บทที่137 คุณก็ต้องทำอะไรบ้าง
พอได้ยินหลินหยางพูดแบบนี้ สองสาวจึงหยุดโวยวาย
หยางหวั่นผู้ที่ปกปิดลูกบอลไว้อย่างมิดชิด ก็รู้สึกเหนื่อยจนหอบแหก จนกระทั่งลืมปกปิดต่อไป ก้อนเนื้อที่อวบอิ่มนั้น จึงอวดต่อหน้าสายตาของหลินหยาง
เมื่อเห็นสองสาวหอบแฮก หลินหยางจึงใจเต้นแรง
“เผิงจิ้ง เธอก็เร็วๆหน่อยสิ ฉันรออยู่นะ”ภายใต้สภาพแวดล้อมแบบนี้ หยางหวั่นจึงค่อยๆปลดปล่อยตัวเองออกมา แล้วหยอกล้อกับเผิงจิ้งต่อ
“ทำไมเธอไม่ลองดูล่ะ”เผิงจิ้งถลึงตาใส่ แต่ว่าไม่ได้โกรธเคืองอะไร แววตาของเธอเหมือนหยดน้ำในฤดูใบไม้ร่วง ที่ดูสะท้านใจคนเหลือเกิน
“ฉันกลัวเจ็บ แล้วของใหญ่ขนาดนั้นยัดเข้าไป ถ้าเธอบอกว่าไม่เจ็บ เธอก็ทำให้ฉันดูหน่อยสิ”หยางหวั่นหัวเราะคิกคัก
หลินหยางนั่งลงคั่นกลางสาวทั้งสอง เมื่อฟังคำพูดเผ็ดร้อนของทั้งคู่ เขาเหมือนรู้สึกถูกกระ ตุ้นขึ้นมาอีกครั้ง เด็กสาวสมัยนี้เปิดเผยขึ้นทุกวัน แต่ผมชอบ
“แล้วทำไมฉันจะต้องลองให้เธอดูด้วยเล่า ฉันไม่ได้มีหน้าที่นี้นะ”เผิงจิ้งหยุดยิ้ม
เป็นเพื่อนรักกับเผิงจิ้งมานานแค่ไหน หยางหวั่นรู้จักนิสัยเพื่อนคนนี้ดี พอได้ยินเผิงจิ้งพูดแบบนี้ ก็รู้ได้ว่าเผิงจิ้งตกลงที่จะทำกับหยางหวั่นทีหนึ่ง ตอนนี้พูดคำพูดนี้ออกมา ก็ เหมือนกับต้องการลองใจตนเองดูก็เท่านั้น
“เลี้ยงข้าวสามวัน เป็นไง”หยางหวั่นยิ้มเล็กน้อย แม้ว่าบ้านเธอจะไม่ได้ร่ำรวยมาก แต่ก็ถือว่าฐานะใช้ได้ ค่าข้าวแค่สามวันเลี้ยงได้อยู่
“วันละสามมื้อ ห้ามขาดไปแม้แต่มื้อเดียว”เผิงจิ้งคำนวณกำไรตัวเองออกมาเต็มที่
“ตกลง ยัยตะกละเอ๊ย ไม่กลัวจุกหรือไง”หยางหวั่นกลอกตาขาวใส่ ท่าทียั่วเย้าทำให้ หลินหยางตกตะลึง
เนื้อแท้หยางหวั่นไม่ใช่สาวหัวโบราณเท่าไหร่นัก ความคิดเธอออกจะเอนเอียงไปทางตะวันตกด้วยซ้ำ หลังจากที่คำนวณกำไรของตัวเองเสร็จสรรพ เดิมทีเผิงจิ้งก็พอใจหลินหยางมากอยู่แล้ว จึงยื่นมือน้อยๆออกไปกุมมังกรยักษ์นั่นทันที แล้วรีบใช้มือชักว่าวให้อย่างรวด เร็ว
สัมผัสได้ถึงความร้อนที่ส่งผ่านมา เผิงจิ้งรู้สึกเร้าใจ
หยางหวั่นที่อยู่ด้านข้างมองเพื่อนสาวชักว่าวให้มังกรยักษ์ด้วยอาการตาค้าง หน้าเธอ แดงราวกับแสงสายัณห์ยามพระอาทิตย์ตก ลมหายใจหอบถี่
หลินหยางนั่งนิ่งไม่ไหวติง ตอนนี้หลินหยางยังไม่ค่อยได้สติคืนกลับมาเท่าไหร่นัก ความสุขมันมาอย่างกะทันหันเกินไป ตัวเองยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจเท่าไหร่ จู่ๆก็มีผู้หญิงส่งมาให้ถึงที่ แถมยังเป็นแบบที่ไม่ต้องรับผิดชอบอะไรเลยด้วย
