บทที่ 76
หอการค้าขนาดกลาง
พละกำลังของซูฉีเจี่ยนั้นไม่เหมือนกับผู้ที่เพิ่งได้วรยุทธ์กลับคืนมาเลยแม้แต่น้อย ตงเหรินทำได้เพียงยืนมองลูกน้องของตนถูกกำจัดลงทีละคนๆ ขวัญกำลังใจของฝ่ายหอการค้าหยูเย่ก็เริ่มกลับมา
“เจ้าพวกบ้า พวกแกกล้าขัดขวางท่านซูงั้นเรอะ!”
“ท่านซู ลูกกระจ๊อกพวกนี้ไม่ต้องถึงมือท่านหรอก ข้าจัดการเอง!”
“ถึงคนจะน้อยกว่า แค่มีท่านซูพวกเราก็ชนะใสๆ”
หลังจากที่ตกเป็นรองเรื่องจำนวนคน จ้าววรยุทธ์ทั้งแปดที่ติดตามซูฉีเจี่ยมาก็เริ่มมีแรงใจกลับมาสู้อีกครั้งหนึ่ง ด้วยพลังเทพยุทธ์ของซูฉีเจี่ยนั้นทำให้การเสียเปรียบเรื่องจำนวนคนนั้นไม่มีผลแต่อย่างใด
ตงเหรินที่แอบชิ่งหนีอย่างเงียบๆ ก็ถูกเทพยุทธ์มาดนิ่งหยุดไว้ได้อีกครั้ง ก่อนที่เขาจะลากตงเหรินกลับมายังที่เกิดเหตุ
ตั้งแต่ที่ซูฉีเจี่ยได้พลังของเขากลับคืนมา และได้รับเกราะเหล็กดำจากการช่วยเหลือของเย่เย่ทำให้ความแข็งแกร่งของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าเทพยุทธ์ขั้นสูงเลย
ตงเหรินที่มักสบประมาทซูฉีเจี่ยอยู่ตลอดเวลา ทำให้เขาพลาดโอกาสครั้งสำคัญในการหลบหนีไปจนได้ ชายชราเจ้าเล่ห์และพรรคพวกของเขาที่เสียท่าจึงถูกจับมัดติดกันที่เสาใหญ่โถงหลักของหอการค้าตงอี้ฉีหยวน
“มีทางเลือกให้ท่านสองทาง หนึ่ง! ท่านต้องยอมเซ็นสัญญารวมหอการค้าตงอี้ฉีหยวนของท่านรวมกับหอการค้าหยูเย่ของพวกข้า และข้าสัญญาว่าข้าจะให้โอกาสท่านมีงานทำภายในหอการค้าอย่างแน่นอน หรือสอง! ท่านทิ้งหอการค้าของท่าน และหนีไปให้ไกลอย่าให้พวกข้าเจอหน้าคร่าตาท่านอีก หากท่านคิด ไม่ซื่อละก็ ข้าจะหาท่านจนพบ และฆ่าท่านซะ!”
ซูฉีเจี่ยที่ถือไพ่เหนือกว่าก็ได้เสนอข้อเสนอ 2 ข้อออกมา ในระหว่างรอตงเหรินตัดสินใจบรรดาจ้าววรยุทธ์แห่งหอการค้า หยูเย่ก็เริ่มจัดวางข้าวของ และเข้ายึดหอการค้าตงอี้ฉีหยวนอย่างไม่รอช้า
ใบหน้าที่ฟกช้ำดำเขียวของตงเหรินก็มองมาที่ซูฉีเจี่ยด้วยความเกลียดชัง ก่อนที่จะปฏิเสธด้วยน้ำเสียงกร้าวแข็งอีกครั้ง
“อย่าได้ฝันลำเอียงไปหน่อยเลย! ด้วยเกียรติของหอการค้าตงอี้ฉีหยวนพวกข้าไม่ยอมใครหน้าไหนทั้งนั้น ต่อให้ต้องเกิดใหม่อีกสิบรอบ! พันรอบ! พวกข้าก็จะไม่ยอมรวมกับหอการค้าของพวกเศษสวะอย่างเจ้า !”
ถึงอย่างไรก็ตามนอกจากตงเหรินแล้วก็ไม่มีลูกน้องของเขาคนไหนกล้าพอที่จะปฏิเสธข้อเสนอนี้เลยแม้แต่คนเดียว
จ้าววรยุทธ์หนุ่มแห่งหอการค้าตงอี้ฉีหยวนนั้นก็ได้พูดขึ้นกับพรรคพวกของเขา “ข้าจะเข้าร่วมหอการค้าหยูเย่ นี่ถือว่าเป็นโอกาสทองที่หาได้ยากยิ่งที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งของตำนานบทใหม่แห่งหลิงเฉิงเลยไม่ใช่หรือไง? อีกอย่างจริงอยู่ที่ข้าเป็นลูกจ้างของหอการค้าตงอี้ฉีหยวน แต่เมื่อสถานการณ์เป็นเช่นนี้ ข้าก็ไม่มีภาระผูกพันใดๆกับหอการค้านี้อีกแล้ว!”
“เหยียนซื่อ น่ะ..นี่เจ้า!?”
ตงเหรินแทบกระอักออกมาเป็นเลือดเมื่อเห็นเด็กหนุ่มที่เขาเลี้ยงดูปูเสื่อมาเป็นอย่างดีทรยศหักหลังเขาเป็นคนแรก
แม้ว่าเหยียนซื่อจะไม่ใช่จ้าววรยุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของหอการค้าตงอี้ฉีหยวน แต่เขานั้นยังหนุ่มยังแน่นและหน่วยก้านดีอีกด้วย เขาเป็นคนแรกที่ตัดสินใจถอนตัวและเข้าร่วมหอการค้า หยูเย่ อย่างไม่มีทีท่าลังเล
เมื่อมีคนแรก ก็ต้องมีคนที่สองคนที่สามตามมา หลังจากที่เหยียนซื่อแปรพักตร์พรรคพวกคนอื่นๆของเขาก็แสดงเจตจำนงในการขอเข้าร่วมหอการค้าหยูเย่ด้วยเช่นกัน เหลือเพียงตงเหรินที่ยังคงเป็นไม้แก่ดัดยาก
“ถ้าเจ้าไม่อยากยอมแพ้ ก็ไสหัวหงอกๆของเจ้าไปซะ อย่าให้พวกข้าได้เห็นหน้าเจ้าอีก!” ซูฉีเจี่ยพูดพลางปล่อยจิตสังหารออกมาข่มขู่ตงเหริน
ซูฉีเจี่ยที่รู้ว่าตงเหรินนั้นเป็นคนที่ฆ่าได้หยามไม่ได้ ก็แก้มัดและปล่อยให้ชายแก่หนีไป เขามั่นใจว่าถึงแม้ตงเหรินจะร้อยเล่ห์เพทุบาย แต่หลังจากที่ถูกเขาข่มขู่ไปชุดใหญ่ เฒ่าเจ้าเล่ห์คงไม่กล้ากลับมาแว้งกัดพวกเขาอีกเป็นครั้งที่สอง
หลังจากที่หอการค้าหยูเย่ผนวกรวมกับหอการค้าตงอี้ฉีหยวนได้สำเร็จ ในที่สุดจากหอการค้าเล็กๆของพวกเขาก็ได้กลายเป็นหอการค้าขนาดกลางอย่างเป็นทางการเสียที ชื่อเสียงของพวกเขาในตอนนี้แซงหน้าหอการค้าใหญ่ๆบางแห่งในหลิงเฉิงเสียอีก
เย่เย่ที่เล็งเห็นถึงช่องทางกอบโกยกำไรก็ได้สั่งให้เสี่ยวหยูไปรับซื้ออาวุธที่ชำรุดจากทั่วทั้งหลิงเฉิง เขาตั้งใจจะใช้ระบบซ่อมแซม และเพิ่มประสิทธิภาพของมันและนำกลับมาขายในท้องตลาดอีกครั้ง
หมวดหมู่การซ่อมแซม และเสริมพลังของระบบแลกเปลี่ยนครอบจักรวาลนั้นใช้เหรียญจักรวาลน้อยกว่าแลกอุปกรณ์ออกมาโดยตรงอยู่มาก แต่ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจไม่แพ้กัน ข้อเสียเพียงหนึ่งเดียวของมันคือมันต้องค่อยๆปรับปรุงทีละชิ้น
เย่เย่ที่คุ้นเคยกับระบบนี้เป็นอย่างดีจากการที่เคยซ่อมแซมอาวุธของเหล่ยถิง นายหญิงสำนักจ้าวเมฆาแห่งเมืองเฟิงเจิ้น เขาก็ได้เริ่มซ่อมแซม และเสริมพลังโดยเรียงลำดับความสำคัญตามประสิทธิภาพของอาวุธที่เขารับซื้อมา
จากการทำธุรกิจแบบนำกลับมาใช้ใหม่ในครั้งนี้ทำให้เขาได้กำไรเป็นกอบเป็นกำ
นอกจากอาวุธที่เขารับมาขัดเกลา และขายทอดตลาดแล้วนั้น เขายังแลกของชำในระบบเช่นผ้าขี้ริ้วล่องหนที่มีจุดอ่อนคือมีขนาดเล็กเท่าฝ่ามือ นำมาเสริมแกร่งจนกลายเป็นผ้าคลุมขนาดใหญ่ที่คลุมได้ตั้งแต่หัวจรดเท้า ซึ่งทำให้เขาไม่จำเป็นต้องแลกผ้าขี้ริ้วหลายผืนมาต่อกันอีกต่อไป
หลังจากนั้นเขาก็ได้ลองแลกเปลี่ยนสิ่งของประเภทอื่นๆออกมาเรื่อยๆ จนทำให้เขาได้พบกับสิ่งที่เขาตามหา
ชื่อ : ลูกประคำโง่ๆ
ราคา : 5 เหรียญจักรวาล
คุณสมบัติ : สามารถดูดซึมสามารถพิษได้เมื่อสัมผัส และจะทำให้ลูกประคำเปลี่ยนสีจากสีเขียวอ่อนเป็นสีเขียวเข้ม!
คำอธิบายเพิ่มเติม : ลูกประคำนี้สามารถซึมซับได้เพียงพิษกระจอกๆเท่านั้น”
ลูกประคำนี้ให้ความรู้สึกอุ่นๆในมือของเขา
“นี่มันเพชรในตมชัดๆ! แค่ข้านำมันมาปรับปรุงอีกสักนิดก็ใช้งานได้แล้ว!”
เขาประหลาดใจเมื่อรู้ว่าของถูกและดีก็มีอยู่ในโลกนี้ด้วย เขาไม่รอช้ารีบทำการเสริมแกร่งลูกประคำหยกโง่ๆนี้ทันที
“พบไอเทมลูกประคำโง่ๆ สามารถเสริมแกร่งได้ในราคา 300 เหรียญจักรวาล คุณสมบัติหลังการเสริมแกร่งไอเทม ลูกประคำโง่ๆนี้จะสามารถซึมซับพิษได้เกือบทุกชนิดบนโลก และมีความทนทานต่อการใช้งานมากขึ้น เจ้าต้องการเสริมแกร่งหรือไม่?”
เย่เย่ไม่ลังเลที่จะเสริมแกร่งในทันที แสงแฟลชของกล้องมือถือกระทบกับลูกประคำพร้อมกับเงิน 300 เหรียญจักรวาลที่หายไปจากระบบของเขา แม้ว่าลูกประคำจะหน้าตาเหมือนเดิมแต่เย่เย่นั้นรู้ดีว่ามันถูกปรับแต่งเป็นที่เรียบร้อย
“ในเมื่อเสริมแกร่งแล้วข้าก็ไม่ควรเรียกเจ้าว่าลูกประคำโง่ๆต่อไปล่ะสินะ? ต่อไปนี้ข้าจะเรียกเจ้าว่าประคำจ้าวอสรพิษ!”
เย่เย่เริ่มนำเชือกมาร้อยลูกประคำจ้าวอสรพิษเข้าด้วยกัน ก่อนที่จะคล้องไปที่คอของเขา ไม่มีผู้ใดคาดคิดว่าประคำเส้นงามนี้ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องประดับที่บ่งบอกถึงฐานะของผู้สวมใส่ แต่ยังเป็นเครื่องป้องกันที่ทำให้เย่เย่ไร้เทียมทานอีกด้วย
แม้ว่าปราการหลิงหยวน และหอการค้าหยวนเชินศัตรูของพวกเขาจะทรงอิทธิพลขนาดไหนในเมืองหลิงเฉิง แต่ภายใต้การนำของเย่เย่ และการสนับสนุนจากระบบแลกเปลี่ยนทำให้หอการค้า หยูเย่เจริญเติบโตอย่างต่อเนื่อง ประชาชนภายในเมืองก็เริ่มให้การยอมรับพวกเขามากขึ้น
เย่เย่ที่จัดการธุรกิจของเขาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็เริ่มปรับสมดุลพลังเพื่อกินยาก้าวข้ามสู่ขั้นเทพอสูรไร้เงา แต่ทันใดนั้นเองชายชุดดำที่อ้างว่าเป็นอริกับปราการหลิงหยวนในครั้งที่แล้วก็ได้ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้าเย่เย่อีกครั้ง พร้อมกับชักชวนเย่เย่ไปเจรจาถึงข้อตกลงบางอย่าง
เย่เย่ที่ไม่เคยรับข้อเสนอจากขั้วอำนาจใดก็ได้ตัดสินใจไปเจรจากับชายชุดดำเพื่อหวังตักตวงข้อมูลเกี่ยวกับปราการ หลิงหยวนให้ได้มากที่สุด เขาจึงตอบรับคำเชิญชวนและตามชายลึกลับไปที่ร้านอาหารในเมืองหลิงเฉิง…