ดวงตาของจิวโมไป๋จ้องมองไปยังต้นไผ่สีทอง ในมือของอาจารย์สาวโดยเฉพาะ
เขาไม่เคยเห็นอาจารย์สาวใช้อวตารมาก่อน เมื่อเห็นอวตารต้นไผ่สีทอง เขาก็ประหลาดใจเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าเข้าใจ เขาจำได้ว่าสำนักของอาจารย์สาว จะฝึกฝนเคล็ดบ่มเพาะพลังประเภทพืช
จึงไม่แปลกเลย ที่อาจารย์สาวจะฝึกฝนเคล็ดบ่มเพาะพลังประเภทพืชด้วย
แต่ที่เขาสนใจ ก็คือเคล็ดบ่มเพาะพลังของอาจารย์สาว เป็นประเภทพืช และมีคุณสมบัติธาตุทอง!
มันแสดงให้เห็นว่า อาจารย์สาวเป็นผู้ใช้กฎแห่งธาตุ 2 ประเภท!
คนในโลกแห่งการบ่มเพาะพลัง ต่างก็รู้กันว่า ผู้ฝึกฝนเคล็ดบ่มเพาะพลังประเภทพืช จะต้องตระหนักกฎแห่งธาตุไม้เป็นธาตุหลัก กฎแห่งธาตุที่ 2 เป็นคุณสมบัติรอง แตกต่างจากเคล็ดบ่มเพาะพลังประเภทอื่นที่ ไม่เจาะจงกฎแห่งธาตุหลักโดยเฉพาะ
เมื่ออาจารย์สาว ใช้ต้นไผ่สีทองที่มีพลังกฎแห่งธาตุทอง เขาจึงรู้ว่าอาจารย์สาวตระหนักกฎแห่งธาตุไม้ด้วย
ในตอนนั้นเอง ลู่หว่านก็ยกมือซ้ายขึ้นชี้ไปยังชายชุดดำ แสงสีทองสว่างวาวที่ปลายนิ้วมือ ใบไผ่สีทองนับพันก็สายประกาย โจมตีชายชุดดำด้วยความเร็ว เป็นลำแสงสีทองพุ่งทะยานเข้าไป
ชายชุดดำหรี่ตาลงมองแสงสีทองนับไม่ถ้วน ที่พุ่งตรงเข้ามาจากทุกทิศทาง ดวงตาสีม่วงเย็นเฉียบดุจน้ำแข็ง พลังสีม่วงดำพลันระเบิดออกราวภูเขาไฟปะทุ ขยายตัวออกไปราวกับม่านพลัง เข้าปะทะเข้ากับใบไผ่สีทอง
เปรี้ยง! ใบไผ่สีทองนับพันถูกม่านพลังสีดำม่วงหยุดไว้ได้ แต่พวกมันก็พยายามจะทะลวงผ่านม่านพลังอย่างไม่อ่อนกำลัง แสงสีทองและสีดำม่วงปะทะกันเกิดระลอกสายลมกรรโชกอย่างรุนแรง
“หึม!”ร่างของชายชุดดำค่อยๆถูกกดลงที่พื้น ใบหน้าใต้ผ้าปิดหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ เขาเร่งเร้าพลังต้านทานใบไผ่สีทอง แต่ก็ไม่สามารถหยุดได้ ร่างค่อยๆตกลงมา ก่อนที่เท้าของเขาจะเหยียบพื้น ใบไผ่สีทองนับพันก็เปล่งแสงสีทองอันคมกล้า ทะลวงม่านพลังและตรงเข้าใส่ร่างของชายชุดดำ!
ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง! ชิ้ง!
ก่อนที่ใบไผ่สีทองจะถึงร่าง ชายชุดดำก็หุบปีกโลหิตม่วงทั้งสี่ปีกโอบล้อม ปิดบังร่างกายทั้งหมด
เคร็ง! เคร็ง! เคร็ง! เคร็ง! เสียงโลหะปะทะกันดังสนั่น ราวกับโลหะกระทบกัน สะเก็ดไฟสีส้มสาดกระจายไปรอบๆ ใบไผ่สีทองกระเด็นกระดอนออกไป พื้นรอบๆร่างของชายชุดดำถูกทำลาย
เมื่อการโจมตีจบลง ฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วบริเวณ
ลู่หว่านเลิกคิ้วเล็กน้อย
ฟุบ ฟุบ ฟุบ ฟุบ เงาสีม่วงสี่สาย แหวกผ่านกลุ่มควันออกมา
ลู่หว่านมองหอกสี่เล่ม ที่พุ่งเข้ามา เธอควงต้นไผ่สีทอง ปัดหอกทั้งสี่กระเด็นออกไปอย่างไม่ยากเย็น
วูบ กลุ่มควันแตกกระจายออก ร่างของชายชุดดำลอยขึ้นกลางอากาศ ปีกโลหิตม่วงทั้งสี่ปีก ป้องกันร่างของชายชุดดำอย่างมิดชิด บนขนสีม่วงมีรอยบาดลึกมากมาย แต่ไม่สามารถทะลวงผ่านการป้องกันเข้าไปได้
จิวโมไป๋มองชายชุดดำ สายตามาหยุดที่ปีกโลหิตม่วงสี่ปีก เขาก็นึกถึงข้อมูลบางอย่างได้
อวตารปีกโลหิตม่วง ไม่ได้มีไว้เพียงแค่บิน แต่มันมีความสามารถเหมือนกับโลหิตม่วง ที่มีความสามารถในการกลายเป็นของแข็ง
ปีกโลหิตม่วง จะมีความแข็งแกร่งและทนทานมากกว่าโลหิตม่วงเป็นเท่าตัว และยิ่งมีจำนวนปีกมากเท่าไหร่ ความแข็งแกร่งและทนทานจะยิ่งมากขึ้นเป็นเท่าทวี
จำนวนปีกโลหิตม่วง จะขึ้นอยู่กับความบริสุทธิ์ของสายเลือด
อวตารปีกโลหิตม่วง เกิดจากการฝึกฝนเคล็ดบ่มเพาะพลังปีกโลหิตม่วง เคล็ดบ่มเพาะพลัง ของผู้มีสายเลือดราชวงศ์โลหิตม่วงบริสุทธิ์เท่านั้น
ผู้มีสายเลือดราชวงศ์โลหิตม่วงทั่วไป จะไม่สามารถฝึกฝนเคล็ดวิชาปีกโลหิตม่วงได้ เพราะถึงฝึกไปก็ไม่มีอวตารปีกโลหิตสีม่วง
จำนวนปีกยังเป็นตัวบ่งบอก ถึงความบริสุทธิ์ของสายเลือด
ผู้ที่มีเลือดบริสุทธิ์ระดับต่ำหรือแค่เจือจาง จะมีปีกเพียงคู่เดียว
ผู้ที่มีเลือดบริสุทธิ์ระดับกลาง จะมีปีกสองคู่
ผู้ที่มีเลือดบริสุทธิ์ระดับสูง จะมีปีกสามคู่
ผู้ที่มีเลือดบริสุทธิ์ ที่เหนือกว่านั้นจะถูกเรียกว่า‘เจ้าชาย’ มีปีกทั้งหมดสี่คู่
เจ้าชาย ถือว่าเป็นตัวตนที่แข็งแกร่งที่สุด ของสายเลือดราชวงศ์โลหิตม่วง
ว่ากันว่าผู้ที่มีเลือดบริสุทธิ์ระดับเจ้าชาย ปีกโลหิตม่วงสามารถป้องกันสมบัติระดับปฐพีได้โดยไม่มีรอยขีดข่วน
ด้วยความแข็งแกร่งทรงพลังของเจ้าชาย จึงทำให้ในยุคสมัยหนึ่งราชวงศ์โลหิตม่วง เกือบครองครองทวีปตะวันตกทั้งหมดได้
ชายชุดดำเป็นผู้ที่มีเลือดบริสุทธิ์ระดับกลาง ปีกสีม่วงของเขาแข็งแกร่งพอๆกับสมบัติมนุษย์ระดับ 2 ยากที่การโจมตีทั่วไปจะทำอะไรเขาได้
ไม่แปลกเลยที่ใบไผ่สีทอง จะไม่สามารถทำลายอวตารปีกโลหิตม่วงสีปีกได้
ลู่หว่านเห็นการป้องกันอันแข็งแกร่งของปีกโลหิตม่วง เธอก็ไม่เกรงกลัว เธอใช้มือขวาจับต้นไผ่สีทอง มือซ้ายยกขึ้นก่อนจะขยับนิ้วเหมือนวาดบางอย่าง
ใบไผ่สีทองที่ตกอยู่ตามพื้น รอบๆร่างของชายชุดดำ ก็ลอยขึ้นจากพื้น ก่อนจะเรียงตัวกันบนอากาศ เหมือนกับค่ายกล
ดวงตาสีม่วงของชายชุดดำ เต็มไปด้วยเจตนาสังหารมองไปยังลู่หว่าน ออร่าสีม่วงดำแผ่ขยายออกจากร่าง
จิวโมไป๋มองใบไผ่สีทองที่เรียงกันเป็นค่ายกล เขามองเห็นการควบคุมอันละเอียดอ่อนของลู่หว่าน เขาก็ต้องประทับใจ
แม้แต่ตัวเขาเอง ที่เป็นปรมาจารย์ทองคำดำ ยังไม่มีพลังสมาธิพอที่สามารถควบคุมสิ่งของนับพันให้เคลื่อนไหวแตกต่างกัน และสามารถโจมตีประสานกันกลายเป็นค่ายกลได้
จากท่าทางของอาจารย์สาว ดูเหมือนว่าเธอจะใช้การควบคุมระดับนี้ได้ ก่อนที่จะกลายเป็นปรมาจารย์ทองแดงด้วยซ้ำ!
จิวโมไป๋มองอาจารย์สาวด้วยความชื่นชม ก่อนที่จิตสัมผัสของเขา จะสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหว ของผู้บ่มเพาะพลังที่แข็งแกร่ง กำลังใกล้เข้ามา
เขาก็รู้ได้ทันทีว่าหน่วยมังกรซ่อน กำลังมาที่นี่
เขาเพ่งจิตสัมผัส ก็เห็นฟงอี้เฟยกำลังใช้ท่าร่างผสานกับกฎแห่งธาตุลม ตามหลังผู้บ่มเพาะพลังหญิงวัยกลางคน ที่พุ่งทะยานแหวกอากาศด้วยความเร็วสูง
จิวโมไป๋ถอนจิตสัมผัสกลับ เขาไม่กังวลว่าอาจารสาวจะได้รับอันตราย รีบไปหาร่างของเนี่ยฟูหาน ที่นอนหมดสติอยู่ไม่ไกล ก่อนจะอุ้มร่างของเนี่ยฟูหานและพาออกไป คนละทางกับที่คนของหน่วยมังกรซ่อนกำลังมา