Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ – Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ – ตอนที่ 618 ปีศาจนักรบไม้ของใคร

Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์ - ตอนที่ 618 ปีศาจนักรบไม้ของใคร
ตอนที่ 618 ปีศาจนักรบไม้ของใคร

“เจ้าเด็กนั่น ล้อเล่นอะไรกัน เขาจะมีดวงวิญญาณระดับจักรพรรดิขั้นสูงได้อย่างไร!” จางอิงเห็นว่า วัยหนุ่มที่ตระกูลชู่พูดถึงคือใคร ได้กวาดตามองไปยังชู่มู่

อายุของชู่มู่แค่ยี่สิบกว่าปี จางอิงอาจมีอายุมากกว่าเขาสองเท่า เจ้าเด็กแบบนี้จะมีดวงวิญญาณระดับจักรพรรดิขั้นสูงได้อย่างไร อีกทั้งยังเป็นดวงวิญญาณที่แข็งแกร่งกว่าปีศาจนักรบไม้ของตัวเองไม่น้อยอย่างเห็นได้ชัด!

อาจารย์อาสามคนที่เหลือเองก็กำลังว่างจากควบคุมดวงวิญญาณของตัวเอง เหล่ตามองไปยังชู่มู่เล็กน้อย เช่นเดียวกัน พวกเขาเองก็ยากที่จะเชื่อว่าปีศาจนักรบไม้ตัวนั้นมาจากวัยหนุ่มคนหนึ่ง

ท่ามกลางการต่อสู้กลุ่ม เดิมทีหมวดไม้ก็ได้เปรียบอย่างมากแล้ว พูดได้ว่า ประโยชน์ของปีศาจนักรบไม้ตัวนั้นเป็นการรวมกันของจักรพรรดิขั้นกลางสี่ตัวของอาจารย์อาทั้งสี่

ไม่ว่าปีศาจนักรบไม้ตัวนั้นเป็นของใคร เดิมควรจะเป็นพวกเขาที่ควบคุมสถานการณ์เอาไว้ กลับมีปีศาจนักรบไม้ที่ทรงพลังชิงตัดหน้าพวกเขา ทำให้ทั้งสี่คนไม่สบายใจอย่างมาก!

ชู่เชียน ชู่เหอ ชู่หลั่งได้คอยสังเกตชู่มู่ พวกเขาพบว่า ชู่มู่เหมือนจะไม่ได้ควบคุมดวงวิญญาณอยู่ แต่แค่ยืนอยู่บนขอบของตึก กวาดตามองไปยังสิ่งมีชีวิตทั้งฝูง

พวกเขาทั้งสามมีดวงวิญญาณของตัวเองที่ต้องควบคุม ไม่สามารถเดินไปถามข้างชู่มู่ ต่อให้ปีศาจนักรบไม้ตัวนั้นจะลดภาระให้คนทั้งหมดไม่น้อย แต่หากไม่จดต่อก็ยังคงเกิดอุบัติเหตุระหว่างการต่อสู้นี้ได้ง่าย

ส่วนชู่เทียนหลิงที่ควบคุมสถานการณ์บนตึกกลับฉีกยิ้มออกมา เขาไม่ได้เข้าร่วมการต่อสู้

ตั้งแต่ตอนเริ่ม ชู่เทียนหลิงสังเกตเห็นแล้วว่า ปีศาจนักรบไม้ตัวนั้นถูกชู่มู่อัญเชิญออกมา

ชู่เทียนหลิงรู้ว่า ชู่มู่มีดวงวิญญาณระดับจักรพรรดิขั้นสูง ต่อให้ทำใจไว้แล้ว ความสามารถฆ่าล้างกลุ่มที่ปีศาจนักรบไม้ของชู่มู่เผยออกมาให้เห็นก็ทำให้ชู่เทียนหลิงชื่นชมอย่างมาก โดยเฉพาะปีศาจนักรบไม้ตัวนี้แข็งแกร่งยิ่งกว่าจักรพรรดิขั้นสูงสี่ตัวของอาจารย์อาทั้งสี่อีก นี่ทำให้ชู่เทียนหลิงรู้สึกว่าครั้งนี้จะได้ชัยแล้ว!

การโจมตีของดวงวิญญาณฝูงนี้กินเวลาหนึ่งวัน พอถึงตอนกลางคืน จึงค่อยๆ สงบลง

กองทัพผู้นำหนึ่งร้อยห้าสิบตัวในตอนแรก ต้องให้นักรบวิญญาณรับจ้างสิบกว่าคนร่วมมือกันถึงจะจัดการสิ่งมีชีวิตหนึ่งตัวได้ นี่จะทำให้การต่อสู้เสียหายยิ่งกว่าเดิม แต่ผลของการต่อสู้กลับดีกว่าที่คิดเอาไว้มาก โดยหลักเป็นเพราะมีจักรพรรดิขั้นสูงสี่ตัวกับจักรพรรดิขั้นกลางสิบสองตัวที่เข้าร่วมการต่อสู้

และรูปแบบการต่อสู้ดีขึ้นกว่าเดิมมาก จนกระทั่งตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเจ้าของปีศาจนักรบไม้ที่สะเทือนทั้งสนามคือใครกันแน่!

มีคนได้ประเมินเอาไว้ว่า ผู้นำทั้งหมดหนึ่งร้อยห้าสิบตัว แม่ทัพห้าร้อยตัว ปีศาจนักรบไม้ตัวเดียวก็จัดการผู้นำห้าสิบตัวแล้ว และในระดับแม่ทัพอย่างน้อยสองร้อยกว่าตัว และระดับทาสมากถึงหนึ่งพันกว่าตัว

การฆ่าล้างกลุ่มภัยแร้งขนาดนี้ นับว่าถูกปีศาจนักรบไม้ฆ่าตายหนึ่งในสามแล้ว !

ผู้แข็งแกร่งเหล่านั้นมาจากการว่าจ้างด้วยเงินมหาศาลของตระกูลชู่ พวกเขาทั้งหมดรวมกันจัดการศัตรูได้หนึ่งในสาม เห็นได้ชัดว่า ปีศาจนักรบไม้ตัวนี้แข็งแกร่งมากเพียงใด

“ปีศาจนักรบไม้ตัวนี้ต่อสู้ได้ทั้งวัน ผิดปกติจริงๆ” อาจารย์อาเจ้าเล่ห์พูดเสียงเบา

จางอิงชักสีหน้า เขาชอบความรู้สึกที่เป็นที่เคารพและจับตามองอย่างมาก เดิมอาศัยดวงวิญญาณหมวดไม้ เขาพอที่จะกลายเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดซึ่งช่วยเหลือชีวิตนับไม่ถ้วนในสงครามชะตาชีวิตครั้งนี้ได้ และแล้วทั้งหมดนี้กลับถูกปีศาจนักรบไม้ตัวนั้นตัดหน้าไป ต่อให้ปีศาจนักรบไม้ตัวนี้แข็งแกร่งมากอย่างผิดปกติก็จริง จางอิงก็ไม่เกิดความรู้สึกที่ดีกับมัน อีกทั้งเกิดความไม่ชอบใจเจ้าของมันด้วย

ความจริงพลังต่อสู้ของเหล่าอาจารย์อาทั้งสี่ไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น อย่างไรก็ตาม นอกจากจักรพรรดิขั้นสูงแล้ว พวกเขาทุกคนยังมีจักรพรรดิขั้นสูงอีกสามตัว

แต่ว่าต่อให้เป็นจักรพรรดิขั้นสูงหรือจักรพรรดิขั้นกลาง ยังคงได้รับบาดเจ็บในการต่อสู้กลุ่มได้ง่าย ทันทีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส พวกเขาจะอัญเชิญกลับ ให้ดวงวิญญาณรองของพวกมันออกมา

ผลของดวงวิญญาณรองย่อมอ่อนกว่ามาก แต่พลังป้องกันและพลังชีวิตของปีศาจนักรบไม้ตัวนั้นน่าตกใจยิ่งกว่า ท่ามกลางการต่อสู้ชุลมุนนั้น ต่อสู้ต่อเนื่องทั้งวัน กลับไม่มีใครเห็นบาดแผลบนตัวปีศาจนักรบไม้ตัวนี้ คาดว่าถ้าไม่ได้เป็นเพราะแรงกายที่มีอย่างจำกัด ปล่อยทักษะในตอนหลังน้อยลงแล้ว มิฉะนั้น ปีศาจนักรบไม้ตัวนี้คงจะฆ่าศัตรูได้มากขึ้น!

การต่อสู้เริ่มเข้าสู่ขั้นตอนการกวาดล้าง บรรยากาศค่อยๆ ผ่อนคลายลง

ชู่เชียนเก็บดวงวิญญาณของตัวเองด้วยความเหนื่อยล้า เธอมองไปยังชู่มู่ เดินไปทางเขาช้าๆ

“ชู่มู่…” หลังจากชู่เชียนกลับไปที่ตระกูล ยังไม่เคยได้คุยกับชู่มู่สักคำ

ชู่มู่ยิ้มเล็กน้อย มองไปยังชู่เชียนที่เหนื่อยล้า พูดด้วยความเป็นห่วงว่า “เจ้าดูเหนื่อยมาก”

ผู้คุมดวงวิญญาณทุกคนควบคุมดวงวิญญาณ การต่อสู้ตลอดทั้งวันแบบนี้ ต้องใช้แรงอย่างมากจริงๆ

“ไม่มาก แต่เจ้า…พวกเขาบอกว่า เจ้ากลับมาที่ตระกูลไม่กี่วันก่อน ข้าคิดว่าจะไม่ได้เจอเจ้าอีกแล้ว…” ชู่เชียนพูดเสียงเบา

ชู่เชียนพบว่า ชู่มู่กำลังมองมาที่ตัวเองด้วยความอ่อนโยน กลับไม่กล้าสบตาด้วย ใบหน้าซีดขาวเกิดรอยแดงๆเล็กน้อย โชคดีที่เป็นเวลากลางคืน คนอื่นจึงมองไม่เห็น

“มีบางเรื่องต้องจัดการ ก็เลยกลับมา” แผนการเดิมของชู่มูคือมุ่งหน้าไปทางตะวันออกต่อ ถ้าเป็นแบบนั้น จะไม่กลับมาที่ตระกูลเร็วขนาดนี้

กลับมาตระกูลในครั้งนี้เป็นเรื่องนอกความคาดหมาย ชู่มู่เองก็ไม่รู้จะพูดอะไร ทำได้แค่ยิ้มเล็กน้อย พร้อมกับอัญเชิญปีศาจนักรบไม้กลับมา

ชู่เชียนเองก็ไม่รู้จะพูดอะไรเหมือนกัน ทันใดนั้น เห็นเงาสีเขียวปีนขึ้นกำแพงเมือง เดินเข้ามาช้าๆ ยืนอยู่ด้านหลังชู่มู่

ชู่เชียนอึ้งเล็กน้อย รู้ทันทีว่า นั่นเป็นปีศาจนักรบไม้ที่จัดการศัตรูหนึ่งในสามของสนามทั้งหมด !

ในตอนนี้ ‘เทพเจ้าสงครามปีศาจไม้’ ที่พวกลูกหลานตระกูลชู่กับเหล่านักรบวิญญาณเรียกกันอยู่ด้านหลังชู่มู่ ไม่ต้องพูดอะไรชู่เชียนก็เข้าใจแล้ว!

“ปีศาจนักรบไม้ตัวนี้…เป็นดวงวิญญาณของเจ้าจริงเหรอ!!!” ชู่เชียนอ้าปากเล็กน้อย ดวงตาเต็มไปด้วยความตกใจ

เสียงของชู่เชียนก่อให้เกิดความสนใจจากเหล่าผู้คุมดวงวิญญาณรอบๆ ที่เหนื่อยล้าทันที และแล้วคนทั้งหมดบนกำแพงเมืองเห็นว่า ‘เทพเจ้าสงครามปีศาจไม้’ ได้กลับไปข้างกายเจ้าของเขาแล้ว

และเจ้าของของเขากลับเป็นวัยหนุ่มอายุยี่สิบกว่าปี!

“วัยหนุ่มคนนี้คือใคร ทำไมเก่งขนาดนี้ ดวงวิญญาณตัวเดียวของเขาก็เทียบเท่าผู้แข็งแกร่งตระกูลชู่หลักสี่คนแล้ว!”

“ข้าจำได้ ได้ข่าวว่าเป็นลูกชายของน้องสี่ของหัวหน้ากลุ่ม เป็นหนึ่งในคุณชายที่ออกไปฝึกด้านนอกของตระกูลชู่ เหมือนจะชื่อชู่มู่”

“เมื่อกี้ข้ายังอยากไปด่าเจ้าเด็กนี่ที่ยืนบนกำแพงเมืองไม่ทำอะไร มองอย่างเดียว ใครจะไปรู้ว่าปีศาจนักรบไม้ตัวนั้นเป็นของเขา ดีที่ข้าไม่ด่า ดีแล้ว…” สมาชิกตระกูลชู่คนหนึ่งที่ใช้นามสกุลแยกพูดขึ้น

“ถ้าไม่ได้เป็นเพราะเทพเจ้าสงครามปีศาจไม้อยู่ข้างเขา ต่อให้ตายไปข้าก็ไม่เชื่อว่า นั่นเป็นดวงวิญญาณของเขา!”

การต่อสู้ทั้งหมด เงาของปีศาจนักรบไม้แข็งแกร่งงดงามที่สุด

ปีศาจนักรบไม้เป็นดวงวิญญาณของผู้แข็งแกร่งท่านใด เป็นสิ่งที่ทุกคนอยากรู้มากที่สุดตลอดมา

ตอนนี้ได้คำตอบแล้ว หลังจากรู้ว่า เจ้าของปีศาจนักรบไม้เป็นวัยหนุ่มคนหนึ่ง เสียงร้องดังขึ้นทันทีหลังจากผ่านการต่อสู้อันเหนื่อยล้านี้!

เสียงวิจารณ์มากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายคนทั้งหมดรู้แค่ว่า ความจริงอายุของชายคนนั้นไม่น้อยแล้ว แค่ดูอายุน้อยเท่านั้น

แม้แต่ผู้แข็งแกร่งวัยหนุ่มที่แข็งแกร่งที่สุดของเมืองเทียนเซี่ยยังไม่มีดวงวิญญาณแบบนี้อยู่

แน่นอนว่า ไม่ว่าอายุเท่าไร มีดวงวิญญาณแข็งแกร่งขนาดนี้ได้ เป็นที่น่าเคารพ ควรค่าแก่การนับถือจากคนทั้งหมด!

ส่วนอายุของชู่มู่ ชู่เชียน ชู่หลั่ง ชู่เหอและชู่เทียนหลิงรู้ดีที่สุดแล้ว

ตอนที่ชู่มู่ให้ปีศาจนักรบไม้กินยาฟื้นกำลัง พวกเขาได้ล้อมเข้ามา แต่ละคนไม่เหมือนคนที่ผ่านการต่อสู้มาอย่างเหนื่อยล้า แต่กลับถามไถ่ด้วยความตื่นเต้น

“เป็นดวงวิญญาณของเจ้าจริงเหรอ ตอนแรกพวกเราไม่เชื่อ!ชู่มู่ เจ้าฝึกอย่างไร ทำไมทำให้ปีศาจนักรบไม้แข็งแกร่งขึ้นในเวลาอันสั้นแบบนี้ได้!” ชู่หลั่งพูดอย่างตื่นเต้นคนแรก

“ความสามารถของปีศาจนักรบไม้ตัวนี้น่าจะอยู่ในห้าอันดับแรกของเมืองตะวันตกของพวกเราแล้ว” ชู่เหอที่ไม่ค่อยพูดกลับพูดออกมาแบบนี้ทันที

จักรพรรดิขั้นสูง ความสามารถดวงวิญญาณของชู่หลั่งกับชู่เหอยังอยู่ในระดับผู้นำ! ห่างกันมากไปแล้ว!!!

อารมณ์ของชู่เชียนยิ่งได้รับกระทบกระเทือนมากกว่าเดิม เธอใช้กำลังอย่างมากเพื่อเชิญอาจารย์อาทั้งสี่จากตระกูลชู่หลักมา คิดอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่า หลังจากที่ชายตรงหน้าคนนี้ต่อสู้ในตระกูลชู่หลักอย่างสะเทือนใจ ความสามารถของเขาได้เพิ่มขึ้นอีกครั้ง กลับตัดหน้าอาจารย์อาทั้งสี่ของเธอจนหมด

“สิ่งที่ชู่มู่พูดตอนมื้อเย็นวันนั้นเป็นเรื่องจริงหมด!!!” สายตาของชู่หลั่งตื่นเต้นอย่างมาก อยากจะเปิดช่องว่างดวงวิญญาณของชู่มู่ ดูว่าในนั้นมีดวงวิญญาณแข็งแกร่งอะไรอีก

“ชู่มู่ มื้อเย็นวันนั้นเจ้าพูดว่าอะไร” ชู่เชียนรีบถามขึ้น

“เขาบอกว่า…” ชู่หลั่งกำลังจะพูดด้วยความตื่นเต้น

“อะแฮ่ม ล้อมชู่มู่ทำไม การต่อสู้จบแล้ว รีบกลับไปดูแลดวงวิญญาณของพวกเจ้าไป!” ในตอนนี้ ชู่เทียนหลิงส่งเสียงอย่างเยือกเย็น พูดกับเหล่าลูกหลานตระกูลชู่ที่เริ่มล้อมเข้ามาไม่หยุด!

ลูกหลานตระกูลชู่เหล่านี้ก็อยากรู้ว่า วัยหนุ่มแข็งแกร่งเกินปกติคนนี้พูดอะไรกันแน่ แต่กลับถูกชู่เทียนหลิงขัด

ชู่เทียนหลิงจะไม่ให้ชู่มู่เผยความสามารถออกมาเร็วขนาดนี้ อย่างไรก็ตามอาจารย์อาทั้งสี่ที่ชู่เชียนพามา กับพวกคนเลวของประตูเมืองหลัว ต้องให้พวกเขาเจอดีสักหน่อย !

เมื่อนึกถึงสิ่งที่คนของประตูเมืองหลัวพูดเมื่อคืน ชู่เทียนหลิงโกรธอย่างมาก !

ก่อนหน้านี้ชู่มู่บอกกับชู่เทียนหลิงว่า ประตูเมืองหลัวมีแผนอื่น และแล้วเจ้าพวกนี้ไม่ได้มาดี เดิมชู่เทียนหลิงยังอยากขอบคุณพวกเขาที่เข้ามาช่วยเหลือ แต่ตอนนี้กลับโกรธเคืองพวกเขาอย่างมาก

ดังนั้น ในตอนที่ประตูเมืองหลัวยังไม่ลงมือ ชู่เทียนหลิงจะไม่ให้ชู่มู่เผยความสามารถทั้งหมดออกมา จะทำให้พวกเขาเสียหน้าได้อย่างไร

“อาจารย์อาทั้งหลายช่วยเหลือภัยแร้งขนาดนี้ ชู่เทียนหลิงเป็นตัวแทนของตระกูลชู่ซาบซึ้งอย่างมาก คาดว่าพวกเจ้าคงเหนื่อยแล้ว พวกข้าได้เตรียมยาต่างๆ ที่ดวงวิญญาณของพวกเจ้าต้องการไว้ให้แล้ว…” หลังจากชู่เทียนหลิงตะโกนใส่เด็กๆ แล้ว แสร้งทำเป็นพูดกับอาจารย์อาทั้งหลายอย่างสุภาพ

“ไม่เลย ไม่เลย เรื่องเล็กน้อย เรื่องเล็กน้อย” พ่อค้าเจ้าเล่ห์ได้สติคนแรก ยิ้มอย่างอับอาย สุภาพขึ้นมาก

“คึคึ เรื่องเล็กน้อยจริงๆ รองหัวหน้ากลุ่มเกรงใจเกินไปแล้ว” อาจารย์อาที่เหลือพูดขึ้น

ชู่เทียนหลิงมองไปยังใบหน้าของอาจารย์อาพวกนี้ มีทั้งตกใจ อับอาย โกรธเคือง แต่ไม่มีท่าทีอวดดีและไม่สนใจตระกูลชู่แม้แต่น้อยแล้ว…

นี่ทำให้ชู่เทียนหลิงแอบสะใจอย่างมาก เขารอให้วินาทีนี้มาถึงตั้งแต่วันที่ต้อนรับพวกเขาแล้ว!

————————————————————————

Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์

Soul Pets สยบวิญญาณ สะท้านโลกันตร์

Status: Ongoing

ตอนที่ 1 – 550 อ่านนิยาย

(ช่วงแรกจะเป็นคนแปลคนเก่า) อ่านต่อข้างล่าง


โลกที่มนุษย์อยู่ร่วมกับสัตว์ดวงวิญญาณนานาชนิด มีเพียงผู้แข็งแกร่งเท่านั้นที่อยู่รอด! เด็กชายผู้คุมดวงวิญญาณกำลังเผชิญหน้ากับความตายที่คืบคลานเข้ามาทุกวินาที ปีศาจในร่างจ้องจะกินวิญญาณของเขา วิธีรอดมีเพียงทางเดียวคือการทำให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น! หนทางของผู้พิชิตย่อมเต็มไปด้วยขวากหนาม สุนัขจิ้งจอกแสงจันทร์ดวงวิญญาณหลักของเขาถูกมองว่าเป็นดวงวิญญาณที่อ่อนแอที่สุด แต่ใครเล่าจะรู้ถึงความลับในสายเลือดของเจ้าจิ้งจอกตัวนี้

ที่นำพา ‘ชู่มู่’ เด็กหนุ่มผู้เคยถูกเย้ยหยันในวันนั้นไปสู่ผู้แข็งแกร่งที่น่าเกรงขามในวันข้างหน้า!

Show less 

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท