ตอนที่ 120 ซื้อบ้าน
“คุณมันร้ายจริงๆ ทำร้ายเค้าจนเป็นแบบนี้ พรุ่งนี้จะให้เค้ากลับยังไง?”หญิงสาวกำหมัดน้อยๆออกมา ทุบตีที่ไหล่ของหลินหยาง
“ฮ่าๆ ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมนวดให้คุณสักพักก็หายแล้ว “หลินหยางเก็บเจินชี่ในร่างกายกลับเข้าสู่ตันเถียน จากนั้นนั่งตัวตรง
“นวดสักพักก็ดีขึ้น?คุณคิดว่าคุณเป็นหมอเทวดาเหรอ อีกอย่างหมอเทวดาก็ไม่สามารถรักษาปัญหาแบบนี้ “เฉิงหยิงมองบนใส่หลินหยาง
หลินหยางวางมือไว้ที่ท้องน้อยของหญิงสาว เอ่ยปากพูดว่า”ผมเป็นหมอแพทย์แผนจีน คุณพักผ่อนห้านาที เดี๋ยวผมนวดให้คุณหายแน่นอน”
พูดจบก็เริ่มขับเคลื่อนพลังมังกรและหงส์ในร่างกายออกมา เจินชี่เหมือนแม่น้ำไหลหลากเข้าไปในร่างกายของเฉิงหยิง
ภายใต้การรักษาของหลินหยาง เฉิงหยิงหลับตาลง ความรู้สึกสบายซัดมา พุ่งเข้าไปสู่หัวใจ
เป็นแบบนี้หลังจากเจ็ดนาทีผ่านไป หลินหยางหยุดมือลง ยิ้มแล้วถาม “ตอนนี้คุณรู้สึกเป็นยังไง?ยังปวดอีกไหม?”
ได้ยินแบบนี้เฉิงหยิงลองขยับขาดู สีหน้าเริ่มเปลี่ยน มองดูหลินหยางพูดด้วยความประหลาดใจ”หลินหยาง คุณเก่งจริงๆ ไม่ปวดแล้วจริงด้วย”
“ตอนนี้คุณเชื่อหรือยังว่าผมเป็นหมอเทวดา”หลินหยางนอนลงไปด้วยความรู้สึกได้ใจ สองมือคลำไปที่ซาลาเปาคู่นั้นของเฉิงหยิง
“หมอเทวดา?ฉันว่าคุณเคยผ่านผู้หญิงมาเยอะ จึงได้สรุปวิธีการรักษานี้ออกมามากกว่า”เฉิงหยิงจ้องมองหลินหยาง เหมือนมองเขาทะลุตั้งนานแล้ว
หลินหยางฟังแล้วไม่รู้จะพูดยังไง แต่ว่าเธอไม่เชื่อว่าตนเองเป็นเรื่องแพทย์แผนจีนก็ไม่เป็นไร หัวเราะแล้วพูด “ดึกแล้ว รีบพักผ่อนเถอะ พรุ่งนี้ต้องตื่นเช้าอีก”
เฉิงหลิงไม่ปฏิเสธ คว่ำไว้บนตัวหลินหยางแล้วหลับไป
สัมผัสถึงสาวงามได้หลับไปแล้ว หลินหยางก็หลับตาลง ฝึกฝนวิชามังกรและหงส์ในตัว
เช้าวันรุ่งขึ้น หลินหยางตื่นแต่เช้า จัดเสื้อผ้าในร่างกายจนเสร็จ มองดูเฉิงหยิงที่ยังนอนอยู่บนเตียง ภูเขาคู่นั้นสูงและกลมโต ขาวน่ากิน หลินหยางที่ตอนเช้าจะมีอารมณ์ ตอนนี้ก็เริ่มขึ้นแล้ว
แต่ในร้าเกมให้เวลาถึงแค่หกโมงเช้าของวันที่สอง ตอนนี้ก็ตีห้ากว่าแล้ว ถ้าอยากทำอีก แน่นอนว่าไม่ทันแล้ว หลินหยางทำได้แค่เรียกเฉิงหยิงตื่น
เฉิงหยิงที่คิดว่าได้เหลือเวลาไม่มากแล้ว หลังจากใส่เสื้อเสร็จ มองดูหลินหยาง ใบหน้าแดงเล็กน้อย พูดเบาๆ “หลินหยาง ต่อไปถ้ามีเวลา ให้ติดต่อฉันมาบ่อยๆนะ”
