ฟังก็เหมือนถูกสะกดให้หยุดก้าวเท้าไว้ อย่างแข็งที่อยังไงอย่างงั้น
ต่อมาเธอได้ยินเสียงที่คุ้นเคยและเย็นชา ราวกับว่าก้องมาจากทางไกล มีเสียงลางๆแว่ว มาที่หูเธอ
“ลิสา คุณเป็นอะไร ทำไมถึงกลายเป็น
แบบนี้?”
“เควิน!” เสียงร้องสะอื้นของลิสายิ่งดังขึ้น แค่คำพูดสั้นๆคำเดียว เรียกซะจนน่าประทับใจ มาก
พิงกี้หันหลังก็เห็นลิสากำลังจะซบไปที่อ้อม อกของเควินอย่างอดใจไม่ไหว
ราวกับนกน้อยที่ฝึกบินได้กลับสู่รังตัวเอง ยังไงอย่างงั้น
เธอยิ้มเยาะอยู่ในใจที่นึง แต่ดวงตากลับ รู้สึกระคายเคือง
พูดไม่ผิด ถึงลิสาจะเป็นแค่ดารา ปลายแถว แต่ความสามารถในการแสดงที่ลึก ซึ่งเข้าไปถึงกระดูกดำเลย
ทุกวินาทีเอาชีวิตจริงมาแสดงเป็นละครน้ำ เน่าอยู่บนเวที ยังนึกว่าตัวเองเป็นดอกบัวขาวที่ ใสซื่อบริสุทธิ์เสียอีก
แต่เควินล่ะ? เฮอๆ…….การแสดงความ เป็นเพื่อนของเขาก็อย่าให้มันอินมากเกินไป
“ใครเป็นคนตี?” เควินพยุงไหล่ลิสาไว้ ด้วยสีหน้าตึงเครียด เขาไม่ได้ให้เธอซบมาที่อก
แต่รอยแดงบนใบหน้าเธอทำให้ตกตะลึง เกินไป คนตาบอดเท่านั้นที่มองไม่เห็น เขาทำไม่ ได้ที่จะไม่ถามไถ่
“คือ” ลิสาพูดก้ำกึ่ง สายตากลับมอง ไปที่พิงกี้อย่างหวาดกลัว ไม่พูดเยอะย่อมชนะ
การพูดเยอะ
สายตาของเควินก็มองไปที่พิงกี้เหมือนกัน “ใช่ ฉันเอง! ” พิงกี้เปิดปากพูดตรงๆ
เธอเดินไปตรงหน้าเควินตามสายตาที่เขา มองมา เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วย้อนถามอย่าง ประชดประชัน
“ดูท่าท่านประธานช่วงนี้คงว่างงานมาก เลยนะคะ แต่ธุรกิจหลักที่มาตัดสินความ ยุติธรรมของคน
อื่นนี่ขยายกิจการได้กว้างขวางและเติบโต เชียวนะคะ วันนี้มาหนุนหลังให้แฟนเก่าคุณอีก แล้วหรอคะ?
แต่ครั้งนี้คุณคงจะต้องผิดหวังมากแน่ๆ เพราะว่าฉันเองก็มีคนหนุนหลังเหมือนกัน
ไม่มีทางให้คุณรังแกได้หรอก” พิงกี้พูดคำ โหดเสร็จ ก็ดึงเตชิตที่รูปร่างสูงใหญ่มาอยู่ข้าง หน้าตัวเอง
แล้วตัวมอมแมมหลบอยู่ข้างหลังและพูด เสียงเบา “คุณเตชิต ศัตรูแข็งแกร่งมาก คุณ แบกรับไหวอยู่ใช่ไหม?
เตชิต “
“คุณคงไม่ถูกเขาไล่ตะเพิดเหมือนคราว ที่อยู่โรงพยาบาลอีกครั้งใช่ไหม?” พิงกี้สีหน้า สงสัยมาก
ยัยผู้หญิงบ้าคนนี้!
เตชิตทนความหดหู่ไว้ แทบจะเปิด ปากพูดอย่างสาบานและพนันยังไงอย่างงั้น
“ครั้งก่อนเป็นเพราะว่าฉันไม่ได้เตรียมตัว ครั้งนี้ฉันไม่มีทางให้เขาได้สมใจแน่!”
“งั้นก็ดี” พิงกี้ทุบที่อกเบาๆ “คุณเตชิต ถ้า ครั้งนี้คุณสามารถต่อกลอนกับเขาชนะ
ฉันก็จะยอมรับว่าคุณไม่ได้อ่อนหัดขนาดนั้น!”
