บทที่ 160
หนอนบ่อนไส้
“พวกเขามาถึงแล้วขอรับ!”
เวรยามที่เฝ้าประตูทางเข้าคฤหาสน์ของตระกูล รีบวิ่งเข้ามารายงานแก่หยางตงหลิง
หยางตงหลิงและพรรคพวกที่รออยู่ในสวนต่างจ้องมองที่ประตูทางเข้าเป็นตาเดียวกัน ทันทีที่เห็นทั้งสองย่างกรายเข้ามา พวกเขาก็รีบทำความเคารพแก่ผู้นำตระกูลและแขกผู้มีเกียรติ
“ยินดีต้อนรับกลับขอรับท่านซื่อไห่ และยินดีต้อนรับท่านเย่เย่” พวกเขากล่าวต้อนรับด้วยน้ำเสียงและท่าทีที่สุภาพนอบน้อม หยางตงหลิงและสมาชิกที่อยู่เบื้องหน้าทั้งสองนั้นล้วนแล้วแต่เป็นผู้สนับสนุนของหยางซื่อไห่
หยางซื่อไห่กวาดตาไปรอบๆ เมื่อเขาไม่พบหน้าของ หยางเซี่ยงหยุนเขาก็รู้สึกฉุนเฉียวราวกับถูกน้ำมันราดบนกองเพลิง
“เงยหน้าขึ้นเถอะ!” หยางซื่อไห่พยักหน้าเบาๆ พลางผายมือให้สัญญาณแก่บริวารของเขาก่อนชักม้าเดินเข้าไปในสวนพร้อมๆกับเย่เย่
หยางเซี่ยงหยุนที่กำลังนั่งอยู่ที่ศาลากลางสวน เมื่อเหลือบไปเห็นหยางซื่อไห่พาเย่เย่เข้ามาด้วยตนเองก็อดรู้สึกหงุดหงิดไม่ได้ เขาลุกพรวดและตรงดิ่งไปหาผู้นำตระกูลเพื่อซักถาม
“ท่านซื่อไห่ นี่ท่านเสียสติไปแล้วสินะ!”
“ใครกันแน่ที่เสียสติ! ผู้นำตระกูลกลับมาทั้งทีแต่เจ้ากลับนั่งลอยชายอยู่ในสวนงั้นรึ? น่าขันเสียนี่กระไร!” หยางซื่อไห่กดตามองหยางเซี่ยงหยุนพลางพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชัน
หยางเซี่ยงหยุนทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน เขาจ้องหน้าเย่เย่อย่างไม่วางตา ก่อนหันหลังให้กับหยางซื่อไห่และพูดขึ้นอย่างไร้เยื่อใย
“อย่าพูดให้ขำหน่อยเลยน่า ท่านไม่ใช่หัวหน้าของพวกข้าสักหน่อย!”
“นี่เจ้า!” หยางซื่อไห่ชี้หน้าหยางเซี่ยงหยุน และแผดเสียงดังออกมาด้วยความเกรี้ยวกราด
ทันใดนั้นเองเย่เย่ที่ฟังบทสนทนามาโดยตลอด ก็เดินออกมาข้างหน้าหยางซื่อไห่และพูดขึ้นอย่างไม่สบอารมณ์
“เจ้าคือหยางเซี่ยงหยุนสินะ? ในฐานะที่เป็นคนของตระกูลก็น่าจะเข้าใจกฎของตระกูลดี สมาชิกมีสิทธิ์ในการออกความเห็น แต่การตัดสินใจทั้งหมดขึ้นอยู่กับผู้นำตระกูล ดังนั้นในเมื่อตระกูลของเจ้าสวามิภักดิ์ต่อหอการค้าของข้า เจ้าก็ต้องเชื่อฟังคำสั่งของข้า!”
เมื่อหยางเซี่ยงหยุนและบริวารได้ยินดังนั้นก็ชักสีหน้าด้วยความโกรธ แม้ว่าเขาจะรู้ดีว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเย่เย่แต่พวกเขาก็ไม่เกรงกลัวคำข่มขู่ของเย่เย่เลยแม้แต่น้อย
“เหอะ! ที่ข้ารู้คือท่านซื่อไห่ไปขอความช่วยเหลือจากท่านเท่านั้น นอกจากนั้นเป็นการตัดสินใจโดยพลการของท่านซื่อไห่ ฉะนั้นเหตุใดข้าต้องทำตามคำสั่งของท่านด้วย?”
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของหยางเซี่ยงหยุน เย่เย่ก็ยิ้มมุมปากราวกับคาดการณ์เอาไว้อยู่แล้ว ก่อนหน้านี้หลังจากทำข้อตกลงกับหยางซื่อไห่ เขาก็ได้ส่งสายสืบมายังเซียงเฉิงเพื่อสำรวจกองกำลังของทั้ง 4 ตระกูลใหญ่และพบว่าเมื่อข่าวการสวามิภักดิ์ของตระกูลหยางไปถึงเมืองเซียงเฉิง หลายตระกูลก็ได้ตกลงร่วมมือกันเพื่อกำจัดตระกูลหยางเป็นอันดับแรก
ในระหว่างที่หยางซื่อไห่พำนักอยู่ที่หลิงเฉิงนั้น หยางเซี่ยงหยุนที่ไม่พอใจกับการตัดสินใจของหยางซื่อไห่ก็ได้ลักลอบทำข้อตกลงกับตระกูลหวังและตระกูลซ่งเพื่อขัดขวางการแทรกแซงจากหอการค้าหยูเย่และสร้างความขัดแย้งภายในตระกูลอย่างลับๆ แม้ว่าเย่เย่จะรู้อยู่แก่ใจ แต่เพื่อไม่แหวกหญ้าให้งูตื่น เขาจึงไม่ได้บอกเรื่องนี้กับหยางซื่อไห่
“ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ข้าพูดเลยสินะ! ในเมื่อเจ้าไม่ยอมแพ้แต่โดยดีตระกูลหยางก็ไม่ต้องการเจ้าอีกต่อไป!”
ได้ยินดังนั้น สีหน้าของหยางเซี่ยงหยุนและบริวารก็บิดเบี้ยวด้วยความโกรธ
“ช้าก่อนท่านเย่! หยางเซี่ยงหยุนเป็น 1 ใน 3 กำลังหลักของตระกูลหยาง ได้โปรดพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนด้วย!” แม้ว่าหยางซื่อไห่จะไม่ลงรอยกับหยางเซี่ยงหยุน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเขาคือยอดฝีมือ อีกทั้งยังเป็น 1 ในเสาหลักที่ค้ำจุนตระกูลมาอย่างช้านาน ผู้นำตระกูลจึงไม่ลังเลที่จะคุกเข่าอ้อนวอนต่อเย่เย่แทนตัวหยางเซี่ยงหยุนเอง
“หยางเซี่ยงหยุน เจ้ามัวรออะไรอยู่ยังไม่ยอมขอโทษท่านเย่อีก? อยากถูกขับไล่นักรึไง!?” หยางตงหลิงพูดขึ้นอย่าง ขึงขัง
หยางเซี่ยงหยุนและบริวารต่างมองหน้ากันอย่าง กระอักกระอ่วน แม้ว่าเขาจะเหม็นขึ้หน้าเย่เย่ แต่หากพวกเขาถูกขับไล่ออกไปตอนนี้ ข้อตกลงที่เขาทำร่วมกับตระกูลหวังและตระกูลซ่งจะเป็นโมฆะ
“เห็นแก่ท่านซื่อไห่ ข้าจะให้โอกาสพวกเจ้าอีกครั้งก็ได้ หากเจ้ารับกระบวนท่าของข้าได้ ข้าจะยกโทษให้เจ้าและจะไม่บังคับให้เจ้าทำตามคำสั่งของข้าอีก แต่หากเจ้าทำไม่ได้เจ้าต้องเชื่อฟังคำสั่งของข้า!” เย่เย่กอดอกพร้อมผายมือยื่นข้อเสนอให้จำเลย
ทุกสายตาจับจ้องไปที่หยางเซี่ยงหยุนราวกับรอคำตอบจากปากเขา
“หึ! ข้อเสนอนี้ดูยังไงข้าก็เสียเปรียบเห็นๆ”
“ย่อมได้ ข้าจะลดระดับวรยุทธ์ให้เท่ากับเจ้า ถ้ายังคิดจะปฏิเสธอีกก็ไสหัวไปซะ!” เย่เย่ได้ยินก็รู้ได้ทันทีว่าหยางเซี่ยงหยุนต้องการอะไร
“ดี! อย่าหาว่าข้าไม่ปรานีก็แล้วกัน!”
เมื่อเห็นเย่เย่ยอมผ่อนปรนให้ หยางซื่อไห่ก็ไม่คัดค้านอีก เขาสั่งให้สมาชิกคนอื่นๆถอยออกไปเพื่อเว้นพื้นที่สำหรับการประลอง
หยางเซี่ยงหยุนเพ่งสมาธิจดจ้องไปที่การเคลื่อนไหวของเย่เย่อย่างไม่ละสายตา และเมื่อเห็นเย่เย่พุ่งเข้ามา เขาก็โคจรลมปราณหินผาไปทั่วทั้งร่างเพื่อป้องกัน
“อ่อนหัด!” เย่เย่พูดถากถางฝ่ายตรงข้าม ก่อนจะพุ่งทะยานใส่หยางเซี่ยงหยุนด้วยความเร็วดุจสายฟ้า…