เมื่อรวมกัน ‘ปรมาจารย์ขง’ เหล่านี้ก็ดูเหมือนจะขับเคลื่อนกงล้อของประวัติศาสตร์ นำพาพละกำลังที่แท้จริงของกฎเกณฑ์แห่งกาลเวลาให้มีชีวิตขึ้นมา
นี่คือเทคนิคที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา ฤดูใบไม้ผลิกับฤดูใบไม้ร่วง!
ฝีแปรงหนึ่งลิขิตฤดูใบไม้ผลิ อีกฝีแปรงหนึ่งลิขิตฤดูใบไม้ร่วง มันคือเทคนิคที่เปิดเผยให้เห็นทุกสิ่งนับจากอดีตสู่ปัจจุบัน
เจตจำนงของเหล่า ‘ปรมาจารย์ขง’ ที่ปรากฏอยู่ท่ามกลางกระแสกาลเวลาค่อยๆหลอมรวมเข้าด้วยกัน ทำให้เขามีพละกำลังเกินกว่าที่ใครจะจินตนาการได้
ดวงจันทร์ทั้งดวงดูพร้อมจะแตกสลายและร่วงหล่นได้ทุกขณะภายใต้แรงกดดันมหาศาลของพละกำลังของเขา
ด้วยการเร่งกงล้อประวัติศาสตร์ หินแกรนิตสีเทาบนดวงจันทร์สว่างวาบเป็นประกายสีขาวก่อนจะแหลกเป็นผุยผง
ไม่มีใครต้านทานพละกำลังของกาลเวลาได้ ต่อให้แข็งแกร่งขนาดไหนก็ตาม มันคืออำนาจเหนือชั้นที่ก่อเกิดเป็นรากฐานของจักรวาล
“ลั่วชิง…”
จางเซวียนไม่คิดว่าปรมาจารย์ขงจะมีไม้ตายซ่อนไว้จริงๆ เขาอดไม่ได้ที่จะกำหมัดแน่นด้วยความกังวล เขามองหลัวลั่วชิงอย่างร้อนใจ ในช่วงเวลาหนึ่ง เห็นเธอส่งสายตาที่เปี่ยมความถวิลหามาให้ แต่พริบตาต่อมา เธอก็หันกลับไปมองคู่ต่อสู้ด้วยนัยน์ตาอาฆาต
“ฉันรอสิ่งนี้มาตลอด…”
เธอชูดาบขึ้นแล้วจ้วงแทงเข้าใส่แม่น้ำแห่งกาลเวลา
ดาบแข็งทื่อไปทันที ราวกับถูกลิขิตไว้ไม่ให้เข้าถึงเป้าหมายได้ แต่แล้วเจตจำนงเพลงดาบก็ระเบิดออกมา ทำลายแม่น้ำแห่งกาลเวลาและพุ่งตรงเข้าสู่ใจกลางของประวัติศาสตร์
กระแสของกาลเวลาคือมิติรูปแบบหนึ่งที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลงการเคลื่อนไหวและหลบเลี่ยงการโจมตีของหลัวลั่วชิงได้
ดาบของเธอพุ่งตรงเข้าสู่จุดอ่อนของฤดูใบไม้ผลิกับฤดูใบไม้ร่วง จ้วงแทงเข้าที่ ‘ปรมาจารย์ขง’ จำนวนนับไม่ถ้วนในคราวเดียว ทำให้เขาไม่อาจหลบเลี่ยงได้เลย
ลงท้าย อดีตก็ไม่อาจเป็นได้มากกว่าอดีต มันไม่มีอำนาจกำหนดปัจจุบันและอนาคต
“มันคือมหาคัมภีร์แห่งฤดูใบไม้ผลิกับฤดูใบไม้ร่วง เธอได้มันมาจากทวีปแห่งปรมาจารย์และล่วงรู้ความลับทั้งหมดของมันแล้ว” จางเซวียนพึมพำด้วยใบหน้าซีดเผือด
เห็นได้ชัดว่าศิลปะเพลงดาบนี้ถูกสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ในการรับมือกับปรมาจารย์ขงเท่านั้น หลัวลั่วชิงใช้ตัวเธอเป็นสื่อกลางเธอถ่ายทอดเจตจำนงเพลงดาบเข้าสู่กฎเกณฑ์ของกาลเวลา แล้วตั้งใจเล่นงานกระแสของกาลเวลาโดยตรง