เตชิตมองฟ้าอย่างหมดคำพูด ทําไมเขาถึง รู้สึกไม่พอใจยิ่งนัก
เย็ดแม่ง! ไม่เชื่อใจเขาขนาดนี้ แน่จริงก็ อย่าเอาเขาเป็นเกราะป้องกันตัวสิ!
ใช้งานเขาไปแล้วถึงมาถามเขาว่าแบกรับ ไหวหรือเปล่า? มันน่าโมโหจริงๆเลย!
แต่ภายนอกเตชิตกลับทําเฉยเมยและดึง พิงกี้เข้ามาในอ้อมอกอย่างสนิทแนบแน่น
แล้วยักคิ้วมองไปที่เควิน “เควิน ฉันเป็นคน ตีแฟนเก่านายเอง นายมีเรื่องอะไรคุยกับฉันก็
พอ
เรามันคนรู้จักกันมานาน เห็นแก่หน้านาย ฉันอาจจะชดใช้หลายตังค์ก็ได้”
“แฟนเก่า” หรือว่า “ผู้หญิงของฉัน คำพูดท้าทายอะไรแนวนี้
ก็ไม่สามารถทำให้ใบหน้าเควินมีสีหน้า เปลี่ยนแปลง ยิ่งไม่มีทางยั่วโมโหเขาได้ เขายัง ใจเย็นสงบเหมือนเช่นเคย
แค่เปิดปากถามอย่างเฉยเมย “นี่มันเกิด อะไรขึ้นกันแน่?” เห็นไม่มีคนตอบ สายตาเขา ส่องดูรอบๆ
สุดท้ายหยุดอยู่ที่บนตัวพนักงาน “เธอมา
พูด”
“…..ฉัน ดิฉันหรอคะ?”
“ ใช่ ” ถูกเอ่ยถึงโดยตรง พนักงานที่น่า สงสารถึงอยากเป็นคนล่องหนขนาดไหนก็ได้ แต่เปิดปากพูด
เพราะเธอรู้ว่าเควินก็ไม่ใช่ย่อยๆ ทนความ หวาดกลัวที่อาจจะถูกความโหโหพาลใส่
เธอย้อนสถานการณ์กลับสู่ตอนแรกอย่าง จริงจัง ไม่ว่าพูดถึงฝ่ายใดก็ไม่ได้ตีไข่ใส่สี
เพื่อจะได้หลีกเลี่ยงไม่ทําให้ฝ่ายใดฝ่าย หนึ่งไม่พอใจ หลังจากพูดจบ เธอก้มหน้าและ พูด
“คุณเควิน เรื่องทั้งหมดก็เป็นแบบนี้ค่ะ ”
“เป็นแบบนี้ใช่ไหม?” เควินก้มหน้ามองไป ที่ลิสา “ที่พนักงานพูด ยังมีอะไรต้องเพิ่มเติม ไหม?”
“อืมๆ” ลิสาพยักหน้าแล้วส่ายหัว “ไม่มี
แล้วค่ะ”
มือที่ขาวเนียนของเธอกุมหน้าที่แดงก่ำไว้ เทียบแล้วทำให้รู้สึกอาการยิ่งบาดเจ็บหนักขึ้น
ขนตาที่งอนยาวแค่กะพริบตาก็มีน้ำตาไหล พรากไม่หยุด ดูแล้วน่าสงสารมาก………..
แต่เสียดาย กิริยาท่าทางที่ประทับใจของ เธอ ไม่ได้ทำให้เควินเข้าข้างเธอมากขึ้นเลย
เขาส่องสายตาไปที่พิงกี้ “ในเมื่อเป็นแบบ นี้ งั้นก็ดูกล้องวงจรปิดเลยแล้วกัน”
เจอกันครั้งนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่เควินมองเธอ ตรงๆ พิงกี้รู้สึกอึ้ง
ทำไมการพัฒนาการของเรื่องนี้ ต่างกับที่ เธอคิดไว้อย่างสิ้นเชิง
ยังเป็นเตชิตที่คอยสะกิดเธอ “เธอจะไปดู กล้องวงจรปิดไม่ใช่หรอ? รีบไปเร็ว!
