บทที่ 72-2 ความบังเอิญทับซ้อนสร้างความเข้าใจผิด
ทันทีที่จีฮวันเข้ามาในบ้าน จากูที่กำลังเลียของเล่นก็วิ่งมาหาและเลียเท้าเขาไม่หยุด จีฮวันยืนเหม่อ ไม่คิดจะผลักจากูออก
“เฮ้อ เรานี่ ชอบคุณลุงเค้าขนาดนั้นเลยเหรอ ลองโทรหาแม่ดูกันดีกว่าว่าจะกลับเมื่อไหร่”
ชางซอกหยิบมือถือที่วางเอาไว้บนโต๊ะกินข้าว ได้โปรด รับหน่อยเถอะ จีฮวันเฝ้าดูด้วยจิตใจกระวนกระวาย
“เอ๋? ปิดมือถือ ท่าทางแบตคงจะหมด เฮ้อ เจ้าลูกคนนี้ ไปไหนมาไหนน่าจะดูแบตหน่อย…”
ชางซอกส่ายหน้า
“ลูกสาวของผมก็แบบนี้แหละครับ”
“เขาไม่ได้บอกหรือครับว่าจะกลับมาเมื่อไหร่”
“ครับ บอกแค่ว่าจะไปค้างคืนนึง แล้วก็จะกลับมาวันนี้ ฮ่าๆ”
ภายในอกที่มองชางซอกหัวเราะอย่างอารมณ์ดีของจีฮวันรุ่มร้อนไปหมด
ตีหนึ่งหนึ่งนาทีก็วันนี้ ห้าทุ่มห้าสิบเก้านาทีก็วันนี้เหมือนกัน อยากถามว่ายังสบายใจอยู่ได้อย่างไรกัน ลูกสาวไปทำอะไรอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ ยังหัวเราะออกอีกเหรอ
“คุณจีฮวันกินมื้อเช้าหรือยัง กินด้วยกันก่อนสิ เพิ่งทำเสร็จเลย”
“เอ่อ ไม่เป็นไรครับ ผม…”
“แหม ไม่ต้องเกรงใจ จัดโต๊ะไว้แล้ว แค่วางตะเกียบเพิ่มอีกคู่”
เลยต้องนั่งกินข้าวกันสองคนกับชางซอกอย่างช่วยไม่ได้ ไม่ได้รับรู้กลิ่น มีแต่รสชาติที่ไหลลงคอไปเท่านั้น โดยเฉพาะซุปถั่วงอกแก้แฮงก์!
ทั้งต้มเนื้อจนถึงซุปถั่วงอก เพราะอาหารแก้แฮงก์ของชางซอกทำเอาจีฮวันเหงื่อแตกพลั่ก ขณะกินเข้าไปสองชาม
* * *
หลังจากกินข้าวเช้าที่บ้านอึนคังที่ไม่มีอึนคังโดยไม่ได้ตั้งใจ จีฮวันก็เอามือถือที่พังไปจัดการที่ศูนย์ซ่อมชั้นหนึ่ง
จีฮวันได้มือถือชั่วคราวมาใช้หลังจากส่งซ่อม ตอนที่เดินออกมาจากศูนย์ซ่อม แท็กซี่คันหนึ่งก็เข้ามาจอด
จีฮวันที่เผลอหันไปมองแท็กซี่คันนั้นแล้วหันกลับมามองมือถือที่ได้มาใช้ชั่วคราวถึงกับชะงัก และหันกลับไปมองทางนั้นอีกครั้งอย่างช้าๆ
มีชายหญิงลงมาจากแท็กซี่ ผู้หญิงคืออึนคัง ส่วนผู้ชายคือยองอู? ยองอู หมอที่โรงพยาบาลสัตว์? จีฮวันตกใจย่อตัวหลบหลังป้ายโดยอัตโนมัติ ไม่รู้ทำไมต้องแอบ แต่ก็ไม่ทันแล้ว
“ว้าว เก้าโมงห้าสิบนาที! ถึงแล้ว เหลืออีกตั้งสิบนาที! เอาไปเลยสิบคะแนน!”