“หลินหยาง คุณคงยังไม่เคยแตะต้องผู้หญิงสินะ ไม่ลองดูหน่อยล่ะ”เผิงจิ้งผู้อดกลั้นต่อกิเลส ตัณหาที่เย้ายวนตรงหน้าไม่ได้ มองหลินหยางแล้วถามขึ้น
คำพูดนี้เตือนหลินหยาง มือใหญ่ของหลินหยางทั้งสองข้างไม่ลังเลที่จะเอื้อมไปจับสองยอดนั้น แล้วค่อยๆแหวกผืนนาอันอ่อนนุ่ม
นิ้วมือค่อยๆไต่ตามเม็ดไข่มุก ไม่นานนักเผิงจิ้งก็เริ่มไม่ไหว ปากน้อยๆของเธอเผยอขึ้น ครวญครางออกมา
ทั้งคู่ไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้า ห่างกันก็ไม่มาก ลมหายใจต่างกระทบซึ่งกันและกัน หลินหยางค่อยๆเปลี่ยนท่าเร้ารึงเนื้อทั้งสองก้อนนั้น ภายใต้การกระตุ้นแบบนี้ เผิงจิ้งทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอพลิกตัวขึ้นไปกองอยู่บนขอของหลินหยาง
หลินหยางรู้สึกว่าขาของตัวเองเปียกชุ่ม เขาก้มหน้า เห็นแต่ลำธารสายน้อยไหลออกมาจาก ร่องนาผืนน้อย ไหลรินอยู่บนขาของเขา
เขายื่นมือออกมาข้างหนึ่งไปทางพงหญ้า ไม่นานนักลำธารสายน้อยก็ไหลออกมาเป็นแม่น้ำ
“อ๋า!”หลินหยางเย้าแหย่อยู่บริเวณนั้น เผิงจิ้งทนไม่ไหวต่อไปอีกแม้แต่น้อย ในปากเจ้าหล่อนส่งเสียงครางไม่หยุด
หยางหวั่นจ้องมองคนทั้งคู่ สถานการณ์เผ็ดร้อนแบบนี้ เธอเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก หน้าแดงก่ำจนเลือดแทบจะหยดออกมา ปากค่อยๆแห้งผาด
อดกลั้นไม่ไหวจริงๆ เผิงจิ้งประคองมังกรยักษ์นั้นแล้วค่อยๆสอดเข้าไปในผืนนาร่องน้อย
หยางหวั่นตาโตขึ้นทันที กระพริบตา กลัวว่าจะพลาดฉากเด็ดนี้ไป
เผิงจิ้งอดกลั้นไม่ไหวตั้งนานแล้ว ขืนเป็นแบบนี้ต่อไป เธอขมวดคิ้ว ส่งเสียงคราง
“เจ็บไหม”หยางหวั่นที่อยู่ด้านข้างถามอย่างเป็นห่วง ของใหญ่ขนาดนั้นยัดเข้าไป หยางหวั่นรู้สึกกลัวเล็กน้อย
“ไม่เจ็บ แค่ไม่ชิน แต่เดี๋ยวก็ดีขึ้น ”เผิงจิ้งพูดขึ้นมาคำหนึ่ง เธอเอี้ยวตัวไป ค่อยๆทำความคุ้นชิน
เธอก้มหน้าเห็นมังกรยังโผล่ออกมาหนึ่งส่วนสาม จึงอุทานออกมาว่าทุนเดิมของหลินหยาง นั้นหนาจริงๆ ห่างจากแฟนของเจ้าหล่อนไปหลายตรอกเลยทีเดียว
ของแฟนเจ้าหล่อนพอใส่เข้าไป เธอแทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย กลับรู้สึกโล่งสนิท แต่กับ หลินหยาง ทำให้ตัวเองรู้สึกบวมคับ
