าของชายชราด้วยอาการสุขุม
“มันไม่ใช่หรือไง?” ชายชราชะงัก พริบตาต่อมาเขาก็ตาค้าง ตัวสั่นด้วยความไม่อยากเชื่อ “คงไม่ใช่ว่าคุณนำบรรยากาศของการเสื่อมถอยออกจากเมืองแห่งมิติที่ถูกทำลายและถ่ายทอดมันเข้าไปในค่ายกลหรอกนะ? คุณ เป็นบ้าไปแล้ว!”
“ผมรู้ว่าผมต้องใช้วิธีการพิเศษถึงจะเล่นงานแมลงสาบทนทายาดอย่างคุณได้ ถ้าคุณไม่ได้รับบาดเจ็บ บรรยากาศของการเสื่อมถอยก็ไม่อาจทำอันตรายใดๆ อันที่จริง ผมเชื่อว่าคุณน่าจะมีวิธีระงับบรรยากาศของการเสื่อมถอยและป้องกันไม่ให้มันซึมซาบเข้าสู่ร่างกายของคุณได้นะ…”
“แต่น่าเสียดาย คุณกระเหี้ยนกระหือรือจะจับตัวผมเสียจนละเลยสภาพแวดล้อมโดยรอบ การซึมซับพลังจิตวิญญาณอย่างบ้าคลั่งทำให้คุณเยียวยาอาการบาดเจ็บได้เร็วก็จริง แต่นั่นก็เป็นสาเหตุให้คุณซึมซับบรรยากาศของการเสื่อมถอยปริมาณมากเข้าสู่ร่างกายโดยไม่ได้ตั้งใจด้วย ผมอยากรู้เหลือเกินว่าคุณจะอยู่ได้อีกนานแค่ไหนหลังจากถูกพิษรุนแรงแบบนี้” จางเซวียนคำราม
บรรยากาศของการเสื่อมถอยมีฤทธิ์รุนแรงร้ายกาจขนาดนี้ เขาจะไม่นำมันมาใช้เป็นอาวุธได้อย่างไร?
โดยส่วนใหญ่ นักรบอมตะขั้นสูงขึ้นไปมักมีความสามารถในการปัดป้องบรรยากาศของการเสื่อมถอยออกไปได้ อานุภาพของมันจึงลดน้อยถอยลงมากหากเขาใช้มันตรงๆ จางเซวียนรู้ดีว่าเขาต้องหาวิธีทำให้ชายชราได้รับบาดเจ็บสาหัสเสียก่อนถึงจะใช้มันได้
หรืออย่างน้อย ถ้าเขาบีบให้ชายชราตกอยู่ในสภาพที่ต้องรับเอาบรรยากาศของการเสื่อมถอยเข้าไป ก็เป็นอันจบสิ้นชะตากรรมของอีกฝ่าย
พลั่ก!
ชายชรากระอักเลือดสีดำออกมาติดๆกันสามกองใหญ่ ขณะร่างสั่นสะท้านไม่หยุด เขารู้สึกเหมือนศีรษะกำลังจะระเบิด
เขามาที่นี่ด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยมว่าจะปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จ ไม่มีทางล้มเหลว เขารู้ว่าชายหนุ่มคนนี้ฉลาดเฉลียว แต่ไม่คิดว่าสติปัญญาของอีกฝ่ายจะอยู่เหนือพละกำลังของเขา ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าจะพบจุดจบแบบนี้!
ซรืดดดดดด!
ขณะที่บรรยากาศของการเสื่อมถอยไหลเวียนทั่วร่างของชายชรา อวัยวะภายในของเขาก็ถูกกัดกร่อนเสียหายไปเรื่อยๆ การมองเห็นค่อยๆพร่าเลือน ร่างกายเริ่มโงนเงน ดูเหมือนเขาพร้อมหมดสติได้ทุกเมื่อ
“ผมประเมินคุณต่ำไป แต่ถึงผมทำร้ายคุณไม่ได้ คุณก็ฆ่าผมไม่ได้เหมือนกัน ฝากไว้ก่อนเถอะ!”
