Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล – ตอนที่ 245

ตอนที่ 245

หลังจากเฮเฟสตัสสงบลงเล็กน้อย วาห์นก็มองเข้าไปในดวงตาของเธอด้วยความรักใคร่และเอ่ยตามที่ตัวเองคิดเมื่อกี้

“ฉันรู้สึกว่าเธอดูสวยกว่าแต่ก่อนอีกนะ…”

คำชมนั่นทำให้เฮเฟสตัสยิ้มหวานทันที

“ว่ากันว่าผู้หญิงจะสวยขึ้นทุกครั้งเมื่อได้อยู่กับคนที่เธอรัก

จากนี้ไป ฉันจะยิ่งสวยกว่านี้อีก~…. เพื่อนายคนเดียวเลย”

“งั้นก่อนสิ้นปีนี้ เธอก็คงสวยที่สุดในโลกแล้วล่ะ…” วาห์นกระซิบตอบเบาๆ

ในขณะที่เฮฟาสตัสรู้สึกตกใจเล็กน้อย เขาก็เอื้อมมือลงไปนวดเฟ้นเนินอกเย้ายวน

ร่างของเทพสาวตอบสนองทันทีจนเธอต้องถามด้วยความสงสัย

“ได้แล้วเหรอ?”

อาจเป็นคำถามที่ฟังดูงงๆ แต่วาห์นก็รู้ว่าเธอกำลังถามว่าเขา ‘พร้อมต่ออีกยกแล้วเหรอ?’

“สำหรับสาวสวยแบบเธอแล้ว ฉันก็ไปต่อได้เรื่อยๆ นั่นแหละ…

จะบอกว่าเป็นความพิเศษของร่างกายก็ได้นะ” วาห์นกระซิบตอบด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์

ตอนแรกเฮเฟสตัสไม่เข้าใจว่าความพิเศษที่วาห์นพูดถึงคืออะไร แต่เธอก็นึกขึ้นมาได้ว่าหนึ่งในพลังศักดิ์สิทธิ์ของเขาน่าจะมี ‘ความอุดมสมบูรณ์’ รวมอยู่ด้วย

ภาพที่ตัวเองได้ร่วมรักกับวาห์นแบบไม่มีวันจบสิ้นนั้นยิ่งทำให้หัวใจของเธอสั่นไหวหนักกว่าเดิม

ทว่าก่อนจะได้ต่อกันอีกยก วาห์นก็หยิบเรื่อง ‘เพลิงนิรันดร์’ ขึ้นมาปรึกษากับเฮเฟสตัสเสียก่อน

การได้ยินวาห์นพูดบรรยายทุกอย่างออกมาแบบละเอียดยิบทำให้เฮเฟสตัสผงะไปเหมือนกัน เพราะแม้แต่ตอนนี้เอง ของเหลวอุ่นๆ ของอีกฝ่ายก็ยังอยู่ในนั้นอยู่เลย

แม้จะไม่ได้เห็นมันกับตา แต่เธอก็รู้สึกว่ามีบางส่วนลอบเข้าไปใน ‘ประตูบานสุดท้าย’ และกำลังโจมตีครรภ์ของเธออย่างไม่ยอมแพ้

นั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอรู้สึกทรมานนิดๆ อยู่ในขณะนี้

หลังจากฟังคำอธิบายจนจบ เฮเฟสตัสก็ตอบด้วยความมั่นใจ

“คงเป็นความปรารถนาในการ ‘สรรสร้าง’ ของเพลิงนิรันดร์น่ะ

ตอนที่นาย…(กระแอม)… ข้างใน ฉันรู้สึกได้ว่ามีพลังบางอย่างไหลผ่านเข้ามาด้วย

มันคงอยากช่วยเรื่องตั้งครรภ์… แล้วก็ช่วยให้เด็กแข็งแรงกว่าเดิม”

คำพูดของเธอทำให้วาห์นนึกถึงความปรารถนาในหัวใจของเพลิงนิรันดร์และภาพ ‘ตัวอ่อน’ ที่ดิ้นไปมาอยู่ภายในเปลวเพลิงอบอุ่น