หยางหวั่นผู้ดูอยู่ข้างๆเห็นเผิงจิ้งเหงื่อตก แต่เธอก็เป็นห่วงไม่นานสักเท่าไหร่ ก็เห็นเผิงจิ้งจับมังกรใส่เข้าไปได้เต็มที่แล้ว คิ้วที่ขมวดอยู่ก็คลายออก
ความรู้สึกบวมยังคงอยู่ แต่ความรู้เจ็บมลายหายไปแล้ว มีของรักให้เล่นแบบนี้ เผิงจิ้งบิดไปบิดมามันเร้าใจดี
หลินหยางขึ้นหน้ารับเผิงจิ้ง รถส่งเสียงไม่หยุด
ภายใต้ความเร้าใจของหลินหยาง เผิงจิ้งเผยอปากขึ้นเล็กน้อย สีหน้าแดงก่ำ เธอค่อยๆตื่น เต้นขึ้นมา เสียงร้องกลบกันไปมา เดิมทีในใจยังพอมีความกระดากอายอยู่บ้าง แต่พอได้ปะทะกับหลินหยางอย่างเร่าร้อนแล้ว เธอก็จมดิ่งลงสู่ความสุขสันต์อย่างเต็มตัว ความรู้สึก กระดากอายมลายหายเข้ากลีบเมฆ
หยางหวั่นจ้องมองสองคนที่กำลังเร่าร้อนอย่างหน้าแดง แววตาทั้งสองค่อยๆเป็นประกายขึ้น ฉากเผ็ดร้อนระหว่างหญิงชายแบบนี้ เกรงว่าชาตินี้ทั้งชาติคงได้เห็นแค่ไม่กี่ครั้ง ตอนนี้หัวใจเธอพองขึ้น หางตาของเธอก็คอยปราดไปทางเจ้าโลกของหลินหยาง พอเห็นมังกรยักษ์นั้นทะลวงเข้าแล้วทะลวงออก การหมุนเวียนเช่นนี้ช่างดุเด็ดเผ็ดมันส์เหลือเกิน
เดิมทีหยางหวั่นไม่ได้ใส่เสื้อผ้า จู่ๆเธอก็รู้สึกว่ามีน้ำสายน้อยๆไหลลงมาที่หว่างขา เธอบิดขาไปมาอย่างอึดอัด แล้วหนีบขาทั้งสองเข้าด้วยกันแน่น แต่แบบนี้ทำให้ยิ่งรู้สึกอึดอัด เธอรู้สึกว่าน้ำน้อยๆนั้นไหลทะลักออกมามากขึ้น แล้วก็ไหลแรงขึ้นๆ
ราวกับไม่เคยได้สัมผัสความรู้สึกพึงพอใจเยี่ยงนี้ วันนี้เผิงจิ้งรู้สึกตื่นตัวเป็นพิเศษ ไม่นานนักก็ร้องออกมาอีกเสียง พร้อมกับกอดรัดฟัดเหวี่ยงคอของหลินหยาง
“หลินหยางคะ สุดยอดเลยค่ะ!”เผิงจิ้งชมเปลาะ
“มีที่สุดยอดกว่านี้อีกนะจ๊ะ”หลินหยางกอดเอวเผิงจิ้งไว้ แล้วตั้งท่ารับกับเผิงจิ้ง
เผิงจิ้งผู้ไปถึงจุดสุดยอดเมื่อครู่ หวีดร้องออกมาอย่างเร้าใจ
หลังจากที่เผิงจิ้งถึงจุดสุดยอดไปสามครั้ง ร่างกายของเธอก็เริ่มอ่อนปวกเปียก เธอนอน พาดเล่นอยู่บนบ่าของหลินหยาง เดิมทีเธอเหนื่อยจนจะไม่ไหวอยู่แล้ว แต่เธอก็ควบคุมเสียงหวีดร้องของตัวเองไว้ไม่ไหว เธอร้องครางอยู่ราวชั่วโมงเศษ จนเสียงแหบแห้ง ในที่สุดก็รู้สึกเหนื่อยจนเหมือนจะเป็นลมไป หลินหยางจึงหยุด
เขารู้สึกว่าอาวุธของตนเองนั้นได้กวาดไปกวาดมา เจ้ามังกรตัวใหญ่นั้นชูผงาดขึ้นอีก อย่างรื่นเริง
หลังจากที่ทุกอย่างมลายหายไปแล้ว เผิงจิ้งก็ยังไม่ได้ลงมาจากขาของหลินหยาง เธอนอน หอบหมดแรงอยู่บนขาของเขา