รู้ดีว่าภารกิจครั้งนี้ล้มเหลว ชายชรากัดฟันและบินหนี ด้วยสภาพแบบนี้ ความหวังเดียวของเขาคือรีบกลับสู่หอเทพเจ้าและขอความช่วยเหลือจากนายท่านให้ช่วยกำจัดบรรยากาศของการเสื่อมถอยที่อยู่ในตัวออกไป
ไม่อย่างนั้น ภายในไม่ถึง 1 ชั่วโมง เขาจะต้องกลายเป็นศพสีดำสนิท
“คุณคิดว่าผมลงทุนเตรียมการขนาดนี้เพียงเพื่อปล่อยให้คุณหนีไปในวินาทีสุดท้ายหรือ?”จางเซวียนหัวเราะกับตัวเอง “สายไปแล้วล่ะที่คุณจะคิดหนี!”
ฟิ้วววว!
ง้าวเล่มหนึ่งพุ่งลงมาจากกลางอากาศ ตรงเข้าใส่ศีรษะของชายชรา ด้วยความตกใจ ชายชราพยายามหลบ แต่ช้าไป
ง้าวพุ่งเข้าปักหัวไหล่ของเขา ทำให้เขาหยุดกึก
ง้าวเล่มนี้คือของล้ำค่าขั้นกึ่งสรวงสวรรค์สำหรับการโจมตีที่เขาได้มาจากชายวัยกลางคน แน่นอนว่าเขาไม่ลืมที่จะทำให้มันยอมจำนนระหว่างการเดินทางมาที่นี่ และเหตุผลเดียวที่เขาไม่ได้นำมันออกมาจนถึงตอนนี้ก็เพราะวางแผนจะใช้มันเล่นงานศัตรูหากอีกฝ่ายพยายามหลบหนี
ถ้าชายชราอยู่ในสภาพเต็มร้อย การโจมตีของเขาไม่มีทางได้ผล แต่อาการบาดเจ็บสาหัสและการกัดกร่อนของบรรยากาศของการเสื่อมสลายได้ลดทอนประสิทธิภาพการต่อสู้ของชายชราลงจนเหลือไม่ถึงหนึ่งในร้อย แถมชายชรายังพยายามหลบหนีสุดชีวิตด้วย
แม้ชายชราจะหลบเลี่ยงการถูกง้าวแทงศีรษะได้ แต่ง้าวก็ทำให้เขาไม่อาจหลบหนี
ตู้มมมม!
เมื่อต้านทานแรงปะทะของง้าวไม่ไหว ชายชราร่วงลงไปในน้ำ ทำให้น้ำกระเซ็นเป็นลำสูงขึ้นกลางอากาศ
เห็นภาพนั้น เต่าหลังดำกับฉลามสามพี่น้องออกปฏิบัติการทันที มหาสมุทรคือสนามรบของพวกมัน และศักดิ์ศรีของพวกมันคือการไม่ปล่อยให้มนุษย์หน้าไหนเข้ามารุกล้ำ
พื้นน้ำปั่นป่วนขึ้นมาทันที กระแสคลื่นเกรี้ยวกราดถาโถมเข้าใส่ลูกแล้วลูกเล่า
2-3 อึดใจต่อมา ชายชราที่อยู่ในสภาพร่อแร่ก็ถูกฉลามหมายเลข 1 ลากขึ้นจากผิวน้ำ
ถ้าวิธีการของจางเซวียนทำลายพละกำลังของชายชราไปได้ 90% การตีวงล้อมของอสูรทั้ง 4 ก็ทำลายอีก 90 เปอร์เซ็นต์ของพละกำลัง 10 เปอร์เซ็นต์ที่เหลืออยู่
ถ้าไม่ใช่เพราะจิตใจที่มั่นคงแข็งแกร่งของชายชรา เขาคงอยู่ในภาวะโคม่าเพราะความบอบช้ำมากมายที่ได้รับ
จางเซวียนเผชิญหน้ากับชายชราที่แน่นิ่งไปเพราะอสูรทั้ง 4 เขาจ้องชายชราเขม็งและตั้งคำถาม “ใครเป็นเจ้านายของคุณ? ทำไมถึงพยายามฆ่าผม?”
