Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล – ตอนที่ 11

ตอนที่ 11

หลังจากได้สังหารก็อบลินตัวที่สอง วาห์นก็เริ่มฝึกฝนอย่างจริงจัง เวลาผ่านพ้นไปจากวันกลายเป็นเดือน เขาค่อยๆ ปรับตัวให้เข้ากับการใช้ชีวิตแบบนักล่า เนื้อและขนสัตว์ที่ได้มาถูกนำมากองสะสมอยู่ในช่องเก็บของ เขาได้ฆ่าก็อบลินไปแล้วถึง 37 ตัวในระยะเวลาหกเดือนที่ผ่านมา

แม้ว่าก็อบลินหลายตัวที่เขาเจอนั้นจะอยู่แบบตัวเดียวแต่ก็มีอยู่ครั้งหนึ่งที่เขาต้องสู้กับก็อบลินอีกสามตัวที่มาช่วยก็อบลินตัวที่เขากำลังสู้ด้วยอยู่ หลังจากที่ถูกพวกมันฝากรอยแผลไปหลายครั้ง วาห์นก็ชิงเอาความได้เปรียบกลับมาและปราบพวกมันทั้งสี่ลงได้สำเร็จ และนั่นก็ทำให้เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น

//เปิดใช้งานระบบภารกิจแล้ว//

[ภารกิจ: ทำลายเผ่าก็อบลิน]

ระดับ: (D)

การปรากฏตัวของก็อบลินในป่าตะวันตกนั้นกำลังเพิ่มสูงขึ้น พวกมันกลายเป็นภัยคุกคามต่อนักล่าและเริ่มที่จะเพ่นพ่านออกจากป่าไปยังหมู่บ้านใกล้เคียงและสร้างความเสียหายให้กับปศุสัตว์ ค้นหาแหล่งที่มาของก็อบลินก่อนที่จะเกิดความเสียหายมากไปกว่านี้!

รางวัล: เปิดใช้งานระบบ ‘ภารกิจ’ อย่างสมบูรณ์, 1x ‘รูปปั้นฮีโร่’, OP 1,000 แต้ม

เงื่อนไขความล้มเหลว: เสียชีวิต, หัวหน้าก็อบลินหนีไปได้, ครบกำหนดเวลา 7 วัน (เวลาที่เหลือ: 6 วัน 23 ชั่วโมง 57 นาที)

ผลจากความล้มเหลว: ระบบ ‘ภารกิจ’ จะถูกปิดผนึกไว้จนกว่าโอกาสครั้งหน้าจะมาถึง, แต้มกรรม -100

วาห์นรู้สึกประหลาดใจเมื่อมีการแจ้งเตือนใหม่เข้ามา แต่ตัดสินใจที่จะตรวจสอบมันหลังจากที่เขากลับไปที่ถ้ำอย่างปลอดภัย (TL: เพิ่งได้รับบาดเจ็บจากต่อสู้กับก็อบลินตั้งสี่ตัว ตอนนี้เลยยังซ่ามากไม่ได้)

ในระหว่างที่เดินทางกลับนั้นเขาก็ถามพี่สาวว่าทำไมจู่ๆ ระบบภารกิจถึงถูกเปิดขึ้น

(*ในช่วงหกเดือนที่ผ่านมาเธอได้เติบโตขึ้นมากเลยนะ เมื่อรวมกับเรื่องที่เธอก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองจากการต่อสู้เมื่อกี้ทำให้ ‘เดอะพาธ’ เปิดระบบใหม่ขึ้นมา อีกทั้งตัวเธอเองก็ปราบก็อบลินเป็นเป้าหมายหลักอยู่แล้วด้วย ทำให้ภารกิจนี้เหมาะสมกับความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเธอเป็นอย่างมาก*)

วาห์นใคร่ครวญเรื่องนี้ก่อนจะถามต่อ “งั้นหมายความว่าถ้าผมแข็งแกร่งขึ้น ผมก็จะสามารถเปิดระบบใหม่ได้เองใช่ไหม? ผมนึกว่าถ้าอยากเปิดระบบใหม่ก็ต้องเพิ่มระดับดวงวิญญาณของตัวเองซะอีก”

(*ถูกต้องแล้ววาห์น ‘เดอะพาธ’ นั้นทำการวิเคราะห์อยู่ตลอดเวลาและพยายามช่วยอำนวยความสะดวกเกี่ยวกับเรื่องการเติบโตของเธอ ดังนั้นมันจะเปิดระบบใหม่ขึ้นเมื่อมันคิดว่าเธอพร้อมแล้ว ทว่าระบบทุกอย่างสุดท้ายแล้วก็ถูกระดับดวงวิญญาณของเธอจำกัดเอาไว้อยู่ดี*)

“ฟังดูสมเหตุสมผลนะ

วาห์นสังเกตเห็นในช่วงหกเดือนที่ผ่านมาว่าตัวระบบนั้นมีข้อจำกัดอยู่มากมาย ตัวอย่างเช่นเมื่อเขาพยายามซื้อไอเท็มจาก ‘เรคคอร์ด’ อื่น ก็พบว่าพวกมันมีราคาแพงมากเมื่อเทียบกับไอเท็มที่สามารถพบได้ใน ‘เรคคอร์ด’ ที่เขาอยู่ตอนนี้ อาจมีข้อยกเว้นอยู่บ้างในส่วนของไอเท็มที่ใช้แล้วหมดไปบางประเภท แต่สำหรับไอเท็มพิเศษต่างๆ พวกมันจะมีราคาที่มากมายมหาศาล! เขานึกถึงตอนที่กำลังหาซื้อ ดาบฟันวิญญาณ*ถูกปิดผนึก* และก็ตกใจเมื่อสังเกตเห็นว่ามันมีราคาถึง 130,000,000 OP แถมตัวดาบที่ถูกปลดผนึกแล้วตามที่อยู่ในอนิเมะนั้นยังมีราคาสูงกว่ามาก ส่วนดาบฟันวิญญาณที่แพงที่สุดก็คือ ‘ริวจินจักกะ’ ของหัวหน้ายามาโมโตะ เก็นริวไซ ผู้นำแห่ง 13 หน่วยพิทักษ์ที่มีราคาถึง 3,700,000,000 OP! (TL: โคตรแพง)

ดูเหมือนว่าเขาต้องพึ่งพาตัวเองเพื่อที่จะแข็งแกร่งขึ้น แต่หลังจากที่ระบบ ‘ภารกิจ’ ถูกเปิด เขาเลยมีความหวังว่าทุกอย่างจะง่ายขึ้นมาเล็กน้อย

เมื่อมาถึงถ้ำที่เขาเรียกว่า ‘บ้าน’ วาห์นก็นั่งลงบนเตียงที่เขาซื้อมาจากร้านค้าเมื่อไม่กี่เดือนก่อน มันยังมาพร้อมกับผ้าปูที่นอนขนาดใหญ่ที่ทำจากโฟมชนิดพิเศษซึ่งแตกต่างไปจากอะไรที่เขาเคยเห็นในชีวิตก่อนมาก เขานึกว่ามันเป็นแค่เตียงแข็งๆ ที่ไม่มีอะไรมาก ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างประหลาดใจหลังจากที่ซื้อมันผ่านระบบ

‘หน้าต่างสถานะ’

==========================================================

ชื่อ: วาห์น เมสัน

อายุ: 14

เผ่าพันธุ์: มนุษย์, *ถูกผนึก*

ค่าสถานะ: ดันมาจิ

-เลเวล:1(0)

-พละกำลัง: H-146(0) -> E-540(0)

-ความอดทน: G-203(0) -> F-461(0)

-ความแม่นยำ: I-95(0) -> F-407(0)

-ความว่องไว: H-153(0) -> E-519(0)

-พลังเวท: H-130(0) -> G-299(0)

-ความแข็งแกร่งของดวงวิญญาณ: ดวงวิญญาณระดับ 1 (วิญญาณมนุษย์)

กรรม:209

==========================================================

เมื่อได้ตรวจสอบสถานะของตัวเองแล้ว วาห์นก็พอเข้าใจว่าทำไม ‘เดอะพาธ’ ถึงเลือกที่จะเปิดระบบภารกิจในตอนนี้ เขาเติบโตขึ้นอย่างมากในช่วงหกเดือนที่ผ่านมาและค่าสถานะหลายอย่างก็ใกล้ถึงจุดที่เขาควรจะเลเวลอัพได้แล้ว วาห์นรู้ว่ายิ่งค่าสถานะเพิ่มมากขึ้น ความยากในการเพิ่มครั้งต่อไปก็จะมากขึ้นตามไปด้วย และถ้าหากต้องการเลเวลอัพสู่ขั้นถัดไป เขาจะต้องบรรลุความสำเร็จแบบเหนือความคาดหมาย พูดอีกอย่างก็คือทำสิ่งที่เกินกว่าค่าสถานะของเขาจะรับมือได้ในสถานการณ์ปกติ

โชคยังดีที่ค่าสถานะของเขาไม่ใช่อย่างเดียวที่เพิ่มขึ้นในช่วงหกเดือนที่ผ่านมา สกิลของเขาก็เติบโตขึ้นมากเช่นกัน เขาได้ซื้อ ‘คู่มือเทคนิคการยิงธนูของมือใหม่’ มาในช่วงแรกๆ หลังจากฝึกซ้อมอย่างหนักเป็นเวลาหนึ่งเดือนรวมกับความสามารถในการล่าสัตว์ที่เพิ่มขึ้นของเขา เขาก็ได้รับสกิล ‘ความเชี่ยวชาญด้านธนู’

‘ความเชี่ยวชาญด้านธนู’

ระดับ:(F)

เพิ่มความแม่นยำเมื่อสวมใส่ธนู เพิ่มการมองเห็นเล็กน้อยเมื่อผู้ใช้เพ่งสมาธิ

เขายังค้นพบแล้วว่าความรู้สึกแปลกๆ ในตอนที่เขาย่องเข้าใกล้สิ่งมีชีวิตต่างๆ นั้นคืออะไร ปรากฎว่าสกิล ‘ม่านคุ้มภัยนักเดินทาง’ ของเขาได้เพิ่มประสิทธิภาพให้กับความสามารถในการซ่อนและอำพรางตัว ถึงขนาดที่ทำให้เขาได้รับสกิล ‘อำพรางตัว’

‘อำพรางตัว’

ระดับ:(F)

ความสามารถที่ทำให้ผู้ใช้ปกปิดสัมผัสของตัวเองได้ การใช้สกิลนี้เป็นเวลานานจะทำให้ผลของมันลดลง

สองสกิลนี้ทำให้การล่าง่ายขึ้นเป็นอย่างมาก วาห์นได้ใช้สกิลใหม่เพื่อจัดการกับก็อบลินไปเป็นจำนวนมากก่อนที่พวกมันจะรู้ตัวซะอีก เนื่องจากภารกิจระบุว่าพวกมันอยู่กันเป็น ‘เผ่า’ ดังนั้นน่าจะมี ‘หมู่บ้าน’ ที่พวกมันอาศัยอยู่ เขาเชื่อว่าการใช้ทั้งสองสกิลนี้อย่างเหมาะสมจะเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดหากเขาต้องการทำภารกิจให้สำเร็จ

“พี่สาวมีความคิดดีๆ เกี่ยวกับหมู่บ้านก็อบลินบ้างไหม? ผมทำแผนที่ซอกทุกซอกทุกมุมภายในรัศมี 1 กิโลเมตรจากถ้ำหมดแล้ว แต่ยังไม่เห็นอะไรที่บ่งบอกเลยว่ามีเผ่าก็อบลินอยู่แถวนี้”

(*แน่นอนวาห์น เธอสามารถนำทั้งแผนที่และลายระเอียดภารกิจออกมาดูได้ในเวลาเดียวกัน ถ้าเธอพิกัดภารกิจลงบนแผนที่ มันจะแสดงตำแหน่งโดยประมาณของเป้าหมายหลังจากที่เธอได้รับข้อมูลมาเพียงพอแล้ว ในขณะที่เธอทำการตรวจสอบพื้นที่แถวนี้ ตำแหน่งโดยประมาณบนแผนที่ก็จะหดเล็กลงจนเธอสามารถระบุตำแหน่งที่แน่นอนได้*)

“มีเรื่องให้แปลกใจอีกแล้วนะเนี่ย” วาห์นกล่าวขณะที่เขาแสดงระบบทั้งสองคู่กัน เขาเห็นวงกลมสีแดงขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบนแผนที่หลังจากที่พิกัดภารกิจลงไป นั่นเป็นพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงใต้ที่ล้อมรอบไปด้วยภูเขาและแม่น้ำหลายสาย

ดูเหมือนว่ามันจะเป็นทิศทางเดียวกับที่ผมสู้กับก็อบลินทั้งสี่ตัวนะ เดาว่าพวกมันคงเป็นสมาชิกของเผ่า… แต่ทำไมพื้นที่ระบุถึงใหญ่นักล่ะ”

(*โดยทั่วไปแล้วพวกก็อบลินจะไม่ชอบเดินทางเป็นกลุ่ม พวกมันมักจะเร่ร่อนอยู่ตัวเดียวจนกระทั่งมีหัวหน้าเผ่าก็อบลินหรือราชาก็อบลินโผล่ออกมา และถึงแม้ว่าจะมีหัวหน้าเผ่าก็อบลินอยู่ก็ตาม มันก็มักจะเคลื่อนที่ไปยังค่ายต่างๆ เพื่อค้นหาอาหารและทรัพยากรอื่นๆ ตัวหัวหน้าเผ่าน่าจะอยู่ในบริเวณที่ใกล้กับแม่น้ำและมีความเป็นไปได้สูงว่ากลุ่มก็อบลินที่ใหญ่ที่สุดก็อยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน*)

วาห์นรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยกับข้อมูลนี้ เขาจะต้องสำรวจพื้นที่ขนาดใหญ่เพื่อกำจัดกลุ่มก็อบลินเล็กๆ ทั้งหมดก่อนที่จะขยับไปยังกลุ่มใหญ่ที่อยู่ใกล้แม่น้ำโดยที่ไม่สามารถยืนยันได้ว่าตัวหัวหน้าจะอยู่ที่นั่นจริงๆ หรือเปล่า สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ก็คือการปราบตัวหัวหน้าลงให้ได้ เขาจะต้องระบุตัวของมันจากพวกก็อบลินที่มีอยู่มากมาย สังหารมันทิ้งโดยไม่ให้มันรู้ตัว และพยายามไม่ให้ก็อบลินกลุ่มอื่นเข้ามาวุ่นวาย

“ตัวหัวหน้าจะมีอะไรที่พิเศษกว่าก็อบลินตัวอื่นๆ หรือเปล่า?” เขาสอบถามอย่างคาดหวังเพราะตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นอะไรก็ล้วนมีประโยชน์ทั้งสิ้น

(*ฉันเองก็ไม่เคยเห็นตัวหัวหน้าเหมือนกัน แต่พวกก็อบลินที่แข็งแกร่งทั้งหมดที่เธอเคยสู้ด้วยมักจะมีเขางอกออกมาหรือไม่ก็มีอาวุธติดตัวนะ ดูจากข้อมูลทั้งหมดที่เรามี หัวหน้าเผ่าก็อบลินน่าจะเป็นตัวที่ใหญ่ที่สุดในกลุ่ม มันน่าจะมีเขาเยอะกว่าตัวอื่นและมีอาวุธที่น่าเกรงขามที่สุดด้วย*)

วาห์นอดหัวเราะไม่ได้ ทุกอย่างที่พี่สาวพูดนั้นเข้าใจได้ง่ายและสมเหตุสมผลมาก เขาจะต้องตัดสินใจด้วยตัวเองว่าก็อบลินตัวไหนคือตัวหัวหน้า และหากหาตัวหัวหน้าไม่เจอ เขาก็ต้องสังหารพวกมันทั้งหมดแทน…
—————

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Status: Ongoing

เรื่องย่อโดยผู้แต่ง

วาห์นชายหนุ่มผู้ที่มีความผิดปกติ เนื่องจากการกลายพันธุ์ที่หายาก เลือดของเขาจึงมีความสามารถซ่อนเร้นที่ทำให้เป้าหมายและความเสียหายที่เกิดจากโรคร้ายที่อยู่ภายในร่างกายมนุษย์

ถูกขจัดออกไปในโดยการรักษาครอบจักรวาล เหล่าผู้คนจึงต่างเชิดชูบูชาสถานะของเด็กหนุ่มเหนือกว่าผู้ใดทั้งสิ้นและมอบชื่อให้เขาว่า “ยารักษาสารพัดโรค” ในข่าว

เขาได้รับการยกย่องเป็นเหมือนกับวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่จะนำพายุคสมัยแห่งใหม่หรือคุณภาพชีวิตมนุษย์ที่ดีมาถึง อย่างไรก็ตาม ฉากที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้สดใสเลย

เนื่องจากปัจจัยเฉพาะบางอย่าง วาห์นจึงใช้เวลาช่วงวัยรุ่นทั้งหมดถูกกักขังอยู่ในห้องทดลองกับนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย และทีมวิจัยที่ใช้ร่างกายและเลือดของเขาเพื่อทำการทดลองที่ไม่มีที่สิ้นสุด

สิ่งปลอบใจความทุกข์ทรมานเพียงอย่างเดียวของเขาคืออนิเมะทั้งหลายและหนังสือการ์ตูนที่มีให้เขาดูในระหว่างการทดลอง เขามักจะจินตนาการว่าตนเองเป็นตัวเองที่อยู่ในโลกของตนเอง

dและสุดท้ายเขาก็สามารถควบคุมโชคชะตาของตัวเองได้ เป็นเวลาหลายปีที่เขาเก็บรักษาความปราถนานี้เอาไว้ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในวัย 14 ปีขณะที่มีองค์กรพยายามลักพาตัวเขาออกจากห้องทดลอง…

“ในที่สุด ผมก็ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไปแล้ว…”

นี่เป็นความคิดสุดท้ายของวาห์นในขณะที่เขาค่อยๆจางหายไปในห้วงแห่งความมืดอันไร้สิ้นสุด…

“ดวงวิญญาณที่น่าสงสาร”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท