ประโยคเดียวของหลีเหิง ทำให้สมาชิกตำหนักวิญญาณทั้งหมดมีแรงขึ้นมาทันที
“หรือว่ามารนิรยขาวนี้ยังมีความสามารถที่พิเศษยิ่งกว่า”เหล่าสมาชิกตำหนักวิญญาณต่างรู้จักมารนิรยดี เริ่มคาดหวังว่า ชู่มู่จะนำพาความตื่นเต้นมาให้
กลืนกินวิญญาณ !!!
ต่อให้เป็นโอรสน้อยของวังมารนิรยก็คาดไม่ถึง จะมีมารนิรยที่กลืนกินกลุ่มเดียวกันได้ !
หลังจากปีศาจขาวทำให้ซือได้รับบาดเจ็บสาหัส ไฟปีศาจเก้าวิญญาณที่ลุกโชนรุนแรงทั้งตัวเริ่มพุ่งตรงไปยังซือ เหมือนมีเงาตามตัวเริ่มเข้าไปในร่างของซือทีละน้อย !
เจียงอี้เถิงนิ่งอึ้ง ตอนแรกเขาคิดว่า ปีศาจขาวของชู่มู่ปล่อยทักษะดับดวงใจใส่ดวงวิญญาณของเขา
ถ้าเป็นทักษะดับดวงใจละก็ ต่อให้มารนิรยขาวของเขาได้รับบาดเจ็บก็หลบได้แน่นอน แต่ว่าในตอนที่เขาพบว่าปีศาจขาวเริ่มหล่อรวมเข้าไปในร่างดวงวิญญาณของเขาแล้ว เจียงอี้เถิงถึงเข้าใจว่า นั่นเป็นทักษะวิญญาณที่น่ากลัวกว่าดับดวงใจอีก !
“เร็ว !!! อย่าให้มันปล่อยออกมาได้ !!!” เจียงอี้เถิงตะโกนขึ้น
ในตอนนี้ เจียงอี้เถิงไม่กล้าลังเลใด ๆ สั่งให้ดวงวิญญาณตัวที่สี่ซึ่งเพิ่งจะอัญเชิญออกมาพุ่งตรงไปยังปีศาจขาว เพื่อช่วยมารนิรยขาวของเขา !
แต่ว่าหลังจากดวงวิญญาณตัวที่สี่ของเจียงอี้เถิงถูกฝนตัดกำลัง ความสามารถห่างจากปีศาจขาวถึงสี่ขั้น ปีศาจขาวเพิกเฉยต่อดวงวิญญาณแบบนี้ได้ !!!
หลังจากฝนตัดกำลังตกลง นอกจากมารนิรยขาวของเจียงอี้เถิง ความสามารถดวงวิญญาณอื่นของเจียงอี้เถิงและซิงหยางต่ำกว่าปีศาจขาวเกือบสามขั้น ตอนนี้ซือได้รับบาดเจ็บสาหัสอีก จะมีใครต้านทานปีศาจขาวได้
การกลืนกินวิญญาณยังอยู่ เสียงโอดครวญอันน่ากลัวดังก้องกังวานไปทั่วทั้งยอดเขาภูเขาเวหาอมตะแห่งนี้ !
“นี่เป็นความสามารถอะไรกันแน่ !!!”
“นี่มันความสามารถกลืนกินวิญญาณเจ้าของตัวเองของมารนิรยไม่ใช่เหรอ มารนิรยขาวเอามากลืนกินกลุ่มเดียวกันได้อย่างไร !!!”
การกลืนกินของมารนิรย เป็นทักษะที่น่ากลัวและชั่วร้ายที่สุด ทุกครั้งที่เห็นวิญญาณถูกกลืนกิน แม้แต่เหล่าสมาชิกของวังมารนิรยยังหวาดกลัวอย่างมาก
และแล้ว มารนิรยกลืนกินมารนิรย นี่เป็นปรากฏการณ์ที่แม้แต่คนของวังมารนิรยยังไม่เคยเห็นมาก่อน ได้เห็นขั้นตอนนี้กับตา ยิ่งทำให้ขนลุกมากขึ้น !
“พี่หลีเหิง…นี่…นี่มันอะไรกันแน่ !!!”เหล่าผู้เข้าแข่งขันของตำหนักวิญญาณเองก็กลัวจนตัวสั่น
หลีเหิงส่ายหัว แค่พูดพร้อมขมวดคิ้วว่า “ก่อนหน้านี้มารนิรยขาวตัวนี้ของชู่เฉิงได้กลืนมารนิรยสามตัวของหลู่ซานหลีแล้ว…”
“อืม พวกข้าเองได้เห็นกับตา” ซ่างเหิงกับถิงหลันต่างพยักหน้าด้วย
“นี่…นี่ผิดปกติเกินไปแล้ว !” หลัวปิงบอก
“นี่ยังไม่เท่าไร พวกเจ้าดูต่อไป…” หลีเหิงชี้ไปยังมารนิรยขาวของชู่มู่แล้วพูดขึ้น
“หรือว่ายังมี…พระเจ้า มารนิรยขาวตัวนี้กำลังเติบโต !!!” ทันใดนั้น มีคนร้องขึ้นทันที
“กำลังเติบโตจริงด้วย ความสามารถของมารนิรยขาวตัวนี้โตถึงลักษณะเก้าขั้นหกแล้ว !!!”
กลืนกินกลุ่มเดียวกัน กลายเป็นพลังให้ตัวเองเติบโตต่อ !!!
ตามไฟปีศาจเก้าวิญญาณที่ลุกโชนบนตัวซือ เหล่าผู้ชมที่มองอยู่บนฟ้าห้าร้อยเมตรพูดไม่ออกแล้ว
กลืนกินวิญญาณ มีผลแบบนี้ได้!!ทักษะที่ทำให้ดวงวิญญาณเติบโตโดยตรง !!!
…
“ดวงวิญญาณของข้า !!!” เจียงอี้เถิงยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น มองดูมารนิรยขาวซือของเขาถูกปีศาจขาวของชู่มู่กลืนกิน !
ความเจ็บปวดจากการตัดขาดของสัญญาวิญญาณทำให้วิญญาณของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส สีหน้าของเขาซีดขาวอย่างมาก แต่เขาทั้งคนเหมือนถูกแช่แข็งเอาไว้ มองไปยังปีศาจขาวที่กลายร่างออกมาจากมารนิรยของเขา !!!
ฝนสีฟ้ากระทบบนหน้าของเจียงอี้เถิง เบาลงเรื่อย ๆ และในตอนนี้ ท่าทีอวดดีกลับหายไปจากใบหน้าของโอรสน้อยวังมารนิรยคนนี้อย่างสิ้นเชิง !
ซิงหยางในตอนนี้ก็ลืมเรื่องการต่อสู้ ดวงตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวจับจ้องไปยังมารนิรยขาวของชู่มู่ มองดูปีศาจขาวที่ความสามารถกำลังเพิ่มขึ้น !!!
…
“พี่หลีเหิง นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมมารนิรยขาวถึงมีความสามารถกลืนกินแบบนี้” หลัวปิงถามด้วยความอึ้ง
เพิ่มความสามารถของตัวเองผ่านการกลืนกินกลุ่มเดียวกัน มารนิรยขาวตัวนี้…เกินไปไหม ถ้าได้กลืนกินมารนิรยระดับราชันไป เท่ากับว่ามารนิรยขาวตัวนี้จะเพิ่มความสามารถจนเป็นมารนิรยขาวระดับราชันได้ทันที !!!