เขากำลังใช้วิถีทางของผู้พยากรณ์จิตวิญญาณเพื่อสอบสวนชายชรา การล่อลวงจิตใต้สำนึกของคนๆหนึ่งให้สับสนมีโอกาสทำให้ผู้นั้นเผยความลับในส่วนลึกที่สุดออกมาได้
เพียงแต่เขาไม่ค่อยเต็มใจจะใช้วิธีการเหล่านี้
“ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมนายท่านถึงอยากจับตัวคุณนัก ความเก่งกาจของคุณจัดว่าไร้เทียมทานจริงๆ” ชายชราตอบอย่างสุขุม ไม่สะทกสะท้านกับวิธีการของจางเซวียน “ผู้ชนะย่อมได้ทุกอย่าง ในเมื่อผมแพ้ ชะตากรรมเดียวที่รอคอยผมอยู่ก็คือความตาย คุณอย่าได้ฝันเลยว่าจะเค้นข้อมูลใดๆออกจากปากผมได้…”
“เวรละ! ถอย!”
ยังไม่ทันที่ชายชราจะพูดจบ จางเซวียนหรี่ตาด้วยความพรั่นพรึง เขารีบดึงอสูรทั้ง 4 มาและดำดิ่งลงสู่ก้นมหาสมุทร
บึ้มมมมม!
2-3 อึดใจต่อมาก็เกิดการระเบิดหนักหน่วง เสียงของมันดังสนั่นจนหนวกหู แรงกดดันมหาศาลและคลื่นความร้อนที่มีอานุภาพทำลายล้างกระจายไปทั่วทะเลพลัดดาว พร้อมจะทำลายทุกอย่าง
เมฆรูปดอกเห็ดขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นกลางอากาศ น้ำที่อยู่ภายในรัศมีของการระเบิดกระจายวงกว้างออกไปหลายร้อยลี้ เกิดฝนกระหน่ำตามมา
พลั่ก! พลั่ก! พลั่ก! พลั่ก! พลั่ก!
เลือดกระอักออกจากปากของจางเซวียนกับอสูรทั้ง 4 ใช้เวลาครู่หนึ่งกว่าพวกเขาจะตั้งตัวได้
เป็นเวลาเพียง 3 อึดใจเท่านั้นนับจากวินาทีที่จางเซวียนรู้ตัวว่าชายชราคิดจะทำอะไรจนถึงวินาทีที่เกิดการระเบิด ด้วยความเร็วอันน่าทึ่งของเผ่าพันธุ์อสูรใต้น้ำที่มีวรยุทธขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ พวกเขาจึงดำดิ่งลงไปได้หลายหมื่นเมตรภายในระยะเวลาอันสั้น
ไม่อย่างนั้น แรงระเบิดคงทำให้จางเซวียนกับอสูรทั้ง 4 แหลกเป็นชิ้นๆ
หากพวกเขายืนอยู่ข้างชายชราตอนที่อีกฝ่ายระเบิดวรยุทธ ทั้งร่างกายและจิตวิญญาณคงป่นปี้ไม่มีเหลือ!
“แล้วเขายังมีหน้ามาบอกว่าเราเป็นบ้า…” จางเซวียนพึมพำขณะมองหลุมขนาดมหึมาที่ปรากฏบนผิวทะเลซึ่งเป็นผลจากการระเบิด
แม้แต่เต่าหลังดำซึ่งมีประสิทธิภาพเยี่ยมยอดในการป้องกันตัวก็ได้แต่ตัวสั่นเมื่อรู้ตัวว่าเข้าใกล้ความตายมากแค่ไหน
มันรู้มานานแล้วว่าหอเทพเจ้ามีบุคคลอันตรายอยู่มากมาย แต่ใครจะคิดว่าจะเสียสติได้ขนาดนี้?
ปฏิบัติการระเบิดพลีชีพโดยปราศจากความลังเล ลำพังแค่ความตกใจก็ย่นอายุขัยของมันไปหลายปีแล้ว!
น่าสะพรึงจริงๆ!
“เสียดายนะ…” จางเซวียนส่ายหน้า
“เสียดายที่นักรบผู้ทรงพลังอย่างเขาจบไม่สวย…” ฉลามหมายเลข 1 พยักหน้าอย่างเห็นพ้อง
“ไม่ใช่อย่างนั้น ผมเสียดายที่ต้องเสียข้าวของไปมากมายเพื่อปราบเขา แต่แล้วก็ไม่ได้อะไรกลับมาเลย ในโลกนี้จะมีอะไรแย่ไปกว่านี้อีก?” จางเซวียนบ่นพึม
“….” อสูรขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ทั้ง 4
จางเซวียนทุ่มสุดตัวเพื่อเอาชนะชายชรา เขาใช้หุ่นโลหะไร้วิญญาณขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ 2 ตัวและบรรยากาศของการเสื่อมถอยจนหมด แม้แต่ของล้ำค่าขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ของเขาก็ได้รับความบอบช้ำสาหัสเพราะแผนการครั้งนี้
เขาเคยคิดว่าอย่างน้อยก็ยังพอคุ้มค่าหากเขาเสียข้าวของเหล่านี้ไปเพื่อจะได้หุ่นโลหะไร้วิญญาณที่ทรงพลังกว่าเดิมมา แต่สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรเลย!