มองดูเฉิงหยิงที่ดูเขินอาย ในใจหลินหยางรู้สึกกระตุก ยิ้มแล้วพูดเบาๆ”ได้”
ทั้งสองคนออกจากร้านเกมแล้วแยกทาง หลินหยางไม่รีบไปโรงแรม เพราะตอนนี้ยังเช้าอยู่ ผู้หญิงสองคนนั้นยังคงไม่ตื่น
ผู้หญิงสวยเพราะการนอนหลับพักผ่อน ใครจะไปรู้ว่าถ้าตนเองไปเรียกเธอสองคนตื่นตอนนี้ จะถูกพวกเธอโจมตีอย่างสาหัสหรือเปล่า
หาร้านอาหารเช้าได้ร้านหนึ่ง หลินหยางซื้อน้ำเต้าหู้มาหนึ่งแก้ว และเกี๊ยวทอด นั่งอยู่ตรงนั้นแล้วเริ่มกิน
อาหารเช้ากินไปครึ่งหนึ่ง มือถือของหลินหยางก็เริ่มสั่นแล้ว ดูแล้วเป็นจ้าวจินฟ่งโทรมา
“ฮาโหล หลินหยาง คุณอยู่ไหน?”เสียงของจ้าวจินฟ่งส่งมา ดูแล้วก็น่าจะตื่นมาพักหนึ่งแล้ว
“ผมกำลังกินข้าวเช้า ก็คือโรงแรมที่พวกคุณพักอยู่ ออกมาเลี้ยวซ้ายห้าสิบเมตรก็ถึงแล้ว”
“หา?คุณกินข้าวเช้าแล้วเหรอ?ทำไมไม่เรียกพวกเราละ?”จ้าวจินฟ่งพูดให้รู้ตนเองไม่พอใจ
หลินหยางฟังแล้วรู้สึกปวดหัว รีบอธิบายว่า “ผมจะไปรู้ได้ไงว่าพวกคุณตื่นแล้ว พวกคุณรีบมาเถอะ ผมสั่งอาหารเช้าไว้ให้”
ไม่นานทั้งสองคนก็เดินลงมา กินข้าวเช้ากับหลินหยางเสร็จ เวลาก็เกือบแปดโมงเช้าแล้ว
“เดี๋ยวพวกคุณจะไปทำอะไร ?”หวังเถียนเถียนถามด้วยความสงสัย
“จ้าวจินฟ่งจะมาเปิดร้านซักผ้าที่ข้างมอเรา เดียวพวกเราไปหาดูรอบๆมอ ว่ามีบ้านที่จะขายไหม”หลินหยางตอบ
“วาว?พี่จินฟ่ง พี่จะมาเปิดร้านซักผ้าข้างมอพวกเรา?งั้นต่อไปเรื่องเสื้อผ้า……อย่าลืมลดราคาให้น้องด้วยนะได้ไหม?”หวังเถียนเถียนคลคลีกับจ้าวจินฟ่งมาหนึ่งวัน ตอนนี้ก็เริ่มสนิทกันแล้ว
“พึ่งรู้จักพี่ก็จะเอาเปรียบพี่แล้วเหรอ?ได้ ใครให้พวกเราสองคนมาเจอกันละ ถึงเวลานั้นลดราคาให้น้องละกัน”จ้าวจินฟ่งพูด
จ้าวจินฟ่งเป็นคนฉลาด ในเมื่อหลินหยางไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องที่ตนเองเป็นคนออกเงินซื้อบ้าน คิดดูแล้วก็น่าจะเป็นเพราะว่าไม่อยากให้คนในมอรู้ ตนเองก็เป็นคนรับไว้อย่างเงียบๆละกันว่าบ้านนี้ตนเองเป็นคนออกเงินซื้อ
ยังไงหวังเถียนเถียนก็ไม่มีอะไรทำ งั้นก็ตามพวกเขาสองคนไปทีเดียวเลย เดินตรงไปทางมหาลัยแพทยศาสตร์
เนื่องจากเป็นเวลาเดินทางไปทำงาน รถบนถนนเยอะมาก วันนี้ไม่รู้ว่าข้างหน้าเกิดอะไรขึ้น รถติดไปตั้งยี่สิบนาที เมื่อหลินหยางพาผู้หญิงสองคนนี้มาถึงหน้ามอ ก็เกือบเก้าโมงเช้าแล้ว
หลังจากจอดรถเสร็จ สามคนถือโอกาสเข้าไปเดินเล่นในมหาลัยแพทยศาสตร์ ถึงแม้มอแพทยศาสตร์ไม่ได้อยู่ใจกลางเมืองของเมืองเจียงหลิน แต่ที่นี่ก็เป็นที่ที่รุ่งเรือง ผู้คนไม่น้อยเหมือนกัน
พวกหลินหยางเดินล้อมไปหนึ่งรอบก็ไม่เห็นมีบ้านที่จะขาย ขมวดคิ้ว
“เอ๋ เมื่อคืนผมจำได้ว่าในเว็บมีคนจะขายบ้านนิ”เดินไปหนึ่งรอบก็ไม่เห็นข่าวการขายบ้าน หลินหยางรู้สึกปวดหัว
“ที่นั่นเขาขายบ้านใช่หรือเปล่า?”เมื่อทั้งสามคนเปลี่ยนไปอีกที่หนึ่ง หวังเถียนเถียนตาดี ชี้ไปที่บ้านหลังหนึ่งแล้วพูด
ตามทิศทางที่หวังเถียนเถียนชี้ หลินหยางเห็นตึกที่มีสามชั้น ประตูชั้นแรกติดป้ายไว้ ด้านบนเขียนไว้ว่า”บ้านนี้ออกให้เช่า/ขาย”
ที่นี่ห่างจากมหาลัยแพทยศาสตร์ ประมาณห้าสิบกว่าเมตรเท่านั้น ก่อนหน้านี้หลินหยางเดินไปทางทิศตะวันออกไม่พบ ตอนนี้เดินมาทิศตะวันตก จึงพบที่นี่พอดี
สถานที่นี้เป็นร้านขายเสื้อผ้า เปิดร้านขายเสื้อผ้าข้างมอ ไม่ได้ขายดีเหมือนที่คิดไว้ ถ้าจะซื้อเสื้อผ้า โดยปกติก็จะไปซื้อที่ห้างสรรพสินค้า ใครจะไปซื้อที่หน้าประตูในมอละ
คาดว่านี่ก็เป็นเหตุผลที่เจ้าของต้องเช่าบ้านนี้ออกไป
ไม่ไปสนใจว่าพวกเขาทิ้งบ้านนี้เพราะเหตุใด ยังไงพวกเขาก็อยากขาย สำหรับหลินหยางแล้วเป็นข่าวดี
“พวกคุณจะซื้อเสื้อผ้าอะไรหรือ?”เวลานี้ยังถือว่าเช้าอยู่ เห็นมีคนมา เจ้าของร้านยิ้มต้อนรับ
ถ้าหลินหยางสวมชุดสูทไว้ เจ้าของร้านคงไม่ถามเขาว่ามาซื้ออะไร คงจะถามว่าสามท่านจะมาซื้อเสื้อผ้าหรือเช่าบ้าน เสียดายที่หลินหยางใส่เสื้อผ้าแบบชิวๆ ท่าทางอบอุ่น มองดูแล้วเป็นผู้ชายที่ร่างเริงแจ่มใส หรืออาจเป็นเด็กมหาลัยที่จน
เจ้าของร้านเป็นผู้หญิงอายุสามสิบกว่าปี หน้าตาไม่เลว หุ่นอวบเล็กน้อย แต่ไม่ได้อ้วน เพราะว่าตนเองเป็นคนขายเสื้อผ้า การแต่งกายบนร่างกายค่อนข้างทันสมัย ตาที่งอๆเหมือนเสี้ยวพระจันทร์ ให้คนอื่นดูแล้วยากที่จะลืม
“เห็นข้างนอกติดป้ายไว้ บอกว่าที่นี่จะขาย ผมก็เลยมาดู”หลินหยางก็ไม่ได้อ้อมค้อม พูดเหตุผลที่มาตรงๆ
“คุณจะซื้อบ้าน?”เจ้าของร้านคิดไม่ถึงว่าหลินหยางจะพูดคำนี้ออกมา มองดูเสื้อผ้าของหลินหยางถึงแม้เนื้อผ้าจะไม่เลว แต่ดูแล้วทั้งเนื้อทั้งตัวราคาไม่เกินหนึ่งพัน คนแบบนี้เหรอจะมาซื้อบ้านกับตนเอง?
