ระหว่างมื้อเย็น คนของตระกูลชู่ต่างพูดถึงปัญหาภัยแร้งที่ใกล้เข้ามา ไม่มีใครมีอารมณ์กินอะไร มีเพียงการกลับมาของชู่มู่ถึงทำให้บรรยากาศดีขึ้นเล็กน้อย
แต่ว่าใครก็รู้ว่า ตระกูลชู่ในตอนนี้กำลังเผชิญกับปัญหาใหญ่ ต้องจัดการปัญหาก่อน
“ภัยแร้งขั้นเก้า เท่ากับว่าจะมีจักรพรรดิชั้นยอดอย่างน้อยหนึ่งตัวปรากฏขึ้น” ในตอนนี้ ชู่หมิงใช้เสียงที่แหบชราพูดขึ้น
ชู่เทียนเหิงมองไปที่ท่านพ่อของตัวเอง รู้ว่าคนแก่คนนี้ไม่อยากจะปกปิดศัตรูที่จะปรากฏในภัยแร้งครั้งนี้แล้ว
เดิมชู่เทียนเหิงไม่อยากบอกโดยตรง อย่างไรก็ตาม ทำแบบนี้จะทำให้คนที่เฝ้าเมืองหวาดหวั่น ถ้าไม่บอกคนทั้งหมด ให้คนทั้งหมดเฝ้าอยู่ อาจทำให้ทุกคนใช้พลังทั้งหมดออกมาได้
แต่ในเมื่อชู่หมิงพูดกระจ่างแล้ว ชู่เทียนเหิงรู้สึกว่าบอกเอาไว้ยังจะดีกว่า
“จักรพรรดิชั้นยอด…ตระกูลชู่พวกเจ้าจัดการได้ไหม” คุณหญิงเสี่ยวหยุนพูดด้วยความตกใจ
เห็นได้ชัดว่า คุณหญิงเสี่ยวหยุนไม่คิดว่า ภัยแร้งจะสาหัสขนาดนี้ อีกทั้งจะมีดวงวิญญาณระดับจักรพรรดิชั้นยอดปรากฎตัวขึ้น ในเมืองตะวันตกทั้งหมดนี้ มีแค่ท่านพ่อของเธอถึงจะมีดวงวิญญาณจักรพรรดิชั้นยอด!
ชู่เทียนเหิงและท่านอาของชู่มู่ต่างส่ายหัวอย่างหมดหนทาง
“ต้องขึ้นอยู่กับผู้แข็งแกร่งของประตูเมืองหลัวกับตระกูลชู่หลักแล้ว พวกเราหมดหนทางแล้ว” ชู่เทียนหลิงบอก
ซุนหยวนที่อยู่ด้านข้างเผยสีหน้าประหลาดใจออกมา เพราะเขาไม่คิดว่า จะมีจักรพรรดิชั้นยอดอยู่ด้วย
ซุนหยวนเองก็ไม่แน่ใจว่า ผู้แข็งแกร่งที่เขาแอบส่งมาจะมีผู้คุมดวงวิญญาณที่มีจักรพรรดิชั้นยอดหรือไม่ ถ้าไม่มีละก็ พวกเขาจัดการภัยแร้งอย่างลำบากเช่นกัน
“จักรพรรดิชั้นยอดหนึ่งตัวในภัยแร้งนี้ เป็นสิ่งที่พวกเราตระกูลชู่จัดการไม่ได้ และในกองทัพภัยแร้งระดับทาส กองทัพระดับแม่ทัพ กองทัพระดับผู้นำ กองทัพระดับจักรพรรดิ ความสามารถของกองทัพระดับจักรพรรดิควบกันน่าจะเทียบเท่าจักรพรรดิชั้นยอดสองตัว กองทัพผู้นำก็เท่ากับจักรพรรดิชั้นยอดหนึ่งตัว กองทัพแม่ทัพเท่ากับจักรพรรดิชั้นยอดหนึ่งตัว จำนวนของกองทัพระดับทาสก็เทียบเท่าจักรพรรดิชั้นยอดหนึ่งตัว…” ชู่เทียนเหิงพูดกับทุกคน
ผู้คนเผยสีหน้าประหลาดใจออกมาทันที ไม่เข้าใจว่า ชู่เทียนเหิงต้องการจะพูดอะไรจากทั้งหมดนี้