พูดให้ง่ายขึ้นก็คือเขาลงทุนหนักในการต่อสู้ครั้งนี้ แต่ไม่มีอะไรกลับคืนมา จึงเป็นธรรมดาที่จะต้องรู้สึกคับอกคับใจ
แต่เมื่อคิดอีกที ในเมื่อคู่ต่อสู้เก่งกาจระดับนี้ ก็ถือว่าโชคดีแล้วที่ยังมีชีวิตอยู่
จางเซวียนกวักมือ แล้วโซ่โลหะขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ที่พังยับเยินก็ลอยมาหา เขานำซุปไก่ออกมาหลายขวด แล้วราดลงไปบนโซ่โลหะนั้นจนชุ่ม
ซรืดดดดดด!
ไม่ช้าโซ่โลหะก็กลับคืนสู่สภาพเดิม
จางเซวียนรู้อยู่แล้วว่าเขาสามารถทำแบบนี้ได้ ไม่อย่างนั้นคงทําใจได้ยากเต็มทีถ้าจะต้องเสียของล้ำค่าขั้นกึ่งสรวงสวรรค์ที่มีประโยชน์ชิ้นนี้ไป
“กลับกันเถอะ!”
รู้ดีว่าหอเทพเจ้าคงยังไม่ส่งใครมาตามล่าเขาในระยะเวลาอันใกล้นี้หลังจากเสียนักรบผู้ทรงพลังไปคนหนึ่ง จางเซวียนรีบเก็บอสูรทั้ง 4 กลับเข้าไปในกระสอบอสูร เตรียมตัวจะออกจากพื้นที่
ในตอนนั้น เสียงหนึ่งก็ดังขึ้นในหัว “นายท่าน เมื่อครู่นี้คุณเรียกหาผมใช่ไหม? เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า?”
ลูกเจี๊ยบสีเหลืองตัวจ้อยเดินเตาะแตะมายืนตรงหน้า ร่างเล็กกระจิ๋วหลิวปวกเปียกของมันโงนเงนไปมา
เห็นภาพนั้น จางเซวียนอยากรี่เข้าไปซ้อมมันอย่างชนิดที่เรียกว่ามันจะไม่มีวันลืม
ตอนที่เขาต้องการความช่วยเหลือของมัน เจ้าไก่น้อยก็เอาแต่หลับอุตุราวกับท่อนไม้ แต่ทันทีที่ศัตรูพ่ายแพ้และทุกอย่างจบสิ้น มันก็โผล่หน้ามาและถามว่าเขาอยากได้ความช่วยเหลือหรือเปล่า ราวกับกำลังเยาะเย้ย!
ถ้าไม่ใช่เพราะจางเซวียนอารมณ์ดีและมีความเป็นไปได้ที่เขาอาจพ่ายแพ้ให้มัน เขาคงซ้อมมันไปนานแล้ว!
“วรยุทธของคุณ…ไม่ได้เพิ่มสูงขึ้นเลยหรือ?” ฉลามหมายเลข 1 ตั้งคำถามด้วยน้ำเสียงที่แสดงความสงสัย
จางเซวียนประหลาดใจที่ได้ยินคำถามนั้น เขารีบหันไปมองและเห็นว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เขาเคยคิดว่าหลังจากที่ไก่น้อยกลืนกินโลหิตเทพเจ้าไปแล้ว ก็น่าจะเติบโตอย่างพรวดพราดและสำเร็จวรยุทธขั้นเดียวกันกับเต่าหลังดำและอสูรตัวอื่นๆ แต่กลับตรงกันข้ามกับที่เขาคาดไว้ มันดูไม่ต่างอะไรจากเดิม ระดับวรยุทธไม่เปลี่ยนแปลง และแม้แต่รูปลักษณ์ภายนอกก็เหมือนเดิมทุกอย่าง ราวกับโลหิตเทพเจ้าไม่ได้ส่งผลอะไรกับมันสักนิด
ว่าแต่…เป็นแบบนั้นได้อย่างไร?