ซูเปอร์หมอเข็ม / หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+) – บทที่153 ฝีมือแพทย์ฉมัง

บทที่153 ฝีมือแพทย์ฉมัง

บทที่153 ฝีมือแพทย์ฉมัง

“ผมทราบดีว่าทุกท่านไม่พอใจ เรื่องอะไรที่ทุกคนพยายามมาหลายปีกว่าจะได้ตำแหน่งหัวหน้ามาได้ แต่จู่ๆผมโผล่มาก็ได้เป็นหัวหน้าเลย”

“ทุกท่านอาจจะสงสัย ว่าผมใช้เส้นท่านผู้อำนวยการหรือเปล่า ผมก็เป็นแค่กองหนุนหลังเองครับ ในสายตาทุกท่าน ผมอาจจะเป็นคนใหม่ที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ก็เป็นแบบนั้นจริงๆ ระบบประสาทระบบเซลล์อะไรพวกนี้ผมพูดไม่เป็นหรอก”

“แต่ว่า ท่านผู้อำนวยการเป็นคนยอมรับให้ผมมาเอง ต่อให้ทุกท่านคัดค้าน ก็ทำให้ผมลงได้ไม่ง่ายนักหรอก ถ้าทำให้ท่านผู้อำนวยการไม่พอใจขึ้นมา พวกคุณอาจจะเดือดร้อนได้ หัวหน้าผู้เชี่ยวชาญทั้งสองท่านคัดค้าน เพราะประสบการณ์พวกท่านมากพอ ถ้าพวกเขาไป ก็หาโรงพยาบาลใหม่ที่ดีกว่าได้ แต่คนที่เหลือ ออกไปแล้วจะหางานที่ดีกว่าได้หรือเปล่า ก็ปล่อยให้พวกเขาโวยวายไป แล้วพวกคุณไปยุ่งอะไรด้วย”

หลินหยางพูดถึงตรงนี้ เขาทอดสายตามองผู้คน เป็นอย่างที่คิด แววตาทุกคนเปลี่ยนไป ต่างก็เงียบกริบและไม่พูดต่อ

“แล้วหัวหน้าทั้งสองก็ไม่ต้องเสียอารมณ์ครับ ผมสามารถยืนยันกับทุกท่านได้ ที่ผมมาทำงานที่นี่ ผมไม่ได้ใช้เส้นสายอะไร เซียวหวี่เป็นคนเชิญผมมาต่างหาก เธอเซ็นสัญญากับผม เงินเดือนสามหมื่นทุกเดือน ค่าคอม50% แต่ผมปฏิเสธไป จะมาแค่วันอังคารกับวันเสาร์ ผมรับตำแหน่งอย่างไม่รู้สึกผิดอะไร เพราะผมมาด้วยความสามารถของตัวเอง”

“หึ พูดน้ำไหลไฟดับไม่รู้ว่าของจริงหรือของปลอม”หัวหน้าเสิ่นเบ้ปากอย่างไม่พอใจ

“จะของปลอมหรือไม่ เวลาพิสูจน์ได้ คุณไม่รู้ว่าความสามารถของผมมีแค่ไหน ก็มาหาเรื่องกันซะแล้ว แบบนี้มันก็ผิดจรรยาบรรณแพทย์เหมือนกัน โบราณว่าผู้เป็นแพทย์ย่อมต้องมีใจดุจบิดามารดา คนที่จิตใจคับแคบ จะไปเป็นหมอได้ไง ทุกท่าน ผมหลินหยางขอรับประกันกับทุกท่านที่ ภายในหนึ่งเดือน ถ้าทุกท่านคิดว่าความสามารถผมไม่ถึง ผมยินดีจะลาออกไปเอง”

ได้ยินน้ำเสียงค่อนแคะของหลินหยาง อคติที่ทุกคนมีต่อหลินหยางจึงน้อยลงไปมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งคำสุดท้ายที่บอกว่า จะลาออกไปเอง ยิ่งทำให้ทุกคนปล่อยวางความไม่พอใจลงได้

“งั้นหวังว่าคุณคงจะรับประกันได้ อย่าถึงเวลาแล้วตระบัดสัตย์ไม่ยอมรับ”หัวหน้าเสิ่นดูเหมือนจะปักใจเชื่อว่าหลินหยางใช้เส้นสายเข้ามาทำงาน จึงยังคงเบ้ปากไม่ยอมหยุด