เนื่องจากค่าความภักดีของ ‘เพลิงนิรันดร์’ นั้นเยอะจนประเมินไม่ได้ วาห์นจึงรู้ว่ามันคงไม่คิดร้ายต่อเขาหรือเฮเฟสตัสแน่นอน

ลูกน้องคนอื่นๆ ของวาห์นจะมีค่าความภักดีที่แสดงออกมาเป็นตัวเลข แต่ของ ‘เพลิงนิรันดร์’ นั้นกลับขึ้นว่า (สูงสุด) แทน

นี่เป็นเพียงข้อสันนิษฐานเท่านั้นและไม่มีทางพิสูจน์ได้เลยจนกว่าเฮเฟสตัสจะท้องขึ้นมาจริงๆ แต่วาห์นเองก็เชื่อในสิ่งที่เธอพูดอยู่เหมือนกัน

ในฐานะผู้สร้าง ‘เพลิงนิรันดร์’ แน่นอนว่าเฮเฟสตัสต้องเข้าใจมันได้ดีที่สุด หรืออย่างน้อยก็ต้องเข้าใจมันมากกว่าเขาอยู่แล้ว

หลังจากหาข้อสรุปได้แล้ว วาห์นก็เอ่ยถามเสียงเบา

“…เธอพร้อมหรือยัง?”

พอสิ้นเสียง โซ่สีทองสุกสว่างก็โผล่ออกมาจากความว่างเปล่าและทำให้เฮเฟสตัสกลับมาใจเต้นแรงอีกครั้ง

ตอนนี้ทั้งสองนอนกอดกันอยู่ วาห์นก็เลยรู้ว่าเธอกำลังตัวสั่นเล็กน้อย

ออร่าของเฮเฟสตัสยังคงมีสีชมพู ‘น่ากลัว’ เหมือนเดิม แถมบางส่วนก็เริ่มเข้าไปห้อหุ้ม [เอ็นคิดู] แล้วด้วย

ทั้งๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของเขาเอง แต่วาห์นก็รู้สึกอิจฉา [เอ็นคิดู] อยู่บ้าง เพราะผู้หญิงที่เขารักดูจะให้ความสนใจกับมันมากเหลือเกิน

วาห์นหัวเราะให้กับความคิดของตัวเองและถามเธออีกครั้ง

“เฮเฟสตัส เธอพร้อมมีลูกกับฉันแล้วใช่ไหม?”

แทนการถามแบบเดิมๆ วาห์นเลือกที่จะเปลี่ยนมันเล็กน้อยและรวมตัวเองเข้าไปในนั้นด้วย

เฮเฟสตัสดูเหมือนจะเข้าใจเรื่องนี้เช่นกัน เธอค่อยๆ ผละออกจากอ้อมกอดของเขาก่อนจะหยุดโดยไม่หันกลับมาหา

วาห์นนึกว่าเทพสาวกำลังจะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง แต่มันกลับผิดคาดไปหมด

“มัดฉันทั้งแบบนี้แหละ… เพราะนายชอบมันมาก ท่านี้คงเหมาะที่สุดแล้วมั้ง”

ตอนนี้ความวิตกกังวลของวาห์นได้จางหายไปเกือบหมดแล้ว พวกมันถูกแทนที่ด้วยความรู้สึกทึ่งในสิ่งที่เฮเฟสตัสเสนอออกมา… แถมยังมีบั้นท้ายแสนรักที่กำลังส่ายไปมาอยู่ตรงหน้านั่นอีก

มีของเหลวเล็กน้อยไหลออกมาจากส่วนลึกของเธอ ไม่ต้องบอกก็คงรู้ว่านั่นคือผลจากกิจกรรมที่ผ่านของทั้งสอง

ทันใดนั้นวาห์นก็รู้สึกเหมือนมีบางอย่างเข้ามากระตุ้นจิตใจและเริ่มขยับเข้าไปใกล้เทพสาวราวกับโดนสะกดจิต

เฮเฟสตัสพบว่าการตอบสนองของเด็กหนุ่มดูตลกดีและพูดพึมพำออกมาเบาๆ

“ชอบมันมากเลยล่ะสิ… ต่อไปจะทำอะไรกับมันก็ได้นะ

ยังไงซะ… นายก็ประทับตราลงไปแล้วนี่…”

ตอนนี้วาห์นกำลังลูบไล้ตราสัญลักษณ์อยู่พอดี และคำพูดนั่นก็เกือบทำให้เขาเลือดกำเดาออกตามเธอไปแล้ว

วาห์นอดไม่ได้ที่จะรู้สึกถึง… ความเป็นเจ้าของซึ่งโผล่มาแบบไม่ทันได้ตั้งตัว

เขาไม่เคยคิดว่าเธอเป็นสิ่งของมาก่อน แต่ถ้าเจ้าตัวพูดมาขนาดนี้แล้ว… จะแอบคิดในใจว่า ‘เฮเฟสตัสเป็นของเขาแล้ว’ ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนัก

หลังจากส่งกระแสจิตออกไป ไม่นานห่วงโซ่ [เอ็นคิดู] ก็โผล่ออกมาจากรอบทิศและเริ่มมัดเธอไว้อย่างนิ่มนวล

เนื่องจากต้องใช้พลังเขตแดนควบคู่ไปด้วย วาห์นก็เลยดูสงบกว่าเดิม แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าความรู้สึกของเขาจะลดลงเลย

ความกลัวและความยับยั้งชั่งใจค่อยๆ เลือนหาย ในขณะที่ ‘ความมั่นใจ’ เข้ามาแทนที่อย่างเต็มเปี่ยม

หลังจากที่ [เอ็นคิดู] เข้ามาคล้องแขน ขา และลำตัว ออร่ามหาศาลของของเฮเฟสตัสก็หายไปเกือบหมดพร้อมกับพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกปิดผนึกอย่างสมบูรณ์

ณ ตอนนี้ เธอเป็นเพียงแค่หญิงสาวธรรมดาๆ เท่านั้น

ด้วยการสนับสนุนจาก [เอ็นคิดู] ที่พันอยู่รอบลำตัว เฮเฟสตัสไม่จำเป็นต้องออกแรงอะไรเลยขณะปล่อยให้ห่วงโซ่สีทองโอบอุ้มเธอไว้กับที่

การถูกโซ่ห่อหุ้มไว้นั้นเป็นความรู้สึกที่แปลกประหลาด แต่ด้วยเหตุผลบางอย่าง เฮเฟสตัสกลับสู้สึกผ่อนคลายจนเจ้าตัวยังต้องเอะใจ

เทพสาวเริ่มสงสัยว่าตัวเองอาจ ‘ชอบอะไรแนวนี้’ อยู่แล้วหรือเปล่านะ?

สิ่งที่เฮเฟสตัสไม่รู้ก็คือทุกอย่างเป็นเพราะความปรารถนาของวาห์นที่ไม่อยากทำให้เธอบาดเจ็บต่างหาก
ความปรารถนานั่นถูกส่งผ่านไปทาง [เอ็นคิดู] และทำให้ ‘ประสบการณ์ครั้งนี้’ ต่างจากการนำโซ่ธรรมดาๆ มามัดโดยสิ้นเชิง

—————
สนับสนุนนิยายอย่างถูกต้อง.ได้ที่: EP:IC Translation และ Thai Novel : https://bit.ly/34ApcTP

—————

ขณะที่เฮเฟสตัสเอาแต่คิดฟุ้งซ่านไปเรื่อย วาห์นก็กำลังง่วนกับขั้นตอนต่อไปเพราะมันไม่ได้ง่ายแบบที่คนส่วนใหญ่คิดกัน

เพราะศึกษาเรื่องนี้มาแล้ว วาห์นรู้ว่าการปฏิสนธิจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีไข่มาฝังอยู่ในท่อมดลูกของเพศหญิง

จริงอยู่ที่เทพธิดาได้กลายมาเป็นคนธรรมดาแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าร่างกายของเธอจะพร้อมมีลูกได้ทันทีสักหน่อย!

เพราะการถูกโซ่มัดไว้หลายวันหรือหลายสัปดาห์อาจไม่ใช่ความคิดที่ดีนัก วาห์นก็เลย… คิดหาวิธีอื่น

มันเป็นการทดลองที่… ค่อนข้างน่าอึดอัด แต่วาห์น (ด้วยความช่วยเหลือจากเอวา) ก็รู้แล้วว่าเขาสามารถนำไข่ออกมาจากรังไข่และฝังมันไว้ในที่ที่เหมาะสมได้โดยใช้ [ดวงตาแห่งการรู้แจ้ง]

ความรู้สึกแรกของวาห์นก็คือมันดู ‘เสี่ยง’ และ ‘อันตรายมาก’ จนถึงขั้นที่ต้องขอให้เอวาใช้ร่างผู้ใหญ่แทนทั้งๆ ที่มันไม่จำเป็นสำหรับเธอ

หลังจากได้แหย่วาห์นจนพอใจแล้ว เอวาก็ยอมทำตามคำขอของเขา

(TL: สำหรับชิ้นส่วนความทรงจำ จะร่างไหนก็ถือว่าเป็นร่างจริงได้เพราะไม่ใช่คนจริงๆ อยู่แล้ว // มันไม่เหมือนกับการที่คนจริงๆ จากในเรคคอร์ดเนกิมะ [อากามัตสึเวิร์ส] ใช้ยาเพิ่มหรือลดอายุครับ // ยาตัวนั้นจะเน้นหนักไปทางเวทมนตร์ภาพลวงตาซะมากกว่า หมายความว่าถึงตัวจะโตขึ้น แต่น้ำหนักก็เท่าเดิม สภาพร่างกายจริงๆ ก็เหมือนเดิม)

วาห์นค่อยๆ อธิบายกระบวนการให้เฮเฟสตัสที่มีสีหน้างุนงงฟัง แน่นอนว่าเธอต้องไม่เคยได้ยินศัพท์พวกนี้มาก่อนอยู่แล้ว

เนื่องจากวิทยาศาสตร์การแพทย์และการศึกษาในเรคคอร์ดดันมาจิไม่ค่อยพัฒนาไปมากนัก

สาเหตุหลักๆ ก็เพราะเวทมนตร์เป็นที่นิยมและถูกใช้กันอย่างแพร่หลายมากกว่า นั่นทำให้การศึกษาหลายแขนงดูไร้ค่าไปเลย

แม้ว่าหลายเผ่าพันธุ์อาจมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องประจำเดือนของเพศหญิง แต่ก็ไม่มีมีการวิจัยแบบลงลึกไปมากกว่านั้น

พวกแพทย์จากสถานที่ต่างๆ จะมีความรู้หรือความเชื่อในเรื่อง ‘วิธีทำให้ลูกดก’ ที่แตกต่างกันออกไป

ส่วนใหญ่นั้นเชื่อถือไม่ได้เลยเพราะไม่มีหลักฐานยืนยันแน่ชัด

แหล่งข้อมูลและวิธีที่แน่ชัดก็เห็นจะมีแต่ของชาวอเมซอน (ซึ่งต่างไปจากเผ่าพันธุ์อื่นมากจนเอามาประยุกต์ใช้ไม่ได้) หรือไม่ก็ต้องใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ที่เกี่ยวข้องกับความอุดมสมบูรณ์เข้าช่วย

ในระหว่างอธิบาย วาห์นก็ไม่วายจ้องมองด้านหลังของเฮเฟสตัสแบบตาไม่กะพริบ

เพราะหันหน้ากลับมาฟังที่วาห์นพูด เฮเฟสตัสก็เลยเห็นสีหน้าของเขาและนึกในใจว่า ‘นี่ชอบมันมากขนาดนั้นเลยเหรอ!?’ แต่เธอก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป

ขณะที่อีกฝ่ายยังทำหน้างงเหมือนเดิม วาห์นก็ใช้ [ดวงตาแห่งการรู้แจ้ง] เพื่อเริ่มขั้นตอนที่แสนยากเย็นและแสนละเอียดอ่อนไปแล้ว

(TL: [ดวงตาแห่งการรู้แจ้ง] สามารถนำมาใช้ทำงานละเอียดได้ แบบเดียวกับตอนที่สลักแหวน)

เขานำไข่ฟองหนึ่งออกมาจากรังไข่และพามันไปตามท่อเล็กๆ ก่อนจะฝังมันไว้ตรงผนังชั้นในของมดลูก

หากต้องการ เขาสามารถนำตัวอสุจิที่หลงเหลืออยู่ในนั้นมาทำให้เธอท้องเลยก็ได้ แต่วาห์นไม่ต้องการทำอะไรถึงขั้นนั้นและทันทีที่เสร็จขั้นตอนเรียบร้อย เขาก็มาประจำตำแหน่งอยู่ตรงบั้นท้ายของเฮเฟสตัส

เขาจะคอยตรวจสอบสภาพของไข่ผ่าน [ดวงตาแห่งการรู้แจ้ง] ในระหว่างการห้ำหั่นครั้งนี้ไปด้วย

หลังเสร็จศึกกันเมื่อไหร่ สิ่งแรกที่วาห์นหมายมั่นว่าต้องได้บอกเฮเฟสตัสก็คือ ‘เธอท้องแล้วนะ’

ในช่วงที่วาห์นกำลังปรับตำแหน่ง เฮเฟสตัสก็รู้สึกว่าความตื่นเต้นได้หวนกลับมาเยี่ยมเยือนอีกครั้ง แถมรอบนี้ยังมี [เอ็นคิดู] คอยช่วยเสริมความรู้สึกขึ้นไปอีก

เพราะวาห์นน่าจะทำขั้นตอนยากๆ นั่นเสร็จแล้ว รอบนี้เธอเลยรู้ว่าตัวเองต้องท้องแน่นอน

แม้ยังไม่มีอะไรมายืนยันว่ามันจะเกิดขึ้นแน่นอน แต่เฮเฟสตัสก็รู้สึกเบิกบานมากจนต้องร้องออกมาเสียงดัง

“เอาเลยวาห์น จัดการเลย ฉันรอต่อไปไม่ไหวแล้วนะ~!”

ราวกับได้ยินคำพูดให้เริ่มได้ ทันทีที่ได้มุมเหมาะๆ วาห์นก็ออกตัวอย่างรวดเร็วและรุนแรงมากจนเข้าสู่เบื้องลึกของเธอได้อย่างครบถ้วนไม่มีตกหล่น

วาห์นพบว่าท่านี้ทำให้อาวุธของตนบุกเข้าไปได้ง่ายกว่าตอนแรกมากซึ่งสร้างความประหลาดใจและความหฤหรรษ์ให้กับทั้งสอง

เขาคว้าเอวของเธอไว้และเริ่มใส่จังหวะแบบช้าๆ ขณะจ้องมองบั้นท้ายอวบอัดที่กระเพื่อมไปมาตามแรง

เมื่อก่อนวาห์นอาจจะไม่เชื่อ แต่ตอนนี้เขาเชื่ออย่างสนิทใจแล้วว่าตัวเองชอบบั้นท้ายมากจริงๆ แถมยังมีตราสัญลักษณ์นั่นอีก…

ตรงตำแหน่งที่ตราสัญลักษณ์ประทับอยู่นั้นมีรอยบุ๋มเล็กๆ สอยรอยซึ่งเหมาะกับการนำนิ้วโป้งไปกดไว้พอดีเลย…

แน่นอนว่าเขาไม่ใช่คนเดียวที่รู้สึกเพลิดเพลินไปกับช่วงเวลานี้ เฮเฟสตัสเองก็รู้สึกถึงความสุขอย่างไม่น่าเชื่อโดยเฉพาะตอนที่วาห์นบุกเข้ามาจนมิดด้าม

ทุกครั้งที่ภายในของทั้งสองสัมผัสกัน เฮเฟสตัสก็จะถูกดันเข้ากับ [เอ็นคิดู] อันแสนสบายที่คอยยึดเธอไว้กับที่ นั่นทำให้เธอได้รับทุกอย่างแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย

เทพสาวเริ่มร้องครางเสียงดังตามจังหวะขณะกลับมา ‘สวดมนต์’ บทเดิมๆ ซ้ำไปมาอีกครั้ง

ตอนนี้วาห์นอาจไม่ทันสังเกตเพราะต้องใช้สมาธิอย่างหนัก แต่ทุกครั้งที่เฮเฟสตัสพร่ำเพ้อเสร็จ ค่าความรักของเธอก็จะเพิ่มขึ้นตามไปด้วย

เด็กหนุ่มจะได้รู้ในภายหลังว่ามันเพิ่มขึ้นไปถึง 13,000 แต้มในช่วงเวลาสั้นๆ ที่ทั้งสองใช้ร่วมกัน…

จู่ๆ วาห์นก็เริ่มนึกถึงทุกอย่างที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อคืนก่อนขณะใช้ [หัตถ์แห่งเนอร์วาน่า] เข้ากับแผ่นหลังส่วนล่างของเฮเฟสตัสไปด้วย

วาห์นได้ยินเธอเรียกชื่อออกมาไม่หยุด และสิ่งที่เขาสัมผัสได้ในตอนนี้ก็คือความเสียวซ่านกับความร้อนจากจุดที่ทั้งคู่เชื่อมต่อกัน

มันอาจจะไม่คับจนแทบขาดใจแบบของไอส์ แต่ของเฮเฟสตัสเองก็กอดรัดเขาแน่นพอควร แถมมันยังส่งผ่านความร้อนมหาศาลมาถึงร่างกายของเขาด้วย

หากไม่ใช่เพราะคุณสมบัติต้านทานไฟแบบสมบูรณ์… ป่านนี้เฮเฟสตัสคงได้ทานไส้กรอกย่างแทนแล้ว

ไม่ว่ามันจะร้อนขนาดไหน ตอนนี้วาห์นก็ไม่รู้สึกหวั่นใจใดๆ ทิ้งสิ้น

นอกจากนี้เขายังพบว่าขาของตัวเองกำลังเปียกชุ่มไปด้วยของเหลวที่ไหลออกมาจากจุดซ่อนเร้นของเฮเฟสตัสไม่หยุด แค่มองก็ดูออกทันทีว่าเธอคงเสร็จไปไม่รู้กี่รอบแล้ว

วาห์นเริ่มนึกพิเรนทร์ว่าจะเป็นยังไงนะ ถ้าเขาเอื้อมมือออกไปกระตุ้นเจ้าตุ่มสีชมพูนิดๆ หน่อยๆ

เพราะแค่นี้เฮเฟสตัสก็แทบจะย้ายกลับขึ้นไปอยู่บน ‘สวรรค์’ อยู่รอมร่อแล้ว เขาก็เลยตัดสินใจปล่อยมันไปก่อนเพราะกลัวอีกฝ่ายจะสลบคาเตียง

วาห์นเริ่มหันมาเร่งความเร็วและความแรงให้มากขึ้นไปอีกระดับ

แม้สมาธิจะแตกกระเจิงอยู่หลายครั้งจนต้องรวบรวมมันขึ้นมาใหม่ แต่วาห์นก็ไม่เคยยอมอ่อนข้อให้และ ‘ทรมาน’ เฮเฟสตัสมากว่า 20 นาทีแล้ว

ในช่วงชีวิตอันยาวนานหลายล้านปีของเฮเฟสตัส ไม่มีอะไรเทียบเท่าได้กับประสบการณ์ที่เจออยู่ตอนนี้เลย

นอกจากเรื่องที่ตัวเองน่าจะได้ตั้งครรภ์แน่ๆ แล้ว วาห์นยังเป็นคนรักที่เอาใจใส่มากและคอยผลักดันให้เธอขึ้นสู่จุดสุดยอดโดยไม่คิดจะปล่อยให้ลงมาพักหายใจกันเลย

สติ? สมอง? พวกมันหนีหายไปพักร้อนกันตั้งนานสองนานแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่เธอพอจะรู้สึกได้ก็คือความปลอดภัยอย่างไม่น่าเชื่อ

นั่นเป็นเพราะเฮเฟสตัสรู้ว่าวาห์นยังไม่ถึงขั้น ‘สติแตกจนใส่แบบไม่ยั้ง’ และรู้ด้วยว่าเขาจะคอยรับเธอไว้ทุกครั้งที่เธอตกลงมา… แล้วก็จับเธอโยนขึ้นไปใหม่

ก่อนที่จะถึงจุดแตกดับ วาห์นก็ใช้ [ดวงตาแห่งการรู้แจ้ง] (TL: ดวงตาเอกซเรย์) เพื่อสังเกตทุกอย่างที่เกิดขึ้นในร่างกายของเฮเฟสตัส

กล้ามเนื้อทุกส่วนของเธอจะบิดเร้าทุกครั้งที่อาวุธของเขาฝังลึกจนสุด แถมพวกมันยังกอดรัดแน่นกว่าเดิมราวกับรู้ว่าเขาใกล้จะทนต่อไปไม่ไหวแล้ว

วาห์นคิดว่านี่เป็นภาพที่อันตรายมาก… มากจนเขาไม่คิดจะทำแบบนี้อีก หากไม่จำเป็นจริงๆ

ยิ่งมอง สมองก็ยิ่งรู้สึกเหมือนโดนไฟดูด จนกระทั่งเขาปลดปล่อยทุกอย่างเข้าไปในเบื้องลึกของเฮเฟสตัส

ทันทีที่วาห์นถึงจุดสุดยอด เขาก็สวมกอดเฮเฟสตัสไว้อย่างแน่นหนาและพยายามกดปลายอาวุธเข้าไปให้ลึกที่สุด

แม้ว่ามันจะเป็นการร่วมรักที่แสนวิเศษ แต่กลับมี ‘เด็กๆ’ ของเขาเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้นที่เข้าไปด้านในได้สำเร็จ

เขาไม่ได้ใช้ [ดวงตาแห่งการรู้แจ้ง] เพื่อพาพวกมันเข้าไปโดยตรง อย่างมากที่ทำก็คือคอยนวดเฟ้นส่วนเอวของเฮเฟสตัสเพื่อช่วยแบบอ้อมๆ เท่านั้น

ที่เหลือคงต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ ‘น้ำแห่งชีวิต’ ซึ่งถูกเสริมพลังจาก ‘เพลิงนิรันดร์’ ให้เป็นผู้สานต่อแล้ว

เมื่อเห็นว่าไข่ถูกห้อมล้อมไปด้วย ‘ผู้เข้าแข่งขัน’ มากมาย วาห์นก็ใช้ [ดวงตาแห่งการรู้แจ้ง] ขั้นสูงสุดเพื่อขยายภาพให้เห็นถึงระดับโมเลกุล

เขามองเห็นเหล่าสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ ที่กำลังแก่งแย่งเพื่อเข้าไปในไข่และไม่นานหนึ่งในนั้นก็ทำสำเร็จ

พอตรวจสอบจนมั่นใจแล้ว วาห์นก็ยิ้มกว้างขณะค่อยๆ คลาย [เอ็นคิดู] ออกและลดตัวเฮเฟสตัสลงมาที่เตียง

วาห์นเองก็ลงมานอนด้วยและช่วยจับเธอหันข้างเพื่อที่ทั้งสองจะได้นอนหันหน้าเข้าหากัน

ตอนนี้สติของเฮเฟสตัสยังไม่กลับมาแบบครบถ้วน แม้วาห์นจะเอื้อมมือขึ้นมาปาดเหงื่อให้ แต่สีหน้าของเทพสาวก็ยังคงว่างเปล่าเช่นเดิม

หลังจัดการเหงื่อออกไปเกือบหมดแล้ว วาห์นก็ใช้ [หัตถ์แห่งเนอร์วาน่า] เพื่อช่วยทำให้จิตใจของเธอกลับมาเป็นปกติ

“ยินดีด้วยนะ เฮเฟสตัส… เธอจะได้เป็นคุณแม่แล้ว” วาห์นกระซิบบอกด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนมากกว่าครั้งไหนๆ

น้ำตาเริ่มเอ่อล้นออกมาจากดวงตาของเทพสาว แต่เฮเฟสตัสก็ยังอุตส่าห์เก็บอาการไว้พลางเอามือขึ้นมาลูบใบหน้าของวาห์นเช่นกัน

“อย่าลืมสิ… นายก็จะเป็นคุณพ่อแล้วนะ… เราจะเป็นพ่อแม่… ด้วยกัน… ฉันรักนายมากเหลือเกิน” เธอกระซิบตอบด้วยเสียงสะอื้น

เพราะมัวแต่จดจ่ออยู่กับขั้นตอนต่างๆ วาห์นเลยลืมไปซะสนิทเลยว่าตัวเองจะได้เป็น ‘คุณพ่อ’ เช่นกัน

พอได้ยินคำพูดนั่นจากปากของเธอ คราวนี้เป็นตาของวาห์นที่ได้ร้องไห้ออกมาบ้างขณะที่ความรู้สึกปิติยินดีแผ่ซ่านออกไปทั่วร่างกาย

มือที่ลูบใบหน้าของเฮเฟสตัสเริ่มสั่นเล็กน้อยก่อนที่ทั้งสองจะนำหน้าผากมานาบกัน

“ฉันรักเธอนะ เฮเฟสตัส… ขอบคุณ… ขอบคุณจริงๆ…”

วาห์นยังคงพร่ำขอบคุณต่อไปในขณะที่เฮเฟสตัสนำศีรษะของเขามาไว้ในอ้อมอก

ถึงอยากจะแย้งว่าทุกอย่างเป็นเพราะวาห์นเข้ามาช่วยเธอจากความโดดเดี่ยวชั่วนิรันดร์และทำให้ความฝันทุกอย่าของเธอเป็นจริง แต่เฮเฟสตัสก็เลือกที่จะไม่พูดอะไรและคอยปลอบประโลม ‘ชายหนุ่ม’ ในช่วงที่เขาต้องการเธอมากที่สุด

เธอรู้สึกขอบคุณจริงๆ แต่เรื่องพวกนั้นค่อยเก็บเอาไปบอกกันในอนาคตก็ยังไม่สายนี่นะ

ราวกับบทบาทของทั้งคู่ถูกสลับกันชั่วคราว เฮเฟสตัสได้กลายมาเป็นคนที่คอยดูแลวาห์นแทน… นี่คือความรักที่ทั้งคู่มีให้แก่กัน เป็นความรักอย่างแท้จริงที่แม้แต่โชคชะตาก็ไม่อาจเข้ามาขัดขวางหรือเปลี่ยนแปลงมันได้

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Endless Path : Infinite Cosmos, อนันตวิถีจักรวาล

Status: Ongoing

เรื่องย่อโดยผู้แต่ง

วาห์นชายหนุ่มผู้ที่มีความผิดปกติ เนื่องจากการกลายพันธุ์ที่หายาก เลือดของเขาจึงมีความสามารถซ่อนเร้นที่ทำให้เป้าหมายและความเสียหายที่เกิดจากโรคร้ายที่อยู่ภายในร่างกายมนุษย์

ถูกขจัดออกไปในโดยการรักษาครอบจักรวาล เหล่าผู้คนจึงต่างเชิดชูบูชาสถานะของเด็กหนุ่มเหนือกว่าผู้ใดทั้งสิ้นและมอบชื่อให้เขาว่า “ยารักษาสารพัดโรค” ในข่าว

เขาได้รับการยกย่องเป็นเหมือนกับวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ที่จะนำพายุคสมัยแห่งใหม่หรือคุณภาพชีวิตมนุษย์ที่ดีมาถึง อย่างไรก็ตาม ฉากที่อยู่เบื้องหลังไม่ได้สดใสเลย

เนื่องจากปัจจัยเฉพาะบางอย่าง วาห์นจึงใช้เวลาช่วงวัยรุ่นทั้งหมดถูกกักขังอยู่ในห้องทดลองกับนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย และทีมวิจัยที่ใช้ร่างกายและเลือดของเขาเพื่อทำการทดลองที่ไม่มีที่สิ้นสุด

สิ่งปลอบใจความทุกข์ทรมานเพียงอย่างเดียวของเขาคืออนิเมะทั้งหลายและหนังสือการ์ตูนที่มีให้เขาดูในระหว่างการทดลอง เขามักจะจินตนาการว่าตนเองเป็นตัวเองที่อยู่ในโลกของตนเอง

dและสุดท้ายเขาก็สามารถควบคุมโชคชะตาของตัวเองได้ เป็นเวลาหลายปีที่เขาเก็บรักษาความปราถนานี้เอาไว้ จนกระทั่งเขาเสียชีวิตในวัย 14 ปีขณะที่มีองค์กรพยายามลักพาตัวเขาออกจากห้องทดลอง…

“ในที่สุด ผมก็ไม่ต้องทนทรมานอีกต่อไปแล้ว…”

นี่เป็นความคิดสุดท้ายของวาห์นในขณะที่เขาค่อยๆจางหายไปในห้วงแห่งความมืดอันไร้สิ้นสุด…

“ดวงวิญญาณที่น่าสงสาร”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท