[เล่ม 2] บทที่ 31 ชีวิตที่ภายนอกดูดีของภรรยาผู้งามสง่า
Xiaobei
โซนวิลล่าสุดหรูในฮันนัมดง กรุงโซล
จากย่านซองบุกดง-พยองชังดงที่เต็มไปด้วยคฤหาสน์เก่าแก่ เรื่อยมายังบ่านอับกูจอง-ชองดัม ย่านอสังหาริมทรัพย์อันดับหนึ่งของเกาหลี และฮันนัมดง ย่านที่มักจะนึกถึงแหล่งที่อยู่ของเศรษฐีใหม่ หนึ่งในนั้นคือวิลล่าพื้นที่หกสิบพยอง[1]บนเนินเขาที่มองเห็นแม่น้ำฮัน โลกที่พวกเขาอาศัยอยู่ ยากที่คนธรรมดาทั่วไปจะเข้าใกล้
เพนเฮาส์ของวิลล่ารูปแบบทันสมัยติดอันดับต้นๆ ของบ้านที่แพงที่สุดในฮันนัมดงคือเรือนหอของราฮี
ภายในบ้านหรูหราราวกับบ้านที่ลงในนิตยสารตกแต่งบ้าน ตกแต่งอลังการด้วยวัสดุที่ดีที่สุด ดูคลาสสิก เพิ่มเอกลักษณ์เฉพาะด้วยเฟอร์นิเจอร์สั่งผลิตและเครื่องใช้ไฟฟ้านำเข้า
พรมขนแกะธรรมชาติที่ปูบนพื้นหินอ่อนเรียบลื่นไร้เส้นผมและเศษผลง เตาผิงไฟฟ้าติดผนังช่วยเพิ่มความอบอุ่น อีกทั้งเก้าอี้และโซฟาแบบมินิมอลทำให้บ้านที่กว้างดูกว้างขึ้นอีก
เติมความสมบูรณ์แบบด้วยภาพวาดและประติมากรรม ราฮีเริ่มศึกษาเรื่องศิลปะและซื้อมาเก็บไว้ เป็นผลงานของศิลปินหน้าใหม่ที่มีค่าพอให้ลงทุน
กระเบื้องแต่ละแผ่นที่ปูที่พื้น ผนัง กระทั่งนาฬิกา ล้วนผ่านมือราฮีมาหมด ทุกๆ ที่ภายในบ้านเปี่ยมด้วยความเอาใจใส่และตาถึงของเจ้าของบ้าน แต่ในความเป็นจริงกลับขาดสิ่งหนึ่งที่สำคัญไป นั่นก็คือความอบอุ่น
ในหน้าจอทีวีจอแบนขนาดร้อยนิ้วที่แขวนอยู่กับผนังหินอ่อนเหมือนผลงานศิลปะกำลังฉายข่าว ราฮีที่นอนตะแคงอยู่บนโซฟาเอื้อมมือไปบนโต๊ะ ล้วงหยิบมันฝรั่งแผ่นหนึ่งกำ เคี้ยวกร้วมๆ เศษมันฝรั่งร่วงหล่นตามพื้นและโซฟา หลังจากนั้นก็ยันตัวลุกขึ้นไปดื่มโคล่าอั้กๆ
“เอิ๊ก”
เสียงเรอดังออกมาจากปากของราฮี
[ผลที่ได้ลับจากนโยบายนี้ทำให้อัตตาการเกิดสูงขึ้นจริงหรือไม่ ยังเป็นที่เคลือบแคลง นักข่าวอีจีซูรายงาน]
“‘อัตรา’ ไม่ใช่ ‘อัตตา’ ย่ะ! ไม่รู้จักควบกล้ำหรือไง มันต้องออกเสียงว่าอัตรา! มันต้องออกเสียงควบกล้ำ ร เรือด้วย! อัตรา, มาตรา, เงินตรา! ยัยโง่!”
ราฮีเสียงแหวใส่ทีวี
“แล้วก็ผลได้ที่ได้ ‘ลับ’ มันต้องออกเสียงว่าผลที่ได้ ‘รับ’ ไหม ไม่ได้เรียนมาหรือไง! นั่งตรงนั้นมากี่ปีแล้ว ยังไม่พัฒนาอีก ยัยโง่ อย่าเที่ยวไปบอกใครนะว่ารับช่วงต่อชเวราฮี ไปฝึกออกเสียงมาใหม่ไป๊!”
หลังจากตวาดใส่ผู้รับตำแหน่งต่อตัวเองจากข่าวในทีวีราวกับเขาอยู่ตรงหน้าแล้ว ราฮีก็กดเปลี่ยนช่องด้วยความโมโห
[นี่เป็นครีมแอร์โฮสเตสส์ที่กำลังโด่งดัง ทุกท่านสงสัยใช่ไหมล่ะคะทุกครั้งที่เวลาขึ้นเครื่อง บนฟ้า ในเครื่องบินที่เป็นสถานที่ปิด ทั้งแคบ ทั้งอึดอัด และปิดสนิท สภาพอากาศจะแห้งสักแค่ไหน]
“เฮ้อ อะไรอีก ก็รู้อยู่แล้วไหม ความหมายเดียวกันจะพูดซ้ำๆ ทำไม!”
[อยากรู้เคล็ดลับของผิวแอร์โฮสเตสส์ที่ยังคงชุ่มชื่น เรียบลื่น ไม่แห้งกร้าน ทั้งที่ทำงานบนเครื่องบินเป็นสิบชั่วโมงกันใช่ไหมคะ วันนี้เราจะเผยเคล็ดลับครีมที่ถ่ายทอดกันอย่างลับๆ ของแอร์โฮสเตสส์ให้ได้ทราบกัน]
“ถ่ายทอดอย่างลับๆ อะไรกัน ยัยทึ่ม!”
ราฮีกดปิดทีวี โยนรีโมตลงบนโซฟา และลุกพรวดพราดไปเปิดหน้าต่างห้องรับแขกออกไปข้างนอก ยืนถอนหายใจยาวหน้าราวระเบียง สีฟ้าจากแม่น้ำฮันกระเพื่อมเป็นลอนคลื่นอยู่ไกลๆ
ระเบียงวิลล่าที่มองเห็นแม่น้ำฮัน ด้วยกำลังทรัพย์ของคนธรรมดาเป็นสถานที่ที่ไม่อาจใฝ่ฝันได้ตลอดชีวิต
สำหรับราฮี หมู่บ้านคนรวยอย่างพยองชังดง ซองบุกดงนั้นเชย ส่วนอับกูจอง ชองดัมก็เต็มไปด้วยแสงสี
แต่ละแวกบ้านเธออยู่ฝั่งเหนือของแม่น้ำฮันนั้นเงียบๆ มองลงมาเห็นแม่น้ำฮัน มีสะพานเชื่อมกับคังนัม เป็นสถานที่ที่สามารถใช้ชีวิตได้อย่างสงบสุขและสะดวกสบาย
ฮันนัมดงเป็นที่ที่นักธุรกิจรุ่นใหม่ นักการทูต ดาราที่ประสบความสำเร็จมาอยู่รวมกัน เป็นย่านที่ถูกกับรสนิยมของราฮีที่แสวงหา ‘สมบัติที่หรูหรา’ และ ‘อำนาจทางการเงินที่มีความภูมิฐาน’
แค่การได้อาศัยอยู่ที่นี่ก็รู้สึกเหมือนชีวิตประสบความสำเร็จแล้ว เคยต้องอดทนอยู่กับครอบครัวพ่อแม่สามี และเครียดมาก หลังจากนั้นก็ได้แยกออกมา เธอออกมาที่ระเบียงจ้องมองสีฟ้าของแม่น้ำฮันด้วยใจที่ยินดีอย่างท่วมท้น ไม่น่าเชื่อว่าตัวเองจะทำสำเร็จ
จะตอนนั้นหรือตอนนี้ ทิวทัศน์ยามค่ำคืนยังคงงดงามไม่เปลี่ยน วิลล่าในฮันนัมดงนับวันยิ่งมีมูลค่าสูงขึ้น แค่ทำไมในใจถึงได้อึดอัดแบบนี้
“เฮ้อ”
ราฮีถอนหายใจยาวโดยไม่รู้ตัว
“มีคนที่จะแต่งงานด้วยแล้วงั้นเหรอ”
เธอรู้ดีถึงสาเหตุของการถอนหายใจ
“รยูจีฮวันจะแต่งงาน?”