“วิธีประเมินความสามารถแบบนี้ ข้าได้มาจากตระกูลชู่หลัก ภัยแร้งขั้นเก้าเท่ากับกลุ่มขั้นเก้า”
“จักรพรรดิชั้นยอดหนึ่งตัวจะปรากฏแน่นอน ภายใต้จักรพรรดิชั้นยอดนั้น มีสิ่งมีชีวิตจักรพรรดิขั้นสูงถึงเทียบเท่าจักรพรรดิ น่าจะมีประมาณสิบกว่าตัว ความสามารถเทียบเท่าจักรพรรดิชั้นยอด 2 ตัวได้ เท่ากับว่า เมื่อรวมความสามารถของสิ่งมีชีวิตระดับจักรพรรดิทั้งหมดของภัยแร้งขั้นเก้านี้ เท่ากับมีจักรพรรดิชั้นยอดสามตัว!”
คำพูดนี้ของชู่เทียนเหิง ทำให้คนทั้งหมดนิ่งอึ้งทันที!
บนโต๊ะมีประมาณยี่สิบกว่าคน ตอนนี้ไม่มีใครพูดอะไรอีก
ชู่เทียนเหิงเห็นใบหน้าของทุกคนอึ้งขนาดนี้ ราวกับเป็นเรื่องที่คาดการณ์ไว้แล้ว ความจริงในตอนที่เขารู้ความหมายที่แท้จริงของภัยแร้งขั้นเก้า สีหน้าของเขาสิ้นหวังกว่านี้อีก
“สิ่งมีชีวิตจักรพรรดิรวมกันเท่ากับจักรพรรดิชั้นยอดสามตัว ภัยแร้งขั้นเก้านี้น่ากลัวเกินไปแล้ว!” ในที่สุด ชู่อิงทำลายความเงียบบนโต๊ะ
ชู่เทียนเหิงพูดต่อด้วยรอยยิ้มฝืนว่า “นี่เป็นแค่พลังของระดับจักรพรรดิ ผู้นำจะมีประมาณสามร้อยกว่า ความสามารถรวมกันจะเท่ากับจักรพรรดิชั้นยอดหนึ่งตัว ระดับแม่ทัพมีจำนวนสามพันกว่า รวมกันแล้วเท่ากับจักรพรรดิชั้นยอดหนึ่งตัวเช่นกัน ระดับทาสจะมีสามหมื่นกว่ากว่า รวมกันแล้วมีพลังเท่ากับจักรพรรดิชั้นยอดหนึ่งตัวเช่นกัน เท่ากับว่า เวลาครึ่งเดือนนี้พวกเราต้องเผชิญกับพลังของกองทัพที่เทียบเท่าจักรพรรดิชั้นยอดหกตัว”
เดิมบรรยากาศบนโต๊ะอาหารก็ประหลาดอย่างมากแล้ว แต่ละคนอึมครึมอย่างมากแล้ว และในตอนนี้ที่ชู่เทียนเหิงได้บอกเรื่องภัยแร้งขั้นเก้าทั้งหมดออกมา ทำให้คนทั้งหมดนิ่งอึ้งเข้าไปอีก !!!
“นี่…นี่จะจัดการได้อย่างไร !!! ในเมื่อเจ้ารู้ว่า น่ากลัวขนาดนี้ ทำไมไม่รีบบอก รีบออกจากที่นี่ก่อน เจ้าอยากให้คนทั้งหมดตายที่นี่หรือ” คุณหญิงเสี่ยวหยุนลุกขึ้นทันที พูดอย่างใจร้อน
พอคุณหญิงเสี่ยวหยุนพูดแบบนี้ คนอื่นในตระกูลเริ่มท้อแท้แล้ว
พลังที่เทียบเท่าจักรพรรดิชั้นยอดหกตัว ผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิขั้นสูงที่ตระกูลชู่เชิญมามีเท่าที่นับด้วยนิ้วได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงจักรพรรดิชั้นยอดแล้ว !
ในตอนนี้ ความคิดในใจของคนทั้งหมดเหมือนกันหมด ยังจะกินอะไรอีก ควรรีบเก็บของออกจากที่นี่ก่อน !
“อย่ารุกรน นี่เป็นการรวมพลังสิ่งมีชีวิตทั้งหมดของภัยแร้งในเวลาสิบวัน ภัยแร้งขั้นเก้าไม่ออกจากรังทั้งหมดในวันเดียวหรอก”
“ถ้าภัยแร้งต่อเนื่องสิบวัน ถ้าอย่างนั้นการโจมตีที่ต้องรับในแต่ละวันจะเท่ากับพลังของจักรพรรดิชั้นยอดศูนย์จุดหกตัว เวลาสิบวัน ดวงวิญญาณของทุกคนผลัดกันต่อสู้ได้” ชู่เทียนเหิงเห็นสีหน้าของทุกคนเปลี่ยนไป รีบพูดอธิบาย
ชู่เทียนเหิงอธิบายแบบนี้ อารมณ์ของทุกคนถึงผ่อนคลายลง
หากเป็นเช่นนั้นจริง ภัยแร้งไม่มีทางออกจากรังพร้อมกันในคราวเดียว ถ้าเฝ้าเมืองแบบนี้ทุกคนจะพักหายใจได้บ้าง
“คุณหญิงเสี่ยวหยุน ท่านเชิญท่านเจ้าเมืองได้หรือไม่” ชู่เทียนหลิงถามอย่างสุภาพ
เสี่ยวหยุนส่ายหัว” ท่านพ่อของข้าไม่มีทางลงมือเอง ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เมืองตะวันตกนี้จะชุลมุนยิ่งขึ้น ข้าทำได้มากสุดแค่เชิญผู้ใหญ่สองคนที่มีจักรพรรดิขั้นสูงคนละตัวมาช่วยเหลือเท่านั้น นอกจากนั้นเชิญผู้เฝ้าอีกกลุ่มมาช่วยเหลือ”
“แบบนี้ก็ดีแล้ว รอคนของประตูเมืองหลัวกับตระกูลชู่หลักพรุ่งนี้ ถ้าพวกเขามีผู้แข็งแกร่ง อาจยังมีหวังอยู่บ้าง” ชู่เทียนเหิงฝืนยิ้มออกมา
ตอนที่พูด ชู่เทียนเหิงได้แต่มองไปยังชู่มู่
ความจริง ตลอดที่พูดคุยมีคนไม่น้อยที่คอยสังเกตท่าทีของชู่มู่ โดยเฉพาะชู่เทียนเหิง เขาพบว่า ไม่ว่าตัวเองพูดความจริงเรื่องภัยแร้งหรือถามหาความช่วยเหลือ ชู่มู่ยังคงนั่งอยู่ที่เดิม สีหน้าไม่เปลี่ยน นิ่งเหมือนปกติ ราวกับเป็นคนนอก
“ชู่มู่ ทำไมไม่พูดอะไร” ชู่เทียนเหิงอดไม่ได้เอ๋ยปากถามขึ้น
ซุนหยวนกวาดตามองไปยังชู่มู่ พูดกึ่งประชดว่า “หรือว่าจะกลัวจนนิ่งไปแล้ว”
จิตของชู่มู่ไม่อยู่กับตัว เพราะเขาในตอนนี้กำลังคิดหาวิธีจัดการชนเผ่าขั้นหนึ่งที่มีแหล่งวิญญาณนี้ แต่ไม่ใช่กลุ่มขั้นเก้านี้…
…
เหตุที่ชู่มู่ไม่ได้พุ่งเข้าไปในชนเผ่านั้นทันที ก็เป็นเพราะความสามารถของตัวเองไม่พอ
ชนเผ่าทั้งหมดใหญ่มาก ชู่มู่อาจให้มั่วเย้จัดการเทียบเท่าราชันตัวนั้นได้
แต่เทียบเท่าราชันไม่ใช่ผู้นำที่บ้าคลั่ง จะออกมาให้ชู่มู่ฆ่าโดยตรงได้อย่างไร คาดว่ามันจะส่งลูกน้องนับไม่ถ้วนมาลดพลังต่อสู้ของมั่วเย้…
ราชาจัดการได้ง่าย แต่ลูกน้องนับหมื่นนี่น่ารำคาญเกินไป อีกทั้งราชาจะหลบอยู่หลังลูกน้องพวกนี้แน่นอน คาดว่าจะต้องฆ่าล้างเปิดทางถึงจะมีโอกาสเป็นไปได้
ตอนที่ชู่เทียนเหิงพูดถึงจำนวนของภัยแร้งขั้นเก้า ชู่มู่เองก็ลูบคางคำนวณจำนวนของชนเผ่าขั้นหนึ่งอยู่
ผู้เฒ่าหลีได้ประมาณจำนวนของชนเผ่าขั้นหนึ่งไว้ว่า ภายใต้พวกมันเทียบเท่าราชันหนึ่งตัว จะต้องมีจักรพรรดิชั้นยอดสามตัวขึ้นไป อีกทั้งภายใต้จักรพรรดิชั้นยอดสามตัวนี้ จะมีจักรพรรดิขั้นสูงกับขั้นกลางประมาณสิบกว่าตัวอีก
แค่จากจักรพรรดิชั้นยอดไปยังจักรพรรดิขั้นสูงนี้ มีจักรพรรดิชั้นยอดสามตัว จักรพรรดิขั้นกลางขั้นสูงสิบตัว ถ้าให้รวมพวกมันไว้ด้วยกัน พลังต่อสู้ของพวกมันจะเทียบเท่าจักรพรรดิชั้นยอดห้าตัวแล้ว
และจากจักรพรรดิขั้นกลางไปถึงเทียบเท่าจักรพรรดิ จะมีจำนวนประมาณหนึ่งร้อยกว่าตัว ถ้าไม่มีจักรพรรดิชั้นยอดสามตัว คงจัดการไม่ได้แน่นอน
ดังนั้น ในชนเผ่าขั้นหนึ่ง พลังจักรพรรดิทั้งหมดนี้รวมกัน ออกจากรั้งพร้อมกันละก็ จะเท่ากับว่ามีพลังต่อสู้จักรพรรดิชั้นยอดสิบตัว
และจักรพรรดิชั้นยอดสิบตัว จะสู้เทียบเท่ากับราชันปกติได้แล้ว !
ในวงการต่อสู้ดวงวิญญาณของชู่มู่ มั่วเย้ต้องเทียบเท่าราชันตัวนั้นแน่นอน
มารนิรยขาวเป็นจักรพรรดิไร้เทียมทาน จัดการจักรพรรดิชั้นยอดได้มากสุดสามตัว
จั้นเย้ที่ผ่านดวงใจแห่งมังกรหาญกับแตกหักงอกใหม่ จัดการจักรพรรดิชั้นยอดสองตัวได้ไม่มีปัญหา
ปีศาจนักรบไม้ที่ต่อสู้แบบกลุ่มอย่างไร้เทียมทาน ถ้าโยนปีศาจนักรบไม้ไว้ท่ามกลางจักรพรรดิขั้นกลางกับเทียบเท่าจักรพรรดิ ผลของปีศาจนักรบไม้จักรพรรดิขั้นสูงจะเทียบเท่าจักรพรรดิชั้นยอดได้
ภูตพันวายุกับราชันผีหินผาต้องร่วมมือกัน ราชันผีหินผาทำหน้าที่ป้องกัน คอยต้านทานการโจมตีส่วนใหญ่ และทักษะหมวดลมที่ภูตพันวายุปล่อยออกมาจะทำการฆ่าล้างได้ จักรพรรดิขั้นสูงสองตัวนี้ร่วมมือกัน พลังต่อสู้จะเทียบเท่ากับจักรพรรดิชั้นยอดตัวหนึ่งได้เช่นกัน
พลังทำลายล้างของภูตเวหาน้ำแข็งจักรพรรดิชั้นยอดยิ่งแข็งแกร่ง ถ้าร่วมมือกับราชันผีหินผาละก็ จัดการกองทัพที่เทียบเท่าจักรพรรดิชั้นยอดสองตัวได้ไม่มีปัญหา
การต่อสู้แบบกลุ่มของอสูรสายฟ้านิมิตราตรีจะอ่อนกว่าอย่างชัดเจน แต่ด้วยความเร็วของมัน บวกกับเกราะวิญญาณขั้นเก้า ถ้าต่อสู้ในตอนกลางคืนละก็ วิ่งวนกับจักรพรรดิชั้นยอดตัวหนึ่ง มันยังทำการรั้งไว้ได้บ้าง
ดวงวิญญาณทั้งหมดของชู่มู่รวมกัน ไม่สามารถรับมือกับเทียบเท่าราชันตัวหนึ่งได้ แต่ในการต่อสู้กลุ่มจะต่างกัน พลังของพวกมันจะเสริมกันและกัน ต่อต้านกับกองทัพระดับจักรพรรดิได้
แน่นอนว่า ชู่มู่ไม่สามารถอัญเชิญดวงวิญญาณทั้งหมดออกมาต่อสู้พร้อมกัน คิดจะหาโอกาส ก็ต้องยืดเวลาต่อสู้ให้ยาวออกไป
จำนวนของชนเผ่ามหาศาล ชู่มู่แค่ครอบครองพื้นที่บางแห่ง จักรพรรดิทั้งหมดในชนเผ่าก็ไม่มีทางออกจากรังทั้งหมดเพราะมีผู้บุกรุกสามตัว
ต่อให้ออกจากรังทั้งหมด ชู่มู่แค่หนีไป ดวงวิญญาณแค่สามตัว ความคล่องตัวสูง ที่ตามทันก็คงมีแค่เทียบเท่าราชันกับจักรพรรดิชั้นยอด
ดังนั้น ชู่มู่แค่รวมพลังทั้งหมดได้ก็พอแล้ว อัญเชิญพร้อมกันได้หรือไม่ ไม่ใช่ปัญหาที่ใหญ่เท่าไร
ปัญหาอยู่ที่ว่า ในชนเผ่ายังมีกองทัพระดับผู้นำ ระดับแม่ทัพ ระดับทาส
จำนวนของระดับแม่ผู้นำจะมากถึงหนึ่งพันต้องมีจักรพรรดิชั้นยอดสามตัวถึงจะจัดการได้
จำนวนของระดับแม่ทัพจะมากถึงหนึ่งหมื่น ต้องใช้จักรพรรดิชั้นยอดสามตัวถึงจะจัดการได้เช่นกัน
จำนวนของระดับทาสน่าจะมากถึงหนึ่งแสน ต้องใช้จักรพรรดิชั้นยอดอย่างน้อยสามตัว
ที่สำคัญที่สุดคือ ระดับผู้นำ ระดับแม่ทัพ ระดับทาสจะต้องเป็นกองหน้าแน่นอน แค่จัดการพวกนี้ พลังของมั่วเย้ระดับราชันอาจไม่เหลือแล้วก็ได้
สิ่งที่ผู้เฒ่าหลีคอยพูดเตือนชู่มู่ตลอดคือ “จะกวาดล้างชนเผ่าขั้นหนึ่งในคราวเดียว ต้องมีเทียบเท่าราชันอย่างน้อยสามตัวออกสู้พร้อมกันถึงจะมีโอกาสชนะได้ ถ้าไม่มีละก็ ต้องวางแผนให้ดี ต้องใช้วิธีอื่นๆ แล้ว”
————————————————————————