ไม่มีทางที่เธอจะคิดค้นกระบวนท่าแบบนี้ได้หากไม่ได้ล่วงรู้ความลับของมหาคัมภีร์แห่งฤดูใบไม้ผลิกับฤดูใบไม้ร่วง
ซึ่งตัวเขาคือผู้เข้าสู่วิหารแห่งขงจื๊อและนำมาหาคัมภีร์นั้นมาให้เธอ หากปรมาจารย์ขงถูกสังหาร เขาก็คือผู้สมรู้ร่วมคิดคนหนึ่ง
จางเซวียนหันกลับไปมองปรมาจารย์ขง หวังว่าอีกฝ่ายอาจใช้วิธีใดสักอย่างหลบหลีกหรือเอาชนะการโจมตีครั้งนี้ได้ แต่แทนที่จะตอบโต้ ปรมาจารย์ขงกลับทิ้งไม้เท้าในมือ
“ทำไม?” จางเซวียนตะโกน
เขาพุ่งพรวดออกไป ตั้งใจจะไปเขย่าปรมาจารย์ขงให้รู้สึกตัว แต่ไก่น้อยรั้งตัวไว้
เทคนิคนั้นทำให้ตัวตนปัจจุบันของเขาทับซ้อนกับตัวตนอื่นๆในประวัติศาสตร์ ซึ่งหากตัวตนอื่นๆของเขาถูกสังหาร ตัวตนปัจจุบันก็ไม่อาจเอาชีวิตรอดได้เช่นกัน นี่คือข้อบกพร่องข้อใหญ่ที่สุดของเทคนิคนี้ ดังนั้น เขาไม่อาจทำอะไรเพื่อช่วยชีวิตตัวเองได้หรอก” ไก่น้อยอธิบายพร้อมกับส่ายหน้า
“แต่…มันต้องมีสักวิธีสิ…สักวิธี” จางเซวียนอุทานอย่างสิ้นหวัง
แต่ลึกๆแล้วเขารู้ดีว่าไก่น้อยพูดถูก
กาลเวลาเดินทางเป็นเส้นตรง หากตัวเขาในอดีตถูกฆ่า ตัวเขาในปัจจุบันก็ไม่อาจมีชีวิตรอดอยู่ได้
ฤดูใบไม้ผลิกับฤดูใบไม้ร่วงเป็นเทคนิคที่ทรงพลังก็จริง แต่มีข้อบกพร่องที่แสนอันตรายอยู่ในนั้น
“อย่าลืมเรื่องที่คุณสัญญากับผมไว้ล่ะ…”
ปรมาจารย์ขงหันมามองจางเซวียน เสียงนั้นยังคงก้องอยู่ในหู
จากนั้น ร่างของปรมาจารย์ขงก็ร่วงลงสู่พื้น
ฟึ่บ!
ด้วยเจตจำนงเพลงดาบอันทรงพลังของหลัวลั่วชิง แม่น้ำแห่งกาลเวลาถูกทำลาย ร่างจำนวนมากมายของปรมาจารย์ขงที่อยู่ในนั้นค่อยๆเสื่อมสลายไป
ยังไม่ทันที่ปรมาจารย์ขงในปัจจุบันจะร่วงลงสู่พื้น ร่างกายของเขาก็แหลกสลายกลายเป็นม่านหมอกที่ยังคงมีอำนาจของสรวงสวรรค์อยู่ในนั้น
หมอกพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าทันที หวังจะหนีให้พ้นจากดวงจันทร์
แต่หลัวลั่วชิงก็รีบคว้าหมอกนั้นไว้ จัดการไม่ให้มันหลบหนีได้
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในชั่วพริบตา และแสงเจิดจ้าของดวงจันทร์ก็หายวับไป แต่พลังงานรุนแรงที่เกิดจากการปะทะยังคงอบอวลอยู่โดยรอบ พวกมันรวมตัวกันกลางอากาศและร่วงลงสู่พื้นราวกับฝนห่าใหญ่
ดูเหมือนท้องฟ้ากำลังร่ำไห้
การต่อสู้ของ 2 จอมราชันย์สิ้นสุดแล้ว
ปรมาจารย์ขงเสียชีวิต!