ขนบริเวณข้อมือที่โผล่พ้นคาดิแกนบางซึ่งสวมทับบนชุดตัวยาวลุกขึ้นโดยไม่รู้ตัว ไม่รู้เป็นเพราะลมที่พัดมาจากแม่น้ำฮันหรือภายในที่หวิวๆ ของราฮีกันแน่ ภาพที่เห็นเมื่อตอนกลางวันย้อนกลับมาอย่างชัดเจน
จีฮวันโอบไหล่ผู้หญิงคนนั้นอย่างเป็นธรรมชาติ จีฮวันมองผู้หญิงคนนั้นด้วยความเอ็นดู ผู้หญิงคนนั้นที่ควงแขนเขาด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ ด้านหลังของทั้งคู่ที่จับมือกันเดินไป
ตอนแรกนึกว่าไม่ใช่จีฮวัน เพราะผู้หญิงที่อยู่ข้างๆ ไม่คิดฝันว่าผู้ชายอย่างจีฮวันจะมีผู้หญิงที่หัวเราะไร้สาระ พูดมากไม่หยุด แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าเก่าๆ หน้าไม่แต่งอยู่เคียงข้าง เพราะจีฮวันเป็นผู้ชายที่เคยคบกับชเวราฮี ระดับชเวราฮีถึงจะเป็นผู้หญิงที่คู่ควรกับคนระดับจีฮวัน
“ผู้หญิงอะไรไม่แต่งหน้าออกมาจากบ้าน ยอมให้แฟนเห็นหน้าสดได้ยังไง อาจจะใกล้ชิดสนิทสนมจนเห็นกันมาหมดแล้ว? หรือว่า…”
ราฮีกัดริมฝีปากเบาๆ ราวกับไม่แน่ใจ
“จะอยู่ด้วยกันแล้ว…”
ราฮีรีบปิดปาก ตกใจกับสิ่งที่ตัวเองโพล่งออกมา จริงๆ ก็ไม่แปลก ต่อไปแต่งงานก็ต้องอยู่ด้วยกันอยู่แล้ว แต่จีฮวันที่เธอรู้จักไม่ใช่ผู้ชายที่จะยอมอยู่ด้วยกันก่อนแต่งเป็นอันขาด
“กับผู้หญิงแบบนั้น…รยูจีฮวันคบกับผู้หญิงแบบนั้นได้ยังไง…ถึงจะเสียใจที่เลิกกับฉัน แต่ไปคบกับผู้หญิงแย่ๆ แบบนั้นได้ยังไง…ไม่จริง เป็นไปไม่ได้”
ราฮีส่ายหน้าอย่างแรง ความสงสัยค่อยๆ เปลี่ยนเป็นความมั่นใจ เธอกัดริมฝีปากเดินวนไปมาที่ระเบียง
“ใช่ อาจจะพยายามทำให้ดูเป็นแบบนั้น โกหกว่าจะแต่งงาน เพราะอยากให้เห็นว่าไม่มีเราก็สบายดี…”
ราฮีหยุดเดินพลางแค่นยิ้ม ไม่มีทาง รยูจีฮวันที่เกลียดการล้อเล่นและการโกหก คนอย่างเขาน่ะเหรอจะยอมโกหกเรื่องใหญ่อย่างเรื่องแต่งงาน
แล้วความคิดของราฮีก็พลันต้องหยุดชะงัก เมื่อเสียงออดประตูดังขึ้น
ราฮีสะดุ้งตกใจ รีบวิ่งกลับเข้าไปในห้องรับแขก กวาดถุงขนมและกระป๋องโคล่าที่วางอยู่บนโต๊ะลงใต้โซฟา สำรวจตัวเองในกระจก หยิบลิปกลอสจากในกระเป๋าคาดิแกนออกมาทา ลูบผมให้เรียบร้อย ทั้งหมดใช้เวลาไม่ถึงสามสิบวินาที
ราฮีถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง เป็นเสียงคนขับรถชเวที่ตอบกลับมา
“ใครคะ”
“คุณผู้หญิง ผมคนขับรถชเวเองครับ”
ราฮีถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนเปิดประตู กลิ่นเหล้าตีเข้ามาหึ่ง ซองบอมถูกคนขับรถชเวประคองเอาไว้ ไม่น่าใช่ประคอง เรียกว่าแทบจะแบกเลยมากกว่า
มองซองบอมที่สภาพดูไม่ได้ ผมเผ้ายุ่งเหยิง เน็กไทคลายไปครึ่ง เสื้อเชิ้ตหลุดลุ่ย ทั้งกลิ่นเหล้า กลิ่นบุหรี่ กลิ่นน้ำหอมตีกันไปหมด ราฮีถึงกับขมวดคิ้วนิ่วหน้า
“ขอโทษด้วยนะครับคุณผู้หญิง”
คนขับรถชเวกระสับกระส่ายกล่าวขอโทษทั้งที่ไม่ใช่ความผิดตัวเอง ในหนึ่งปีมีสามร้อยหกสิบห้าวัน นับวันที่ซองบอมไม่ดื่มจะง่ายกว่า ธุรกิจก่อสร้างขึ้นชื่อเรื่องดื่มและมีการเลี้ยงรับรองเยอะ แต่สำหรับเขาไม่ได้ดื่มเพราะเรื่องงาน เป็นเพียงข้ออ้างที่จะออกจากบริษัทไปดื่มเหล้าเท่านั้น
“ไม่หรอกค่ะ คนขับรถชเวคงลำบากมากเลยสินะคะ ว่าแต่วันนี้งานเลี้ยงเลิกเร็วเหรอคะ”
ไม่ใช่ราฮีไม่รู้ การเลี้ยงรับรองในโลกของธุรกิจมีเดือนละสองสามครั้ง ส่วนใหญ่ก็จะย้ายไปตามร้านเหล้าหรูที่มีห้องส่วนตัวให้ดื่มไปเรื่อยๆ และจะดื่มกันถึงประมาณตีสองถึงตีสาม แต่วันนี้ยังไม่สี่ทุ่มก็กลับมาแล้ว ท่าทางจะซัดหนักตั้งแต่หัววัน
“ความจริงวันนี้คุณผู้ชายอารมณ์ไม่ค่อยดี ตอนบ่ายถูกท่านประธานเรียกไปประชุมผู้บริหารด่วน กลับมาก็…”
ท่าทางจะโดนประธานโอผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารเล่นงานมา เพราะการทำอะพาร์ตเมนต์ให้เช่าในคยองกีโดทำให้บริษัทก่อสร้างของบูคยองเป็นข่าวนานหลายวัน และคนที่รับหน้าที่ในการประมูลการก่อสร้างก็คือซองบอม ความสามารถยังไม่ถึง แต่ก็ยังยืนกรานที่จะทำ
ราฮีไม่ชอบใจแต่ก็เดินเข้าไปจับแขนซองบอม
“คุณซองบอม เข้าบ้านค่ะ”
ซองบอมเงยหน้าขึ้นมามองราฮี คลายคิ้วที่ขมวดก่อนหน้านั้น น้ำลายไหลจากริมฝีปากที่ยิ้มหวาน
“อ้า คนสวย ตะ ต้องให้ทิป คนสวยของพี่”
ราฮีหน้าตึงขึ้นมาทันที คนขับรถชเวรีบหลบสายตาเลิ่กลั่ก
“พี่จะให้ทิปนะจ๊ะคนสวย หึๆ”
ราฮีหลับตาแน่นกับการดูหมิ่นที่ถาโถมเข้าใส่ รู้สึกเหมือนมีแมลงไต่แขนขา ราฮีคว้าซองบอมที่โงนเงนหากระเป๋าตังค์เอาไว้แน่น จิกเล็บลงบนข้อมือ สะกดอารมณ์อย่างยากลำบาก
“คนขับรถชเว วันนี้เหนื่อยมามากแล้ว กลับไปเถอะค่ะ”
“ให้ผมพาคุณผู้ชายไปส่งที่ห้องนอน…”
“ไม่เป็นไรค่ะ ไปพักผ่อนเถอะ”
“เฮ้ย กระเป๋าตังค์ไปไหนวะ จะให้ทิปคนสวยซะโหน่ยยย”
แม้จะยิ้มแต่น้ำเสียงของราฮีนั้นเย็นยะเยือก คนขับรถชเวรีบโค้งศีรษะถอยออกไป ทันทีที่ประตูบ้านปิดลง ราฮีก็ปล่อยมือที่จับอยู่ ซองบอมที่ยืนโงนเงนอยู่จึงหน้าคะมำ
ซองบอมล้มกลิ้งไปกับพื้นเสียงดังโครม ตะเกียกตะกายอยู่สักครู่ก็หลับไปทั้งอย่างนั้น เดิมทีแค่หัวถึงพื้นก็หลับแล้ว นี่ยิ่งเมาเหล้ายิ่งไม่ต้องพูดถึง น่ามหัศจรรย์ คนอะไรหลับได้อย่างไรภายในเวลาไม่ถึงสิบวินาที
“คร่อกฟี้ คร่อกกกก…”
ตัวใหญ่เกือบร้อยกิโลนอนตะแคง ในขณะที่ส่งเสียงกรนออกจากจมูกและปาก ราวกับสัตว์ไม่ใช่คน
ไม่ใช่สัตว์กินเนื้อที่ดุร้ายและปราดเปรียว แต่เป็นสัตว์ที่ทั้งตัวมีแต่ไขมันอย่างสิงโตทะเล สัตว์ที่เดินไม่ได้ วิ่งไม่ได้ ใช้คลานด้วยท้อง เอาแต่กินทั้งวัน ขับถ่ายแล้วก็ผสมพันธุ์ สายตาของราฮีที่จ้องมองสามีที่นอนอยู่เต็มไปด้วยความดูถูกและเกลียดชัง
“ไอ้บ้าเอ๊ย”
อยู่ๆ ซองบอมก็สบถออกมา ราฮีตกใจ แต่เขาไม่ได้ด่าตนเอง
“ไอ้สารเลว…บริหารเก่งนักเหรอ ไอ้ชั่ว มาบอกว่าจะตัดฉันทิ้ง! ถ้าฉันได้เป็นประธานเมื่อไหร่ ฉันจะจัดการแกก่อนเลย…คร่อกฟี้…”
ซองบอมที่นอนกลิ้งอยู่บนพื้นสบถคำด่าออกมา สองมือกำหมัดฮึดสู้ละเมอเตะต่อย ท่าทางจะเกลียดประธานกรรมการโอมากทีเดียว สภาพแขนขาที่ดิ้นไปมาเหมือนหมูป่าถูกยิงไม่มีผิด
ราฮีก้มมองซองบอมอยู่สักครู่ก็ถอนหายใจออกมา อย่างไรก็ได้ชื่อว่าเป็นสามี ด้วยหน้าที่ทำให้ปล่อยให้นอนอยู่กับพื้นในชุดทำงานไม่ได้ ราฮีย่อตัวลงนั่งพลางเขย่าตัวซองบอม
“คุณซองบอม ตื่นเถอะค่ะ เข้าไปนอนข้างใน”
“คร่อกฟี้”
“คุณซองบอม! ตื่นค่ะ! ฉันแบกคุณไม่ไหวนะ!”
ราฮีเขย่าหน้าอกซองบอม ซองบอมสะดุ้งตื่น พลิกตัวมาหรี่ตามองราฮี แล้วคว้าเธอเข้าไปกอด ราฮีตกใจผลักเขาเต็มแรง ประหนึ่งปัดแมลงออกจากตัว
ราฮีจับขาทั้งสองข้างของซองบอมลากไปยังห้องนอนราวกับลากหมูป่า เขาตัวหนักมากทำให้ลากไปอย่างลำบาก เป็นครั้งแรกที่นึกเกลียดบ้านกว้างๆ
“แฮ่ก อีกนิด ไม่ไหวแล้ว แฮ่ก…”
หลังจากลากซองบอมเข้ามาในห้องนอนอย่างยากเย็น ราฮีก็เหงื่อโทรมทิ้งตัวลงนั่งอย่างหมดแรง เป็นไปไม่ได้แน่ที่จะเอาเขาขึ้นเตียง
ราฮีกลิ้งซองบอมไปให้นอนบนฟูกบางๆ จากนั้นก็เริ่มถอดเสื้อผ้า หลังจากถอดท่อนบน มือที่ถอดกางเกงของราฮีก็หยุดชะงัก กางเกงในถูกใส่กลับด้าน
ราฮีค่อยๆ ดึงกางเกงในขึ้นด้วยสีหน้าเหมือนไปจับเอาก้อนเชื้อโรค หลังจากเช็คกางเกงใน ราฮีก็โยนผ้าห่มบางๆ ลงบนพุงของซองบอมแล้วออกไปจากห้องนอน
ราฮีหยิบกระป๋องโคล่าใต้โซฟาดื่มโคล่าที่เหลืออีกครึ่งอั้กๆ โคล่าที่ไหลหกออกมาเลอะเดรสผ้าไหมสีขาวเป็นดวงๆ ราฮีมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยสายตาที่เหม่อลอย
ตอนนี้จีฮวันกำลังทำอะไรอยู่ที่ไหนนะ จะคิดถึงเธอเหมือนที่เธอคิดถึงเขาไหม ได้แต่หวังให้เป็นเช่นนั้น ถ้ามีแต่ตัวเองคนเดียวที่คิดถึงจีฮวัน มันคงรู้สึกเสียศักดิ์ศรีและไม่ยุติธรรม
กร๊อบ เสียงบีบกระป๋องเปล่าดังก้องบ้านที่กว้างใหญ่
[1] พยอง หน่วยวัดพื้นที่ในแบบเกาหลี 1 พยอง = 3.30589 ตารางเมตร