บทที่ 187 เทคโอเวอร์
หลิวจิ่นยังไงก็คาดคิดไม่ถึงว่า แผนการเทคโอเวอร์ ยังไม่ถึงเวลาที่ได้รวบรวมพลังจนมีความแข็งแกร่งเพียงพอ เจียงหัวก็เป็นทหารหนีศึกแล้ว ทายาทไฮโซเสเพลที่มีกลอุบายเหนือชั้นคนนี้ กลับได้ทิ้งปัญหาเละเทะให้กับเขา บริษัทเครื่องสำอางเอซีซีถึงกับย้ายไปยังจังหวัดใกล้เคียงทั้งหมดเลย
หลิวจิ่นไม่เต็มใจที่จะหยุดกลางคันเช่นนี้ เขาเริ่มระดมอำนาจในมือ ยังคงให้ความกดดันกับเซียนเฉ่าเก๋ออย่างต่อเนื่อง แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ เซียนเฉ่าเก๋อไม่ได้เกิดความเคลื่อนไหวใดๆเลย ดูเหมือนว่าทั้งหมด จะไม่ได้ติดใจกับแนวคิดการบริหารของไป๋เซียนเฉ่าเลย ยังคงซื้อของเหมือนเดิม การตลาดยังคงได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม
ช่วงเวลานี้ หลินหยางว่างสบายใจมาก และยังไปเสเพลเหลวไหลที่มหาวิทยาลัยเป็นครั้งคราว แต่บ่ายวันหนึ่ง หลินหยางเพิ่งเดินออกมาจากมหาวิทยาลัย คนในชุดดำกลุ่มหนึ่ง ก็ได้ขวางเขาไว้ โดยไม่จำเป็นต้องพูด ก็รู้ว่าเป็นคนของโจวจู้
เกาหัวเล็กน้อย หลินหยางพูดขึ้นว่า “เป็นยังไง พวกนายจะเข้ามาทั้งหมด หรือมาทีละคน?”
คนที่เป็นผู้นำ ถอดแว่นกันแดดออกแล้วพูดว่า “คุณโจว พี่ใหญ่เหลยของเรา อยากจะเชิญคุณให้เกียรติไปเยี่ยมเยือนหน่อย?”
พูดได้สุภาพขนาดนี้ ยังเป็นคำพูดของคนป่าเถื่อนอย่างเหลยหยุน ที่ฝากมาด้วยตัวเอง หลินหยางรู้สึกสงสัยเล็กน้อย แต่ในเวลานี้เขาไม่ว่าง เขาได้นัดกับไป๋เซียนเฉ่าไว้แล้ว ว่าจะไปดูรถ
“เกรงว่าวันนี้คงจะไม่ได้ วันอื่นแล้วกัน ถ้าพี่ใหญ่เหลยของพวกนาย มีความสนใจมากขนาดนี้ สามารถมาหาฉันที่เซียนเฉ่าเก๋อด้วยตัวเองได้!” หลินหยางโบกมือเบาๆ เข้าไปในรถเบนซ์ แล้วจากไปเลย
“ทำอะไรดี?” พวกลูกน้องไม่กล้าห้าม
“ช่างเถอะ พี่ใหญ่เหลยแค่ให้พวกเรามาเชิญเขาเท่านั้น เขาไม่ยอม พวกเราก็กลับไปพูดตามความจริง!” คนที่เป็นผู้นำ พูดถอนหายใจ
ตั้งแต่หลินหยางโจมตีตอบโต้กลับ ทำให้โจวจู้ลูกน้องอันดับหนึ่งของเหลยหยุนพิการ ก็ได้ทำให้วงการมาเฟียทั้งเมืองเจียงหลิงต้องสะเทือน ไม่มีใครรู้ว่า ทำไมลูกน้องคนสนิทของโจวจู้ ถึงหักหลังกะทันหัน ตัดแขนทั้งสองข้างของโจวจู้ จนถึงเวลานี้
ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาล
วงการมาเฟียให้ความสำคัญกับการแก้แค้น หากเป็นในอดีต เหลยหยุนจะต้องพาลูกน้องพรรคพวกกลุ่มใหญ่ ที่เซียนเฉ่าเก๋อจนพลิกฟ้าพลิกแผ่นดิน
แต่ที่ทำให้พวกลูกน้องประหลาดใจก็คือ ครั้งนี้เหลยหยุนกลับอดทนไม่มีความเคลื่อนไหว ยังให้คนไปเชิญหลินหยางเข้ามา ดูเหมือนว่ากำลังจะขอคืนดีกัน
พวกลูกน้องเข้ามา แต่กลับถูกหลินหยางปฏิเสธทันที มองข้ามการให้เกียรติของผู้อื่นขนาดนี้ ถ้าเปลี่ยนเป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง พวกลูกน้องคงจะจับมัดเหมือนข้าวต้มมัด แล้วจับตัวกลับไปทันที พวกลูกน้องจนปัญญา กลับไปรายงานการปฏิบัติภารกิจกับเหลยหยุน เหลยหยุนฟังรายงานของลูกน้องด้วยสีหน้าบึ้งตึง
ลูกประคำในมือหมุนวนไปหลายรอบ เหลยหยุนถึงได้พูดกับหนุ่มหน้ามนต์ด้านข้างว่า “คุณจ้าว คุณคิดว่าคนคนนี้ คู่ควรกับผูกสัมพันธ์มิตรภาพเช่นนี้จริงๆหรือ?”
“พี่ใหญ่เหลย คู่ควรหรือไม่คุณควรสอบถามข้อคิดเห็นของประธานเจียง ที่เพิ่งหนีออกจากเมืองเจียงหลิง เพราะความหวาดกลัว ไอ้หมอนี่ไม่ได้ออกมากลางอากาศ เท่าที่ฉันรู้ ตอนนี้เขามีความสัมพันธ์ที่ไม่ธรรมดาอย่างมากกับไป๋เซียนเฉ่า! นอกจากนี้ ไป๋เซียนเฉ่าเป็นใคร คุณอาจจะไม่รู้ ฉันจะเปิดเผยให้นิดหน่อย เธอเติบโตขึ้นมาในเขตทหารแห่งยันจิง!” หนุ่มหน้ามนที่มีนามสกุลจ้าวคนนี้ พูดขณะเช็ดแว่นตาขอบทองของตัวเอง
เหลยหยุนก้าวไปสองสามก้าว แล้วจ้องคนที่นามสกุลจ้าวอย่างตั้งหน้าตั้งตา หนุ่มเสเพลแห่งยันจิง
ที่ปรากฏตัวขึ้นมากะทันหัน ให้ความปลัดใจแก่เขาเป็นอย่างมาก ครั้งนี้เชื่อเขาอีกครั้งหนึ่ง!
เหลยหยุนครุ่นคิดสักพัก แล้วพูดกับลูกน้อง “พวกนายไปเปลี่ยนชุด อย่าแยกเขี้ยวยิงฟังมากขนาดนี้ และไม่ต้องใส่แว่นกันแดดอะไรทั้งนั้น พรุ่งนี้แต่งตัวให้เรียบร้อย แล้วไปที่เซียนเฉ่าเก๋อพร้อมกับข้า!”
พวกลูกต้องรีบตอบรับ ความตะลึงในใจ เกินคำบรรยายแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่งูเจ้าถิ่น ที่อาศัยใน
เมืองเจียงหลิงมานานหลายปี ก้มหัวให้!
