Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ – Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ – ตอนที่ 555

Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 555
ตอนที่ 555 หายนะจักรพรรดินับพัน ปิดผนึกตัวเอง

ในที่สุด เจ้าของดวงตาสีเขียวเริ่มเคลื่อนไหวแล้ว มือทั้งสองของพวกมันได้ถือดาบยักษ์ใหญ่สร้างจากหินพิเศษบางอย่าง ยกขึ้นอย่างช้า ๆ ดวงตาสีเขียวเต็มไปด้วยพลังอาฆาตทันที !!!

พลังของจักรพรรดิขั้นกลางตัวนี้กระจายไปทั่ว วินาทีนี้ซือเทียนถึงพบว่า ตัวเองถูกจักรพรรดิขั้นกลางลักษณะสิบหลายตัวล้อมรอบตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ และพวกมันกำลังโจมตีมายังตัวเขาเอง !!!

พลังของผู้เฝ้าหินจักรพรรดิขั้นกลางน่ากลัวเพียงใด โดยเฉพาะตอนที่โจมตีพร้อมกัน ต่อให้บนตัวซือเทียนมีเกราะวิญญาณขั้นเก้า ถ้าไม่มีการป้องกันอื่นแล้วยังถูกโจมตีแบบนี้ จะกลายเป็นเศษแน่นอน !!!

“เป็นไปได้อย่างไร !!! พวกมันจะเห็นข้าได้อย่างไร !!!” ซือเทียนเหงื่อตกทันที ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัว !

ตอนนี้ซือเทียนอยู่ในใจกลางสุดของลานกว้างนี้ รอบตัวเขามีผู้เฝ้าหินจักรพรรดิขั้นกลางอย่างน้อยสิบตัว!

ซือเทียนตกใจจนใบหน้าซีดขาว รีบร่ายคาถาขึ้น อัญเชิญอสูรเชิญหงส์ออกมาตรงหน้าตัวเอง !

ซือเทียนอัญเชิญไวมาก ในตอนที่การโจมตีมาถึง อสูรเชิญหงส์ได้ปรากฏข้างเขา และรับการโจมตีแรกแทนตัวเขา

และแล้ว ผู้เฝ้าหินจักรพรรดิขั้นกลางสิบตัวนี้ ต่อให้ความสามารถของอสูรเชิญหงส์จะแข็งแกร่งมากเพียงใด ก็ไม่อาจเผชิญกับผู้เฝ้าหินมากมายลำพังได้

ที่สำคัญที่สุดคือ ทันทีที่อสูรเชิญหงส์ปรากฏตัวขึ้น ผู้เฝ้าหินที่เล็งไปยังแท่นบูชาอสูรเลือดเหล่านั้นกลับหันกลับมา ดวงตาที่เต็มไปด้วยอาฆาตจับจ้องไปยังอสูรเชิญหงส์ของซือเทียน !

รอบตัวมีจักรพรรดิขั้นต่ำอย่างน้อยยี่สิบตัว ถ้ายี่สิบตัวนี้ออกโจมตีพร้อมกันละก็ จะน่ากลัวมากเพียงใด !!!

ซือเทียนอึ้งอยู่กับที่ เขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่า จะทำให้ผู้เฝ้าหินเหล่านี้ฟื้นขึ้นมา แล้วตัวเองจะตกอยู่ในลานกว้างที่เต็มไปด้วยกลิ่นไอแห่งความตายนี้ด้วย

ทันใดนั้น ซือเทียนเข้าใจแล้ว ตอนที่เห็นตัวเองกับอสูรเชิญหงส์จะถูกฝังไว้ในฝูงผู้เฝ้าหิน ซือเทียนตะโกนไปยังบางแห่งด้วยความโกรธเคืองยิ่งว่า “ฉิงเย้ !!! แม้แต่ข้า เจ้ายังคิดจะวางแผนด้วย !!! เจ้าไม่ตายดีแน่ !!!”

