บทที่ 91 ไม่ปรับราคา
“มันจะกลับมาหย่อนยานอีกไหม” หยางเฟินกังวลจึงได้ถามหลินหยางเสียงเบาๆ
“อาจไม่มาก แต่มันก็จะค่อยๆยุบลงไปตามเวลาของมัน ทำอย่างไรได้คนมันไม่สามารถเป็นหนุ่มสาวไปได้ตลอด” หลินหยางตอบด้วยเสียงหัวเราะ
“แล้วมันสามารถอยู่ได้นานแค่ไหน” หยางเฟินถามด้วยความหวัง
โดยทั่วไปแล้วหากหน้าอกของคนจะหย่อนยานลง อายุสักสามสิบกว่าๆก็เริ่มหย่อนหนักหน่อย แต่ถ้าเริ่มนับจากอายุสิบแปด อายุการใช้งานก็ประมาณสิบกว่าปี ดังนั้นหากการนวดครั้งนี้สำเร็จ หน้าอกของคุณก็จะเต่งตึงไปอีกแปดปีสิบปี หลินหยางตอบด้วยรอยยิ้ม
หยางเฟินลองคำนวณดูในใจ ตอนนี้ตัวเองอายุเพิ่งจะสามสิบเจ็ดปี สิบปีให้หลังก็สี่สิบเจ็ดปี ถึงตอนนั้นตัวเองก็อายุเยอะแล้ว จะยุบก็ยุบไปเถอะ
“ถ้าอย่างนั้น……ถ้าอย่างนั้นที่สิ่งคุณจะให้ฉันทำก็คือ” หยางเฟินถามหลินหยางอย่างเหนียมอายด้วยน้ำเสียงเบาๆ “ต้องถอดเสื้อออกใช่ไหม”
“ถูกต้องครับ ต้องถอดท่อนบน ถ้าไม่อย่างนั้นผมจะทำงานไม่สะดวก” หลินหยางพยักหน้า
“หากนวดแล้วไม่เห็นผลจะว่าอย่างไร”
“ผมจะนวดให้คุณก่อนเป็นเวลาครึ่งชั่วโมง หากเทียบการนวดก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรดีขึ้น ผมก็จะไม่เก็บค่ารักษา คุณกลัวอะไรเหรอครับ” หลินหยางพูดแล้วยิ้มอ่อน
แม้ว่าในใจอยากจะพูดว่า หากไม่เห็นผลก็เท่ากับว่าที่คุณแต๊ะอั๋งฉันฟรีๆ แต่ทว่าหยางเฟินยังคงยอมอดทนที่เปลื้องผ้าต่อหน้าชายแปลกหน้า ตั้งแต่เกิดมาก็ครั้งแรกนี่แหละ
มองหยางหลินด้วยความเขินอาย แต่เพื่อความสวย กลั้นใจปลดสายผูกเสื้อออก ทันใดนั้นรูปร่างท่อนบนก็ได้เผยออกทันที
หลินหยางมองเห็นเนินอกที่ฟู พลางคิดว่าหากปลดเสื้อชั้นในสีดำที่หน้าอกออก อกที่ฟูฟ่องเต็มไม้เต็มมือขนาดนั้นหลินหยางอดไม่ได้ที่กลืนน้ำลาย
“คุณปลดเสื้อในออก ผมจะดูว่าของคุณหย่อนยานอย่างไร” หลินหยางสูดลมหายใจ พูดอย่างนิ่งๆ
เนื่องจากเป็นชุดแซก หลังจากแก้ท่อนบนออก ไม่ค่อยสบายตัว หยางเฟินก็เลยถอดชุดแซกออกจนหมด จนเห็นรูปร่างสรีระภายใน ไม่มีอะไรปกปิดปรากฏต่อหน้าหลินหยาง
หลังจากที่ได้ยินหลินหยางพูด หยางเฟินถึงแม้จะเขินอาย แต่ทว่ามาถึงขนาดนี้แล้ว ก็ไม่มีอะไรจะเสียแล้ว จึงเอื้อมมือไปปลดตะขอเสื้อใน หลังจากถอดออก อกภูเขาขาวอวบอิ่มเด้งดึ๋งก็เด้งออกมาในทันใด
เมื่อได้เห็นอกที่ใหญ่นั้น หลินหยางตกตะลึง รูปร่างหยางเฟินดีมาก สรีระไม่มีเนื้อส่วนเกิน ผิวขาวมาก ปกติจะต้องเป็นคนที่ดูแลตัวเองมากๆ