หลินหยางมองดูหัวหน้าเสิ่น ผิวที่ขาวละเอียด หน้าตาหมดจด คิ้วโค้งเป็นรูปใบหลิ่วได้ที่ คางเชิดขึ้นเล็กน้อย พร้อมด้วยรอยยิ้มทระนง ดูมีสง่าราศี ในขณะที่กำลังจะโต้เถียงกลับ หมอคนหนึ่งก็ทะลึ่งพรวดเข้ามา

“หัวหน้าเสิ่น ครึ่งเดือนก่อนหน้ามีคนไข้คนนึง ที่มารักษาที่โรงพยาบาลเรา ในกระบวนการรักษา ตอนนี้ไม่เพียงแต่ยังรักษาไม่หาย แต่ดูอาการทรุดลงอีกด้วย พวกเราไม่รู้ว่าจะรับมือยังไงดี เชิญหัวหน้าเสิ่นไปดูด้วยครับ”

“อ๋อ ที่ไหนคะ”หัวหน้าเสิ่นได้ยินหน้าเปลี่ยนสีทันที จึงรีบลุกขึ้นเตรียมจะไป ร่างกายเธอชะงักเล็กน้อย หันไปมอง หลินหยาง ยักคิ้วเป็นเชิงท้าทาย “หัวหน้าเซียว ไปดูด้วยกันหน่อยไหมล่ะ”

หลินหยางหัวเราะลั่น ไม่อยากจะเชื่อ ยักไหล่แล้วเดินตามไป

“เกิดอะไรขึ้น”พอมาถึงห้องตรวจ หัวหน้าเสิ่นถามเสียงเรียบ

พอเห็นคนเดินเข้ามา ผู้หญิงที่แต่งตัวทันสมัยจึงตะคอกขึ้น“เกิดอะไรขึ้น ครึ่งเดือนก่อนฉันมาหาหมอ พวกคุณบอกว่ารักษาหายแน่นอน แต่จนป่านนี้ก็ยังมีปัญหา วันนี้ถ้ารักษาไม่หาย ฉันจะฟ้องพวกคุณ!”

“อย่าเพิ่งใจร้อนไปเลยค่ะ เสี่ยวจาง ไหนวิเคราะห์อาการให้หมอฟังหน่อยสิ”หัวหน้าเสิ่นพูดเสียงเข้ม

เมื่อเห็นสีหน้าหัวหน้าเสิ่น หลินหยางอดพยักหน้าไม่ได้ หัวหน้าเสิ่นแม้ว่าจะไม่สบอารมณ์ที่ตัวเขาเป็นหัวหน้า แต่ก็ยังคงมีจรรยาบรรณแพทย์อยู่บ้าง

คุณหมอท่านหนึ่งส่งใบวินิจฉัยให้หัวหน้าเสิ่น หัวหน้าเสิ่นขมวดคิ้วไม่หยุด

อาศัยจังหวะที่ทุกคนไม่พูดอะไร หลินหยางจึงกวาดสายตามองดูผู้ป่วยสาว ผู้หญิงคนนี้ดูอายุราวๆยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปด สีหน้าซีดเผือด แม้ว่าจังหวะหายใจจะสม่ำเสมอ แต่ดูก็รู้ว่าพลังลมปราณไม่เพียงพอ ดูเสียเลือดมาก……

ในตอนที่หลินหยางกำลังวิเคราะห์อาการป่วย หัวหน้าเสิ่นก็วางใบวินิจฉัยในมือลง มองแล้วพูดกับผู้หญิงคนนี้ว่า“ระหว่างนี้ไม่ได้โหมกิน ไม่ได้กินของเผ็ดใช่ไหมคะ”

“เปล่า ก็ทำตามที่หมอแนะนำทุกอย่างแหละ ไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น จนตอนนี้ยังไม่ดีขึ้น คุณว่ามาเลยดีกว่าว่าอาการป่วยนี่มันรักษาได้ไหม จนตอนนี้ฉันยังไม่ดีขึ้นแถมอาการยังทรุดอีก!”น้ำเสียงของผู้หญิงคนนี้ดูโกรธเคืองไม่น้อย

“อย่าเครียดไปเลย รอตรงนี้ก่อน หัวหน้าทุกคนเข้าประชุมด้วย”หัวหน้าเสิ่นโบกมือ แล้วรีบตัดสินใจ

“ว่าไงล่ะ จะประชุมอีกเหรอ ตกลงรักษาได้ไหม”ผู้หญิงพูดอย่างไม่พอใจ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความเคลือบแคลงสงสัย

“อาการป่วยของคุณพบเจอได้ค่อนข้างน้อย พวกเราต้องอภิปรายถึงจะสรุปได้ว่าเป็นโรคอะไร คุณนั่งรอตรงนี้สักประเดี๋ยว เดี๋ยวเราก็หารือกันจนเสร็จ”