พวกลูกน้องของเหลยหยุน รื้อตู้ค้นชุดแต่งกายใหม่ ในขณะที่ทางหลินหยาง ดูรถในร้าน 4S แห่งหนึ่งกับไป๋เซียนเฉ่าอย่างสบายอารมณ์ โชว์รูมรถนี้ เป็นร้าน 4S สำหรับรถยนต์หรูหรา ที่ใหญ่ที่สุดในยันจิง ไป๋เซียนเฉ่าเป็นลูกค้าระดับ VIP แพลตตินั่มของพวกเขา มีผู้จัดการมารออยู่ที่หน้าประตูตั้งนานแล้ว
“คุณไป๋ คุณมาแล้ว พวกเรารอคอยและคาดหวังด้วยความกระวนกระวายใจจริงๆ! ช่วงนี้มีรถสปอร์ตดีๆมาใหม่ไม่กี่คัน ฉันพาคุณไปดูไหม?” ดวงตายิ้มจน
เป็นขีดเดียวแล้ว
ไป๋เซียนเฉ่าหน้ามุ่ยแล้วถามว่า “หลินหยาง คุณชอบรถสปอร์ตไหม?”
“ฉัน? คุณจะซื้อให้ฉันจริงๆหรือเนี่ย? ความเห็นของฉันคือ ผู้ชายควรขับรถที่แมนเหมือนผู้ชายหน่อย แต่วันนี้มากับคุณ ความชอบของคุณ อยู่ในอันดับแรก!”หลินหยางพูดด้วยสีหน้าดูดาย
ไป๋เซียนเฉ่ามองเขาตาขวาง ถ้าเธออยากจะซื้อรถเอง จะลากเขามาทำไมนะ เห็นได้ชัดว่าจะซื้อให้เขา ผู้ชายคนนี้ กลับมีสีหน้าที่ไม่สนใจ ช่างน่าหงุดหงิดจริงๆ
ดึงหลินหยางไว้ ไป๋เซียนเฉ่าพูดขึ้น “มีรถที่เหมาะกับผู้ชายไหม?”
ผู้จัดการถึงได้ดึงสายตากลับมาบนตัวหลินหยาง กำลังสงสัย หรือว่านี่คือนายบำเรอของไป๋เซียนเฉ่า?
พร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ผู้จัดการพูดขึ้น
“มีสิ แลนด์โรเวอร์เรนจ์โรเวอร์ที่เพิ่งมาใหม่ หรูหราสง่ามีระดับ รถของชายแท้!”
ไป๋เซียนเฉ่าส่งสายตาสอบถามให้กับหลินหยาง ไอ้หมอนี่ยักไหล่แล้วพูดว่า “งั้นก็ไปดูหน่อยแล้วกัน!”
มีรถพร้อม เพิ่งแว็กซ์และขัดเงา ทรงสี่เหลี่ยมขอแลนด์โรเวอร์ แรงบริหารที่แข็งแกร่งทนทาน ตรงกับความพึงพอใจของหลินหยางเป็นอย่างมาก
“จะลองหน่อยไหม?” ไป๋เซียนเฉ่าถามขึ้น
“ไม่มีปัญหา เติมน้ำมันแล้ว ยินดีต้อนรับเสมอ!” เมื่อผู้จัดการเห็นว่ามีหวัง รีบพูดเสริมทันที
มีความตื่นเต้นเล็กน้อย หลินหยางมุดเข้าไป การตกแต่งภายในสไตล์แสงออโรร่านี้เรียบง่าย แต่ดูแพง
แผงหน้าปัดทั้งหมดเป็นขนาดใหญ่ วิสัยทัศน์ดีเยี่ยม เมื่อจับพวงมาลัย หลินหยางก็มีความคิดนี้ รถคันนี้เขาเอาแล้ว!
สตาร์ท ดึงคันเร่ง ไม่มีสิ่งกีดขวางที่เกียร์ธรรมดา เลย ความรู้สึกที่แข็งแกร่งในการบริหาร ทำให้หลินหยางรู้สึกว่า เขากำลังขับขี่สัตว์ร้ายที่แข็งแกร่ง แต่สัตว์ร้ายตัวนี้เชื่อฟังมาก โดยไม่มีความรู้สึกที่เฉื่อยชาแม้แต่น้อย
หลินหยางไม่ได้แสดงทักษะการขับรถของตัวเองมากเกินไป เพียงแค่ผ่านไปสองสามรอบ ก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ แล้วพูดว่า “แรงขับเคลื่อน ประสิทธิภาพล้วนดีมาก เหมาะสำหรับผู้ชายมากกว่า มาเซราติของคุณ แต่ว่า ……”
ประโยคเดียวทำให้หัวใจของผู้จัดการบีบแน่น ไป๋เซียนเฉ่าชิงถามขึ้นก่อน “แต่ว่าอะไร?”
