“เจ้า!”
เขาไม่ไว้ไมตรีใดๆ ทั้งสิ้น และไม่ได้ขบคิดมากนัก ซัดฝ่ามือเข้าหานางทันที!
เหลียงชิวฉานก็ไม่ขยับ ปิดตาทั้งสองขณะน้ำตาสองสายหลั่งริน
แต่ฝ่ามือนี้ของหัวชิงกลับซัดโดนเพียงอากาศว่างเปล่า ไม่เพียงแค่โดนอากาศ ทั้งร่างกลับเอียงไปด้านข้าง…หลินเจี้ยนหรูมาขวางอยู่ข้างหน้าเหลียงชิวฉานในช่วงเวลาหน้าสิ่วหน้าขวาน มือทั้งสองโจมตีมาทางเขา หัวชิงที่พลังปราณแท้สลายอ้าปากกระอักเลือดออกมา ก่อนจะกระเด็นถอยหลังตกลงไป!
หลินเจี้ยนหรูสะบัดมือสังหารไปทั่วทุกทิศ ลูกศิษย์ที่เฝ้าระวังอยู่รอบด้านพากันร้องโหยหวน แขนขาถูกตัด เลือดสดไหลนอง!
“หลินเจี้ยนหรู!”
มู่จิ่วที่มองดูเหตุการณ์ทั้งหมดพลันตะโกนขึ้นอย่างเดือดดาล แววตาเย็นชา เลือดลมในร่างเดือดพล่านราวกระแสน้ำในแม่น้ำเจียง!
ขณะมองเขาที่อยู่ตรงหน้า พลังวิญญาณในร่างนางพลันไหลบ่าออกมาไม่หยุดดุจคลื่นตีทำนบแตก นางสะบัดฝ่ามือ กระโดดขึ้นกลางอากาศ ส่งพลังที่ถล่มภูเขาทลายทะเลไปยังกระหม่อมของหลินเจี้ยนหรูด้วยความเร็วอันไร้เทียมทาน!
“เจ้ารีบไป!”
ตอนที่เห็นมู่จิ่วเงื้อมือขึ้นมา เขาก็รู้แล้วว่าตนเองหนีไม่พ้น
หลินเจี้ยนหรูกัดฟันยืนตรง รอการโจมตีนี้มาทำลายกระหม่อมเขาอย่างสงบ เขาไม่โทษนาง นี่เป็นทางเลือกของเขา หากนี่เป็นจุดจบที่ลิขิตไว้ เช่นนั้นจะตายในน้ำมือนางเขาก็ไม่โกรธไม่เสียใจ
“เจ้าหลบไป!”
แต่ตอนนี้เอง เหลียงชิวฉานที่อยู่หลังเขาพลันเข้ามาขวางตรงหน้า ยังไม่ทันได้ตอบสนองอะไร ฝ่ามือของมู่จิ่วก็ซัดลงบนหัวของนาง ถึงแม้ตอนคับขันมู่จิ่วจะเก็บพลังวิญญาณลงไปตามสัญชาตญาณ แต่ไหล่ซ้ายของเหลียงชิวฉานกลับไม่โชคดีนัก
เหลียงชิวฉานร้องอย่างเจ็บปวด ก่อนจะหลับตาหงายหลังลงไปในหมู่เมฆ
หลินเจี้ยนหรูมองภาพนี้ด้วยความตะลึงงัน ทั้งร่างราวกับถูกแช่แข็ง!
“ศิษย์พี่ฉาน!”
เขาตะโกนพร้อมพุ่งลงไปที่พื้น ค่อยๆ ดึงนางเข้ามาหา
มู่จิ่วตามมาติดๆ มือทั้งสองซัดพลังวิญญาณเข้าหาเขาอีกครั้ง!
หลินเจี้ยนหรูไม่สนใจ มองเหลียงชิวฉานในอ้อมอกอย่างตกตะลึงท่ามกลางลมพัดแรง
เหลียงชิวฉานมองมู่จิ่วที่ยิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ยืดตัวพุ่งเข้าไปหาอีกฝ่าย มู่จิ่วถูกกอดรัดไว้ มือกดลงที่ช่วงอกของนาง จึงไม่อาจโจมตีออกไปได้!
“รีบไปสิ!” เหลียงชิวฉานตะโกนพลางกอดมู่จิ่วไว้แน่น
แววตาของมู่จิ่วแน่นิ่ง สลัดแขนนางออก ก่อนเข้าโจมตีหลินเจี้ยนหรูอีกครั้ง!
เหลียงชิวฉานพุ่งเข้าไปอีกครั้ง ครั้งนี้นางหลบไม่ได้ มู่จิ่วซัดฝ่ามือเข้าใส่กลางอกจนลอยไปกลางอากาศราวกับขนนก สุดท้ายร่วงลงบนพื้น ปิดตานอนตัวงอ ไม่ขยับเขยื้อนอีกแล้ว!
…ลู่ยาที่เสร็จสิ้นการค้นหากำลังหลับตานั่งขัดสมาธิอยู่ในคลื่นจิตพสุธา ตอนนี้เขากลับลืมตาขึ้นมาพร้อมชายชุดเขียวที่นั่งอยู่ข้างๆ!
หงจวินลุกขึ้นมาพูด “พลังวิญญาณของนางเคลื่อนไหวรุนแรง สูญเสียสัญชาตญาณเดิม เจ้าต้องรีบไปทันที!”
ลู่ยาลุกขึ้นมาทันควัน แต่ชายชุดเขียวที่อยู่ข้างๆ อาศัยพลังที่แข็งแกร่งกว่าหายไปในอากาศก่อนแล้ว…
“ศิษย์พี่ฉาน!”
หลินเจี้ยนหรูทะยานกลับมา ดวงตาเบิกกว้างเต็มไปด้วยความไม่อยากเชื่อ!
นางกลับตายเพื่อเขา?
ลำคอแห้งผากของเขาขยับขึ้นลง มองนางที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น จากนั้นมองไปทางมู่จิ่วท่ามกลางความพร่าเลือน สองเข่าพลันอ่อนแรง กัดฟันอุ้มร่างเหลียงชิวฉานหายตัวไปในเงามืด…
“อย่าให้เขาหนีไปได้!”
เสียงนี้ดังสะท้อนไปทุกทิศ เรียกสติของมู่จิ่วกลับมา แววตาของนางแข็งกร้าว ยกเท้าขึ้นหมายจะตามไป! แต่ตอนนี้เอง กลับมีมือคู่หนึ่งยื่นเข้ามา จี้สะกัดจุดนางด้วยความเร็วที่ไม่อาจมีใครเปรียบได้ จากนั้นดึงนางไปในทิศตรงกันข้าม…
ตอนที่ลู่ยาจับนางยังรู้สึกได้ถึงพลังวิญญาณที่เดือดพล่านในร่าง เขาไม่พูดพร่ำทำเพลง ลากนางกลับไปยังคลื่นจิตพสุธาทันที
นางเป็นบุตรีแห่งหกวิญญาณ ต้องพากลับไปยังคลื่นจิตพสุธาเท่านั้นถึงจะกำราบพลังวิญญาณของนางให้สงบได้ และสถานการณ์ของนางตอนนี้ ชัดเจนว่าวิญญาณมารในร่างสูญเสียการควบคุม หากเขามาช้ากว่านี้อีกก้าวหนึ่ง หลินเจี้ยนหรูต้องหนีไม่พ้น ถูกนางกำจัดจนวิญญาณแตกซ่านแน่!
เขาพานางไปพักยังห้องที่ลู่จีเคยอาศัย เตียงโต๊ะเก้าอี้ถูกจัดวางอย่างง่ายๆ เรื่องราวหลังจากที่พวกเขาพบหน้ากันแล้วจะยุ่งยากนัก แต่เดิมเขาคิดว่าจะรอจนผ่านไปหลายวัน สงบใจให้ได้หมดจดก่อนค่อยกลับสวรรค์ไปพบนาง ไหนเลยจะรู้ว่าความคิดคนหรือจะสู้ลิขิตฟ้า กลับเกิดเรื่องกับนางขึ้นในจังหวะนี้เสียได้! เมื่อรูปการณ์เป็นอย่างนี้แล้วเขาเลยต้องใช้เวลาเตรียมตัวเตรียมใจก่อน
หลินเจี้ยนหรูพาเหลียงชิวฉานออกจากแรกพยับ วิ่งไปข้างหน้าอย่างไม่คิดชีวิต ไม่รู้ว่าถึงไหนแล้ว เมื่อรู้สึกว่าด้านหลังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ตามมาจึงหยุดลงที่เนินเขาลูกหนึ่ง
เขารู้ว่าตนเองทำอะไรอยู่ ฆ่าจีหมิ่นจวิน ฆ่าจีเทียนอวี้ คนสำนักแรกพยับมาหนึ่งคนเขาก็ฆ่าหนึ่งคน! เขาไม่เสียใจที่เป็นศัตรูกับทุกคน ไม่เสียใจที่จะตายในเงื้อมมือมู่จิ่ว ถึงแม้สุดท้ายจะมีจุดจบคือการดับสูญ! แต่เขาไม่คิดเลยว่าในช่วงสำคัญสุดท้าย เหลียงชิวฉานที่เย็นชาต่อกันมาตลอดจะยอมตายแทนเขา…
หลินเจี้ยนหรูรู้สึกว่าจิตวิญญาณของเขายังคงวนเวียนอยู่ในเหตุการณ์นั้น ร่างทั้งร่างรู้สึกว่างเปล่า…
ตอนนี้ในสายตาเขามีเพียงเงาของนาง เป็นภาพตอนที่นางร่วงลงสู่พื้น!
เขาไม่เข้าใจว่าทำไมนางต้องทำเช่นนี้ แต่ใจเขาผุดความรู้สึกประหลาดขึ้นมา…
เขาเข้าใจว่าไม่มีใครในสำนักแรกพยับมองเขาเป็นมนุษย์คนหนึ่ง เข้าใจมาตลอดว่านางแกล้งทำดีด้วย คิดมาตลอดว่านางมีเป้าหมายอื่น ถึงแม้เห็นนางร้องไห้จะเป็นจะตายในถ้ำลมหนาว เห็นนางวิ่งวุ่นช่วยเขา เขาก็ไม่เคยคิดจะยอมรับนาง ไม่เคยคิดจะเชื่อนาง!
แต่ตอนนี้นางกลับใช้ชีวิตตนยืนยันความจริงใจกับเขา…
สุดท้ายแล้วเขาพลาดที่ตรงไหน…เขาเข้าใจว่าบนโลกใบนี้มีเพียงมู่จิ่วที่โง่เง่าเช่นนั้น ถึงจะดีกับเขาอย่างไร้เงื่อนไข เดิมทีนอกจากนางแล้ว ยังมีคนอื่นอีกหรือไม่?
“ข้าดีขนาดนั้นเลยหรือ?”
เขาพึมพำพลางนั่งลงบนพื้น สายตาพร่าเลือนเล็กน้อย
ทว่าเหลียงชิวฉานไม่มีหนทางตอบเขาได้อีกแล้ว
นางไม่อาจวิ่งวุ่นช่วยเขาได้อีกตลอดกาล!
เขายื่นมือไปจัดสาบเสื้อของนาง ดึงนางเข้ามากอดไว้ แล้ววิ่งออกไปไกลอย่างบ้าคลั่ง…
ทางด้านมู่จิ่วกำลังหลับลึกอย่างไม่รู้เนื้อรู้ตัว
จนในที่สุดนางเริ่มรู้สึกตัวลืมตาขึ้นมา ก็พบว่าตนเองมาอยู่ในห้องที่ไม่คุ้นเคยอีกแล้ว!
นางรีบลุกขึ้นมาสำรวจรอบๆ ด้านล่างมีเตียงหลังหนึ่ง แม้จะพบเห็นได้น้อยแต่ก็ดูออกว่าเป็นผ้าห่มไหมเนื้อดี รวมถึงหมอนและม่านมุ้ง! ม่านสวยงามยิ่งนัก เป็นลวดลายดอกไม้นานาพรรณ ห้องสร้างขึ้นจากหยก แต่ละชิ้นประณีตนัก ราวกับงานฝีมือของเทพ ในห้องมีโต๊ะเก้าอี้ครบครัน ส่วนใหญ่สร้างมาจากหยก มีไม้กำยานชั้นดีบ้าง แต่กลับทำเป็นของใช้ชั้นต่ำเช่นที่เหยียบเท้าเป็นต้น!
นางพลันนึกถึงห้องที่เจอชายชุดเขียวตอนอยู่ถิ่นทุรกันดารทางเหนือ!
ห้องนั้นก็แปลกประหลาดเช่นนี้
มู่จิ่วจึงนึกถึงคนที่พานางออกมาจากแรกพยับ คงไม่ใช่ว่าคนที่ลักพานางมาอีกครั้งนี้ก็คือเขาหรอกนะ?!
นางรีบย้อนความทรงจำช่วงก่อนจะหมดสติไปในสมองอีกครั้ง ใช่แล้ว…ตอนนั้นนางกำลังจะไล่ฆ่าหลินเจี้ยนหรู เป็นเขาที่จู่ๆ ปรากฏตัวออกมาพานางไป ในเมื่อหลินเจี้ยนหรูบอกว่าคนที่ให้พลังเขาคือชายชุดเขียว เช่นนั้นการที่ชายชุดเขียวออกมาช่วยให้เขาหลบหนีก็เป็นเรื่องที่เป็นไปได้! ที่แท้พวกเขาก็ลงเรือลำเดียวกันจริงๆ!
นางคืนสติมาทันที กระโดดลงจากเตียง
เมื่อครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ค่อยหยิบไข่มุกราตรีจากกำไลไม้มาวางบนฝ่ามือ
………………………