“อ๋อๆ…..” พิงกี้ยังเบลอๆอยู่ แต่ก็ได้เดิน ตามไปที่เคาร์ทเตอร์เก็บเงินแล้ว
ผลที่ได้ไม่ต่างกับที่พิงกี้คาดคิดไว้ ตีรญา เป็นคนที่นิสัยวู่วามแต่ไม่มีสมอง
ท่าทางที่สาดน้ำผลไม้นั่นแค่ดูก็รู้ว่าไม่ได้เรียนวิชาฟิสิกสมา ๆ แค่ดูก็รู้ว่าเธอจงใจทำ
มีกล้องวงจรปิดเป็นหลักฐาน ลิสาไม่ สามารถแก้ตัวได้อีก เธอไม่มีวิธีบอกว่าตีรญา เป็นผู้บริสุทธิ์อีกต่อไป
แต่เธอยังมีเหตุผลของตัวเอง “ถึงตีรญา ทำผิดไป แต่ว่าพี่ทำอะไรผิดล่ะ?” เธอมองไปที่ พิงกี้อย่างเสียใจ
และพูดอย่างกล้ำกลืนฝืนทน “พิงกี้ หรือว่า ความผิดของทุกคน เธอก็จะคิดบัญชีที่พี่หมด หรอ?”
“ก็ใช่น่ะสิ!” พิงกี้พยักหน้าอย่างแน่ใจ “เพราะฉะนั้น ดีที่สุดต่อไปเธอก็ภาวนาให้ฉันมี ชีวิตที่ราบรื่นล่ะ
อย่าให้เจอเรื่องเฮงซวยอะไรอีก ไม่งั้นคนที่ ฉันจะคิดบัญชีด้วยคนแรกก็คือเธอนั่นแหล่ะ! ”
.” ลิสาหายใจลึกๆทีนึง แล้วหันไปถามเควินอย่างน่าสงสาร “เควินคะ คุณฟังที่พิง
เธอทำแบบนี้กับลิสาได้ยังไง? คุณคงไม่ เพิกเฉยไม่สนใจใช่ไหมคะ?” มองลิสาอย่าง ตึงเครียด
เควินเม้มปากเป็นเส้นตรงแต่ไม่พูดอะไร ดู แล้วเหมือนรำคาญ ชัดเจนว่าเขาไม่คิดจะเข้า ข้างลิสา
ภายใต้สายตาที่เย็นชาและสงบของเขา ลิ สาค่อยๆหมดความมั่นใจ
ในใจกลับมีความกลัวและกินปูนร้อนท้อง กับเรื่องที่ทำไป………….
เควินจะทำให้เธอขายหน้าต่อหน้าผู้คนหรือ
เปล่า?
ถ้าเป็นแบบนี้ งั้นเธอต้องเป็นที่หัวเราะเยาะ ของผู้คนในเมืองหลวงแน่ๆ
ต่อไปไม่มีทางเหมือนเมื่อก่อนที่อยากได้ อะไรก็ได้อีกแล้ว
เธอโฆษณาที่ข้างนอกตลอดว่ามีความ สัมพันธ์ที่ดีกับเควินมาก แต่ในที่สุดวันที่ถูก เปิดโปงก็มาถึงแล้วหรอ?
ลิสาหัวใจว้าวุ่น จากนั้นเธอเห็นเควินเดินไป หาพิงกี้ทีละก้าวๆ
และยืนที่อยู่ตรงหน้าเธอแล้วพูดด้วยเสียง ที่ทุ้ม เสนาะหู
“พิงกี้ ไปกับฉัน” คำพูดเรียบง่ายห้าคำ แต่ ไม่มีอะไรให้ต้องสงสัย
เตชิตไหวตัวทันคนแรก “นายมีสิทธิ์อะไร? เธอเป็นผู้หญิงของฉัน!”
“นายแน่ใจว่าเธอเป็นผู้หญิงของนายหรอ? ฉันจำได้ว่าเหมือนเธอจะไม่เคยยอมรับมาก่อน นะ!”
“แต่เธอไม่เคยปฏิเสธนี่ ดังนั้นก็คือยอมรับ นั่นแหล่ะ!”
“อ้อหรอ?” สายตาเควินมีความเยาะเย้ย โผล่ขึ้นมา
“ถ้าเป็นแบบนี้ งั้นก็ให้เธอตัดสินใจเถอะ”
พิงกี้ ……)
สายตาของผู้ชายทั้งคู่ต่างมองมาที่เธอ
เธอคิดไม่ถึงด้วยซ้ําว่าเรื่องจะกลายมาเป็น แบบนี้…………จะให้เธอตัดสินใจยังไงเนี่ย?