ถึงแม้เมืองเจียงหลิงไม่เจริญเท่าเมืองจินหลิง แต่อยู่ในประเทศถือว่าเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรืองแน่นอน ที่นี่เป็นเขตที่ใกล้ตัวเมือง และติดกับโรงเรียน เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ทอง หนึ่งตารางเมตรสามารถขายได้ในราคาสองหมื่นแน่นอน หน้าร้านของตนเองมีพื้นที่ร้อยห้าสิบตารางเมตร และเป็นตึกสามชั้น ขายออกไปก็สามสี่ล้าน
ตรงหน้าไอ้เด็กนี่ พาผู้หญิงสวยๆมาสองคน ก็คิดว่าตนเองมีเงินงั้นเหรอ?
แต่เจ้าของร้านก็ไม่ได้ประชดหลินหยาง ยิ้มเล็กน้อย “คุณพอใจกับตึกนี้?อยากซื้อมันหรือ?”
“ใช่ ถูกต้อง ซื้อทั้งสามชั้นเลย คุณบอกราคาก่อนเถอะ”หลินหยางตอบอย่างไม่ลีลา
“ห้าๆ ไอ้หนุ่ม คุณรู้ไหมว่าร้านนี้ในเมืองเจียงหลิงสามารถขายได้ราคาเท่าไหร่?”เจ้าของตอบคำพูดของหลินหยางไม่รีบไม่ร้อน กลับถามอีกหนึ่งคำ
หลินหยางฟังแล้วเข้าใจ ว่าผู้หญิงนี้ไม่เชื่อว่าตนเองมีเงินซื้อตึกสามชั้นนี้ได้
ผู้หญิงด้านหลังสองคนก็มีความคิดที่แตกต่างกัน
ในใจจ้าวจินฟ่งรู้สึกลังเล ออกสังคมมาสองปีนี้ กับราคาบ้านก็พอรู้บ้าง พื้นที่แบบนี้ ตารางเมตรละก็เกือบสองหมื่น สามชั้นรวมกัน กับราคาล้านกว่าบากทที่ตนเองคำนวณไว้ห่างกันเยอะมาก ไม่รู้ว่าหลินหยางจะยอมลงทุนให้ตนเองไหม
ในใจหวังเถียนเถียนยิ่งมีคลื่นซัดมามากมาย ปกติหลินหยางไม่เปิดเผยอะไรเลย คิดไม่ถึงว่าจะร่ำรวยแบบนี้
“คุณพูดราคามาตรงๆเลย ถ้าผมเห็นว่าเหมาะ ผมก็จะจ่ายสดทีเดียว “หลินหยางรู้สึกรำคาญ พูดต่อไปอีกว่า “ถ้าคุณไม่เชื่อ ผมจ่ายเงินก่อนก็ได้”
มองดูท่าทางที่มั่นใจของหลินหยาง เจ้าของร้านในใจกระตุกเล็กน้อย ในตอนนั้นก็เริ่มเชื่อหลินหยาง
ลังเลไปสักพัก เจ้าของร้านจึงพูดว่า “ตึกนี้ฉันยังซื้อมาได้ไม่นาน ก็แค่สี่ห้าปี การออกแบบก็เรียบหรู อุปกรณ์ต่างๆก็ครอบถ้วน และตึกสามชั้นนี้ของฉัน เรื่องทำเลดีฉันไม่ได้โม้ คุณสามารถเห็นได้ชัดว่าเป็นทำเลที่ดี หนึ่งร้อยห้าสิบตารางเมตร และนี่เป็นสามชั้นก็สี่ห้าร้อยตารางเมตร”
พูดมาถึงตอนนี้ผู้หญิงหยุดไปสักพัก มองดูสีหน้าของหลินหยาง กลับพบว่าไอ้หมอนี่ไม่รู้สึกตกใจอะไรเลย กลับพยักหน้าอย่างเงียบๆ จากนั้นบอกราคาออกมา “ฉันคิดให้คุณตารางเมตรละหนึ่งหมื่นเจ็ดพัน ตึกนี้อย่างน้อยเจ็ดล้านหกแสน”
ได้ยินตัวเลขที่เยอะขนาดนี้ ในใจจ้าวจินฟ่งรู้สึกหนักหน่วง ถ้าซื้อด้วยราคาที่แพงขนาดนี้ แพงไปจริงๆ ตนเองเปิดร้านซักผ้า สามารถหาเงินได้มากขนาดนี้ไหมยังพูดยาก ธุรกิจที่ขาดทุนแบบนี้ หลินหยางคงไม่เอาแล้วแน่ๆ
ในตอนที่จ้าวจินฟ่งคิอว่าหลินหยางจะไปเลย คิดไม่ถึงว่าผู้ชายคนนี้มีท่าที่ที่จะซื้อมันไว้
“ชั้นที่หนึ่งราคาตารางเมตรละหนึ่งหมื่นเจ็ดพันถือว่าพอใช้ได้ แต่ชั้นสองกับชั้นสามราคาถือว่าแพงไปหน่อย”หลินหยางพูด
เจ้าของร้านรู้ตัวว่าตนเองเรียกราคาสูงไปหน่อย มีคำกล่าวว่าคนขายเรียกราคาสูง คนซื้อกดราคาให้ต่ำ ผู้หญิงหัวเราะแล้วพูด”แน่นอน ฉันสามารถลดราคาให้คุณ เจ็ดล้านได้ไหม?”
แป๊บเดียวก็ลดไปหกแสนกว่า เจ้าของร้านคิ้วยังไม่ขมวดแม้แต่น้อย ในใจของเธอ คิดว่าไอ้หนุ่มคนนี้มาล้อตนเองเล่นอยู่
“ก็ยังแพงอยู่ ราคาของชั้นสองชั้นสาม ผมให้ได้ตารางเมตรละหมื่นสอง “หลินหยางก้มหน้าแล้วคำนวณราคาที่เหมาะสมด้วยความรวดเร็ว
ได้ยินคำพูดนี้ของหลินหยาง ผู้หญิงสตั้น ไม่ใช่เพราะว่าราคาที่หลินหยางเรียกร้องต่ำ แต่เธอฟังออกว่าหลินหยางจะซื้อตึกนี้จริงๆ
ลังเลไปสักพัก ผู้หญิงจึงพูดว่า “หมื่นสองต่ำไปหน่อย อีกอย่างฉันเคยตกแต่งไปแล้วหนึ่งครั้ง ชั้นสองและสามหมื่นสามละกัน ต่ำไม่ได้อีกแล้ว”
“ได้ งั้นทั้งหมดคือหกล้านสี่แสนห้าหมื่น ถ้าคุณเตรียมตัวเสร็จแล้ว วันนี้เรามาเซ็นสัญญากันก่อนละกัน”หลินหยางพูดตรงๆ
หลินหยางไม่ได้ดูลักษณะภายในบ้านด้วยซ้ำ ก็ตอบตกลงแบบง่ายๆแบบนี้ โยนหกล้านกว่าบาทแบบนี้ออกมาอย่างชิวๆ ไม่เพียงแต่ผู้หญิงสองคนที่อยู่ด้านหลังอึ้ง เจ้าของผู้หญิงตรงหน้าก็อึ้งไปหมด