หยางหวั่นผู้ซึ่งไม่ได้สวมเสื้อผ้า เห็นสภาพเพื่อนรักหมดแรงและหมดสภาพ จึงถามขึ้น อย่างห่วงใย“เผิงจิ้ง รู้สึกเป็นไงบ้าง ไม่สบายหรือเปล่า”
“ไม่สบายเหรอ เป็นไปได้ไง สะใจจะตาย!”เผิงจิ้งหรี่ตาพูด
พอได้ยินคำพูดอันหน้าไม่อายของเผิงจิ้ง หยางหวั่นจึงหน้าแดงขึ้นอีกรอบ เธอมองดู หลินหยาง ก็ค้นพบว่าหลินหยางเองก็กำลังคะเนดูเธอเหมือนกัน เธอจึงก้มหน้าหลบลงอย่างเขินอาย
เมื่อเห็นจริตจก้านของหยางหวั่น ใจที่เรียบลงของหลินหยางก็เริ่มพลุ่งพล่านขึ้นอีกครั้ง ท่าทางเจ้าหล่อนเหมือนอยากพูดแต่เก็บอมพะนำไว้ แลดูน่าเห็นใจ รูปร่างสะโอดสะองส่ง กลิ่นหอมรัญจวน ดึงดูดหลินหยางได้มาก
มังกรยักษ์ที่เพิ่งออกศึกไปหนึ่งรอบ กลับฟื้นคืนชีวิตชีวาอีกครั้ง
เมื่อสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนไปของหลินหยาง เผิงจิ้งจึงรีบทำเสียงออดอ้อน ด้วยสีหน้าแดง ระเรื่อ“ร้ายจริงๆเลยอ่ะ ทำไม……ทำไมถึงขึ้นมาอีกแล้วอ่ะ”
“อะไรขึ้นมาอีก”หยางหวั่นเข้ามาถามด้วยความฉงนสนเท่ห์
“ก็จะอะไรอีกเล่า ก็เจ้านั่นน่ะสิ!”เผิงจิ้งกำลังจะลงจากตัวหลินหยาง แต่เพราะเสียพลังไปมาก พอลุกขึ้นมาก็ล้มพับอีก
การเสียดสีอย่างแรงกล้าทำให้เกิดความสุขสันต์ เผิงจิ้งร้องเสียงดังออกมาอีกรอบ
สีหน้าของเผิงจิ้งผ่องราวกับสายรุ้งที่ขึ้นมาจากทิศตะวันตก เธอกัดฟันสู้อีกรอบ รอบนี้ดี หน่อย ในที่สุดก็ลงมาจากตัวหลินหยางได้
เมื่อเห็นสงครามอันทุลักทุเลของทั้งคู่ หัวใจของหยางหวั่นเต้นเร็วและรัว เธออยากจะมี โอกาสขึ้นไปขี่คร่อมบนตัวหลินหยางแบบเผิงจิ้งจริงๆ
หยางหวั่นรู้สึกตกใจที่ในใจรู้สึกแบบนี้ เธอไม่อยากจะคิด แต่ว่าในหัวก็มีแต่ความเร่าร้อนของหลินหยางปรากฏไปทั่ว
“หยางหวั่น พี่อยากให้เธอรู้ว่าผู้ชายมีทุนเดิมสูง ถึงจะทำให้ผู้หญิงสบายได้ แต่เมื่อเสียสละตัณหาออกไปแล้ว เธอได้เปรียบพี่เต็มๆ เธอว่ามาสิ เธอจะขอบใจฉันยังไง”เผิงจิ้งพูด อย่างอ่อนแรง
“ก็ตกลงกันแล้วไงว่าเลี้ยงข้าวสามวันน่ะ”
“แล้วถ้าเธอพูดเรื่องของฉันกับหลินหยางออกไปล่ะ ฉันกับแฟนไม่พังกันพอดีเหรอ”เผิงจิ้งเอ่ยขึ้นอย่างกังวล
“บ้าเหรอ ฉันจะไปพูดกับใคร”หยางหวั่นพูดอย่างไม่สบอารมณ์
“มันก็ไม่แน่หรอกนะ เกิดวันไหนเธอโดนคนวางยาขึ้นมา หรือเมาเหล้า พูดออกมาหมดเปลือกแล้วทำไง เธอเองก็จะต้องมีอะไรกับหลินหยางด้วยเหมือนกัน”
พอได้ยินคำพูดของเผิงจิ้ง หลินหยางแอบอุทานในใจว่าเธอช่างเป็นหญิงสาวผู้ประเสริฐจริงๆ คิดเผื่อกันเรียบร้อย
“ให้ฉันกับหลินหยางมีอะไรกันเหรอ”หยางหวั่นอุทานอย่างตกใจ แม้ว่าในใจเธอจะเฝ้าคอยก็เถอะ แต่เธอยังไม่ทันเตรียมตัวเลย
“อืม พี่ก็ไม่อยากฝืนใจเธอนะ ทำออรัลเซ็กส์กับหลินหยางก็ได้”
“ทำไงอ่ะ”หยางหวั่นถาม
“จะทำไงได้อีกล่ะ ก็ทำแบบที่เราดูหนังเมื่อคราวก่อนน่ะสิ”เผิงจิ้งพูดอย่างไม่ต้องคิด จู่ๆก็พูดโพล่งมาว่าทั้งสองคนได้ดูหนังโป๊มา
“แต่ว่าฉัน……”หยางหวั่นลังเล นิสัยเธอค่อนข้างขี้อาย และค่อนข้างอนุรักษนิยม
“ไหลออกมาขนาดนี้แล้ว ยังจะมาแกล้งไร้เดียงสาอยู่ได้ อยากก็เร็วๆเข้า”เผิงจิ้งกวาดตามอง จู่ๆค้นพบอะไรเข้า แล้วร้องเสียงหลงออกมา
“ทุเรศที่สุด!ดูอะไรเนี่ย!”หยางหวั่นพูดอย่างไม่ชอบใจ
หลินหยางมองไปทางที่เผิงจิ้งชี้ หว่างขาของหยางหวั่น มีน้ำไหลออกมาเป็นทาง
น้ำเมือกใสๆนี้ช่างเย้ายวนเหลือเกิน ดูจนหลินหยางตัณหากลับอีกรอบ มังกรที่เดิมทีกำลังจะผงาดขึ้นมา ยิ่งชูโด่คึกคักเข้าไปใหญ่
“ได้นิดเดียวนะ!”หยางหวั่นรู้ว่าถ้าเธอกุมความลับของเผิงจิ้งไว้ มันจะไม่ค่อยแฟร์กับเพื่อนรักสักเท่าไหร่ จึงได้แต่ถอย
“นิดเดียวได้ไงล่ะ อย่างน้อยต้องสิบนาที ฉันกับหลินหยางยังตั้งชั่วโมงกว่าเลย”เผิงจิ้งพูด จู่ๆในหัวก็เกิดภาพการกอดรัดฟัดเหวี่ยงกับหลินหยาง รู้สึกแต่ว่าผืนนาศักดิ์สิทธิ์ที่หดถอย กลับเกิดความรู้สึกเร่าร้อนอีกครา
หยางหวั่นเองก็รู้สึกว่าสิบนาทีเมื่อเทียบกับหนึ่งชั่วโมงของเพื่อนรักแล้วมันน้อยมาก ได้ แต่ก้มหน้าแดง มองหลินหยางอย่างเขินอาย ค่อยๆคุกเข่าลง ยื่นปากไปที่หว่างขาของ หลินหยาง
หลินหยางรู้สึกได้แต่ความชุ่มชื้น จากนั้นก็สบาย แม้ว่าหยางหวั่นจะยังใช้ปากไม่เก่ง แต่ว่า หลินหยางก็ยังรู้สึกเร้าใจอยู่ดี
ขณะที่อมวัตถุใหญ่ชิ้นนี้ หยางหวั่นไม่สามารถอมมิดด้ามได้สักที มือน้อยๆของเธอคอย ชักว่าวให้อยู่นั่น
เผิงจิ้งคอยดูอย่างออกรสออกชาติอยู่ด้านข้าง แม้ว่านาผืนน้อยจะถูกหลินหยางบดขยี้จนไม่ เหลือสภาพ แต่พอเห็นฉากยั่วยวนแบบนี้ นาผืนน้อยก็อดเปียกชื้นขึ้นมาไม่ได้อีกรอบ
หลังจากที่หลับตาดื่มด่ำอยู่ราวๆสิบนาที หยางหวั่นก็ค่อยๆคล่องขึ้นเรื่อยๆ
“ถึงเวลาแล้วสินะ”หยางหวั่นจ้องมองเจ้ามังกรชูคอพิโรธนี้ เธอเพิ่งสัมผัสได้ถึงกระบวน การที่ใหญ่และใหญ่ขึ้น