“รถคันนี้ไม่เหมาะที่จะให้คุณขับเท่าไหร่นะ!” หลินหยางพูดยิ้ม
“ไม่ได้เตรียมไว้ให้ฉันตั้งแต่แรกอยู่แล้ว คุณชอบก็ดีแล้ว! เอาคันนี้แล้วกัน เปิดบิลเลย!” ไป๋เซียนเฉ่าพูดตัดสินใจในทันที
ผู้จัดการรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่ง แล้วพูดว่า “ได้เลยครับ กรุณารอสักครู่ เราจะจัดการให้คุณทันที แถมประกันและการบำรุงรักษาครบชุดให้คุณ!”
รายละเอียดเล็กน้อย ไป๋เซียนเฉ่าไม่สนใจหรอก เพียงแค่หลินหยางชอบ ยังไงก็คุ้มค่าแล้ว
“ทำไมรู้สึกว่า รถคันนี้ฉันเอาแล้ว คุณดีใจยิ่งกว่าฉันเสียอีก?” หลินหยางพูดยิ้ม
“แน่นอนสิ ฉันสัญญากับคุณไว้แล้ว อีกอย่างฉันก็ชอบรถคันนี้มากด้วย มีรสนิยมมากกว่าเบนซ์ของคุณตั้งเยอะ!” ไป๋เซียนเฉ่าพูดหลีกเลี่ยงประเด็นสำคัญ
เมื่อเห็นท่าทางดีใจระรื่นในแววตาของไป๋เซียนเฉ่า
ในใจของหลินหยางร้อนวูบ แล้วพูดว่า “แค่ช่วยคูณขับไล่เจียงหัวออกไปเท่านั้น แค่แมลงตัวหนึ่งเอง!”
“คุณพูดได้ง่ายดาย จนถึงตอนนี้ฉันยังไม่รู้เลยว่า เจียงหัวถูกคุณขับไล่ออกไปยังไง เหมือนว่าเขายังไม่ได้สวมเสื้อผ้าเรียบร้อยเลยด้วยซ้ำ รีบพุ่งไปที่สนามบินในชุดนอน!” ไป๋เซียนเฉ่าพูดขึ้น
เมื่อนึกถึงท่าทางที่น่ารังเกียจของเจียงหัว หลินหยาง พูดด้วยสีหน้าสบายอารมณ์ “เขาสมรู้ร่วมคิดกับโจวจู้ ฉันควบคุมลูกน้องของโจวจู้ไว้ จากนั้นโจวจู้ ก็พิการไปเลย เจียงหัวก็ตกใจหวาดกลัวจนสติหลุด ที่จริงฉันเป็นคนดี ฉันยังไม่ได้ลงมือเลยด้วยซ้ำ พวกเขาทำกรรมไว้เอง ช่วยไม่ได้!”
เห็นหลินหยางท่าทางแบบนี้ ไป๋เซียนเฉ่าหัวเราะชอบใจแทบคลั่ง นี่ก็คือ คนเลวก็ต้องปราบด้วยคนที่เลวกว่า! คนดีอย่างหลินหยาง มีเพียงใช้ด้านที่เลวร้ายที่สุดเท่านั้น ถึงได้จัดการกับคนทำชั่วพวกนั้นอย่างง่ายดาย
“แบบนี้คุณจะไม่ขัดใจกับเหลยหยุนอย่างสิ้นเชิงหรือ?” ไป๋เซียนเฉ่าเอียงศีรษะถามขึ้น
“ใช่ วันนี้เขายังส่งลูกน้องหลายคนมาหาฉันด้วย สุภาพยิ่งนัก บอกว่าให้ฉันเข้าไปคุยหน่อย ฉันกับเขา มีเรื่องอะไรที่จะต้องคุย มีความสามารถจริงก็เข้ามาเลย ฉันไม่ได้สนใจพวกเขา ก็มาอยู่กับคุณแล้ว!”
หลินหยางพูดอย่างเรียบเฉย
ยังทีเรื่องนี้อยู่ด้วย ไป๋เซียนเฉ่าวางมือบนโทรศัพท์มือถือโดยสัญชาตญาณ กำลังครุ่นคิดว่า จะโทรหาพ่อหน่อยไหม?” แมลงเหม็นเหล่านี้ แต่ละวันบินไปบินมา น่ารำคาญจริงๆ
ขณะนี้ ผู้จัดการก็ได้ดำเนินการขั้นตอนทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ไป๋เซียนเฉ่ารูดการ์ดอย่างสง่างาม จัดการเรียบร้อย ปฏิเสธกิจกรรมต่างๆทั้งหมด เธออยากรีบไปนั่งรถกินลมกับหลินหยาง!
หลินหยางขับรถแลนด์โรเวอร์ที่ทรงอำนาจ แล่นบนทางหลวงยกระดับ ทัศนียภาพในตอนกลางคืนดีมาก อารมณ์ของทั้งสองก็ยิ่งดีเข้าไปอีก
“คุณจะมาลองดูหน่อยไหม?” หลินหยางพูดหว่านล้อม
ไป๋เซียนเฉ่ามีความหวั่นไหวเล็กน้อย รถคันนี้แตกต่างอย่างสิ้นเชิง กับรถสปอร์ตสั้นเตี้ย ที่ตัวเองขับปกติ แต่บนทางหลวงยกระดับนี้ ไม่มีจุดจอดรถที่เหมาะสม ไป๋เซียนเฉ่ามองไปรอบๆ ป้ายบอกทางบอกว่า ข้างหน้าอีกสิบกิโลเมตรถึงจะมีทางออก!
“ไม่รีบ เดี๋ยวสักพักก็ถึงแล้ว!” หลินหยางพูดขึ้น
“ฉันรีบ คุณอย่าขยับ ฉันขึ้นไปนั่งบนตัวคุณ!” ไป๋เซียนเฉ่าพูดอย่างใจกล้า
หลินหยางตกตะลึงอย่างมาก หญิงสาวคนนี้ ไม่เอาชีวิตเลยจริงๆ! นี่ไม่ใช่เรื่องตลกนะ! แต่ไป๋เซียนเฉ่าได้ถอดรองเท้าส้นสูงของตัวเองออกแล้ว คุกเข่าบนเบาะที่นั่ง พยายามที่จะลอง หลินหยางจนปัญญา จึงต้องชะลอความเร็ว ขับไปชิดข้าง
ไป๋เซียนเฉ่านั่งคร่อมอย่างกระฉับกระเฉง พิงบนตัวหลินหยาง หลินหยางแนบร่างของเธอไว้ ดมกลิ่นหอมผมเธอ ในใจรู้สึกวูบไหว
ยังดีที่พื้นที่ภายในของแลนด์โรเวอร์มีขนาดกว้างขวาง สองคนเบียดกัน ก็ไม่รู้สึกแออัด ไป๋เซียนเฉ่าจับพวงมาลัยไว้ในมือ เริ่มควบคุมสัตว์อสูรเหล็กเครื่องนี้
ผู้หญิงขับแลนด์โรเวอร์ รูปร่างไม่สูงพอจะกินแรง จึงต้องขยับบั้นท้ายเป็นครั้งคราว นี่ทำให้หลินหยางที่อยู่ด้านหลังเก้อเขินยิ่งนัก ก้นเด้งกระชับนี้ ถูไถแบบนี้ ไม่นานปืนใหญ่ของเขา ก็เริ่มตั้งชูชัน
“คุณอย่าดันฉันสิ ข้างหน้าก็เป็นทางออกแล้ว!” ไป๋เซียนเฉ่าพลางพูดขึ้น แต่เธอก็เข้าใจได้อย่างรวดเร็วว่ามีอะไรดันเธอไว้
นี่ระยะทางเพียงไม่กี่กิโลเมตร หลินหยางเสมือนผ่าน
ระยะทางเป็นปีแสงแล้ว ที่น่าหงุดหงิดกว่านั้นก็คือ ไป๋เซียนเฉ่าจงใจลดความเร็วให้ช้าไปอีก
หลังจากอ้อมลงมา ไป๋เซียนเฉ่าก็เร่งความเร็วทันที มุ่งหน้าไปจนสุด เส้นทางของเมืองเจียงหลิง ไป๋เซียนเฉ่าคุ้นเคยมากกว่าหลินหยาง หลังจากที่เธอ อ้อมไปมาหลายรอบหลินหยางก็ไม่รู้จักเส้นทางแล้ว
“เป็นยังไง ความสัมผัสเป็นอย่างไรบ้าง?” หลินหยางถาม
“ยังไม่พอ ให้ฉันขับอีกหน่อย!” ไป๋เซียนเฉ่ามุมปากยกขึ้นเล็กน้อย แล้วพูดขึ้น
แลนด์โรเวอร์ขับไปจนถึงมุมที่ห่างไกลเปล่าเปลี่ยว ถึงได้หยุดลง ในเวลานี้ฟ้าได้มืดลงแล้ว หลินหยางถอนหายใจด้วยความโล่งอก กำลังจะขยับพื้นที่ว่าง ให้ ไป๋เซียนเฉ่าออกมา หญิงสาวก็ส่งเสียงร้องขึ้น
“เป็นอะไร?” หลินหยางถาม
“เหมือนจะเป็นตะคริว!” ไป๋เซียนเฉ่าขมวดคิ้วท่าทางดูเหมือนเจ็บปวดมาก
หลินหยางกอดเธอขึ้นมา วางบนเบาะหลัง แล้วถามว่า “เป็นตะคริวตรงไหน?”
“เหมือนจะเป็นที่เอว!” ไป๋เซียนเฉ่าพูดด้วยสีหน้าลังเล
หลินหยางยื่นมือออกไปแตะเบาๆ แล้วพูดว่า “คุณถอดเสื้อโค้ทออก ฉันจะนวดให้คุณหน่อย! คุณก็จริงๆเลยนะ สัมผัสหน่อยก็ได้แล้ว ยังจะฝืนอีก!”
ถูกหลินหยางตำหนิร่ายยาว ในหัวใจของไป๋เซียนเฉ่ากลับเต็มไปด้วยความสุข นอนคว่ำบนเบาะหลังถอดเสื้อโค้ทออก ยังยกสะโพกขึ้นด้วย
หัวใจของหลินหยางร้อนรุ่ม บั้นท้ายของสาวคนนี้ ช่างดูดีจริงๆ เมื่อกี้ถูกับตัวเองมาตลอด รู้สึกสบายยิ่งนัก ส่ายหัวเล็กน้อย หลินหยางรีบนวดหลังให้กับเธอ ไป๋เซียนเฉ่าถูกนวดจนรู้สึกผ่อนคลาย ความเจ็บปวดที่ปวดร้าวในเมื่อครู่ ก็ถูกคลี่คลายอย่างรวดเร็วแล้ว
“เป็นยังไงบ้าง ใช่ตรงนี้หรือเปล่า?” หลินหยางถาม
“อืม……อย่าหยุดนะ! ด้านบนก็เจ็บนิดหน่อยด้วย!” ไป๋เซียนเฉ่าพูดพึมพำ
หลินหยางนวดขึ้นไปด้านบนอีก แต่มีเสื้อผ้ากั้นไว้ ยากที่จะควบคุมกำลัง พูดพึมพำ “จะถอดก็ถอดออกหมดเลย แบบนี้นวดไม่โดนนะ!”
ไป๋เซียนเฉ่าชะงักไปครู่หนึ่ง รีบลุกขึ้นทันที ปลดชุดชั้นในของตัวเองออก คาดไม่ถึงว่า สาวนี่ไม่ได้สวมบราเซียร์ เนินเนื้อกลมๆทั้งสอง เด้งออกมาทันที