ตอนที่ 106 ฉงปัง
หลินหยางไม่เคยมีเรื่องกับพวกเด็กอันธพาล แต่ว่ามองดูเด็กวัยรุ่นพวกนี้ เห็นได้ชัดว่าเป็นคนประเภทนี้
ก่อนที่วิชามังกรและหงส์ของหลินหยางยังไม่สำเร็จ หลินหยางจะยุ่งเรื่องนี้ไหมยังสามารถเลือกได้ แต่ถ้าฝึกวิชามังกรและหงส์เสร็จ ในการแพทย์ของหลินหยางก็จะสูงขึ้นอีกระดับ ในใจก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
คนเป็นหมอ เมตตาธรรม
เมื่อเห็นมีคนถูกรังแก ถ้าไม่มีจิตใจสงสาร อายที่เป็นหมอ
หลินหยางหมุนพวงมาลัยรถ รถถูกขับไปที่คนเหล่านั้น
“ไอ้หนู วันนี้พวกพี่ชอบน้อง เป็นการทำบุญมาหลายชาติของน้อง เห็นโรงแรมนั้นหรือยัง?ตึกตี้หยวน อันดับที่สามของเมืองจินหลิง พักหนึ่งคืนเท่าไหร่รู้ไหม?”ผู้ชายที่รูปร่างผอมบางพูด
“ไสหัวไป ถ้าไม่ไปอีกฉันจะโทรแจ้งตำรวจแล้วนะ!”หญิงตั้งท้องคนนั้นมองดูพวกเขาด้วยสายตาที่โมโห ถึงแม้จะทำเป็นใจเย็น แต่สายตาที่ดูกังวลไม่อาจปิดไว้ได้
“แจ้งตำรวจ?ห้าๆๆ คุณแจ้งตำรวจจะมีประโยชน์อะไร?ครั้งนี้ต้องบริการพวกพี่ดีๆนะ พวกเราสนุกพอแล้วก็จะให้คุณหนึ่งแสน เป็นยังไง?”ก็ยังคงเป็นวัยรุ่นคนนั้นเอ่ยปากพูด
“ไอ้ชาติชั่ว รีบหลีกไปนะ!”ผู้หญิงเอ่ยปากด่าทอ อุ้มท้องโตๆไว้จะเดินไปอีกทาง
“น้องสาว คุณจะไปไหน?”วัยรุ่นผมแดงรีบขวางทางของหญิงตั้งท้องไว้
“คุณหนีไม่รอดหรอก วันนี้มีความสุขกับพวกพี่ดีๆ เด็กในท้องคุณก็ไม่ต้องเอาแล้ว!”วัยรุ่นผมสีแดงพูด
เมื่อได้ยินคำพูดของวัยรุ่นผมทอง สายตาของหญิงตั้งท้องมีความหมดหวังวาบผ่าน มองดูผู้ชายสี่คนที่ล้อมตนเองไว้ เธออยากแจ้งตำรวจ แต่แค่หยิบโทรศัพท์ออกมาก็ถูกพวกเขาแย่งไป
“ไปๆ เข้าไปแล้วพวกพี่จะให้น้องมีความสุขแน่นอน คนตั้งท้องมีรสชาติสุดแล้ว ห้าๆๆ”วัยรุ่นที่ตัวสูงผลักหญิงท้องเดินไปที่โรงแรม
“หลีกไป ไสหัวไป!ช่วยด้วย!”ภายใต้ความหวาดกลัว หญิงตั้งท้องคนนั้นตะโกนเรียก
“ไอ้แรดตะโกนทำไม!”วัยรุ่นที่ตัวสูงด่าไปหนึ่งคำ ยกมือตบไปที่หน้าของหญิงท้อง
เห็นมือกำลังจะตบลงมา ในดวงตาของหญิงตั้งท้องเผยความหวาดกลัวและความหมดหวังออกมา
“ผัวะ!”เสียงดังขึ้นมา หญิงตั้งท้องขมวดคิ้ว ตั้งนานไม่รู้สึกถึงความรู้สึกเจ็บ จึงค่อยๆลืมตาขึ้นด้วยความสงสัย
ทำไมตรงหน้าตนเองถึงมีชายหนุ่มโผล่มาเพิ่ม และคนเมื่อกี้ที่ตีตนเอง ตอนนี้กำลังจับหน้าของตนเองไว้
“แม่ง หาที่ตายเหรอ!”ถูกหลินหยางตบไปหนึ่งที ผู้ชายผอมสูงคนนั้นจึงค่อยดึงสติกลับมา ตอนนี้ลุกขึ้นมา กำปั้นชกไปที่หลินหยาง
“สู้ด้วยกัน!”เวลาปกติสี่คนนี้ชอบรังแกคนอื่น เมื่อเห็นมีคนมาก็วิ่งเข้าไปที่หลินหยาง
หลินหยางหัวเราะด้วยความเย็นชา ไอ้สี่ตัวนี้ปกติทำให้คนอื่นหวาดกลัวยังพอได้ แต่ไม่พอสำหรับตนเองแน่นอน ไม่ต้องใช้วิชามังกรและหงส์หรอก ชกไปตรงหน้าผู้ชายร่างสูงใหญ่คนนั้น
“กรึบ!”เสียงกระดูกหักดังขึ้นมา ทันใดนั้นใบหน้าของชายคนนั้นแตกสลาย
หนึ่งหมัดก็จัดการคนผอมสูงคนนั้นสำเร็จ หลินหยางไม่รอช้า ยกขาขึ้นถีบคนข้างๆกระเด็นออกไป จากนั้นอีกหนึ่งหมัดชกไปที่วัยรุ่นชายผมแดงคนนั้น ในที่สุดก็เหลือวัยรุ่นที่ผอมวิ่งขึ้นมา
หลินหยางดูออกว่าสามคนนี้เชื่อฟังไอ้หนุ่มคนนี้ ในใจมีความรู้สึกโกรธวาบผ่าน
สีหน้าวัยรุ่นผอมคนนี้ขาวซีด ดำคล้ำหน่อยๆ หายใจไม่เป็นจังหวะ เห็นได้ชัดว่าเวลาปกติดื่มเหล้าเยอะไปและเที่ยวผู้หญิง
“ไอ้หนุ่ม รู้ว่าผมเป็นใครไหม?”เห็นหลินหยางเดิมมาที่ตนเองทีละก้าว ในสายตาชายหนุ่มมีความวุ่นวายวาบผ่าน
“คุณเป็นใคร?”หลินหยางถามด้วยความสงสัย
“คุณเคยได้ยินฉงปังไหม?”วัยรุ่นผอมแห้งคนนั้นมองดูด้วยความดุร้าย ในแววตาเผยความได้ใจออกมา
“ฉงปัง?”ดวงตาของหลินหยางมีความสงสัยวาบผ่าน ชื่อนี้หลินหยางไม่เคยได้ยินมาก่อน หรือว่ามันเป็นแก๊งคนชั่ว?
“ไม่เคย”หลินหยางพูด
คราวนี้ถึงตาชายหนุ่มตกใจแล้ว จากนั้นพูดด้วยความโมโห “แม้แต่ชื่อฉงปังยังไม่เคยได้ยิน ยังกล้ามาหาเรื่องในพื้นที่นี้?แม้แต่นายกเทศมนตรีเห็นพ่อผมยังต้องเรียกพี่หลง อย่างเอ็งเป็นอะไร?ครั้งนี้เอ็งรีบหนีไปซะ กูไม่เอาเรื่องเอ็ง ถ้าคราวหน้ากล้ามาโผล่หน้าให้กูเห็นอีก กูจัดการเอ็งแน่”
มองดูวัยรุ่นผอมแห้งที่กล้าดีแบบนี้ ในสายตาของหลินหยางมีความเกลียดชังวาบผ่าน “จะฉงปังหรือฟู่ปัง เกี่ยวอะไรกับผมด้วย?เห็นคุณผอมเหมือนลิง มิน่าละถึงชื่อว่าฉงปัง”(คำว่าฉงในที่นี้พ้องเสียงคำว่า”จน”ในภาษาจีน)
พูดจบหลินหยางไม่ลีลาอีก กำปั้นในมือชกไปที่หน้าของชายหนุ่มคนนั้นอย่างรุนแรง
“โอ๊ย ช่วยด้วย ฆ่าคนแล้ว!”ชายหนุ่มที่ผอมแห้งตะโกนร้องโหยหวน
ที่นี่ถึงแม้ว่าไม่ใช่สถานที่คึกคัก แต่ก็มีคนไม่น้อย เมื่อมีคนได้ยินว่าเป็นฉงปัง สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย แก๊งมาเฟียที่ใหญ่ที่สุดในเมืองจินหลิง…..ฉงปัง เรียกได้ว่าไปทั้งสองทางทั้งทางมืดและสว่าง ชื่อเสียงโด่งดัง ไม่มีใครไม่กลัว
แต่น่าเสียดาย หลินหยางไม่ใช่คนจินหลิง เรื่องราวของผืนดินนี้ หลินหยางไม่รู้อะไร เขาในตอนนี้ก็แค่อยากชกต่อยเขาหนักๆ ระบายความโมโหในใจออกมา
“เขาเป็นคนท้องนะ ไม่นานก็จะคลอดแล้ว คุณมาทำเรื่องชั่วๆในที่นี้ คุณมันไร้มนุษยธรรม ก็อย่าโทษผมที่ปฏิบัติต่อคุณ!”หลินหยางชกต่อยด้วยความโมโห กำปั้นทักทายไม่หยุด ใบหน้าของชายหนุ่มผอมแห้งคนนั้นบวมช้ำเขียวเต็มหน้า
ชกไปห้าหกนาทีเต็มๆ ที่ไกลๆมีคนมากมายวิ่งมาดู หลินหยางสายตาดีมาก อีกอย่างไม่อยากให้เรื่องมีบานปลาย ยกเท้าขึ้นมา ถีบลงไปที่เป้าของชายคนนั้น
“อ๊าก!”เสียงร้องโหยหวนดังก้องขึ้นไปบนฟ้า คนรอบๆได้ยินตัวชาไปหมด
ครั้งนี้ไอ้หมอนี่ คาดว่าคงเป็นผู้ชายไม่ได้แล้ว?
“ไป ขึ้นรถก่อน!”หลินหยางเปิดประตูรถออก ดึงมือหญิงท้องคนนั้นไปที่รถ รอให้หญิงคนนั้นนั่งรถเสร็จ หลินหยางสตาร์ทรถแล้วขับออกไปจากที่นี่
“คุณชาย เป็นยังไงบ้าง?”มีผู้ชายหกคนที่สวมชุดสีดำวิ่งมาทางนี้ มองดูชายหนุ่มผอมแห้งที่ใช้สองมือจับกลางขาไว้ รีบถาม
“รีบเรียกรถพยาบาล!”มีคนหนึ่งเร่ง
“ปวดมาก!คุณลุงหวัง ช่วยเช็ดรถคันนั้นหน่อย ในรถเป็นใครกัน!จับมันมาผมจะจัดการมันให้สาสม!”สายตาของชายหนุ่มผอมแห้งมีความโหดเหี้ยมวาบผ่าน สีหน้าปวดจนบดเบี้ยวไปหมด
“คุณชายวางใจได้ จดทะเบียนรถไว้แล้ว ไม่นานก็หาเจอแล้ว!รถพยาบาลเดี๋ยวก็มาถึง ไปโรงพยาบาลก่อนเถอะ”หน้าของลุงหวังเหงื่อไหลเต็ม ตนเองรับคำสั่งมาให้ปกป้องดูแลคุณชาย สุดท้ายกลับเกิดเรื่องแบบนี้ ถึงเวลานั้นพี่หลงเอาเรื่องขึ้นมา ตนเองซวยเน่ๆ
แต่ว่าคนที่ต่อยคุณชายวันนี้ ไม่ว่าคุณชายจะเป็นหรือไม่เป็นอะไรก็ตาม จุดจบคือตายอย่างเดียว!
“ขอบคุณนะ “หญิงท้องนั่งอยู่ด้านหลัง มองดูหลินหยางแล้วกล่าวขอบคุณ
“ไม่เป็นไร เรื่องเล็ก ใช่แล้ว บ้านของคุณอยู่ไหน ผมส่งคุณกลับไป “หลินหยางยิ้มแล้วพูด
“บ้านของฉันอยู่ชุมชนด้านหน้าไม่ไกลนี้ ไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว ใช่แล้ว ฉันชื่อหวังเจ๋ ยังไม่รู้ว่าผู้มีพระคุณชื่ออะไรเลย”หญิงท้องยิ้มแล้วพูด
“ผมชื่อหลินหยาง ใช่แล้ว คนพวกนั้นเห็นได้ชัดไม่ใช่คนดีอะไร ต่อไปคุณก็พยายามอย่าออกไปข้างนอก อีกอย่างคุณท้องไปไหนมาไหนก็ไม่สะดวก”หลินหยางเตือนด้วยความหวังดี
หวังเจ๋พยักหน้า หลังจากที่หลินหยางส่งหวังเจ๋ถึงหน้าชุมชนเสร็จ ก็ขับรถจากไป
บรรยากาศในรถ เริ่มมีความกดดันหลังจากที่หวังเจ๋ไป จ้าวจินฟ่งพูดด้วยสีหน้าที่แย่ “หลินหยาง ความรู้สึกสุภาพบุรุษช่วยสาวงามคงดีมากสินะ?”
“ทำไมละ?”มองดูสีหน้าที่เหมือนคนอื่นติดหนี้เธอแปดล้าน หลินหยางถามด้วยความสงสัย
“คุณรู้ไหมว่าฉงปังเก่งแค่ไหน?ฉงปังเป็นแก๊งมาเฟียที่โด่งดังที่สุดในเมืองจินหลิง พวกเขาแค่ตดออกมา เมืองจินหลิงยังสั่นสะเทือน คุณทุบตีลูกชายของเขาแบบนี้?”จ้าวจินฟ่งทั้งโมโห ทั้งกังวลใจ
หลินหยางได้ยินเช่นนี้อึ้งไปสักพัก คนที่ชกครั้งนี้ ไม่ธรรมดาจริงๆ?
“ไม่เป็นไร ทหารมาก็ห้ามด้วยทหาร น้ำมาก็ใช้ดินบัง จะกลัวทำไม?”ไม่นานหลินหยางก็ผ่อนคลายลง การเปลี่ยนแปลงด้านจิตใจ ทำให้เขามั่นใจในตนเองเพิ่มขึ้น แก๊งมาเฟียถึงจะน่ากลัว แต่ถ้าไม่ใช้อาวุธมาจัดการตนเอง ตนเองก็ไม่มีอะไรที่ต้องกลัว
“คุณ!”จ้าวจินฟ่งยังอยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เห็นหลินหยางชิวๆ ในใจก็วางใจโดยไม่รู้ตัว ถอนหายใจเบาๆไม่พูดอะไรอีก
หลังจากจอดรถเสร็จ หลินหยางก็เริ่มผสมยา ยังไงตอนบ่ายก็ไม่มีเรื่องอะไร ทางที่ดีทำครีมโต้วโค่วให้เสร็จดีกว่า
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ กลิ่นหอมกระจายออกมาจากหม้อยา จ้าวจินฟ่งที่อยู่หน้าประตูดมให้สุด เดาว่าหลินหยางทำอะไรของเขา
เมื่อหลินหยางเปิดประตูเห็นจ้าวจินฟ่งที่อยู่หลังประตู หลินหยางสตั้น จากนั้นถาม “คุณยืนทำอะไรที่นี่?”
“คุณทำขนมอมยิ้มหรือ?ทำไมหอมขนาดนี้”จ้าวจินฟ่งถาม
“ไม่ได้ทำ ก็เคยบอกคุณแล้วไม่ใช่เหรอว่าผมกลั่นยา คุณดู ยาอยู่ที่นี่”หลินหยางถือหม้อยาในมือไว้ เขย่าไปมาตรงหน้าจ้าวจินฟ่ง
“นี่เป็นยาอะไรหรือ?”จ้าวจินฟ่งเปิดฝาออก เห็นยาสีเหลืองอ่อนในนั้น กลิ่นหอมโชยมา หลับตาแล้วถาม
“อันนี้เรียกว่าครีมโต้วโค่ว เมื่อเวลาผ่านไป บางพื้นที่ของผู้หญิงก็จะเริ่มคล้ำ ใช้ยาอันนี้ทาลงไป สามารถขจัดความคล้ำออกไปได้…..”
ได้ยินหลินหยางอธิบาย จ้าวจินฟ่งหน้าแดง เดิมที่เธอก็เรียนหมอแค่ฟังก็รู้ว่าหลินหยางหมายความว่าอะไร พูด”คุณทำยาแบบนี้ทำไม?ไว้ใช้เองเหรอ?”
“พร๊ะ……”หลินหยางเลือดแทบกระเด็นออกมา จ้องมองจ้าวจินฟ่งแล้วพูดว่า”ผมเป็นผู้ชายยังจะใช้อันนี้เหรอ?นี่ผมขายต่างหาก”
“ชิ ใครจะไปซื้อ”จ้าวจินฟ่งเบะปาก
“เหอะๆ มีคนซื้ออยู่แล้ว “หลินหยางหัวเราะร้ายๆ มองดูจ้าวจินฟ่งด้วยความล้อเลียน “ถึงเวลานั้นบางทีบางคนก็อาจจะมาหาผมซื้อก็ได้นะ”
“ไสหัวไปเลย “จ้าวจินฟ่งมองบนใส่หลินหยาง แก้มแดงทั้งคู่เดินออกไปจากห้อง
หลินหยางวางของให้อยู่กับที่ มองดูนาฬิกาแล้วเกือบหกโมงเย็นแล้ว
“ก่อนหน้านี้เห็นคุณใช้ห้องครัวอยู่ฉันทำอาหารไม่ได้ ก็เลยไปซื้อมาจากข้างนอก คุณกินเถอะ”เห็นหลินหยางเดินออกมา จ้าวจินฟ่งพูด
ได้ยินเช่นนี้ในใจหลินหยางรู้สึกอบอุ่น คืนนี้ตนเองจะไปเยือนที่บ้านอาจารย์หยางวั่นเฉียน เขาก็คงจะต้อนรับข้าวเย็น แต่นี่เป็นสิ่งที่จ้าวจินฟ่งให้หลินหยางก็ไม่อยากปฏิเสธ นั่งลงแล้วกินกับจ้าวจินฟ่ง
หลังจากกินข้าวเสร็จ หลินหยางมองดูจ้าวจินฟ่งที่กำลังเก็บถ้วยชามแล้วพูด “จินฟ่ง เดี๋ยวคุณไปรอไว้ที่โรงแรมนะ เดี๋ยวกลางคืนผมไปปรนนิบัติ”
“ไสหัวไปเถอะ!”ณ ตอนนี้จ้าวจินฟ่งทั้งอายทั้งโกรธ แต่ว่ามีประสบการณ์นอนด้วยกันของเมื่อคืนแล้ว จ้าวจินฟ่งก็ไม่คิดอะไรมาก เดินตรงไปที่โรงแรม
ถึงหน้าประตูโรงแรม หลินหยางล่ำลากับจ้าวจินฟ่งด้วยรอยยิ้ม ขับรถไปตรงบ้านของ หยางวั่นฉียน
ด้านในโรงพยาบาล ชายกลางคนผู้หนึ่งเดินไปมาหน้าห้องไอซียู สวมชุดสูทไว้ทำให้ร่างกายดูเหมือนสูงใหญ่ แต่สีหน้ามืดขรึม ใครก็ดูออกว่าอารมณ์ตอนนี้ของเขาไม่ดี
ข้างๆของเขามีผู้หยิงที่ตาแดงทั้งคู่นั่งอยู่ ร้องไห้อย่างกระอักกระอ่วน ผู้ชายสี่คนที่ใส่เสื้อสูทยืนตรงอยู่หน้าประตู เหมือนดาบที่ออกจากฝัก ดูท่าแล้วเป็นบอดี้การ์ดของสองผัวเมียนี้
ชายวัยกลางคนที่เดินไปมานี้ ก็คือหัวหน้าแก๊งมาเฟียฉงปังนั่นเอง……ฉางหลง!