พอได้ยินคำพูดของหัวหน้าเสิ่น ผู้หญิงจึงเบ้ปาก แต่ว่าก็ยังคงนิ่งเงียบอยู่บนเก้าอี้

หัวหน้าเสิ่นพาคนจากไป ก่อนออกไปยังไม่ลืมทิ้งทวนไว้คำนึง“หัวหน้าเซียว อย่าลืมมาประชุมนะคะ”

หลินหยางยักไหล่ หลังจากที่รอกลุ่มคนจากไปแล้ว จึงยิ้มให้กับผู้ป่วยสาว“ขอผมจับชีพจรให้คุณได้ไหมครับ”

“คุณเป็นหมอหรือคะ”จู่ๆได้ยินเสียงคนพูดขึ้น หญิงสาวคนนั้นจึงคะเนมองดูหลินหยาง แววตาเต็มไปด้วยความสงสัย“ทำไมถึงมีหมอผู้ชายด้วยล่ะ”

“ผมเป็นหัวหน้าผู้เชี่ยวชาญที่นี่ครับ”หลินหยางแนะนำตัวเอง

“เชอะ ตอนนี้มีใครบ้างล่ะที่ไม่เรียกตัวเองว่าผู้เชี่ยวชาญ ที่ไปเมื่อกี้ก็ผู้เชี่ยวชาญ คนที่รับปากกับฉันเป็นมั่นเป็นเหมาะก็ผู้เชี่ยวชาญ ปรากฏว่าก็ยังมีปัญหาอีก คุณจะมาจับชีพจรให้ฉันอีกเหรอ คุณคงไม่ใช่แพทย์แผนจีนสินะ” ผู้ป่วยสาวพูดอย่างตกตะลึง

“ใช่ครับ ผมเป็นแพทย์แผนจีน ถ้าคุณสะดวก ยื่นแขนออกมาหน่อยครับ”

“แพทย์แผนจีนตอนนี้ใช้ไม่ได้แล้วล่ะ แพทย์แผนฝรั่งยังรักษาไม่หายเลย ไม่ต้องพูดถึงแพทย์แผนจีนหรอก พวกที่มีจรรยาบรรณหน่อยก็ต้องเป็นพวกแพทย์แผนจีนโบราณ เด็กหนุ่มอย่างคุณน่ะเหรอจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ”แม้ว่าปากของหญิงสาวคนนี้จะเคลือบแคลง แต่ก็ยังคงยื่นแขนออกมาให้

“ศาสตร์แพทย์แผนจีนเป็นมรดกของประเทศเรา เราจะละเลยความสำคัญของมรดกอันล้ำค่านี้ได้ยังไง หลายครั้ง แพทย์แผนจีนได้ผลดีกว่าแพทย์แผนฝรั่งเสียอีก”หลินหยางพูดอธิบาย มือก็ได้จับอยู่บนชีพจรของผู้ป่วยสาวเสียแล้ว

หญิงสาวผู้ป่วยเห็นหลินหยางหลับตาด้วยท่าทางจริงจังจึงหัวเราะพรวดออกมา“คิกคิก ท่าทีคุณแบบนี้เหมือนหมอเทวดาดีนะ อีกหน่อยก็ไปเปิดแผงนะ แล้วเขียนสูตรการรักษา อาจจะหลอกคนได้บ้างก็ได้”

“เป็นความคิดที่ดี ไว้รอวันไหนไม่มีข้าวกินแล้วจะลองทำดู”หลินหยางยิ้มแล้วปล่อยมือ สำหรับอาการป่วยของหญิงสาว หลินหยางเริ่มจะรู้บ้าง

“ตรวจเจออะไรบ้างไหม”หญิงสาวผู้ป่วยมองดูหลินหยางอย่างสนใจ

“เจอสิ แต่ผมต้องไปประชุมกับพวกผู้เชี่ยวชาญนั้นก่อน แล้วจะกลับมารักษาให้คุณทันที”

“ดูไม่ออกก็ดูไม่ออกสิ”หญิงสาวฟังแล้วเบ้ปาก ยืนยันว่าหลินหยางโม้ขี้ฟันเหม็น

“ฮ่าๆ จากการที่ตรวจเมื่อครู่นั้นน่ะ ประจำเดือนมาถี่เกินไปก็ไม่ดีนะ”หลินหยางหัวเราะฮ่าๆเดินออกจากห้องตรวจไป ทิ้งสาวผู้ป่วยให้หน้าแดงก่ำอยู่ตรงนั้น

เห็นเงาที่เดินจากไปของหลินหยาง หญิงสาวไม่เลิกที่จะโบกปัดกำปั้น

“ทุกคนมีความเห็นอะไรเสนอมาได้เลยค่ะ เงียบทำไมตั้งนานคะ”หลินหยางเพิ่งไปถึงหน้าห้องประชุม ก็ได้ยินเสียง

หัวหน้าเสิ่น

เป็นนานกว่าผู้เชี่ยวชาญคนหนึ่งจะพูดออกมา“โรคนี้ประหลาดจริงๆ ผมเป็นหมอมาตั้งนาน ไม่เคยเห็นประจำเดือนที่มั่วขนาดนี้มาก่อน จริงสิ ก่อนหน้าหัวหน้าเซียวรับประกันว่าแน่นักไม่ใช่เหรอ ลองให้เขามาตรวจดูสิ”

“เมื่อกี้เรียกเขามาไม่ใช่เหรอ ทำไมยังไม่มา”หัวหน้าเสิ่นน้ำเสียงแสดงความโกรธ

“เมื่อกี้ผมตรวจสุขภาพผู้ป่วยมาครับ ก็เลยมาสาย ขออภัยครับ”หลินหยางปรากฏตัวออกมาทันเวลาพอดี

“ในเมื่อมาแล้ว งั้นหัวหน้าเซียวเห็นว่าควรจะรักษาอาการป่วยยังไง”หัวหน้าเสิ่นยิ้มเล็กน้อย ยื่นใบผู้ป่วยให้หลินหยาง

หลินหยางรับใบสั่งยาไป เมื่อเห็นภาพอัลตราซาวด์ที่ยุ่งเหยิง กับข้อมูลการวิเคราะห์ต่างๆ จึงส่ายหน้ายิ้มอย่างระอาใจแม้ว่าเขาจะเป็นแค่แพทย์แผนจีน แต่ก็ใช่ว่าจะไม่รู้เรื่องแพทย์แผนฝรั่งเลย เขาอ่านข้อมูลเหล่านั้นออก แต่เขาแค่ไม่สนใจ

เขาวางใบผู้ป่วยไว้บนโต๊ะ หลินหยางนั่งลงอย่างมีมาด เขามองไปรอบๆผู้คนยิ้มขึ้น“เมื่อกี้ผมลองตรวจอาการดูแล้วครับ ในใจพอรู้บ้าง แต่รายละเอียดคงต้องถามผู้ป่วย ถ้าผมเดาไม่ผิด คิดว่ารักษาได้”

“นายเนี่ยนะ ดูแป๊บเดียวก็รู้แล้วเหรอว่ารักษายังไง”หัวหน้าเสิ่นมองหลินหยางราวกับมองตัวตลก

“ใช่ครับ ถ้าไม่เชื่อ ตามมาดูก็ได้ครับ”หลินหยางยักไหล่อย่างไม่ยี่หร่า“แน่นอน ถ้าพวกคุณมีแผนการรักษาที่ยิ่งดี ก็ลองพิจารณาดูก็ได้”

พอได้ฟังหัวหน้าเสิ่นหน้าแดงก่ำขึ้นทันที พวกเขาเองไม่มีมาตรการอะไรดีๆทั้งสิ้น มองดูสีหน้ายิ้มลำพองของหลินหยาง หัวหน้าเสิ่นกัดฟันกรอดแล้วพูดขึ้น“งั้นก็ดี งั้นก็ขอให้พวกเราได้ชมฝีมือของหัวหน้าเซียวสักหน่อยก็แล้วกัน”

คนที่อยู่ห้องประชุมสิบกว่าคน จึงเดินอาดๆกลับห้องผู้ป่วย

พอเห็นคนเข้ามาเยอะขนาดนี้ สาวป่วยจึงตาเป็นประกายขึ้น ถามอย่างร้อนรน“เป็นไงบ้าง มีวิธีรักษาหรือเปล่า”

“ใจเย็นค่ะ หัวหน้าเซียวบอกว่ามีวิธี แต่ว่าบางเรื่องต้องขอเก็บหลักฐานจากคุณ หวังว่าคุณจะให้ความร่วมมือนะคะ”หัวหน้าเสิ่นยิ้มแล้วพูด

“เห็นสีหน้าคุณก่อนหน้า แล้วก็ได้จับชีพจร เห็นสีหน้าที่ซีดขาวของคุณ ดูพลังอ่อนแรงมาก เห็นได้ชัดว่าลมปราณภายในถูกทำลาย ดูไม่เหมือนคนที่เพิ่งคลอดลูก”หลินหยางกวาดตามองไปยังหน้าอกผู้ป่วย พูดต่อ“ดูท่าประจำเดือนมาผิดปกติ แล้วระยะนี้ประจำเดือนก็มาถี่ ไม่ค่อยมั่นคง”

พอฟังคำพูดของหลินหยาง ทุกคนมีสีหน้าตกตะลึง ทุกคนรู้ดี หลินหยางไม่ได้เห็นใบวินิจฉัยผู้ป่วยตั้งแต่แรก หรือว่าเจ้าหนุ่มนี่จะมีของ

“คุณพูดอาการป่วยได้แม่นยำ ไม่ทราบว่าหัวหน้าเซียวทราบสาเหตุอาการป่วยได้อย่างไร”หัวหน้าเสิ่นมองหลินหยางอย่างสนใจ

“ร่างกายเธออ่อนแอ ทุกครั้งที่มีประจำเดือน ก็มักจะปวดประจำเดือน และประจำเดือนก็เลื่อนทุกครั้ง ถ้าผมเดาไม่ผิด เธอได้กินปูเมื่อประจำเดือนคราวที่แล้วมา แล้วดูท่าน่าจะกินไปสักสามสี่ตัวได้!ปูน่ะมีฤทธิ์เย็น กินทีเดียวเยอะๆแบบนี้ มีปัญหาแน่นอน”

“ส่วนใบเปิดยาครั้งที่แล้ว ก็ยังคงเป็นยาขับลมเย็น แม้ว่าตอนแรกอาการจะดีขึ้น แต่ก็เป็นแค่อาการหลอก นี่แหละที่เป็นสาเหตุที่ทำให้อาการทรุด”หลินหยางอธิบายไม่หยุด ทุกคนฟังแล้วตกตะลึงจนหน้าซีด

“ผมพูดถูกไหม”หลินหยางมองดูหญิงสาวที่ป่วยคนนั้น

“ใช่ค่ะ คราวที่แล้วฉันกินปูไปสี่ตัว คุณดูออกด้วยเหรอ”สาวป่วยเบิกตาโพลงจ้องหลินหยางอย่างตกตะลึง ในแววตาฉายความประหลาดใจ

“นี่แหละเป็นเสน่ห์ของแพทย์แผนจีน”หลินหยางยิ้มอย่างลำพอง

พอเห็นท่าทีลำพองของหลินหยาง หัวหน้าเสิ่นรู้สึกเดือดดาลขึ้นมาในใจ จึงพูดโจมตีหลินหยาง “แค่พูดสาเหตุออกมาอย่างเดียวไม่พอหรอกนะ ไม่รู้ว่าจะรักษาได้ไหม”

“ได้อยู่แล้ว จริงสิพี่เซียง ห้องทำงานผมอยู่ที่ไหน ทำไมไม่มีแม้แต่ที่ให้รักษาเลย”หลินหยางบ่นพึมพำ

ซุนเซียงที่อยู่ข้างๆ ได้ฟังเรื่องของหลินหยางตั้งแต่ก่อนที่จะรู้ว่าหลินหยางนั้นไม่ธรรมดา ตอนนี้จึงรีบพูดขึ้น“ห้องทำงานของคุณหมออยู่ข้างในค่ะ ฉันจะรีบพาไปเดี๋ยวนี้”

“ช่วยคนต้องรวดเร็วเหมือนช่วยอัคคีภัย งั้นรักษาตรงนี้เลยแล้วกัน”พอได้ยินว่าหลินหยางจะไปรักษาในคลินิก หัวหน้าเสิ่นก็รีบขัดขวาง โอกาสเรียนรู้ดีๆแบบนี้ เธอไม่พลาดแน่นอน

ซูเปอร์หมอเข็ม / หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+)

ซูเปอร์หมอเข็ม / หมอเข็มยอดฝีมือ(NC25+)

Status: Ongoing

หลินหยางได้บทหลงเฟิ่งเจว๋-หนังสือทางการแพทย์ที่สืบทอดจากตระกูล และได้เรียนรู้วิธีรักษาในนั้น วินหนึ่งมีสาวสวยคนหนึ่งมาหาเขาเพื่อจะให้เขารักษาโรคที่ยากจะพูดออกมา เขารักษาให้หายดีแถมยังทำให้รูปร่างของสาวคนนั้นสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น ตั้งแต่นั้นมา สาวๆที่มาหาเขารักษายิ่งเยอะขึ้น…..

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท