Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ – Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ – ตอนที่ 595

Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 595
ตอนที่ 595 เทียนทิง เจ้ายังไม่ตายเหรอ (2)

คนแก่นั่งคุยกับชู่มู่อย่างอ่อนโยน

ถ้าเป็นปกติ ชู่มู่คงนั่งคุยกับคนแก่เรื่องธรรมดาทั่วไป แต่อย่างน้อยนี่ก็เป็นผู้แข็งแกร่งชั้นยอดระดับท่านอาวุโสคนหนึ่ง ชู่มู่แทบไม่เคยได้คุยกับคนในระดับนี้ ระหว่างที่คุยกับท่าน จะได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างแน่นอน

แต่แล้ว ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญ ชู่มู่มองว่ามั่วเย้สำคัญเท่าชีวิตของตัวเอง จำต้องหาวิธีจัดการปัญหานี้ให้ได้

ท่านอาวุโสหลิ่วมองออกว่า ชู่มู่ใจร้อนอย่างมาก สุดท้ายเขาเองได้ถอนหายใจเบา ๆ พูดกับชู่มู่ว่า “ช่วงเวลาก่อนหน้านี้ สิ่งที่ข้าให้นักวิญญาณเฒ่าเต๋อบอกกับเจ้า เป็นการให้เจ้าทำใจไว้ก่อน”

“ข้ารู้ แต่ถ้าให้ข้าส่งมอบดวงวิญญาณของข้า เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้แน่นอน” ชู่มู่เองก็พูดอย่างจริงจัง

“บางครั้งยังต้องการเจรจาสันติ ครั้งนี้พวกเรามีเหตุผล ตอนที่ข้ามอบดวงวิญญาณเจ้าให้องค์กรวิญญาณ ข้าจะเรียกร้องบางอย่างจากองค์กรวิญญาณ เพื่อชดใช้ความเสียหายของเจ้า จะมีค่ามากกว่าดวงวิญญาณตัวนั้นของเจ้ามาก”ท่านอาวุโสหลิ่วบอก

ชู่มู่ส่ายหัว “ต่อให้เป็นดวงวิญญาณที่เกินกว่าราชัน ข้าก็จะไม่ส่งมอบมั่วเย้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะชดใช้ได้หรือไม่ได้”

ท่านอาวุโสหลิ่วอึ้งเล็กน้อย กลับรู้สึกว่า คำพูดของตัวเองตรงเกินไป ทว่า ไม่มีวิธีอื่นแล้วจริง ๆ สิ่งที่ท่านอาวุโสหลิ่วทำได้มีเพียงเรียกร้องสิทธิให้ชู่มู่มากขึ้นเท่านั้น

“ดวงวิญญาณมีอีกได้ แต่อย่าตัดหนทางของตัวเองเพราะเรื่องนี้” ท่านอาวุโสหลิ่วพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจริงจัง

ท่านอาวุโสหลิ่วกลัวตรงที่ว่า เขากังวลอย่างมากที่ชู่มู่จะดื้อดันแบบนี้ต่อไป

ท่านอาวุโสหลิ่วก็มองออกได้ว่าจิ้งจอกแห่งโทษทั้งเจ็ดเป็นสิ่งที่เจ้าองค์กรต้องการให้ได้ ถ้าเป็นอย่างอื่นละก็ ด้วยจดหมายทรงอำนาจของตำหนักวิญญาณ องค์กรวิญญาณยังคงยอมได้ แต่นี่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับผลประโยชน์ของเจ้าองค์กร เขาไม่มีทางใจอ่อนแน่

“หรือว่าไม่มีวิธีอื่นแล้วเหรอ” ใจของชู่มู่หมองลง

ท่านอาวุโสหลิ่วส่ายหัว”ความสามารถของเจ้าสูงมาก คาดว่าอีกไม่กี่ปี เจ้าจะเป็นผู้แข็งแกร่งคนใดคนหนึ่งของวงการดวงวิญญาณ อีกทั้งก้าวสู่ระดับที่สูงกว่า ถ้าเกิดตายไปเพราะเรื่องนี้ เจ้าแทบไม่มีสิทธิไปพูดเรื่องการต่อต้านกับอำนาจขององค์กรวิญญาณ”