ทว่าอกภูเขาขาวนวลคู่กัน ถึงแม้มันดูใหญ่เต็มไม้เต็มมือ ที่น่าเสียดายคือมันหย่อนยานมากๆ ถ้าผ่านไปอีกสักสองสามปี ยานถึงเข่าแน่นอน
หลินหยางขมวดคิ้วถามด้วยเสียงเบาๆว่า “หน้าอกของเธอ ตอนเป็นวัยรุ่นน่าจะหย่อนยานบ้างแล้วใช่ไหม”
“อือ ดูเหมือนว่ามันจะใหญ่ไปสักหน่อย เมื่อตอนอายุยี่สิบกว่าๆ ก็เริ่มหย่อนยานแล้ว” หยางเฟินพูดเสียงเบาอาการหน้าแดง
“หลังจากที่เกิดลูกสองคน การหย่อนยานก็เริ่มเร็วขึ้นใช่หรือเปล่า” หลินหยางเดินเข้าไปใกล้ๆหยางเฟิน พลางมองอกภูเขาคู่นั้น
เมื่อถูกหลินหยางมองในระยะที่ใกล้ขึ้น หยางฟินเริ่มมีอาการหน้าแดงมากขึ้น ตอบด้วยเสียงเขินเบาๆ “อือ”
“ว๊าย !” หยางเฟินตกใจขึ้นมาในทันใด ก้มลงมอง มองเห็นเพียงแค่มือสองข้างกดทับอยู่ที่หน้าอกนุ่มๆของตัวเอง
“คุณทำอะไร” หยางเฟินตะโกนต่อว่า
“ผมลองดูว่ามันหย่อนยานแค่ไหน คุณจะตะโกนทำไม ประเดี๋ยวผมนวดก็ต้องจับอยู่ดี” หลินหยางตอบด้วยเสียงที่เงียบขรึม
หลินหยางพูดจนทำให้หน้าแดงถึงหู อีกนิดก็จะบอกว่าไม่ต้องนวดแล้ว จากนั้นหยางเฟินสูดหายใจลึกๆทำจิตใจให้สงบ หลับตาแล้วให้หลินหยางทดสอบต่อไป
สองมือของหลินหยางยังคงวางอยู่บนหน้าอกของหยางเฟิน วินิจฉัยอยู่นาน ในใจพอที่จะรู้ว่าต้องทำอย่างไร ถึงแม้ว่าหย่อนยานค่อนข้างมาก แต่ก็ไม่ถึงขั้นกับว่าไม่มีทางรักษา ในทางกลับกันโอกาสที่หน้าอกจะกลับมาเต่งตึงอีกครั้งมีความเป็นไปได้สูงทีเดียว
“หน้าอกของคุณนี่นุ่มมาก เมื่อช่วงที่เต่งตึงที่สุด ก็ไม่ถึงกับว่าเต่งตึงมากใช่ไหม” หลินหยางถามพลางยิ้ม
หยางเฟินรู้สึกประหลาดใจมาก ทั้งที่หลินหยางไม่เคยเจอกัน ไม่เคยเห็นรูปร่างตนเองมาก่อน แต่พอตรวจปุ๊บก็รู้ปั๊บสามารถวินิจฉัยได้แม่นยำ ทำให้หยางเฟินต้องประเมินความสามารถทางการแพทย์ของหลินหยางใหม่ และได้พยักหน้ารีบตอบไปว่า “ประมาณที่คุณพูดนั่นแหละ ไม่ค่อยเต่งตึงเท่าไหร่ เป็นอย่างไรบ้าง นวดแล้วจะเห็นผลไหม”
“ยังต้องลองดูก่อนถึงจะรู้ผล ผมว่าครั้งนี้ผมนวดกระชับหน้าอกให้คุณดีกว่า หากการนวดกระชับหน้าอกครั้งนี้เห็นผล จนกระทั่งครบรอบการรักษา เป็นไปได้ว่าอาจจะเต่งตึงมากกว่าครั้งที่คุณเคยเต่งตึงที่สุดด้วยซ้ำ ” หลินหยางพูดด้วยความมั่นใจ
เมื่อเห็นท่าทางมั่นใจของหลินหยางแล้ว ในใจหยางเฟินเต็มไปด้วยความดีใจ รีบตอบกลับไปว่า “ถ้าอย่างนั้นจะเริ่มเมื่อไหร่”
เห็นท่าทางหยางเฟินดีใจด้วยความเห็นตื่นเต้นจนตัวสั่น หลินหยางรู้สึกว่าน้องชายตัวเองตื่น ภายใต้กางเกงในสีดำ ที่ปกปิดที่นาไม่มิด ยิ่งทำให้น่าหลงใหลยิ่งขึ้น