“โครม”

เสียงคำรามของซือเทียนถูกผู้เฝ้าหินเหล่านี้ทับทมทันที ในตอนนี้ ต่อให้ซือเทียนจะอัญเชิญดวงวิญญาณอย่างไร เขาก็ไม่อาจรอดจากลานกว้างผู้เฝ้าหินได้…

หลังจากนั้นไม่นาน ใจกลางของลานกว้างมีเลือดสดกระจายไปทั่ว สีแดงเหล่านั้นสาดลงบนตัวผู้เฝ้าหินสีเทา ทำให้ผู้เฝ้าหินเหล่านี้ดูดุร้ายนองเลือดมากยิ่งขึ้น

ชู่มู่และทั้งสี่คนอยู่บนแท่นบูชาอสูรเลือด พวกเขาได้เห็นการตายของซือเทียนอย่างชัดเจน

ทั้งลานกว้างมีผู้เฝ้าหินเกือบพันตัว ไม่ว่าจะเป็นใคร ถ้าตกอยู่ในนั้นจะต้องตายอย่างแน่นอน

ตอนนี้พวกเขาสี่คนแทบไม่มีอารมณ์ไปตกใจกับความตายของซือเทียน เพราะพวกเขาในตอนนี้อยู่ใจกลางสุดของลานกว้างแห่งนี้ ผู้เฝ้าหินทั้งหมดกำลังถาถมเข้ามายังแท่นบูชาอสูรเลือดแห่งนี้ !!!

เย้ชิงจือกับองค์หญิงจิ่งโหลวกลัวจนเสียโฉม ผู้เฝ้าหินจำนวนมหาศาลแบบนี้ ถ้าพวกมันโจมตีพร้อมกันละก็ ทั้งแท่นบูชาอสูรเลือดจะต้องพังทลายแน่นอน !

“ชู่มู่” เย้ชิงจือกำแขนของชู่มู่แน่น ฝ่ามือมีเหงื่อออกมาบ้างแล้ว

ผู้เฝ้าหินนับร้อยพัน นี่ไม่ใช่พลังที่ต้านทานได้ !

“จุดจบของพวกเราจะเหมือนกับซือเทียน…” องค์หญิงจิ่งโหลวพูดด้วยเสียงที่สั่นคลอ

“ตายแล้ว ตายแล้ว คิดอย่างไรก็คิดไม่ถึง ข้าเย้หวันเชิงจะตายที่นี่ !” เย้หวันเชิงพูดพร้อมเหงื่อที่ท่วมตัว

เพียงแค่ผู้เฝ้าหินสิบตัวปรากฏพร้อมกัน พวกเขาสี่คนก็จัดการยากมากแล้ว ตอนนี้มีผู้เฝ้าหินนับร้อยตัว !!

“องค์หญิง เจ้ารู้วิธีใช้ผนึกของแท่นบูชาอสูรเลือดนี้ไหม” เสียงของชู่มู่ดังขึ้น

“อืม” องค์หญิงจิ่งโหลวพยักหน้า เธอผู้เฉลียวฉลาดเข้าใจว่า ชู่มู่จะทำอะไรในทันที จึงถามขึ้นด้วยความสงสัย “เจ้าหมายความว่าผนึกพวกเราเข้าไปเองงั้นหรือ”

ผนึกตัวเอง ! วิธีเดียวในตอนนี้คือ ผนึกพวกเขาเองไว้ในมิติของแท่นบูชาอสูรเลือด แบบนี้ถึงจะรอด!

ชู่มู่พูดขึ้นว่า “พวกเราไม่รู้จะจัดการผู้เฝ้าหินมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร ทำได้แค่ผนึกตัวพวกเราเองไว้ในแท่นบูชาอสูรเลือดนี้ ถ้าเจ้าไม่รู้ว่าผนึกอย่างไร พวกเราคงต้องเจอกันในโลกหน้าแล้ว”

“การผนึกเหมือนกับการคลายผนึก ต้องเริ่มลงมือจากสิ่งมีชีวิตผู้เฝ้าก่อน หลังจากฆ่าสิ่งมีชีวิตผู้เฝ้าแล้ว ใช้ร่ายวิญญาณหมุนลายเส้นผนึกนี้ จะทำให้เกิดผลผนึกได้ แต่สิ่งมีชีวิตผู้เฝ้าตัวสุดท้ายนั้นได้หลบไปใต้บันไดแล้ว” องค์หญิงจิ่งโหลวชี้ไปยังสิ่งมีชีวิตเจ้าเล่ห์ตัวนั้น