“เจ้าอย่ามองเทียนทิงที่ถอยตลอด ที่ให้โอกาสข้าแบบนี้ ไม่ได้เป็นเพราะเรื่องนี้ไม่เร่งรีบ เขายิ่งทำแบบนี้ยิ่งแปลว่าเรื่องนี้สำคัญมาก เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของเจ้าองค์กร เขาไว้หน้าคนแก่อย่างข้า ก็เป็นเพราะไม่อยากให้ข้าเปิดโปง พูดให้ใจร้ายหน่อย ถ้าไม่ส่งดวงวิญญาณตัวนี้ออกมา ดวงวิญญาณอื่นของเจ้าอาจรับผลกรรมไปด้วย แม้ข้าเข้าใจได้ว่า ดวงวิญญาณตัวใดก็เป็นเหมือนชีวิตของเจ้า แต่เจ้าน่าจะต้องรู้จักมองในภาพรวม…” ท่านอาวุโสกลัวว่าชู่มู่จะใจร้อน จึงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนน้อม

“ไม่อยากเปิดโปงงั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นเทียนทิงปิดปากมาตลอดเหรอ” ชู่มู่ถามเสียงเบา

“อาจจะเป็นแบบนั้น” ท่านอาวุโสหลิ่วมองไปยังชู่มู่ รู้สึกว่าควรให้ชู่มู่คิดอย่างใจเย็นแล้ว

ในตอนนี้ ท่านอาวุโสหลิ่วได้ตบไหล่ของชู่มู่ แล้วพูดขึ้นว่า “เจ้าคิดให้ดี ตอนเย็นข้าจะไปหาเจ้า ถึงตอนนั้น หวังว่าเจ้าจะตัดสินใจอย่างชาญฉลาดแล้ว”

หลังจากพูดจบ หลังจากท่านอาวุโสมองไปยังชู่มู่แล้ว ได้เดินออกจากสวนทางด้านข้าง

อารมณ์ของชู่มู่ในตอนนี้ซับซ้อนอย่างมาก ในหัวใช้ความคิดอย่างหนักหน่วง ตามหาความหวังอันริบรี่

และแล้ว ถ้าคิดจะต่อต้านละก็ ดวงวิญญาณอื่นของตัวเอง รวมถึงคนที่มีความเกี่ยวข้องกับตัวเองอาจถูกองค์กรวิญญาณไล่ล่า ชู่มู่ยิ่งเจ็บใจมากขึ้น

“ผู้เฒ่าหลี เจ้าว่าถ้าให้ท่านอาวุโสหลิ่วลงมือฆ่าเทียนทิงทิ้ง เขาจะยอมไหม แล้วก็ได้ยินว่า เทียนทิงได้รับบาดเจ็บตอนสู้กับราชันอสูรเลือดที่เมืองอมตะนั้นด้วย” หลังจากผ่านไปเนิ่นนาน ชู่มู่ได้ถามผู้เฒ่าหลี

“เรื่องนี้ โดยปกติเป็นไปไม่ได้ ตอนนี้ทั้งเมืองเทียนเซี่ย คนที่ฆ่าเทียนทิงได้มีแค่ท่านอาวุโสหลิ่ว เจ้าองค์กรวิญญาณส่งคนมาสืบก็จะรู้ว่าใครเป็นคนลงมือ ถึงตอนนั้นพวกเจ้ายังต้องรับกรรมอยู่ดี ถ้าจะฆ่าเขาละก็ จำต้องอย่าให้สืบได้ ความสามารถของเทียนทิงเป็นอย่างที่เห็น เจ้าไม่สามารถตามหาผู้แข็งแกร่งคนอื่นที่ยอมเสี่ยงการลงโทษขององค์กรวิญญาณเพื่อฆ่าเทียนทิงแบบนี้ได้” ผู้เฒ่าหลีบอก

ความลับน่าจะอยู่กับเทียนทิงคนเดียว ถ้าบอกว่ากำจัดเทียนทิงได้โดยที่มือตัวเองไม่ต้องเปื้อนเลือด ถ้าอย่างนั้นก็จะไม่มีใครรู้ !

แต่จะต้องทำอย่างไรถึงจะกำจัดราชันวิญญาณที่มีดวงวิญญาณระดับราชันขั้นสูงได้

ตอนที่เต็มไปด้วยความสงสัย ชู่มู่พบว่า ท่านอาวุโสหลิ่วที่มีหนวดขาวกลับมาตั้งแต่เมื่อใดไม่รู้

ชู่มู่มองไปยังท่านอาวุโสหลิ่ว เผยความสงสัยออกมา

“ข้าเกือบลืมอีกเรื่องที่สำคัญมาก” ท่านอาวุโสหลิ่วบอก

ตำหนักเทียนทิง

เทียนทิงนั่งที่ห้องโถงกว้างสง่า ใบหน้ามัวหมองอย่างมาก

ชายที่สวมชุดสีเทาสองคนชันเข่าอยู่ตรงนั้น หนึ่งในนั้นคือราชันวิญญาณที่ดักชู่มู่ไว้ก่อนหน้านี้

“ท่าน มีคำสั่งอะไรให้ข้าน้อยรับใช้” ราชันวิญญาณร่างอวบคนนั้นถามเสียงเบา

“พวกเจ้าสองคนเป็นลูกน้องที่ภักดีที่สุดของข้าใช่ไหม” เทียนทิงจับจ้องไปยังสองคนนี้

ราชันวิญญาณสองคนนี้มองหน้ากันทันที สมองของคนที่เป็นราชันวิญญาณได้คงไม่โง่ขนาดนั้น เทียนทิงถามแบบนี้ เห็นได้ชัดว่าจะให้พวกเขาไปทำเรื่องที่ให้คนอื่นเห็นไม่ได้ อีกทั้งห้ามให้มือตัวเองเปื้อนเลือดเด็ดขาด

“แน่นอนขอรับ !” ราชันวิญญาณร่างอวบตอบ

“ข้าเฉินหงภักดีต่อท่านมาโดยตลอด” ชายที่เรียกตัวเองเฉินหงพูดขึ้น

เทียนทิงมองไปยังราชันวิญญาณร่างอวบ เหมือนรู้สึกว่า คนนี้ไม่น่าเชื่อใจมากเท่าไร ในตอนนี้ได้สะบัดมือแล้วพูดขึ้นว่า “เจ้าออกไปก่อน”

ราชันวิญญาณร่างอวบอึ้งเล็กน้อย แอบคิดในใจ “เรื่องดีหรือร้ายกันแน่ ช่างเถอะ อยู่กับเทียนทิงจะมีเรื่องดีได้อย่างไร อย่ายุ่งเยอะเกินไปจะดีกว่า ให้เฉินหงไปจัดการเถอะ”

เฉินหงอยู่ต่อ สิ่งที่เขาคิดในใจไม่ต่างจากคนที่เพิ่งเดินออกไป กำลังเดาว่า เป็นเรื่องดีหรือเรื่องร้าย

“ข้าอยู่ในเมืองเทียนเซี่ยหลายปีแล้ว รู้ไหมว่าทำไม” เทียนทิงพูดขึ้น

“นี่…ข้าน้อยไม่ทราบ” เฉินหงก้มหน้าพูดขึ้น

“เจ้าไม่จำต้องรู้ทั้งหมดก็ได้ นี่เป็นเรื่องที่เจ้าองค์กรสั่งมา ข้าพูดให้เจ้าฟังเอง…” ตอนที่เทียนทิงพูด ส่องประกายบางอย่างในสายตา

เฉินหงฟังอย่างตั้งใจมาก และแอบดีใจ “เทียนทิงบอกเรื่องสำคัญแบบนี้กับตัวเองได้ นี่เท่ากับว่าวันที่ตัวเองจะได้เป็นใหญ่เป็นโตกำลังจะมาถึงแล้วเหรอ ท่าทางประโยคจริงใจเมื่อกี้ยังได้ผลอยู่ เฉินหงอดใจไม่ไหวที่จะเยาะเย้ยเจ้าอ้วนที่รับมือเรื่องนี้ไม่ได้

“ข้าน้อยเข้าใจแล้ว ข้าน้อยได้รู้จักกับเพื่อนพิเศษบางคน คาดว่าพวกเขายินดีลงมืออย่างมาก อีกทั้งจะไม่ทิ้งร่องรอยใดๆ”เฉินหงพูดอย่างตั้งใจ

“ดีมาก หลังจากเรื่องนี้สำเร็จด้วยดี จะแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งไปยังเขตโลกของเจ้า ข้าคิดว่าเจ้าอยากได้พื้นที่นี้มานานมากแล้วละ” เทียนทิงพูดพลางลูบคาง