“จริงเหรอ ถ้าอย่างนี้ก็เริ่มเลยละกัน ฉันพร้อมแล้ว” หยางเฟินรีบตอบ
หลินหยางก็ไม่เกรงใจ พอถอดรองเท้าเสร็จก็นั่งตรงบริเวณหัวเตียง สองขากางออกให้เหลือพื้นที่เล็กน้อย กวักมือเรียกหยางเฟิน “มาๆคุณ มานั่งตรงนี้”
หยางเฟินเผลอมองไปที่หลินหยาง ทันใดนั้นก็เห็นรอยเป้าระหว่างขาตั้งตระหง่าน ใจของหยางเฟินเต้นไม่เป็นจังหวะ ย้อนนึกถึงเสียงร้องครวญครางของจางเยว่ ที่ดังออกมาจากข้างในห้อง แล้วดันมาเห็นเส้นรัศมีวงกว้างอันน่าทึ่งของหยางหลินนี้อีก ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่าทำไมจางเยว่ถึงร้องเสียงหลงขนาดนั้น
ช่วงเวลาที่นั่งอยู่ระหว่างขาของหลินหยาง ใจเต้นตึกตักตลอดเวลา พลางหยิบรีโมทเครื่องปรับอากาศปรับไปที่อุณหภูมิ 20 องศา
“พร้อมหรือยัง” หลินหยางถามขึ้นมาคำหนึ่ง
“อือ” หยางเฟินพยักหน้า
หลินหยางไม่เกรงใจ สองมือสวมกอดเอวของหยางเฟินเป้าหมายตรงไปยังทรวงอกสองเต้าอันอวบอึ๋มคู่นั้น
หลังจากที่ได้สัมผัสทรวงอกอันอวบอิ่มนิ่มนวลแบบไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน ทำให้ไม่สามารถยับยั้งสองมือของตัวเองได้ ได้กระตุ้นไฟราคะในตัวของหลินหยางให้ปะทุออกมา
ในใจก็นึกถึงพ่อแม่ครูบาอาจารย์ หลังจากที่สามารถสงบจิตสงบใจได้แล้ว ลมปราณในร่างกายก็ได้วิ่งไปทั่วร่าง สองมือที่ได้นาบอยู่ตรงทรวงอกก็เริ่มทำงานทันที
ความรู้สึกที่ผิดปกติกแล่นผ่านมาในทันใด หยางเฟินยังไม่ทันได้ตั้งตัวก็ส่งเสียงครวญออกมา หลังจากได้สัมผัสกับการนวดของหลินหยาง ตอนที่เริ่มก็ให้ความรู้สึกที่เร้าใจเหมือนที่ตัวเองเจอ มิน่าหล่ะเล่นจางเยว่ซะขนาดนั้น
เวลาห้านาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว ใบหน้าอันสวยงามของหยางเฟินแดงเสมือนฟ้ายามอาทิตย์อัสดง ลมหายใจเริ่มสงบ ทรวงอกทั้งสองข้างชูชันไปพร้อมกับลมหายใจเข้าออกของเธอ ชวนให้น่าหลงใหลยิ่งนัก
ระหว่างที่หลินหยางนวดคลึงหน้าอกตรงบริเวณเส้นไม่กี่จุด ในที่สุดหยางเฟินก็ทนไม่ไหว ส่งเสียงครางออกมาครึ่งหนึ่ง
หลังจากที่ส่งเสียงคราง ในใจหยางเฟินเขินอายแบบไม่เคยอายอย่างนี้มาก่อน มีผู้ชายแปลกหน้ามายืนตรงตรงหน้าแล้วส่งเสียงครางแบบนี้ออกมา คิดแล้วมันน่าอายที่สุด
“หลินหยาง ฝีมือในการนวดของคุณนี้ถือว่าไม่ขี้หมูขี้หมาเลยนะ นับว่าเฉพาะการนวดให้คนนี่ ก็สามารถรวยได้เลยนะ ” หยางเฟินกล่าว
“ผมเป็นหมอก็ดีอยู่แล้ว หากอะไรก็ทำหมด แย่งงานคนอื่นหมดพอดี” หลินหยางตอบพลางได้สูดกลิ่นตัวหอมสดชื่นที่มาจากตัวของหยางเฟิน
“”หลินอยาง ฉันขอถามคุณหน่อย” ดูเหมือนว่ามีความเขินเล็กน้อย แต่ในที่สุดก็ถามออกไป “เวลาที่คุณนวดกระชับหน้าอกให้คนอื่น พวกเขามีปฏิกิริยาจากการนวดหรือเปล่า”
“ถ้าเป็นผู้หญิงปกติทั่วไป ก็จะมีอาการบ้างแหละ” หลินหยางพยักหน้าตอบแบบไม่ปิดบัง
“พวกเขาจะส่งเสียงร้องออกมาไหม” หยางเฟินถามอย่างหน้าแดง
“หากว่าทนไม่ไหวก็จะร้องออกมา ถ้าคุณทนไม่ไหว ก็อย่าฝืนเลย” หลินหยางพูดพลางยิ้ม “ผมเป็นหมอ ไม่ขำคุณหรอก”
หยางเฟินได้ฟังก็รู้สึกสบายใจ ในใจคิดว่าหลินหยางเป็นคนเอาใจใส่
“อ่อ คุณรักษาเสี่ยวเยว่ให้หายได้อย่างไร” หยางเฟินถาม
หลินอยางอธิบายอย่างคร่าวๆให้ฟัง หยางเฟินในใจรู้สึกประหลาดใจ รีบเปลี่ยนเรื่อง ยิ้มมุมปากถามออกไปว่า “คุณอยู่กับเสี่ยวเยว่ตั้งหลายวัน คุณกับเสี่ยวเยว่มีอะไรกันบ้างหรือเปล่า”
หลินหยางได้ยินเกิดความลำบากใจนิดหน่อย ถึงแม้รู้ว่าหยางเฟินได้ยินตนและจางเยว่ทำอะไรกันในห้องส่งเสียงออกมา แต่ว่าเรื่องแบบนี้ใครจะออกตัวยอมรับหล่ะ ขณะที่มือเริ่มออกแรง สองมือเริ่มเร่งความเร็วขยี้ลูกเกด หยางเฟินเริ่มส่งเสียงร้องอีกครั้ง ร่างกายสั่นอ่อนไปหมดทั้งตัวภายในอ้อมกอดของหลินหยาง
“คุณนี่ บ้าที่สุดเลย คุณต้องตั้งใจแน่ๆเลย” หยางเฟินค้อนใส่หลินหยาง อยากจะลุกออกจากอ้อมกอดของหลินหยาง แต่โดนหลินหยางเล่นขนาดนี้ เธอหายใจแทบไม่ทันจนไม่เหลือแรง
“ที่ไหนกันหล่ะ ผมก็แค่ทำไปตามขั้นตอนของการนวด” หลินหยางแอบยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย
ถูกหลินหยางล่วงเกินอย่างไม่หยุด แต่ในใจอยางเฟินกลับไม่มีการขัดขืน อีกทั้งยังมีอาการฟินบ้างเล็กน้อย ขาทั้งสองข้างมีอาการสั่นอยู่บ่อย รู้สึกแต่เพียงแค่ว่ามีสายน้ำเล็กๆไหลจ๊อกๆออกมาจากที่นาผืนน้อย
“อ่อ สองสามวันหลังจากนี้คุณพักที่ไหน คงไม่ได้พักบ้านของจางเยว่ทุกวันหรอกนะ”
“จะเป็นไปได้ยังไง แม้ฉันจะโอเค แต่คนในบ้านของจางเยว่ไม่โอเคแน่ๆ คุณไม่ใช่ว่าให้เงินผมเกินมาหนึ่งหมื่นหยวนแล้วเหรอ ถึงตอนนั้นผมคงออกไปหาโรงแรมพัก” หลินหยางพูดเสียงเบา
“ถึงตอนนั้นคุณพักที่ไหนก็บอกฉันด้วยแล้วกัน ฉันได้ไปหาคุณได้” หยางเฟินพูดเสียงเบา
“ครับ”
“เวลาผ่านไปหนึ่งนาที่ หนึ่งวินาที หลังจากผ่านสิบนาที ร่างกายของจางเยว่ก็ร้อนวาบขึ้นมา ปากส่งเสียงร้องบอกๆออกมาไม่หยุด ”
เห็นสาวสวยอรชรอ้อนแอ้นในอ้อมอก ในใจของหลินหยางอุทานออกมา งานนวดนี้เป็นงานที่ไม่ใช่ให้คนทั่วไปทำ เล่นซะตัวเองเกิดอารมณ์อยู่เรื่อยๆ แต่กลับไม่มีที่ระบายออก
“หลินหยาง ตอนที่เธอนวดให้จางเยว่ นวดแค่หนึ่งชั่วโมงจริงเหรอ” หยางเฟินถามอย่างสงสัย
“คุณได้ยินหมดแล้ว ยังจะมาถามอะไรอีก” หลินหยางพูดด้วย้ำเสียงโมโห “อยู่บ้านคนอื่น ยังจะแอบฟังอีก คุณนี่มีงานอดิเรกที่น่าพิลึกดีเนอะ”
“บ้อบอ ใครอยากจะแอบฟัง ถ้าไม่ใช่เสี่ยวเยว่นางตัวดีนั่น ร้องเสียงซะเสียงหลงดังขนาดนั้น ใครมันจะไม่ได้ยิน”
เมื่อศักยภาพตัวเองมาถึงในช่วงสำคัญ เสน่ห์บนเรือนร่างของหลินหยางน่าหลงใหลยิ่งนัก ระหว่างที่หลินหยางนวดกระชับทรวงอกภูเขาอย่างไม่หยุดนั้น หยางเฟินในที่สุดก็ทนไม่ไหว เอามือสอดเข้าไปในกางเกงในตัวจิ๋วของตัวเอง
แรกๆก็ยังไม่เริ่มเขี่ย แต่พอไม่นานก็เริ่มที่จะเขี่ย และเสียงครางของเธอยิ่งร้องก็ยิ่งชวนให้หลงใหล
หลินแอบด่าในใจ ผู้หญิงคนนี้จะยั่วเรานี่หว่า ครั้นแล้วสายตาก็แอบมองไปที่กางเกงในตัวจิ๋วของหยางเฟิน
“เสี่ยวหยาง ถ้าฉันจะช่วยตัวเอง คุณจะไม่หัวเราะเยาะฉันใช่ไหม” หยางเฟินพูดเสียงเบา พลางนึกในใจวันนี้ทำตัวเองถึงได้หมดสภาพเยี่ยงนี้
“ไม่เป็นไรครับ คุณทำไปเถอะ” หลินพยักหน้า และไม่มีความเห็นอื่นใด
“คุณนวดให้คนอื่น ก็ห้ามมีอะไรกันใช่หรือเปล่า ” หยางเฟินอยู่ก็ถามขึ้นมา
“อย่างไรก็ได้ คุณวางใจเถอะ” หลินหยางหัวเราะพลางพูด
“งั้นก็ดี ดีกว่าอีสถาบันเสริมความงามนรกหลายล้านเท่า ทำร้ายชั้นเสียเวลาไปเกือบครึ่งเดือน แถมยังไม่เห็นผลอีก” หยางเฟินพูดด้วยความโมโห
“อ่อ คุณนวดที่สถาบันเสริมความงามครึ่งเดือน เขาเก็บเงินคุณเท่าไหร่เหรอ ” หลินหยางถาม
“หากบอกความจริงไปแล้ว คุณจะไม่ขึ้นราคาใช่ไหม” หยางเฟินถามเสียงเบา
“คุณวางใจได้ ไม่ขึ้นราคาแน่นอน” หลินหยางตอบด้วยน้ำเสียงรับประกัน”
“ครึ่งเดือนปกติก็เก็บห้าหมื่นหยวน แต่ว่าสุดท้ายพวกเขาคืนเงินให้ฉันครึ่งหนึ่ง เพราะว่าไม่ได้ผลเลยสักนิด” หยางเฟินพูดด้วยความไม่พอใจ “ฉันว่าที่แห่งนั้นเป็นสถานที่หลอกลูกค้าชัดๆ จากนี้ไปจะบอกพวกพี่น้องฉัน ไม่ให้พวกเขาไปใช้บริการที่นั่นอีก”
หลินหยางพอได้ฟังในใจก็แอบตกใจ ดูๆแล้วเปิดสถาบันความงามรายได้ก็เยอะอยู่ แต่ทว่าคนมีเงินอย่างหยางเฟินนี้ อยากจะเข้าไปเสริมความงามก็น่าจะเลือกอะไรที่ดีที่สุด ราคาก็คงจะสูงน่าดู
หยางเฟินพูดกับหยางหลินไปพลาง มืออีกข้างก็ยังไม่ได้ว่าจะว่าง ก็ยังคงเขี่ยภายในกางเกงในตัวจิ๋วไม่หยุด ปากก็ส่งเสียงครางอันเสนาะหูยิ่ง