หลัวลั่วชิงกำหมอกที่สลายจากร่างของปรมาจารย์ขงไว้แน่น เธอเข้าสู่ภวังค์
จอมราชันย์พิชิตสวรรค์เป็นที่ยำเกรงของผู้คนมากมายตั้งแต่ปรากฏตัวที่นี่ แม้จอมราชันย์ที่อยู่มาแต่ดั้งเดิมก็ยังลงเอยด้วยการยอมจำนนให้เขาทีละคน
หลัวลั่วชิงก้าวเข้าสู่การปะทะทั้งที่รู้แน่แก่ใจว่าอาจต้องเสียชีวิต แต่ลงท้าย เธอคือผู้ที่อยู่รอด
นั่นคือเทคนิคที่ทรงพลังที่สุดของปรมาจารย์ขง แม้เธอจะเดินทางลงสู่โลกเบื้องล่างเพื่อเสาะหาความสามารถของเขาและใช้เวลาอีกยาวนานเพื่อหาวิธีตอบโต้มัน แต่ทุกอย่างก็เกิดขึ้นอย่างราบรื่นเสียจนเธออดประหลาดใจไม่ได้
ราวกับปรมาจารย์ขงถอดใจในวินาทีสุดท้าย
ตอนที่เธอสำแดงกระบวนท่าท้ายสุด ในเสี้ยววินาทีหนึ่ง เธอเห็นปรมาจารย์ขงมีสีหน้าโล่งใจ ราวกับว่าในที่สุดเขาก็ได้ทำในสิ่งที่ตั้งใจไว้
หลังจากนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง หลัวลั่วชิงกระดิกนิ้วเพื่อเก็บหมอกนั้นไว้ก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอก จากนั้นก็หันไปจับจ้องใครคนหนึ่งที่อยู่ไม่ห่างออกไป
ชายหนุ่มที่เธอรักพุ่งพรวดเข้าหาพื้นที่บริเวณที่ปรมาจารย์ขงร่วงลงไป พยายามรวบรวมเศษซากของพลังงานที่หลงเหลืออยู่ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้
รู้ดีว่าจางเซวียนรู้สึกอย่างไร หลัวลั่วชิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเดินเข้าไปหาและพูดว่า “นี่คือชะตากรรม เราทำอะไรกับมันไม่ได้หรอก…”
ผู้ครอบครองเศษเสี้ยวสวรรค์ย่อมมีชะตากรรมที่ไม่อาจหนีพ้น
จางเซวียนก้มหน้าอยู่นานก่อนจะพึมพำ “ผมเข้าใจ…”
เขาไม่อยากยอมรับ แต่เรื่องจริงก็คือปรมาจารย์ขงตายไปแล้ว!
นับตั้งแต่เขาอยู่ในทวีปแห่งปรมาจารย์ ปรมาจารย์ขงก็คอยชี้แนะ เป็นแสงสว่างให้กับเส้นทางที่เขาเลือกเดิน แม้จางเซวียนจะไม่เคยยอมรับอีกฝ่ายเป็นอาจารย์อย่างเป็นทางการ แต่ก็เห็นปรมาจารย์ขงเป็นผู้ชี้แนะที่ตัวเขาให้ความเคารพอย่างล้ำลึก
จางเซวียนไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะหายไปจากโลกหลังจากที่พวกเขาพบกันได้เพียงไม่นาน
เขายังจำบทสนทนากับชายชราผู้นี้ได้อย่างชัดเจนราวกับปรมาจารย์ขงยังอยู่ การที่อีกฝ่ายตายจากไปแบบนี้ดูไม่ใช่ความจริงเอาเสียเลย
“นี่คือเส้นทางที่พวกเรา…ก็ต้องเดินเหมือนกันหรือ? เราต้องต่อสู้เพื่อสวรรค์เหมือนกันใช่ไหม?” จางเซวียนมองหลัวลั่วชิงด้วยสีหน้าเศร้าสลด
“ฉันก็ไม่รู้…” หลัวลั่วชิงก้มหน้า ราวกับพยายามจะหลบสายตาของจางเซวียน
“คุณมีคำตอบในใจแล้ว แค่ไม่อยากพูดออกมาเท่านั้นเอง คุณหลบหน้าผมมาตลอดเพราะไม่อยากปะทะกับผมใช่ไหม? คุณกลัวว่าในท้ายที่สุดคุณจะทำร้ายผมไม่ลง…ใช่หรือเปล่า?” จางเซวียนคาดคั้น
“ฉัน…” หลัวลั่วชิงตอบไม่ได้
เห็นภาพนี้ จางเซวียนรู้สึกหัวใจสลาย คิดขึ้นมาทันทีว่าต้องไปให้พ้นจากที่นี่
จางเซวียนหันหลังกลับและออกเดิน “ไก่น้อย ไปกันเถอะ”
ถ้าชะตากรรมคือการที่หนึ่งในพวกเขาต้องตายด้วยน้ำมือของอีกฝ่าย เขาก็อยากให้ความรักครั้งนี้ไม่เคยเกิดขึ้นตั้งแต่ต้นเลยจะดีกว่า
“จางเซวียน…”
เห็นจางเซวียนจากไป หลัวลั่วชิงหลับตา เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง ทุกอย่างก็พร่าเลือน เธอพูดเสียงสั่นๆ “ฉันเสียใจ…”
“คุณไม่ต้องขอโทษผมหรอก นี่คือชะตากรรมของเรา” จางเซวียนตอบโดยไม่หันกลับไป
เขาอดทนดั้นด้นมาถึงที่นี่เพื่อหวังว่าจะได้พบเธออีกครั้ง แต่เมื่อสุดท้ายได้พบเธอจริงๆและเข้าใจเรื่องจริงที่อยู่เบื้องหลังทุกอย่าง บางที…ก็คงจะดีกว่าหากเขาปล่อยเธอไปตั้งแต่แรก
จางเซวียนรับไม่ได้ที่สิ่งนี้เป็นเพียงอนาคตเดียวที่รอพวกเขาอยู่ ถ้าหากนี่คือความทุกข์ทรมานที่เขาต้องเผชิญ เขาก็ขอให้ตัวเองไร้อารมณ์และความรู้สึกต่างๆโดยสิ้นเชิงจะดีกว่า
พลั่ก!