เฉินหงได้ยิน รีบคุกเข่าขอบคุณ

พื้นที่ที่เทียนทิงพูดถึง มีแหล่งทรัพยากรวิญญาณขั้นสามหนึ่งอัน ปริมาณวิญญาณที่มันผลิตในแต่ละเดือนเพียงพอที่จะให้ราชันขั้นต่ำต่อสู้ต่อเนื่องได้ นี่เป็นทรัพยากรที่มหาศาลมาก เมื่อมีพื้นที่แห่งนี้แล้ว เฉินหงไม่จำต้องหวาดกลัวใด ๆแล้ว ไม่ต้องกังวลปัญหาของดวงวิญญาณแล้ว อีกทั้งเฉินหงยังนำวิญญาณที่เกินมา ไปแลกกับวัตถุวิญญาณเพิ่มความแข็งแกร่งบางส่วนได้ เพิ่มระดับของดวงวิญญาณ !!!

อยู่ในระดับราชัน หากระดับของดวงวิญญาณเพิ่มขึ้น ตำแหน่งจะต่างกันอย่างสิ้นเชิง !

“วางใจได้ ข้าน้อยจะชิงไข่มังกรจำศีลเลือดบริสุทธิ์นั้นกลับมาให้ได้ ส่วนเจ้าเด็กชู่เฉิง…” เฉินหงกรอกตา ไม่ได้พูดต่อ

“อืม ออกไปเถอะ” เทียนทิงพยักหน้าอย่างพอใจ

รอยยิ้มของเฉินหงจางลงเรื่อย ๆ ในใจดีใจอย่างมาก

“วัยหนุ่มที่มีความสามารถราชันแค่ตัวเดียวคนหนึ่ง แค่รู้ร่องรอยของเขา จะฆ่าเขาอย่างไม่ทิ้งร่องรอยใด ๆ เป็นเรื่องที่ง่ายเหลือเกิน”

แน่นอนว่าเฉินหงก็ไม่โง่ แม้เขาไม่รู้ว่า เบื้องหลังที่แท้จริงของชู่มู่คืออะไร แต่ก็ไม่จำต้องให้เรื่องนี้สืบสาวมาถึงตัวเอง ดังนั้น เขาติดต่อผู้แข็งแกร่ง “เบื้องล่าง” ทันที ให้พวกเขาจัดการเรื่องนี้

“คาดไม่ถึงจริง ๆ ไข่มังกรจำศีลอัมพรมรกตสายเลือดบริสุทธิ์จะอยู่ในมือเจ้าเด็กนี่ นั่นเป็นกลุ่มมังกรระดับราชั้นขั้นสูง พลังต่อสู้ไม่ด้อยไปกว่าราชันชั้นยอด ถ้าอยู่ในมือข้า เลี้ยงถึงลักษณะสิบ ข้าจะเหยียบเทียนทิงได้อย่างมิดชิดแล้ว ถ้าไม่ระวังอาจทำให้อยู่ในระดับเกินกว่าราชันอย่างมังกรจำศีลอัมพรมรกตได้….คึคึ” เฉินหงยังแอบคิดในใจว่า จะแอบเทียนทิงได้ไหม แล้วเก็บไข่มังกรจำศีลอัมพรมรกตนี้ไว้กับตัวเอง !

ในห้องโถง

เทียนทิงมองดูเฉินหงจากไป กลับฉีกยิ้มออกมา

มีเพียงเจ้าพวกโง่ถึงจะเชื่อว่า มังกรจำศีลอัมพรมรกตจะแยกไข่มังกรจำศีลอัมพรมรกตสายเลือดบริสุทธิ์ออกมา

“รุ่นหลังทั้งหมดของมังกรจำศีลอัมพรมรกตมีเพียงมังกรจำศีลมรกต ผู้สืบทอดที่แท้จริง มาจากการชำระล้างด้วยเลือดศักดิ์สิทธิ์บ่อบรกตเท่านั้น จะมีรุ่นหลังของมังกรจำศีลอัมพรมรกตที่แยกออกมาโดยตรงได้อย่างไร คนโง่ยังคงเป็นคนโง่ แต่จัดการเจ้าเด็กนี้ให้ข้าก็ดี จะได้ไม่เป็นภัยในวันข้างหน้า” เทียนทิงพูดเยาะเย้ย

นึกถึงชู่มู่ที่มีดวงวิญญาณระดับราชันตั้งแต่สมัยรุ่นวัยหนุ่ม นี่ทำให้ใจของเทียนทิงหวาดหวั่น อีกทั้งหลังจากผ่านเรื่องนี้ ชู่มู่จะแค้นเทียนทิงอย่างมากแน่นอน เพื่อไม่ให้ในอนาคตมีปัญหามากมายแบบนี้ จัดการเขาสะตั้งแต่ตอนนี้จะดีกว่า !

“ท่านคุณ จัดการเรียบร้อยแล้ว” หญิงสาวมากเสน่ห์คนหนึ่งเดินมาอย่างช้า ๆ เห็นเทียนทิงเหมือนจะอารมณ์ดีอยู่ รีบแนบร่างหอมเข้าไป

“ประมาณหนึ่งแล้ว” เทียนทิงหัวเราะออกมา ใบหน้าเคร่งขรึมเผยความหื่นออกมา ฝ่ามือแนบไปยังหน้าอกหญิงสาวรักสนุกทันทีในห้องโถงนี้

สวนตำหนักวิญญาณ

ท่านอาวุโสหลิ่วเดินมาข้างชู่มู่ ส่งแหวนช่องว่างอันหนึ่งให้ชู่มู่พูดว่า “นี่เป็นสิ่งที่ท่านแม่ของเจ้าฝากคนนำมาให้ที่นี่ เป็นเทพน้ำแข็งดินก้อนหนึ่ง บอกว่าวิญญาณของเจ้ามีอุณหภูมิสูงมากผิดปกติ ต้องใช้สิ่งนี้เพื่อชะลอ”

“น้ำแข็งเทพดิน !!!”

ดวงตาของชู่มู่เป็นประกายทันที !

น้ำแข็งเทพดินเป็นสมบัติชั้นดีที่ทำให้ระดับพลังต่อสู้ของดวงวิญญาณระดับราชันเพิ่มขึ้นได้ !!!

ชู่มู่คิดไม่ถึงจริง ๆ ว่า หลิ่วปิงฟงได้เจอเทพน้ำแข็งดินหายากยิ่งนี้ได้ ที่สำคัญที่สุด ได้ส่งมาในช่วงเวลาสำคัญที่สุดแบบนี้ด้วย !

ชู่มู่ไม่ได้นำน้ำแข็งเทพดินนี้เพิ่มความแข็งแกร่งดวงวิญญาณของตัวเอง แต่น้ำแข็งเทพดินนี้ลดอุณหภูมิสูงของวิญญาณตัวเองได้โดยตรง !

ทันทีที่อุณหภูมิของวิญญาณละลง ชู่มู่จะใช้พลังที่ไม่กล้าใช้มาตลอดได้ ครึ่งมาร !!!

“เทียนทิง ดูว่าเจ้าจะบ้าเพียงใด อวดดีอีกหรือ ครั้งนี้เจ้าตายแน่ !!!”

พบเจอความหวังท่ามกลางความสิ้นหวัง ทำให้ในใจของชู่มู่ตื่นเต้นทันที !!!

Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์

Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์

Status: Ongoing

ตอนที่ 1 – 550 อ่านนิยาย

(ช่วงแรกจะเป็นคนแปลคนเก่า) อ่านต่อข้างล่าง


โลกที่มนุษย์อยู่ร่วมกับสัตว์ดวงวิญญาณนานาชนิด มีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่อยู่รอด! เด็กชายผู้คุมดวงวิญญาณกำลังเผชิญหน้ากับความตายที่คืบคลานเข้ามาทุกวินาที ปีศาจในร่างจ้องจะกินวิญญาณของเขา วิธีรอดมีเพียงทางเดียวคือการทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น! หนทางของผู้พิชิตย่อมเต็มไปด้วยขวากหนาม สุนัขจิ้งจอกแสงจันทร์ดวงวิญญาณหลักของเขาถูกมองว่าเป็นดวงวิญญาณที่อ่อนแอที่สุด แต่ใครเล่าจะรู้ถึงความลับในสายเลือดของเจ้าจิ้งจอกตัวนี้

ที่นำพา ‘ชู่มู่’ เด็กหนุ่มผู้เคยถูกเย้ยหยันในวันนั้นไปสู่ผู้แข็งแกร่งที่น่าเกรงขามในวันข้างหน้า!

Show less 

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท