ตอนที่31คนรวย
พอหลินหยางพูดจบในร้านยาก็เต็มไปด้วยผู้คนมีทั้งคนที่เข้ามาซื้อยาและคนที่เข้ามามุงด้วยความสงสัยไม่ว่าคนที่เข้ามาก่อนหรือหลังต่างก็ถูกการพูดอภิปรายของหลินหยางดึงดูดให้ชวนติดตาม
หลินหยางพูดอธิบายไปประมาณหนึ่งชั่วโมงจึงหยุดหลายๆคนเริ่มฟังตั้งแต่ต้นจนจบ
“พ่อหนุ่มยังมีเรื่องเล่าต่ออีกไหม”คุณป้าหนึ่งในกลุ่มคนที่เข้ามามุงถาม
“แฮะๆวันนี้ขอพอเท่านี้ก่อนครับไว้ถ้ามีเวลาผมจะมาเล่าใหม่”หลินหยางตอบกลับอย่างสุภาพเพียงสั้นๆ
“น้องชายนายเป็นแพทย์แผนจีนหรอ?”คุณลุงคนที่เริ่มฟังหลินหยางเล่าคนแรกถามขึ้นมา
“ครับเรียกว่าเป็นก็ได้ครับ”หลินหยางพยักหน้าตอบ
“สิ่งที่นายพูดเมื่อกี้นับว่าดีมากเพียงแต่ว่าเอาแต่พูดไม่ได้แสดงให้เห็นก็ไม่มีประโยชน์หรอกใครจะไปรู้สิ่งที่นายพูดนั้นจริงหรือไม่”
“ครับที่พูดกับผมเมื่อสักครู่นี้มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ”
“ฉันน่ะไม่มีหรอกแต่ว่าวันนี้ฉันมาซื้อยาเธอคิดว่าฉันน่ะมีปัญหาเกี่ยวกับด้านไหนถ้าตอบถูกฉันจะเชื่อในสิ่งที่เธอเล่ามาเมื่อกี้นี้”คุณลุงถามต่อไป
เมื่อหลินหยางได้ยินก็ยิ้มในใจตอนที่ลุงคนนี้ตั้งคำถามนั้นเขาก็พอจะมองออกแล้วว่าเป็นอะไร
หลินหยางมองหน้าคุณลุงแล้วก็บอกว่า“ยื่นแขนของลุงมาครับผมขอจับชีพจรดูหน่อย”
“จับชีพจรหรือว่าพ่อหนุ่มนี่จะเป็นแพทย์แผนจีนจริงๆ”
“ก็ไม่แน่นะสิ่งที่เจ้าหนุ่มนี่พูดก็มีเหตุผลพวกเราลองพิสูจน์กันดูสิ”
“แพทย์แผนจีนที่ไหนจะหนุ่มขนาดนี้ดูไม่ออกเลยด้วย”
ผู้คนรอบๆถกเถียงกันแล้วพากันมองไปที่หลินหยางต่างรอให้หลินหยางแสดงฝีมือออกมา
ในเวลาเพียงสามนาทีสั้นๆหลินหยางก็ปล่อยมือออกแล้วก็มองคุณลุงอย่าพิเคราะห์แต่ไม่ได้รีบพูดสิ่งใดออกไป
“เป็นไงบ้างพ่อหนุ่มวินิจฉัยโรคออกไหม?”คุณลุงรีบถามออกไป
ตอนที่หลินหยางจับชีพจรของคุณลุงนั้นก็ดูไปที่ใบหน้าอันแสดงถึงความแข็งแรงสุขภาพแต่ซ่อนไปด้วยความซีดเซียวเสียงถึงแม้จะดูกังวาลแจ่มใสแต่กลับมีอาการขาดออกซิเจน
ร่างกายแลดูกำยำแต่เมื่อหลินหยางได้ตรวจจับดูชีพจรแล้วกลับไม่ได้ดูแข็งแรงอย่างที่เห็น
“คุณลุงครับเมื่อคืนนี้เจอศึกหนักมาทั้งคืนใช่ไหมครับ”หลินหยางถาม
คนรอบๆข้างเมื่อได้ยินก็แอบขำกันเบาๆผู้หญิงบางคนถึงกับหน้าร้อนผ่าวเด็กหนุ่มคนนี้ก็เพิ่งจะยี่สิบต้นๆเองทำไมถึงกล้าถามเรื่องแบบนี้ออกมา
เมื่อถูกหลินหยางถามแบบนี้คุณลุงคนนั้นหน้าหนาไม่ยอมรับตอบกลับไป“ให้เธอตรวจโรคมาถามเรื่องพวกทำไม?”
“ฟังจากน้ำเสียงของคุณแล้วไม่ได้มีความกระตือรือร้นฟังจากชีพจรของคุณแล้วมันฟ้องว่าเมื่อคืนคุณทำกิจกรรมมาทั้งคืนถึงแม่ว่าร่างกายจะยังดูแข็งแรงแต่ระบบประสาทของคุณไม่ได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอแล้วคุณลุงก็ไม่ใส่ใจสุขภาพตัวเอง”
“แล้วอีกอย่างที่สำคัญถึงแม้ว่าสีหน้าของคุณจะดูอิ่มเอิบแต่ว่าก็มีจุดที่แสดงให้เห็นว่ามีอาการซีดเซียวซ่อนอยู่สาเหตุมาจากรับประทานอาหารเสริมที่มากเกินไปและยาบำรุงกำลังผู้ชายด้วยถ้าผมเดาไม่ผิดวันนี้คุณจะมาซื้อยาบำรุงไต”หลินหยางพูดเนิบๆแต่ว่าปากของชายวัยกลางคนค่อยๆอ้าค้างเรื่อยๆ
“ร่างการของคุณก่อนหน้าก็ไม่ค่อยจะดีเมื่อเริ่มกำยาบำรุงร่างกายอวัยวะภายในมีการขยับขยายทำให้คนกินรู้สึกว่ามีกำลังวังชาแต่ว่าจากสาเหตุนี้ทำให้ภายในมีการสะสมตกค้างมากขึ้นทำร้ายอวัยวะภายในถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปไม่เกินสามปีคุณก็ไม่รอดแล้ว”
“คุณลุงที่ผมพูดนั้นถูกไหมครับ”หลินหยางถามเบาๆ
มองไปที่เด็กหนุ่มน่าจะมีอายุราวๆยี่สิบกว่าแม้ว่าใบหน้าจะยังเยาว์วัยแต่รอยยิ้มจางๆนั้นกลับทำให้คนที่มองมีความเชื่อมั่นดูมีเสน่ห์
“เหมือนที่เธอพูดมานั่นแหละช่วงนี้ฉันกินยาบำรุงเข้าไปมากเรื่องที่เธอพูดเมื่อกี้เป็นความจริงหรอที่กินยาบำรุงมากๆมันจะไปทำร้ายร่างกาย”ในขณะที่ชีวิตตกอยู่ในสถานการณ์ขับขันคนเราก็จะไม่มีการวางมาดชายวัยกลางคนถามหลินหยางอย่างร้อนลน
“แน่นอนว่าตอนนี้ตอนนี้ถึงจะกินยาบำรุงเข้าไปร่างกายก็ได้กลับมาดีเหมือนปกติเป็นความจริงไหมอันนี้คุณรู้อยู่แก่ใจ”หลินหยางพูดเบาๆพร้อมยิ้มแล้วก็ไม่สนใจชายวัยกลางคนคนนั้นเขาถือกระดาษออกมากางแผ่นสี่เหลี่หรูยมส่งไปให้พนักงานสาวคิดเงิน“รบกวนจัดยาให้ตามนี้ด้วยครับ”
หลินหยางมารอบนี้ก็เพราะว่าต้องการตัวยาที่สามารถเปลี่ยนสีของเม็ดองุ่นบนหน้าอกผู้หญิงตอนที่แยกกับหลี่หรูหล่อนกำชับไว้แล้วว่าต้องทำมาให้ได้เขาก็รับปากไปแล้วไม่อยากผิดคำพูดกับผู้หญิง
“ทั้งหมดหกร้อยบาทเธอได้รับราคาพิเศษนะเพราะมีบัตรลดลดห้าสิบเปอร์เซ็นต์ลดแล้วเหลือสามร้อยบาท”พนักงานสาวขายยาบอกพร้อมทั้งนำยาใส่ถุงแล้วยื่นส่งให้ปภา
เมื่อได้รับสมุนไพรมาแล้วหลินหยางจ่ายงินไปอย่างชื่นใจแต่ก็รู้ดีว่าลดครึ่งราคานั้นร้านยาต้องขาดทุนแน่ๆหลินหยางเองก็ไม่ได้อยากเอาเปรียบใครที่เขามาที่นี่ไม่ใช่เพราะว่ามีบัตรลดราคาแต่เป็นเพราะว่าที่นี่มีตัวยาที่เขาต้องการแล้วที่นี่ก็จำหน่ายยาอย่างยุติธรรม
ครุ่นคิดอยู่สักครู่มองไปที่หันเทียนอวี๋นที่อยู่ข้างๆหลินหยางก็บอกว่า“คุณอาครับก่อนหน้านี้เหมือนคุณอาจะเรียกหาผมมีแววตาที่สับสนไม่ทราบว่ามีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?”
หันเทียนอวี๋นเมื่อได้ยินรู้สึกได้ว่าเด็กหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดามีสายตาที่เฉียบขาดในการพิจารณาเขาเชื่อว่าหลินหยางมีความสามารถด้านการแพทย์เต็มเปี่ยม
หันเทียนอวี๋นถอนหายใจนิดนึงแล้วพูดต่อไปว่า“เรื่องที่จะบอกก็มีอยู่ว่าหลานสาวเพื่อนสนิทของฉันหล่อนมีอาการของโรคชนิดหนึ่งที่ค่อนข้างประหลาดหาหมอมาสารพัดแล้วก็หาวิธีรักษาไม่ได้หมอดังๆหลายๆคนลงความเห็นว่าหล่อนจะมีอายุอยู่ได้ไม่ถึงยี่สิบปีตอนนี้หล่อนมีเวลาอีกแค่สองเดือนพวกเราทุกคนก็ถอดใจแล้วแต่เมื่อได้ยินที่เธอพูดวันนี้ฉันก็อยากจะให้ลองดูอีกสักครั้งเผื่อจะมีอะไรดีขึ้นบ้าง”
เมื่อหลินหยางได้ยินก็ยิ้มออกมาแล้วถามว่า“คุณอาแบบนี้ก็ไม่ถูกต้องนะที่จะให้แพทย์เยียวยาหัวใจของคนเป็นพ่อแม่การช่วยเหลือคนไข้คือหน้าที่ของหมอแต่ไม่ทราบว่าตอนนี้เด็กผู้หญิงคนนั้นอยู่ที่ไหน?”
“ตอนนี้เขาอยุ่ที่เมืองจิงไม่ได้อยู่ที่เมืองเจียงหลิง”หันเทียนอวี๋นตอบตามจริง
“ไม่รู้ว่าหล่อนจะสะดวกมาที่เมืองเจีงหลิงไหม”หลินหยางขมวดคิ้วถามที่หมู่บ้านกำลังจะเก็บเกี่ยวข้าวโพดแต่ก็จะยุ่งๆแค่สามวันนี้เท่านั้นถ้าเขาต้องไปด้วยตัวเองก็เกรงว่าจะช่วยคนที่หมู่บ้านไม่ได้
“เดี๋ยวฉันโทรศัพท์ไปถาม”หันเทียนอวี๋นคิดแล้วตอบกลับหลินหยางเชิงขอโทษ“น้องชายนายรอสักครู่นะฉันเข้าไปโทรในห้องก่อน”
หลินหยางพยักหน้าพลางตรวจดูสมุนไพรไปรอบๆในร้านยา
“น้องชายๆ”ชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ข้างๆเขาตลอดเวลารีบทักขึ้นยิ้มๆเมื่อเห็นหลินหยางกำลังจะนั่งพัก
“ว่ายังไงครับ?”หลินหยางยิ้มถาม
กับชายวัยกลางคนคนนี้แล้วหลินหยางกลับไม่รู้สึกรังเกลียดอะไรเลย
“ความสามารถทางด้านการแพทย์ของเธอเก่งกาจมากช่วยดูให้ฉันหน่อยสิว่าอาการแบบนี้รักษาได้ไหม”ชายวันกลางคนถามขึ้น
“ครับคุณไม่ไปหาแพทย์แผนปัจจุบันจะเริ่มรักษากับแพทย์แผนจีนแล้วหรอครับ”หลินหยางถามพร้อมใบหน้าที่มีรอยยิ้ม
เมื่อได้ยินชายวัยกลางคนก็โบกปัดมือแล้วก็ตอบอย่างหน้าตาจริงจัง“แพทย์แผนจีนเป็นสิ่งที่สืบทอดต่อกันมามีความลึกลับซับซ้อนมีความเข้าใจในร่างกายมนุษย์ฉันมีความเชื่อมั่นในการแพทย์แผนจีน”
มองไปที่ชายวัยกลางคนใบหน้าของหลินหยางแสดงให้เห็นถึงความไม่สบายใจคนๆนี้ใบหน้าก็ดูดีแต่ดูยังไงก็น่าสงสาร
“ถึงแม้ว่าโรคของคุณจะร้ายแรงแต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีทางรักษาแต่ว่าขั้นตอนก็ค่อนข้างยุ่งยากไม่ใช่บอกว่าทำได้ก็จะรักษาได้”หลินหยางตอบอย่างครุ่นคิด
“ขอเพียงแค่เธอรักษาได้เท่าไหร่ฉันก็ยอมจ่ายฉันให้เธอห้าเเสนบาทเป็นยังไง”ชายวันกลางคนตอบพร้อมยื่นมือทั้งชูห้านิ้วออกมากาง
มองไปที่ชายวัยกลางคนหลินหยางแววตาเป็นประกายภายนอกใส่สูทถึงแม้ว่าจะดูไม่โดดเด่นนักแต่กลับเป็นฝีมือการตัดเย็บจากช่างอิตาลีชุดสูทชุดนี้ถึงแม้จะใช้เงินทั้งหมดของเขาและที่บ้านก็คงไม่สามารถซื้อมาได้แล้วคราวนี้ถึงกลับเอาเงินห้าแสนมาหลอกล่อเขา
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้สวมเครื่องประดับมากมายแต่ว่าที่ข้อมือก็มีหยกอยู่ชิ้นนึงแล้วก็เป็นสีของหยกที่ไม่สามารถหาซื้อได้ตามท้องตลาดทั่วไปแน่ๆ
ถึงแม้ว่าหลินหยางจะไม่รู้ว่ามันมีราคาเท่าไหร่แต่ก็พอจะเดาได้ว่าชายคนนี้รวยมาก
สำหรับการกำจัดไขมันแล้วหลินหยางไม่สามารถมองข้ามได้เขายกนิ้วชี้ขึ้นมาแล้วพูดว่า“ไม่ต้องถึงห้าแสนก็ทำได้ใช้แค่นี้ก็พอแล้ว”