“นั่นสิครับ ถึงจะไม่มีผ่าตัดเช้า แต่ยังไงก็โชคดีที่ไม่สาย ถ้าผมไม่นอนตื่นสาย ก็คงมาถึงเร็วกว่านี้”
“แหม นั่นความผิดคุณหมอเหรอคะ ควรจะได้นอนแต่โดนฉันลากมากินแชมเปญ ความผิดของฉันเองค่ะ”
“ไม่หรอกครับ ผมสนุกมาก”
“งั้นก็โชคดีไป! รีบไปเถอะค่ะ ได้เวลาต้องไปตรวจแล้ว”
“ครับ คุณนักเขียนก็พักผ่อนให้สบายนะครับ”
บรรยากาศคุยกันถูกคอเกินบรรยาย หลังจากอึนคังกับยองอูหัวเราะและแยกจากกันแล้ว จีฮวันยังนั่งอึ้งอยู่หลังป้าย มองตามหลังอึนคังที่เดินสะพายเป้อย่างกระฉับกระเฉงไป
เมื่อกี้พูดอะไร นอนดึกเพราะกินแชมเปญ? อึนคังบอกว่าให้ยองอูกินแชมเปญ? จีฮวันนั่งอึ้งอยู่อย่างนั้น บทสนทนาระหว่างทั้งคู่ยากเกินจะเข้าใจ
ยิ่งอึนคังเดินห่างออกไป ความปวดแปลบในหัวใจก็ยิ่งมากขึ้น
* * *
“อ้าว กลับมาเช้าขนาดนี้ได้ยังไง”
ชางซอกตกใจ อึนคังยิ้มให้เล็กน้อย
“ทำไมคะ หนูไม่อยู่ คุณป้าที่เจอที่สวนริมทะเลสาบจะมาเที่ยวหรือไง”
“คุณป้าอะไรกันเล่า โทรไปก็ปิดเครื่อง อ้อ! คุณจีฮวันมาหาแน่ะ”
มือของอึนคังที่กำลังนั่งย่อคลายเชือกรองเท้าผ้าใบหน้าประตูชะงักค้าง
“มาเมื่อไหร่”
“สามสิบนาทีก่อนได้มั้ง เห็นว่าโทรศัพท์เสีย ติดต่อลูกไม่ได้ เลยมาหาแต่เช้า พ่อเลยชวนกินข้าวด้วย”
“ทำไมต้องชวน!”
อึนคังเสียงดังลั่น
“ที่นี่เป็นโรงทานหรือไงคะ ทำไมให้เขาเข้ามากินข้าวที่บ้าน! เสียดายข้าว!”
“คุณจีฮวันไปทำอะไร เขาก็เป็นเพื่อนบ้านแล้วก็เป็นเพื่อนร่วมงานลูก ตอนลูกไม่สบายก็เอายา เอาโจ๊ก ซื้อมาให้กระทั่งปรอทวัดไข้ เป็นคนที่ควรจะขอบคุณด้วยซ้ำนะ”
“ปรอทห่วยๆ ของหมอนั่น! ซื้อมาแค่สองอัน จะยกบ้านตอบแทนเขาเลยไหม!”
อึนคังผูกเชือกรองเท้ากลับ
“หนูไปข้างนอกเดี๋ยวนะคะ”
“เพิ่งมาจะไปไหนอีก กลับมาเหนื่อยๆ ไม่นอน!”
“เอาค่าปรอทไปคืน!”
อึนคังปิดประตูโครมออกไป ชางซอกและจากูสบตากันอย่างงงๆ
“จากู แม่เราว่าอะไรนะ”
อึนคังฟึดฟัดลงบันไดหนีไฟไป
“มาทำเป็นคนดีที่บ้านคนอื่น บุกมากินข้าวโดยที่เจ้าของบ้านเค้าไม่อยู่! มาทำไม ก็ไปขอข้าวแฟนเก่าที่หัวร่อต่อกระซิกกินเหล้าด้วยกันยันเที่ยงคืนกินสิ!”
อึนคังก่นด่าพลางเดินลงบันไดไป เหลืออีกขั้นจะถึงที่พักบันไดก็หยุดเดิน จีฮวันกำลังเดินขึ้นบันไดมาจากชั้นสิบสี่
อึนคังหยุดยืน จีฮวันขึ้นมาถึงที่พักบันได ความห่างหนึ่งขั้นบันไดทำให้ทั้งคู่ยืนสบตากันพอดี ในดวงตาที่ต่างคนต่างจ้องตากัน ผสมปนเปไปด้วยความรู้สึกมากมาย ทั้งความแค้น ความเสียใจ และความสงสัย
บทที่ 73-1 ราวกับแข่งกันว่าใครเป็นคนขี้ขลาดกว่า
ทั้งอึนคังและจีฮวันไม่มีใครเปิดปากก่อน ได้แต่จ้องกันไปมา ความตึงเครียดอัดแน่นบันไดหนีไฟ ผ่านไปหลายนาที
ในที่สุด ฝ่ายแพ้ก็คือคนพูดมากที่ใจร้อนและทนเงียบไม่ไหว อึนคังที่เก็บทุกอย่างเอาไว้ทนไม่ได้อีกต่อไปจึงเปิดปากพูดออกมา
“มาบ้านฉันทำไมคะ”
คำพูดช่างกระด้างไม่มีความน่ารัก
“จะไปทำไมล่ะครับ ก็ไปหาคุณพ่อไง”
เฮอะ กวนประสาท น่าโมโห ดูพูด
“มาหาฉันทำไมแต่เช้าคะ”
“ก็ต้องมาไม่ใช่เหรอครับ ก็เมื่อวานผมไปตามสัญญาไม่ได้…”
“รู้สึกผิดด้วยเหรอคะ”
“พูดอะไรแบบนั้น ก็ต้องรู้สึกผิดอยู่แล้วสิครับ! แต่ก็รู้นี่ครับว่าผมไม่ได้ทำลายสัญญา ข้อความที่พยายามส่งไปตั้งแต่กลางวันก็ไม่ตอบ โทรไปก็ไม่รับ จะเรียกแท็กซี่ไปก็ต้องรู้ที่ตั้งของเพนชั่น! จะให้ผมตระเวนไปทั่วกาพยอง ชองพยอง ยางพยองเลยงั้นเหรอ ติดต่อไม่ได้เลย พอหลังเที่ยงคืนมือถือก็ดับไปอีก…”
“ก็บอกว่าจะตามมาแน่ๆ! ถึงจะดึกสามทุ่มก็จะมาไม่ใช่เหรอคะ!”
“ผมก็วางแผนไว้อย่างนั้น! แต่จะให้ทำยังไง ผมเองก็ไม่รู้ว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนั้น ไม่ได้คาดคิดว่าพวกกรรมการบริษัทจะมาสัมภาษณ์ก็เลย…”
“ไหนบอกไปเจอตัวแทนจัดหางานไง!”
“ครับ ไปเจอตัวแทนจัดหางาน”
อึนคังจ้องจีฮวันเขม็ง โกหก ไหนว่าเป็นคนรักษาคำพูด ต่อให้ตายก็ไม่โกหก
“อยู่กับตัวแทนจัดหางานจนถึงเที่ยงคืนเลยงั้นเหรอคะ”
“ก็ใช่น่ะสิครับ”
“กินเหล้าจนเมากับเขาด้วยใช่ไหม”
“ครับ!”
จีฮวันทำหน้าถามซ้ำว่าถามอะไร ผู้ชายหน้าด้าน! โกหกตาใส!
“เฮ้อ…”
อึนคังถอนหายใจยาว
“แล้วคุณนักเขียนล่ะครับ เมื่อวานทำอะไร”
“จะทำอะไรล่ะคะ! ก็มาเปิดประตูสวนสนุกสุดหรรษารอแขกเก้อ ร้องไห้คนเดียวจนเหนื่อยแล้วก็หลับไปไงคะ!”
อึนคังเสียงลั่น
ให้ตาย ดูผู้หญิงคนนี้สิ โกหกแล้วยังมีหน้ามาถลึงตาทำท่าจะจับกินอีก แถมยังมาทำเสียงแบบนี้
“คนเดียวเหรอครับ”
จีฮวันจ้องด้วยสายตาสงสัย อึนคังร่ายยาวเป็นชุด
“พูดอะไร อยู่คนเดียวจะมีสองคนได้ยังไง ในเมื่อคนที่สัญญาเป็นมั่นเหมาะว่าจะมา กลับหายเงียบไปทั้งวัน แถมยังเมาอีก”
พูดนู่นนี่ ตัวเองก็ไปกินแชมเปญกับคุณหมอจียองอูเหมือนกัน! จียองอูไม่ใช่คน เป็นผีงั้นเหรอ ค้างที่เพนชั่นและนั่งแท็กซี่กลับมาด้วยกันไม่ใช่หรือไง! แบบนั้นมันคนเดียวอย่างไรกัน
“หึ…”
จีฮวันแค่นหัวเราะ อึนคังฉุน
“ท่าทางแบบนั้นคืออะไร”
“ท่าทางผมทำไมครับ ท่าทางของคุณนักเขียนก็ไม่ใช่ย่อยเหมือนกันนี่ครับ”
“ใครกันแน่ที่ผิด แล้วยังมาทำท่าทางแบบนั้นอีก ฉันบอกว่าจะไปเปิดสวนสนุก อุตส่าห์จองทั้งรถไฟแล้วก็เพนชั่น…”
“นึกว่าผมไม่อยากไปเหรอ ผมเองก็อุตส่าห์ไปซื้อของมาเตรียมไว้เยอะแยะขนาดไหน ทั้งเนื้อกับกุ้งที่จะทำให้คุณนักเขียนกิน ทั้งผลไม้แล้วก็ไวน์ กระทั่งช็อกโกแลตกับเยลลี่ที่คุณนักเขียนชอบ! ซื้อกระทั่งกล่องเก็บความเย็นเอาไว้ใส่ไม่ให้มันละลาย!”