จางเซวียนกระอักเลือดกองใหญ่ออกมา รู้สึกหน้ามืดเล็กน้อย
ในฐานะนักรบผู้ฝึกฝนเวทนาสวรรค์ ความปรารถนาที่จะให้ตัวเองปราศจากอารมณ์และความรู้สึกทั้งมวลเป็นแรงตีกลับครั้งใหญ่ เพียงแค่คิดก็เกือบทำให้วรยุทธของเขาแตกสลาย
วิ้งงงง!
จี้ที่ห้อยอยู่รอบลำคอของจางเซวียนร้อนผ่าวขึ้นมา กระแสพลังงานซึมซาบเข้าไป ระงับความปั่นป่วนของพลังงานในร่างของจางเซวียนไว้
จางเซวียนยกมือขึ้นคว้าจี้ อยากจะโยนมันกลับไปให้หลัวลั่วชิง แต่สุดท้ายก็ปล่อยมือทั้งที่มือนั้นยังสั่นเทา
ระบายความโกรธใส่หลัวลั่วชิงก็ไม่มีประโยชน์ ที่ทุกอย่างเป็นแบบนี้ก็ไม่ใช่ความผิดของเธอ
หากเธอตายเพราะการดวล เขาคงสะเทือนใจยิ่งกว่านี้หลายเท่า
จางเซวียนรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าจะมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่เดินออกมาจากการดวลโดยยังมีชีวิต เพียงแต่ตัวเขาปฏิเสธที่จะยอมรับความจริงข้อนี้
เขาหันกลับไปเผชิญหน้ากับหลัวลั่วชิงอีกครั้ง เห็นนัยน์ตาของเธอแดงก่ำ ในตอนนั้น เขารู้สึกผิดอย่างรุนแรง
ตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอต้องมีชีวิตอยู่ทั้งที่รู้ว่าอนาคตแบบไหนรอคอยอยู่ตรงหน้า จางเซวียนนึกภาพไม่ออกเลยว่าหลัวลั่วชิงจะต้องเผชิญกับความกดดันมากมายขนาดไหน
ความเจ็บปวดที่เธอรู้สึกคงไม่น้อยไปกว่าเขา
จางเซวียนเดินเข้าไปกอดหลัวลั่วชิงไว้แน่น เขาพูดด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยวมุ่งมั่น “ผมไม่เชื่อหรอกว่าจะไม่มีวิธีไหนยับยั้งสงครามสวรรค์ได้ ผมจะต้องหาวิธีนั้นให้เจอเพื่อให้เราทั้งคู่ได้มีชีวิตรอด รอผมด้วยนะ”
ในตอนนั้น เขาพลันนึกได้ถึงคำพูดของปรมาจารย์ขง
อีกฝ่ายเคยบอกไว้ว่าตัวเขาครุ่นคิดเรื่องนี้ตลอดหลายปีที่ผ่านมาและมีความคิดบางอย่างอยู่ในใจแล้ว เพียงแต่ยังไม่แน่ใจว่าจะทำสำเร็จหรือเปล่า
นั่นย่อมหมายความว่าทั้งคู่ไม่ได้อับจนหนทางเสียทีเดียว อาจมีวิธีแก้ไขปัญหานี้ได้
ก็แค่ต้องหาให้เจอ!
เมื่อครั้งที่จางเซวียนอยู่ในมิติเบื้องบน ตัวโคลนของปรมาจารย์ขงดูเหมือนจะรู้วิธีสกัดเอาหอสมุดเทียบฟ้าออกจากร่างของเขา
แม้วิธีนั้นจะทำให้เขาต้องตาย แต่จะเป็นไปได้หรือเปล่าที่จะปรับเปลี่ยนมันสักหน่อยเพื่อให้เขายังคงมีชีวิตอยู่ได้ต่อให้สกัดเอาหอสมุดเทียบฟ้าออกไปแล้ว?
ซึ่งหากทำได้จริง ก็จะเอาชนะสงครามสวรรค์ครั้งนี้ได้โดยไม่มีใครต้องสละชีวิต!
“นั่น…เป็นไปได้หรือ?” หลัวลั่วชิงถามอย่างอ่อนแรง