เช้าวันต่อมา แสงของวันใหม่ส่องแสงสว่าง ขับไล่ความมืดมิดและทำให้อากาศอันหนาวเหน็บอบอุ่นขึ้น
จิวโมไป๋ประคองร่างผู้บาดเจ็บคนสุดท้าย ของพื้นที่นี้ ไปยังเต็นท์พยาบาล เมื่อส่งผู้บาดเจ็บคนสุดท้าย เขาก็เดินออกมา ด้านนอกเต็มไปด้วยเต็นท์รักษาสิบกว่าหลัง สำหรับพักพื้นผู้ที่บาดเจ็บ
ติ๊ด กำไลข้อมือส่งเสียงรายงานการสำเร็จภารกิจ
จิวโมไป๋ไม่สนใจที่จะเปิดดู เขาชูแขนสองข้างขึ้น สูดลมหายใจเฮือกใหญ่ ขยับคอขับไล่ความเหน็ดเหนื่อยทั้งคืนออกไป สายตามองไกลออกไป เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหาร กระจายกำลังกันปิดล้อมพื้นที่การต่อสู้อย่างแน่นหนา
ในพื้นที่การต่อสู้ ตอนนี้หน่วยกู้ภัยได้ช่วยเหลือผู้บาดเจ็บที่ติดอยู่ใต้อาคารที่พังทลายจนหมด มีผู้รอดชีวิตภายใต้ซากอาคารมากกว่า 300 คนอย่างน่าเหลือเชื่อ
ที่พวกเขาสามารถรอดชีวิตมาได้ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะการรักษาของลู่หว่าน แต่ที่สำคัญที่สุดคือคุณภาพของอาคารเหล่านี้ ที่สร้างจากวัสดุคุณภาพดี ที่มีความคงทนและแข็งแกร่งกว่าอาคารในยุคก่อน
ทำให้แม้อาคารจะพังลงมา ก็ไม่แตกหักเป็นชิ้นๆ มันยังเหลือโครงสร้างใหญ่ คำยันส่วนอื่นๆของอาคาร ไม่ให้พังทลายเป็นเศษซาก ทำให้ผู้คนสามารถหลบในช่องว่าง รอดจากการถูกเศษซากอาคารถล่มทับได้
จิวโมไป๋เปิดกำไลข้อมือ เห็นรางวัลภารกิจที่ได้ เขาก็ปิดลงอย่างไม่สนใจ เพราะเขาพึ่งเข้าหน่วยมังกรซ่อนไม่ถึงสัปดาห์ แม้จะมีตำแหน่ง 3 ดาว เขายังไม่สามารถรับภารกิจระดับสูงได้
ในเหตุการณ์นี้ เขาทำได้เพียงดูแลผู้บาดเจ็บ ไม่มีโอกาสเข้าไปในพื้นที่ต่อสู้ด้วยซ้ำ
จิวโมไป๋ดูว่ามีภารกิจอื่น ที่เขาสามารถทำได้หรือไม่ เมื่อเห็นว่าไม่มีภารกิจใหม่ เขาจึงกลับไปโรงแรมIL เพื่อพักผ่อน
หน้าโรงแรมIL ยามรักษาความปลอดภัยเพิ่มเป็น 8 คน ระดับการบ่มเพาะพลังของพวกเขาก็ไม่ธรรมดา เพราะเหตุการณ์ต่อสู้เขตใต้ ทำให้้เขตอื่นๆเพิ่มระดับการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น
จิวโมไป๋กลับเข้าไปในห้องของตัวเอง เขาแผ่ขยายจิตสัมผัสปกคลุมโรงแรม ก็พบลู่หว่านกำลังนั่งสมาธิฟื้นฟูพลังอยูในห้องชั้นบนสุดของโรงแรม เขาถอนจิตสัมผัสกลับทันที เพื่อไม่ให้รบกวนเธอ
จิวโมไป๋อาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย
กำไลข้อมือก็สั่นเบาๆ เขาก้มลงดูเป็นฟงอี้เฟยที่ติดต่อมา เขาเดินออกจากห้องน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วก็เปิดกำไลข้อมือ
ฟงอี้เฟยส่งข้อมูลเกี่ยวกับการต่อสู้มาให้ เพราะเขาเป็นคนของหน่วยมังกรซ่อนเช่นกัน ดังนั้นจึงไม่ผิดที่ฟงอี้เฟยจะส่งข้อมูลมาให้ได้
เขาอ่านข้อมูลในโฮโลแกรม การต่อสู้ในครั้งนี้เกิดจากนักฆ่าของทวีปตะวันตก องค์กรโลหิตนิรันดร กับยอดฝีมือไร้นามสองคน
ในการต่อสู้ยกเว้นหัวหน้าของนักฆ่าที่บาดเจ็บสาหัส นักฆ่าคนอื่นๆเสียชีวิต ส่วนยอดฝีมือไร้นามหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
ในระหว่างการตรวจสอบ คนของหน่วยมังกรซ่อนได้ค้นพบการเคลื่อนไหวผิดปกติของตระกูลจิง พวกเขาจึงได้ไปสวนสวนตระกูลจิง ทำให้พวกเขาพบแผนการสมรู้ร่วมคิดที่จะสร้างหลักฐานเท็จ เพื่อสร้างความเข้าใจผิดให้กับเนี่ยฟูหาน และมีหลักฐานบางอย่างที่เชื่อมโยงกับเหตุการโจมตีรถไฟฟ้าความเร็วสูง
ด้วยหลักฐานเหล่านี้ ตระกูลจิงจึงถูกตรวจสอบ และคนที่มีส่วนร่วมถูกนำตัวไปสอบสวน
ในหมู่ผู้ที่มีส่วนร่วมมากที่สุด
จิงมู่ไท่หายตัวไปอย่างลึกลับ
จิงมู่หยานได้หลบหนีไปยังท่าเรือ เพื่อออกนอกประเทศ คนของหน่วยมังกรซ่อนกำลังไปจับกุม
เพราะทั้งสองที่เป็นลูกหลานตระกูลจิงสายเลือดตรง หลบหนีการสอบสวน ทำให้การสอบสวนรุนแรงขึ้น
จิวโมไป๋อ่านข้อมูลที่ฟงอี้เฟยให้จบหมด เขาก็ปิดมัน แล้วกดสั่งอาหารเช้ามาทาน
ตอนนี้เมืองเทียนจิงปิดการเดินทาง ไม่สามารถเข้าหรือออกจากเมืองได้ เขาจึงได้แต่อยู่ในโรงแรมอย่างเบื่อหน่าย รอดูสถานการณ์
2 วันต่อมา การสอบสวนไม่ยุติง่ายๆ
ตระกูลจิงพยายามต่อสู้ ว่าพวกเขาไม่เกี่ยวข้อง แผนการทั้งหมดจิงมู่ไท่และจิงมู่หยานเป็นคนทำทั้งหมด
พวกเขาปัดความรับผิดชอบออกจากตัวเอง โดยไม่สนใจความรู้สึกของคนที่มีสายเลือดเดียวกัน
แต่ที่น่าแปลกใจคือจิงมู่ไท่หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ไม่สามารถหาตัวได้ ราวกับว่าเขาสลายหายไปจากโลก
จิงมู่หยานเสียชีวิตบนเรือ อย่างน่าพิศวง จากรายงานสภาพศพ ไม่มีร่องรอยการต่อสู้ใดๆ เหมือนกับว่าเขานอนหลับและเสียชีวิตไปเอง
จิวโมไป๋ปิดข้อมูลลง เขาติดต่อไปยังหน่วยมังกรซ่อน เพื่อขอออกจากเมืองเทียนจิง เพราะเขาต้องไปสอบกลางภาคเรียนในวันพรุ่งนี้
ไม่นานรายงานอนุมัติก็ถูกส่งมา เขาสามารถขึ้นเครื่องบินล่องหนออกไปได้
เครื่องบินล่องหนได้ทำการตรวจสอบระบบแล้ว ว่าไม่มีปัญหา สามารถวางใจได้ว่าจะไม่เกิดอุบัติเหตุ
จากนั้นเขาก็ส่งข้อความไปบอกลาคนอื่นๆ เขาลงไปให้เนี่ยฟูหานที่รักษาตัวในโรงพยาบาล จากนั้นก็ส่งไปให้ฟงอี้เฟยที่กำลังทำภารกิจ
ฟงอี้เฟยอยากจะตามเขากลับ แต่ทำไมได้ เพราะเขาต้องทำภารที่ได้รับมอบหมาย
จิวโมไป๋ขึ้นเครื่องบินล่องหนกลับเมืองเทียนจิง
เขาเช่ารถโดยสารให้ไปส่งที่บ้าน
เมื่อเดินเข้าบ้าน เขาก็เห็นพ่อจิวโมเทียนใส่แว่นวงกลมกรอบทอง กำลังดูโฮโลแกรมอย่างเคร่งเครียด
ด้านข้างแม่ฮันหวูเหยากำลังชงชา
“โมไป๋ ลูกกลับมาแล้ว”ฮันหวูเหยาเห็นจิวโมไป๋ เธอก็ยิ้มอ่อนโยน
“ครับแม่”จิวโมไป๋เดินไปนั่งบนโซฟาข้างๆฮันหวูเหยา
สองแม่ลูกพูดคุย ถามถึงสารทุกข์สุขดิบอยู่นาน
จิวโมเทียนยกมือนวดขมับ ถอนสายตาออกจากโฮโลแกรม เพื่อพักสายตา ก่อนจะหันมามองจิวโมไป๋
สองพ่อลูกพูดคุยกันหลายนาที ก่อนที่ท่าทางของจิวโมไป๋จะกลายเป็นจริงจัง
“พ่อครับ ผมอยากรู้เกี่ยวกับตระกูลจิวของเรา ว่าทำไมเหลือแค่พวกเราเท่านั้น”จิวโมไป๋จ้องมองใบหน้าของพ่อด้วยสายตาจริงจัง
จิวโมเทียนนิ่งไปเล็กน้อย เขาไม่คิดมาก่อน ว่าลูกชายของเขาจะถามถึงตระกูล ที่เขาไม่พูดถึงเกี่ยวกับตระกูลเลย ก็เพราะว่า เขาไม่อยากให้ลูกชายของเขา มีส่วนเกี่ยวข้องกับความแค้นของคนรุ่นก่อน
มองเข้าไปในดวงตาของลูกชาย เห็นความแน่วแน่มั่นคง เขาก็เกิดความลังเล ก่อนที่เขาจะถอนหายใจเฮือกใหญ่ และตัดสินใจที่จะบอก อายุของจิวโมไป๋เกิด 18 ปีแล้ว เขากลายเป็นผู้ใหญ่ เขามีสิทธิ์ที่จะได้รู้เกี่ยวกับตระกูลของตัวเอง
“ตระกูลจิวของเราในอดีต เป็นตระกูลชั้นสอง แม้ไม่มีอำนาจมากนัก แต่ต้องยอมรับว่าเป็นตระกูลผู้มีอิทธิพล”จิวโมเทียนมองออกไปทางหน้าบ้าน ดวงตาฉายความเศร้าโศก”ในช่วงเริ่มต้นยุครุ่งอรุณ ปู่ของพ่อ ได้ปลุกความสามารถพิเศษบางอย่างขึ้น พ่อไม่รู้ว่ามันคือความสามารถอะไร แต่ความสามารถนั้น ทำให้ผู้คนเกิดความโลภ พวกเขาได้ลักพาตัวคนของตระกูลจิว คนที่ขัดขืนไม่ทำตามก็ถูกฆ่า สมาชิกในตระกูลกว่า 50 ชีวิตถูกฆ่า ยกเว้นปู่ของลูกที่เข้าร่วมกับรัฐบาล อาศัยพลังของรัฐ เขาจึงรอดชีวิตไปได้”
จิวโมไป๋ขยับร่างกาย ยืดตัวขึ้น คิ้วสองข้างขมวดแน่น มองพ่อของเขาด้วยความสงสัย
จิวโมเทียนอ่านสายตาลูกชายออก เขาเหลือบตามองฮันหวูเหยา ก่อนจะกระแอ้มเสียงดังและพูด
“ที่พ่อรอดจากการถูกฆ่ามาได้ ถ้าจะพูดถึง ต้องเริ่มเมื่อ 19 ปี ก่อน พ่อและแม่ของลูกคบกัน จึงถูกตระกูลของตัวเองตัดขาดจากตระกูล”
จิวโมไป๋นิ่งไปเล็กน้อย ด้วยความตกใจ
จิวโมเทียนถอนหายใจ คิดถึงอดีตก่อนจะพูดต่อ
“ตระกูลฮัน ตระกูลของแม่ลูก ในตอนนั้นมีอำนาจในรัฐบาล พวกเขาลบประวัติของพ่อและแม่ออกจากระบบจนหมด ทำให้พ่อและแม่ของลูก ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับตระกูลของตัวเองอีกต่อไป”
จิวโมไป๋ได้ฟังถึงตรงนี้ เขาก็รู้แล้วว่าพ่อของเขารอดมาได้อย่างไร
“ข้อมูลของพ่อ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกับตระกูลจิวหายไป ดังนั้นพ่อจึงรอดมาได้อย่างโชคช่วย”