สิ่งมีชีวิตผู้เฝ้าเป็นผู้เฝ้าหินเช่นกัน ผู้เฝ้าหินตัวนั้นทั้งตัวเป็นสีน้ำเงิน อีกทั้งแบ่งแยกได้ง่ายดาย ก่อนหน้านี้ซือเทียนได้ฆ่าสิ่งมีชีวิตผู้เฝ้าห้าตัวที่เหลือแล้ว ตอนที่กำลังจะฆ่าตัวสุดท้ายนี้ ชู่มู่ได้พุ่งเข้ามา ตอนนี้เพียงแค่จัดการผู้เฝ้าหินตัวนี้ พวกเขาก็จะเข้าไปในผนึกได้

“โครม โครม โครมโครม !!!”

“โครม โครม โครม โครม โครม !!!”

พลังมหาศาลของหมวดหินทำให้เศษหินเล็กของพื้นที่ทั้งหมดนี้ปลิวขึ้นกลางอากาศ ราวกับพื้นดินได้พลิกผัน สิ่งของทั้งหมดกำลังตกจากฟากฟ้า !

ลำตัวแข็งแรงกำลังมุ่งหน้ามายังแท่นบูชาอสูรเลือด แต่ละก้าวของผู้เฝ้าหินเหล่านี้ ทำให้ทั้งสนามนี้สั่นสะเทือนอย่างชัดเจน !

ดวงตาสีเเขียวแต่ละคู่กำลังจับจ้องไปยังทั้งสี่คนที่อยู่บนแท่นบูชาอสูรเลือด กลิ่นไออาฆาตพัดพาเข้ามาราวกับพายุ !!!

ผู้เฝ้าหินเหล่านี้ได้คุ้มกันแท่นบูชาแห่งนี้ พวกมันไม่กล้าทำการทำลายแท่นบูชาอสูรเลือดแห่งนี้ เช่นนี้ ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ผู้เฝ้าหินเหล่านี้รวมพลังสลายแท่นบูชาอสูรเลือดพร้อมสี่คนนี้

แต่ว่าผู้เฝ้าหินเหล่านี้กำลังเข้าใกล้แท่นบูชาอสูรเลือดทีละก้าว อีกไม่นาน ทั้งสี่คนจะถูกล้อมรอบ ถึงตอนนั้นพวกมันจะใช้หินดาบยาวในมือของพวกมันฟาดพวกเขาเป็นเศษได้

“จึ จึ จึ จึ”

บนฟ้าสีดำ ดวงวิญญาณส่งสารคล่องแคล่วตัวหนึ่งบินผ่านด้วยความหวาดกลัว เดิมทีมันคิดจะเก็บข่าวสารในลานกว้างแห่งนี้ แต่เพิ่งจะเข้าใกล้ ก็ถูกกลิ่นไอหมวดหินนั้นพัดออกไป เข้ามาแทบไม่ได้ ทำได้แค่มองจากที่ไกล แล้วส่งสารนี้ไปให้ผู้คุมดวงวิญญาณรับสารอย่างเงียบ ๆ

“พระเจ้า ผู้เฝ้าหินทั้งลายกว้างได้ฟื้นขึ้นมาแล้ว !!!”

“ผู้เฝ้าหินระดับจักรพรรดิ ตัวใดก็สามารถสลายดวงวิญญาณทั้งหมดของพวกเราได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงจำนวนเกือบพันนี้ ในเมืองอมตะมีสถานที่น่ากลัวแบบนี้ได้อย่างไร !!!”

ทั้งลานกว้างดุเดือดทันที พวกเขาไม่ได้ข่าวการต่อสู้ระหว่างชู่เฉิงกับซือเทียนนานแล้ว แต่ในตอนที่ข่าวนี้กระจายอีกครั้ง สถานการณ์ทั้งหมดได้เปลี่ยนไปแล้ว

ต่อให้เป็นแค่คำบอกเล่า คนทั้งลานกว้างเหมือนจะสัมผัสได้ถึงภาพอันน่ากลัวในสนามอสูรเลือดแห่งนั้นได้ !