“นี่…พูดได้แค่ว่า ความสามารถแฝงของมารนิรยขาวตัวนี้มีไม่สิ้นสุด…” หลีเหิงบอก
…
บนฟ้าที่สูงขึ้นไปอีก ชายที่ถูกห่อหุ้มด้วยชุดเกราะสีทอง เขาจับจ้องไปยังยอดเขาด้วยสายตาเยือกเย็น
คนนี้คือเซี่ยกว่างหานที่ใช้ทุกวิถีทาง ที่ทำให้เขาหงุดหงิดอย่างมากคือ จั่วเถิงกับลูกน้องของจั่วเถิงไม่ได้ปรากฏตัวตามที่นัดไว้ก่อนหน้านี้
ชู่มู่มีความสามารถซ่อนตัวที่แข็งแกร่งมาก ความสามารถนี้ต่อให้เป็นฉิงเย้เองก็ไม่สามารถสะกดรอยได้
ก่อนหน้านี้ฉิงเย้คิดจะดักรอชู่มู่ระหว่างทางขึ้นยอดเขาหลักภูเขาเวหาอมตะ แต่กลับปล่อยให้ชู่มู่หนีไปได้ ส่วนจั่วเถิงมีความสามารถสะกดรอยตาม ถ้าจั่วเถิงปรากฏตัวละก็ ชู่มู่ไม่มีทางหนีจากการไล่ตามของฉิงเย้ได้แน่นอน
แต่เจ้านี่กลับหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เหมือนแทบจะไม่อยู่ในด่านที่แปดนี้ ทำให้ชู่มู่ได้มุ่งหน้าไปยังยอดเขาหลักภูเขาเวหาอมตะได้
ยอดเขาหลักเวหาอมตกมีผู้เข้าแข่งขันมากมายอยู่ ต่อให้มีฉิงเย้ เขามีโอกาสน้อยมากที่จะแย่งชิงดวงวิญญาณของชู่มุ่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังมีหลีเหิงคอยจับตามองจากบนฟ้าอยู่ตอลด !
“เซี่ยกว่างหาน ความสามารถของมารนิรยขาวตัวนี้เห็นได้ยากมาก เจ้าไม่มีทางไม่รู้ที่มาของมันใช่ไหม” ฉิงเย้ที่บินไปข้างเซี่ยกว่างหานพูดขึ้น
ในตอนนี้ นัยตาของฉิงเย้ส่องประกายออกมา เขาคิดไม่ถึงว่า ชู่มู่จะมีมารนิรยขาวที่หายากแบบนี้ตัวหนึ่ง !
“มารนิรยขาวตัวนี้เป็นรุ่นหลังของเจ้ามารนิรยของราชันปีศาจไป๋หยู่ มันได้สืบทอดความสามารถผิดปกติของรุ่นก่อนมา ความสามารถกลืนกินวิญญาณของมันแข็งแกร่งกว่ามารนิรยขาวทั่วไป อีกทั้งมีนิสัยที่ไม่แน่นอน วิญญาณของท่านไป๋หยู่ที่ถูกกลืนกินก็เป็นตัวอย่างหนึ่ง ในตอนนั้นร่ายวิญญาณของท่านไป๋หยู่น่าจะมากพอที่จะควบคุมมารนิรยขาวของเขาได้ แต่สุดท้ายกลับ…” เซี่ยกว่างหานบอก
“ถ้าอย่างนั้น มารนิรยขาวตัวนี้ของชู่มู่ก็อาจกลืนกินเจ้าของตัวเองได้ทุกเมื่อ” ฉิงเย้ถามขึ้น
“อืม ดังนั้นหลังจากมารนิรยขาวตัวนี้เกิดมา ทั้งวังมารนิรยคิดว่ามันเป็นสิ่งมีชีวิตอัปมงคล ไม่มีผู้คุมดวงวิญญาณที่กล้ากำจัดสิ่งนี้ คือการฆ่าทิ้ง” เซี่ยกว่างหานบอก
“ขัดแย้งจริง วังมารนิรยของพวกเจ้ามีคำว่า อัปมงคลด้วยเหรอ ฮะฮะ !” ฉิงเย้หัวเราะขึ้นมากะทันหัน
หลังจากหัวเราะจบ ฉิงเย้พูดขึ้นว่า “ถ้าอย่างนั้น ทำไมมารนิรยขาวตัวนี้ถึงอยู่ในมือของเขาในตอนนี้ได้”
เซี่ยกว่างหานไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่า เขาไม่ได้อยากบอกทุกเรื่องให้ฉิงเย้รู้ แต่เริ่มเปลี่ยนเรื่องคุย
…
ความจริง ตอนที่เซี่ยกว่างหานได้ปีศาจขาวจากในมือท่านหยางซึ่งเป็นหนึ่งในศิษย์ราชันทั้งห้า เซี่ยกว่างหานเคยคิดจะเข้าเสี่ยง ทำสัญญาวิญญาณกับมารนิรยขาวตัวนี้ ให้มันเป็นดวงวิญญาณของตัวเอง
พ่อของปีศาจขาวเคยเห็นดวงวิญญาณหลักของท่านไป๋หยู่ ถ้าอย่างนั้นพลังและสายเลือดชั้นดีของมันต้องมีพรสวรรค์มากกว่าปกติแน่นอน
เซี่ยกว่างหานเป็นคนที่โลภมากคนหนึ่ง เรื่องอันตรายแบบนี้เขาก็กล้าทำ
ดังนั้น ในตอนที่ได้ปีศาจขาวมา เซี่ยกว่างหานไม่ได้ฆ่ามัน แต่กลับเก็บเอาไว้
เพื่อแน่ใจว่า ปีศาจขาวนี้จะไม่กลืนกินวิญญาณของเจ้าของ เซี่ยกว่างหานคิดจะนำผู้คุมดวงวิญญาณวัยหนุ่มเป็นตัวทดลอง คือให้พวกเขาทำสัญญาวิญญาณกับปีศาจขาว
ทันทีที่ปีศาจขาวเติบโตถึงระดับหนึ่งแล้ว อีกทั้งไม่เกิดปรากฏการณ์ผิดปกติ เซี่ยกว่างหานจะแย่งกลับมา ทำเป็นดวงวิญญาณของตัวเอง !
แต่เรื่องที่ทั้งโชคดีและโชคร้ายคือ ตัวทดลองแรกของเซี่ยกว่างหานก็คือชู่มู่ !
และแล้วปีศาจขาวได้กลายเป็นดวงวิญญาณที่แท้จริงของชู่มู่ ที่ทำให้เซี่ยกว่างหานเสียหน้าคือ ปีศาจขาวตัวนี้มีความสามารถกลืนกินกลุ่มเดียวกัน อีกทั้งยังเปลี่ยนวิญญาณของกลุ่มเดียวกันเป็นพลังของตัวเองได้ !
กลืนกินวิญญาณ แล้วยังเติบโตในขณะเดียวกัน ทักษะพรสวรรค์แบบนี้ทำให้ผู้แข็งแกร่งวังมารนิรยนับไม่ถ้วนคลั่งไคล้ได้ !!!
การกระทำของชู่มู่ในตอนนี้นับว่าเป็นการพิสูจน์การคาดคะเนของเซี่ยกว่างหานที่มีต่อปีศาจขาวก่อนหน้านี้ ปีศาจขาวตัวนี้เป็นชั้นยอดในมารนิรย !
ตอนที่เซี่ยกว่างหานเห็นควาามสามารถแบบนี้เสียดายอย่างมาก ! เขาโกรธที่ทำไมในตอนนั้นถึงไม่กล้าทำสัญญาวิญญาณกับมัน แต่กลับให้ชู่มู่ได้มารนิรยแบบนี้ไปได้ !!!
…
พ่อของปีศาจขาวได้ฆ่าราชันของวังมารนิรย ส่วนปีศาจขาวกลายเป็นสิ่งอัปมงคลของวังมารนิรย ทำให้คนทั้งหมดไม่กล้าทำสัญญาวิญญาณกับมัน
แต่ว่าการต่อสู้ในวันนี้ ปีศาจขาวได้กลืนกินมารนิรยขาวชั้นดีเยี่ยมของโอรสน้อยวังมารนิรย เผยให้เห็นความสามารถ “อัปมงคล” ของมันออกมา คาดว่าเหล่าผู้แข็งแกร่งวังมารนิรยได้รู้ข่าวนี้เมื่อไร พวกเขาจะเป็นเหมือนเซี่ยกว่างหาน เสียดายที่ไม่ทำสัญญาวิญญาณกับมันในตอนนั้น
ปีศาจขาว มันไม่ใช่สิ่งอัปมงคล !
แค่ไม่มีใครเดาอารมณ์ของมันได้ ไม่มีใครเข้าใจสิ่งที่มันคิดได้ ดังนั้น จึงไม่มีใครควบคุมมันได้ !!!
ชู่มู่ไม่รู้อดีตของปีศาจขาว แต่อย่างน้อยเป็นผู้คุมดวงวิญญาณคนหนึ่ง ชู่มู่รู้ว่า สิ่งที่ยิ่งอันตรายมาก ยิ่งมีพลังมาก
คิดจะควบคุมปีศาจขาว ก็ต้องพร้อมจะทุ่มเทชีวิตและวิญญาณ จำต้องยอมรับนิสัยของปีศาจขาวที่พร้อมจะฆ่าเข้าของได้ทุกเมื่อนี้!
ชู่มู่ไม่กลัว อีกทั้งยังรับมือกับอารมณ์ของปีศาจขาวได้
ความแน่วแน่ในหลายปีที่ผ่านมา ทำให้ชู่มู่คอยถึงช่วงวินาทีอันสะเทือนใจนี้ !
“ฮู ฮู ฮู ฮู ฮู”
ไฟปีศาจเก้าวิญญาณลุกโชนรุนแรงยิ่งขึ้น หลังจากกลืนกินมารนิรยจักรพรรดิขั้นสูงแล้ว ปีศาจขาวได้เข้าสู่ลักษณะเก้าขั้นหกอย่างแท้จริง !
ส่วนจักรพรรดิขั้นสูงลักษณะเก้าขั้นหก เป็นผู้ตัดสินชะตาทั้งหมดของสนามต่อสู้บนยอดเขานี้ ต่อให้จะเป็นเจียงอี้เถิงหรือซิงหยาง ดวงวิญญาณของพวกเขาไม่มีทางจะรับมือกับการโจมตีของปีศาจขาวได้ !
…
“เนี๊ย !!! ”
เสียงคำรามมารดังก้องกัวาน ทำให้เหล่าผู้ชมทั้งหมดสะเทือนยิ่ง
ตามด้วย ในตอนที่สายตาของทุกคนมองไปยังปีศาจขาว มันได้เริ่มเผยพลังอันแท้จริงของจักรพรรดิขั้นสูงออกมา ดวงวิญญาณอื่นของเจียงอี้เถิงและซิงหนางในสนามนี้ กลายเป็นสิ่งที่น่าสงสารที่สุด ทำได้แค่ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างตัวสั่น !
จักรพรรดิขั้นสูง ลักษณะเก้าขั้นหก !
ต่อให้ไม่มีฝนตัดกำลัง ความสามารถของปีศาจขาวได้เกินกว่าดวงวิญญาณทั้งหมดถึงสองขั้นขึ้นไป !!!
ส่วนคนที่แข็งแกร่งที่สุดของวังมารนิรยสองคนนี้ ความสามารถที่ห่างกันแบบนี้ ดวงวิญญาณหลักทั้งหมดของพวกเขาจะถูกปีศาจขาวขยี้แน่นอน !!!
——————————————————————-