“พวกชู่เฉิงตายแน่นอนไม่ใช่เหรอ” หลังจากซ่างเหิงรู้เรื่องนี้ สีหน้าเปลี่ยนไปทันที

“จบแล้ว จบแล้ว พวกหัวหน้าจบแล้ว…ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ได้ นี่ไม่ใช่การแข่งขันปกติ !” จ้าวเฉิงร้องขึ้น

ถิงหลันกัดริมฝีปากไม่พูดอะไร สถานการณ์แบบนั้นอย่าว่าแต่ผู้เข้าแข่งขันขั้นสอง ต่อให้เป็นผู้แข็งแกร่งระดับเจ้าตำหนักยังอาจพลาดได้ !

ชู่ชิ่งกับชู่หยู่ทั้งสองคนต่างนิ่งอึ้ง พวกเขาได้เห็นผลงานของชู่มู่ที่เขาก้าวทีละก้าวในวันนี้ อีกทั้งพวกเขาเตรียมส่งจดหมายบอกเกียรตินี้ให้ตระกูลรับรู้แล้ว คิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่า จะเกิดหายนะอันน่ากลัวแบบนี้ในเมืองอมตะได้ !

ลานกว้างแท่นบูชา

“ชู่มู่ ผนึกเหมือนเคยถูกเปิดออก ขั้นตอนบางอย่างละได้แล้ว ตอนนี้แค่ฆ่าสิ่งมีชีวิตผู้เฝ้าตัวนั้น มิติในผนึกจะเปิดออก” องค์หญิงจิ่งโหลวพูดกับชู่มู่ทันที

“แต่ว่า ถ้าพวกเราถูกผนึกในนั้นแล้ว เท่ากับว่าทั้งชีวิตนี้ก็ออกมาไม่ได้แล้วไม่ใช่เหรอ” เย้หวันเชิงบอก

“ไม่ แค่มีคนเปิดออก พวกเราก็ออกมาได้แล้ว นอกจากนี้ ผนึกนี้เหมือนจะเคยถูกคนทำลายมาก่อน ถ้าบอกว่าด้านในมีพลังที่แข็งแกร่งกว่า ยังมีหวังจะทำลายมิติผนึกนี้จากด้านในได้” องค์หญิงจิ่งโหลวบอก

“แต่ว่า…วินาทีที่ฆ่าสิ่งมีชีวิตผู้เฝ้านั้น ผนึกจะปรากฏขึ้น ทันทีที่ผนึกปรากฏขึ้น พลังผนึกนั้นจะกันโลกภายนอกกับมิติในผนึกออกทันที เท่ากับว่า หลังจากฆ่าสิ่งมีชีวิตผู้เฝ้า จำต้องไปยังตรงกลางของแท่นบูชาให้ไวที่สุด มิฉะนั้น จะติดอยู่ด้านนอก” องค์หญิงจิ่งโหลวบอก

ประโยคนี้ชัดเจนมากแล้ว จำต้องมีดวงวิญญาณตัวหนึ่งฆ่าสิ่งมีชีวิตผู้เฝ้า และอาจกลับมาไม่ได้…

ไม่ว่าจะเป็นชู่มู่ เย้ชิงจือ เย้หวันเชิง องค์หญิงจิ่งโหลว พวกเขาต่างเห็นดวงวิญญาณเป็นชีวิตของตัวเอง ให้พวกเขาตัดดวงวิญญาณตัวหนึ่งเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก ยิ่งกว่านั้น ความสามารถของสิ่งมีชีวิตผู้เฝ้าไม่อ่อน ไม่ใช่ดวงวิญญาณใดจะรับภารกิจนี้ได้

หรือจะบอกว่า ในตอนนี้มีแค่จั้นเย้ ปีศาจขาว มั่วเย้ และมารนิรยขาวขององค์หญิงจิ่งโหลวที่ฆ่าสิ่งมีชีวิตผู้เฝ้าได้รับบาดเจ็บตัวนั้นลำพังได้

“หลังจากฆ่าสิ่งมีชีวิตผู้เฝ้าแล้ว จะมีเวลานานเท่าไรที่ผนึกจะปรากฏขึ้น” ชู่มู่ถามขึ้น ทำลายความเงียบนี้

ผู้เฝ้าหินกำลังใกล้เข้ามา พวกเขาแทบไม่มีเวลาไปคิด

“หนึ่งวินาที” องค์หญิงจิ่งโหลวบอก

ชู่มู่กวาดตามองไปยังสิ่งมีชีวิตผู้เฝ้าสีน้ำเงินที่กำลังจะเข้าไปยังตรงกลางลานกว้าง สีหน้าเคร่งเครียดขึ้น

“พวกเจ้าไปยืนตรงกลางผนึก รวมถึงดวงวิญญาณของพวกเจ้าด้วย” ชู่มู่พูดกับทั้งสามคน

“ชู่มู่…” เย้ชิงจือมองไปยังชู่มู่ เธอไม่รู้ว่า ชู่มู่จะทำอะไร แต่เย้ชิงจือมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี

“ชู่มู่ เจ้าจะทำอะไร” เย้หวันเชิงรู้สึกถึงความผิดปกติของชู่มู่เหมือนกัน

“อย่าพูดมาก ทำตามที่ข้าบอก” ชู่มู่ทวนคำสั่งอีกรอบอย่างจริงจัง

ทั้งสามคนเห็นน้ำเสียงจริงจังของชู่มู่ ไม่กล้าพูดอะไรอีก รีบรวมตัวไปยังใจกลางของผนึก ให้ดวงวิญญาณของพวกเขากลับมาข้างกายในขณะเดียวกัน

“มั่วเย้ จั้นเย้ ปีศาจขาว พวกเจ้ายืนเข้าไปด้วย” ชู่มู่พูดกับดวงวิญญาณหลักทั้งสามของตัวเอง

“อู อู อู” มั่วเย้ส่งเสียงไม่ยอมทันที

มั่วเย้บอกว่า ให้มันไปฆ่าสิ่งมีชีวิตผู้เฝ้าตัวนั้น ความเร็วของมันอาจกลับมาทันก็ได้

“เนี๊ย เนี๊ย” ปีศาจขาวเองก็เสนอตัว เงาปีศาจกับเงาปีศาจสลับตำแหน่งของมันสามารถเคลื่อนที่ในระยะไกลได้

“ยืนเข้าไป !” ชู่มู่ไม่ให้เหล่าดวงวิญญาณของตัวเองพูดมาก ออกคำสั่งโดยตรง

ตอนที่ชู่มู่ให้ดวงวิญญาณหลักทั้งสามเข้าไปในลายเส้นตรงกลางผนึก เย้ชิงจือ เย้หวันเชิง องค์หญิงจิ่งโหลวถึงเข้าใจว่า ชู่มู่กำลังจะไปฆ่าสิ่งมีชีวิตผู้เฝ้าตัวนี้ด้วยตัวเขาเอง !

Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์

Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์

Status: Ongoing

ตอนที่ 1 – 550 อ่านนิยาย

(ช่วงแรกจะเป็นคนแปลคนเก่า) อ่านต่อข้างล่าง


โลกที่มนุษย์อยู่ร่วมกับสัตว์ดวงวิญญาณนานาชนิด มีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่อยู่รอด! เด็กชายผู้คุมดวงวิญญาณกำลังเผชิญหน้ากับความตายที่คืบคลานเข้ามาทุกวินาที ปีศาจในร่างจ้องจะกินวิญญาณของเขา วิธีรอดมีเพียงทางเดียวคือการทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น! หนทางของผู้พิชิตย่อมเต็มไปด้วยขวากหนาม สุนัขจิ้งจอกแสงจันทร์ดวงวิญญาณหลักของเขาถูกมองว่าเป็นดวงวิญญาณที่อ่อนแอที่สุด แต่ใครเล่าจะรู้ถึงความลับในสายเลือดของเจ้าจิ้งจอกตัวนี้

ที่นำพา ‘ชู่มู่’ เด็กหนุ่มผู้เคยถูกเย้ยหยันในวันนั้นไปสู่ผู้แข็งแกร่งที่น่าเกรงขามในวันข้างหน้า!

Show less 

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท