บทที่171งานเปิดตัวธุรกิจ หาเรื่อง
“พวกเราหาอาคารสำนักงานมั่วๆอาคารนึงก็ได้แล้วไม่ใช่เหรอครับ ทำไมพี่ถึงใช้เงินไปเยอะขนาดนี้? ของๆเราใช้พื้นที่ไม่มากสักหน่อย”หลินหยางถามด้วยรอยยิ้ม
“สวย”ไป๋เซียนเฉ่าตอบอย่างเรียบง่ายคำนึง
สำหรับคำตอบนี้ หลินหยางค่อนข้างหมดคำพูด แต่ว่าในใจพอเข้าใจความหมายของไป๋เซียนเฉ่ารางๆ——เป็นเรื่องของการมีหน้ามีตา!
กับอิแค่ครีมที่อยู่ในกระปุกเล็กๆกระปุกนึงสามารถขายในราคาห้าแสนหยวน ถ้าเช่าอาคารสำนักงานแบบนี้เหมือนที่ตัวเองพูดจริงๆ มันขายหน้าเกินไปหรือเปล่า
ทั้งสองเคียงบ่าเคียงไหล่เดินลงมาถึงชั้นหนึ่ง ไป๋เซียนเฉ่าหันมาพูด:“หลินชิง คุณให้คนแพ็คครีมแผลลายพวกนี้หน่อย ก่อนสิบเอ็ดโมงต้องเสร็จห้าร้อยขวดนะ”
“ได้ครับ”หลินชิงลากกล่องไว้และปฏิบัติภารกิจในทันที
“สถานการณ์ของบริษัทในตอนนี้เป็นไงบ้างครับ?”หลินหยางถาม
“บริษัทใหญ่ขนาดนี้ พนักงานประมาณห้าสิบคน แผนกเซลล์สิบสองคน แผนกบัญชีเจ็ดคน แผนกบริการสิบคน พนักงานรักษาความปลอดภัยสิบคน อื่นๆอีกประมาณสิบคน ตอนนี้พนักงานยังค่อนข้างน้อยอยู่ ข้อแรกเราใช้พนักงานยังน้อย ข้อสองบริษัทเราเพิ่งเริ่มต้น ณ.ตอนนี้พนักงานพวกนี้ยังพอใช้อยู่”
ไป๋เซียนเฉ่าได้เล่าสถานการณ์ของบริษัทอย่างคร่าวๆ
สำหรับเรื่องนี้หลินหยางไม่มีความคิดเห็น หลังจากมาถึงชั้นหนึ่ง การปรากฏตัวของไป๋เซียนเฉ่า ได้ดึงดูดความสนใจของผู้คนทันที
ชั้นหนึ่งที่ห้องขวาง ทางทิศเหนือมีเวทีอยู่เวทีนึง
ไป๋เซียนเฉ่ากับหลินหยางเคียงบ่าเคียงไหล่เดินขึ้นไปพร้อมกัน หยิบไมค์ที่เตรียมไว้ตั้งนานแล้ว กระแอมสองที ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็เงียบสงบลงมาทันที
“ต้องขอโทษอภัยที่ให้ทุกท่านรอนานค่ะ”ไป๋เซียนเฉ่ายิ้มเล็กน้อย ความสวยงามที่เผยออกมาในท่าทาง พริบตาเดียวก็ทำให้ทุกคนชื่นชมด้วยความเลื่อมใส
ต่อมา ไป๋เซียนเฉ่าได้เล่าการพัฒนาของบริษัทอย่างโม้เป็นน้ำไหลไฟดับชุดนึง และหลังจากได้บอกทิศทางการพัฒนาครีมแผลลายและครีมโต้วโค่วให้กับทุกคน บรรยากาศของในงานได้ค่อยๆคึกคักขึ้นมา
การช่างสังเกตการณ์ของหลินหยางดีมาก นักข่าวที่อยู่รอบๆก็ไม่สามารถปิดบังสายตาของหลินหยางได้
สำหรับนักข่าวกอสซิปพวกนี้ หลินหยางไม่ได้คัดค้าน เพราะยังไงซะนี่ก็เป็นโอกาสทำโฆษณาที่ดีให้กับบริษัทตัวเอง
“คิดว่าหลายคนที่อยู่ในงานก็เคยได้ยินสถานการณ์สองปีนี้ของดิฉันแล้ว สองปีก่อน ดิฉันมาถึงเมืองเจียงหลิง ใช้เวลาสามเดือนกวาดเรียบธุรกิจแฟชั่น ที่ไม่ได้ทำให้ธุรกิจใหญ่ขึ้นอีกครั้ง คิดว่าทุกคนก็คงรู้สาเหตุแล้วว่าดิฉันได้เสียโฉม”
“วัตถุประสงค์ที่พูดเรื่องพวกนี้มีอยู่สองข้อค่ะ ข้อหนึ่ง ตอนนั้นดิฉันสามารถทำธุรกิจแฟชั่นให้ใหญ่โต ไม่เพียงเพราะความสามารถในการบริหารธุรกิจของดิฉัน ที่ยิ่งกว่าคือคุณภาพที่ดิฉันผลิตเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายออกมาค่ะ! ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป ดิฉันทำธุรกิจเครื่องสำอางเป็นหลัก ดิฉันก็มีความมั่นใจว่าจะทำแบรนด์ของตัวเองให้ใหญ่โต นี่ก็แสดงให้เห็นว่า ดิฉันมีความมั่นใจกับคุณภาพที่ตัวเองทำออกมาค่ะ”
“ข้อที่สอง บาดแผลบนใบหน้าของดิฉัน ทั้งหมดล้วนมาจากฝีมือของครีมแผลลาย ใช้เวลาเพียงแค่เจ็ดวันก็หายเป็นปลิดทิ้ง ดิฉันเชื่อว่าแค่จุดนี้ก็สามารถดูคุณภาพของสินค้าเราออกแล้วค่ะ เอาล่ะค่ะ ดิฉันก็ไม่พูดมากแล้ว ต่อจากนี้ให้ประธานอีกท่านของบริษัทเรา คุณหลินหยาง ได้กล่าวกับทุกคนหน่อยค่ะ”
หลินหยางได้ยินคำนี้แล้วอึ้งเล็กน้อย แต่ไม่นานก็สงบจิตสงบใจลงมา และเดินไปรับไมค์ไว้
ทุกคนก็มองหลินหยางด้วยความแปลกใจ หลังจากเห็นหลินหยาง ทุกคนได้อ้าปากค้างอย่างห้ามใจไม่ได้
คนที่ยังหนุ่มยังแน่นขนาดนี้ ไม่นึกเลยว่าจะเป็นประธานอีกท่านของเซียนเฉ่าเซวียน?
เดิมทีนึกว่าเป็นชายวัยกลางคนอายุสี่สิบกว่าห้าสิบปีเสียอีก แต่พ่อหนุ่มที่อายุยี่สิบต้นๆคนนี้ก็ได้เป็นประธานของบริษัทใหญ่โตขนาดนี้แล้ว นี่มันโจมตีคนเกินไปแล้วมั้ง?
“ขอบคุณที่ทุกท่านมาร่วมงานของวันนี้นะครับ ผมเป็นประธานอีกท่านของเซียนเฉ่าเซวียน หลินหยางครับ มีคนมากมายอาจจะแปลกใจว่าทำไมผมถึงสามารถมานั่งอยู่ในตำแหน่งประธานของเซียนเฉ่าเซวียนได้ ผมมาคลายข้อสงสัยให้ทุกท่านหน่อยครับ ครีมแผลลายและครีมโต้วโค่วที่เซียนเฉ่าเซวียนผลิตออกมา ล้วนแต่เป็นสินค้าที่ผมผสมออกมากับมือเองหมดครับ”
“ราคาของครีมแผลลาย ราคาที่บริษัทเราวางจำหน่ายในราคาเดียวกันคือขวดละห้าแสนหยวน ราคานี้อาจจะมีคนมากมายรู้สึกว่าสูงมาก แต่ตอนนี้ผมจะบอกกับทุกท่านว่าต้นทุนที่ผลิตครีมแผลลายออกมาหนึ่งขวดก็สูงจนโอเวอร์มากครับ บวกกับในระหว่างผสมบางทีอาจจะผิดพลาดได้บ้าง ทำให้ประสิทธิผลของครีมไม่ได้ตามที่ต้องการ คิดคำนวณแบบนี้แล้ว กำไรของบริษัทเรายิ่งน้อยมากครับ ราคาห้าแสนหยวนเป็นราคาต่ำสุดที่พวกเราสามารถทำได้ครับ คนที่สามารถยอมรับได้ก็ซื้อ คนที่ไม่สามารถยอมรับราคานี้พวกเราก็ไม่ฝืนใจครับ”
“ครีมแผลลายของตอนนี้ต้นทุนสูงเกิน แต่มันมีข้อดีอย่างนึงก็คือ ใช้ง่าย เห็นผลเร็ว เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ก็ได้ผลประโยชน์จากในนั้นแล้ว ตอนนี้ผมเป็นพ่อค้าคนนึง แต่เนื้อแท้เดิมเป็นหมอคนนึง ผมไม่ได้ขัดสนเรื่องเงิน แต่ก็ไม่มีความทะเยอทะยานที่อยากรวยเทียบเท่าทั้งประเทศ”
“สาเหตุใหญ่ๆที่ปรุงครีมแผลลายคืออยากให้คนที่มีผิวพรรณไม่ดีกลายมามีผิวพรรณที่ดี ให้คนที่ผิวเคยได้รับความเสียหายจากการเกิดอุบัติเหตุ ได้มีโอกาสเจิดจรัสอีกครั้ง นี่ก็เป็นความคิดและจรรยาบรรณเบื้องต้นในฐานะที่เป็นหมอคนนึงครับ ผมเองก็พยายามลองประหยัดต้นทุนอย่างไม่ขาดสาย ดีที่สุดปรุงครีมที่ราคาหลักพันแม้กระทั่งหลักร้อยออกมาให้ทุกคนได้ใช้ ส่วนแผนนี้ ผมก็ได้เริ่มทำจริงๆแล้วครับ เชื่อว่าอีกไม่นานครีมยาที่ราคาถูกและคุณภาพดีก็จะเกิดใหม่ตามมาครับ ขอบคุณทุกท่านครับ”
การบรรยายที่เรียบง่าย ผู้คนก็ได้มีความเข้าใจกับหลินหยางพอสมควรแล้ว
แววตาที่แต่ละคนมองหลินหยาง เต็มไปด้วยความเคารพและความแปลกใจ
คนที่ยังหนุ่มยังแน่นขนาดนี้ แต่กลับมีเสน่ห์สุดๆ ทำให้คนไม่มีความคิดที่ไม่ชอบเลยสักนิด
“ขอบคุณที่ทุกท่านสนับสนุนมาโดยตลอดนะคะ ลูกค้าสามร้อยท่านแรกที่ออเดอร์ครีมแผลลายของเราไว้ในก่อนหน้านี้ สินค้าของลูกค้าสามร้อยท่านแรกได้มาถึงแล้วค่ะ ต่อจากนี้ขอให้ลูกค้าสามร้อยท่านที่ออเดอร์สินค้า นำการ์ดเชิญของตัวเองมาที่ชั้นสองด้วยค่ะ ถึงเวลาจะมีคนส่งครีมแผลลายมาค่ะ”ไป๋เซียนเฉ่าพูดคำนึงด้วยเวลาที่เหมาะสม
ในงานโกลาหลขึ้นมาทันที คนที่ออเดอร์ไว้ในก่อนหน้านี้ แต่ละคนขึ้นไปชั้นสองอย่างมีความสุข ผู้คนที่เหลือมองดูคนพวกนั้นขึ้นชั้นสองด้วยหน้าตาน่าสงสาร ความอิจฉาที่อยู่ในแววตาเผยออกมาอย่างไม่กั๊กไว้เลย
“ปรธานไป่ ประธานหลิน ครีมแผลลายจะผลิตออกมาใหม่อีกครั้งเมื่อไหร่คะ?”
พวกที่ไม่ได้ซื้อ รีบถามเสียงดัง
คำถามนี้ก็เป็นคำถามนี่ผู้คนอยากรู้มาก แต่ละคนหันหน้ามามองไป๋เซียนเฉ่าและหลินหยาง อยากรู้คำตอบ
ไป๋เซียนเฉ่าหันไปกระพริบตาปริบๆให้หลินหยาง ส่งสัญญาณให้หลินหยางพูด
หลินหยางเห็นสัญญาณของไป๋เซียนเฉ่า ได้รีบเดินไปข้างหน้าก้าวนึงและพูด:“การปรุงของครีมโต้วโค่วและครีมแผลลาย แต่ละเดือนจัดจำหน่ายสองครั้ง จำหน่ายในวันที่สิบห้าและวันที่สามสิบของทุกเดือนครับ ทุกท่านสามารถจองผ่านทางอินเตอร์เน็ตหรือว่าทางโทรศัพท์ก็ได้ครับ ถึงเวลาสามารถรับสินค้าโดยการยืนยันรหัสโดยตรงได้เลยครับ”
“ ประธานหลิน แต่ละครั้งจะมีสินค้าวางจำหน่ายเท่าไหร่คะ?”ผู้หญิงคนนึงตะโกนเสียงดังถาม เห็นสีหน้าแววตาเธอตื่นเต้นสุดขีด แค่คิดก็รู้ว่าเฝ้ารอครีมแผลลายมานานมากแล้ว
“ครั้งละห้าร้อยขวดครับ นั่นก็หมายความว่า ทุกเดือนจะวางจำหน่ายหนึ่งพันขวดครับ และมีอีกหนึ่งข่าวดีก็คือ วันนี้นอกจากคนที่เคยจองในก่อนหน้านี้ ในมือของผมยังมีครีมแผลลายอยู่สองร้อยขวด ถ้ามีใครที่ต้องการ สามารถลงทะเบียนขอซื้อได้ครับ”
หลินหยางเพิ่งพูดจบ ผู้คนก็โกลาหลกันขึ้นมาทันที
แต่ละคนมุงไปที่จุดจำหน่ายอย่างกับรังผึ้ง คนที่สามารถซื้อครีมแผลลายได้ ส่วนมากล้วนเป็นคนที่มีฐานะครอบครัวที่ร่ำรวย ปกติคนที่มีมารยาท ตอนนี้กลับไม่มีความสง่างามเลย แย่งจองซื้ออย่างตาแดงก่ำ
“อืม ผลลัพธ์ไม่เลว”มองดูผู้คนที่แย่งชิงครีมแผลลาย หลินหยางพูดด้วยความพึงพอใจ
“ใช่ ไม่เลวเลย แต่ว่าระยะเวลาที่นายปรุงครีมแผลลายมันช้าเกินไป ถ้าสามารถเร็วอีกหน่อยก็ดีแล้ว”
ไป๋เซียนเฉ่ามองหลินหยางด้วยความคับแค้นใจมาก:“ถ้าสินค้าของนายเพียงพอ ตอนนี้พี่ก็บุกตลาดไปที่เจียงหลิงแม้กระทั่งสามารถตั้งหลักที่เมืองซินไห่ได้แล้ว นายพูดซิว่านายทำให้พี่เสียเส้นทางร่ำรวยไปเท่าไหร่?”
เห็นหน้าตาแบบนี้ของไป๋เซียนเฉ่า หลินหยางแทบอยากจะร้องไห้:“พี่มีเงินมากขนาดนี้แล้ว ทำไมยังทำหน้าเห็นแก่เงินอีก หาเงินได้พอสมควรก็พอแล้วครับ”
“ความคิดแบบนี้ของนายไม่ถูกนะ นายดูซิพี่ที่เป็นผู้หญิงคนนึงก็ยังมีใจอยากจะตีตลาดทั่วโลกเลย นายที่เป็นเจ้าใหญ่นายโต บริหารธุรกิจกับพี่ ก็ต้องเอาความห้าวหาญออกมาหน่อยสิ อย่าให้พี่ขายหน้า พยายามปรุงให้ได้วันละห้าร้อยขวด”
ไป๋เซียนเฉ่าตบไหล่ของหลินหยางแล้วพูดด้วยรอยยิ้ม
หลินหยางได้ยินคำพูดนี้แล้วเกือบจะเซล้มลงไป ถ้าจะบอกว่าวันละห้าร้อยขวด หลินหยางพยายามอีกนิดอาจจะสามารถปรุงออกมาได้จริงๆ แต่ถ้าเป็นแบบนี้ ถึงแม้หลินหยางเป็นขั้นตอนแรกของพลังหงส์และมังกรแล้วก็ทนไม่ไหวหรอก
“นี่พี่ใช้งานผมเหมือนปศุสัตว์เลยเหรอ?”หลินหยางพูดและยิ้มอย่างขมขื่น
“ฮ่าๆ พี่สงสารนายเสียด้วยซ้ำไป ถึงแม้ประสิทธิผลของครีมแผลลายดี แต่พลังของนายคนเดียวยังไงซะก็สู้ความสามารถในการทำงานของเครื่องจักรไม่ได้หรอก รีบวิจัยออกมาและเข้าสู่การผลิตครีมแผลลาย พี่จะพานายรวยไปด้วยกัน” ไป๋เซียนเฉ่าพูดอย่างรับประกัน
กับคำพูดของไป๋เซียนเฉ่า หลินหยางไม่สงสัยเลยสักนิด เขาพยักหน้าด้วยความสงบ ก็จะกลับออฟฟิศพร้อมไป๋เซียนเฉ่า
“หลีกไปๆ แต่ละคนมายืนอยู่ที่นี่ทำไม?ครีมแผลลายที่จองไว้ก่อนหน้านี้ไม่ต้องซื้อแล้ว รอให้เหลยหยุนลูกพี่ของกูซื้อครบหนึ่งร้อยขวดก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
ในขณะนี้เอง เสียงหยาบคายที่มาไม่ได้เวลาก้องมา มีผู้ชายสิบกว่าคนเดินมาอย่างกับนักเลง หัวหน้าที่อายุประมาณสามสิบกว่าจ้องมองคนรอบๆอย่างไม่ไยดี
“เหลยหยุนจะซื้อ?หาเหาใส่หัวจริงๆ!”
ได้ยินชื่อของเหลยหยุน คนจำนวนไม่น้อยสีหน้าขมขื่น คนอย่างนี้มาหาเรื่อง วันนี้จะสามารถซื้อครีมแผลลายได้หรือเปล่า เป็นคนละเรื่องแล้วจริงๆ
ส่วนคนจำนวนนึงก็มองไป๋เซียนเฉ่าและหลินหยางด้วยความเห็นใจสุดขีด ชื่อของเหลยหยุน อยู่แวดวงนี้ในเมืองเจียงหลิงมีชื่อเสียงมาก ในฐานะที่เป็นแวดวงด้านมืด เหลยหยุนนั่งเก้าอี้ตำแหน่งหัวหน้าในเมืองเจียงหลิงอย่างมั่นคง
เหลยหยุนเป็นคนที่โหดเหี้ยมอำมหิต ชื่อที่โหดเหี้ยมโด่งดังทั้งในด้านมืดและด้านสว่างของชนชั้นสูงในเมืองเจียงหลิง หลายปีมานี้ เหลยหยุนอาศัยฝีมือโหดเหี้ยมของตัวเอง ใช้ความสามารถทั้งหมดที่มีในการหาเงิน ไม่นานก็สร้างอาณาจักรในเส้นทางสว่างได้
ไอ้ตัวปัญหาใหญ่หามาถึงที่ ผู้คนค่อนข้างสงสัยว่าพวกเขามาซื้อของ จะไม่จ่ายตังค์หรือเปล่า
“ขวดละห้าหมื่น หนึ่งร้อยขวด ห้าแสนหยวน จะขายก็เร็วๆ ถ้าไม่ขายก็เรียกเจ้านายพวกมึงออกมา กูมีเรื่องจะคุยกับเจ้านายพวกมึงโว้ย”หัวหน้าคนนั้นพูด
“ผมก็คือเจ้านายของที่นี่ครับ ไม่ทราบว่าพี่ชายพาคนมาเยอะขนาดนี้ คือมาซื้อของ หรือว่ามาเป็นแขกครับ?”หลินหยางยิ้มตาหยีและเดินไปถาม
สำรวจหลินหยางไปครู่นึง โจวจู้ตะลึงพรึงเพริดในใจลับๆ เห็นคนทุกประเทศจนชิน แต่เยาวชนที่ยังหนุ่มยังแน่นขนาดนี้ แถมยังครอบครองบริษัทที่ใหญ่โตขนาดนี้ เขาเพิ่งจะเคยเห็นครั้งแรก
“เปล่า ไม่มีอะไร คำพูดที่ฉันพูดเมื่อกี๊ แกได้ยินแล้วใช่มั้ย?”โจวจู้ถามอย่างโผงผาง
ถึงแม้ตะลึงกับอายุของหลินหยาง แต่เขาไม่กังวลเลยว่าภูมิหลังของหลินหยางจะใหญ่โตแค่ไหน
เพราะในเมื่อลูกพี่ตัวเองให้ตัวเองมาซื้อครีมแผลลาย แสดงว่าลูกพี่รู้ภูมิหลังของบริษัทนี้ดีหมดแล้ว
เหลยหยุนระมัดระวังมากจริงๆ ก่อนหน้านี้ตอนที่ตัดสินใจจะซื้อครีมแผลลายหนึ่งร้อยขวด เขาก็ได้ตรวจสอบข้อมูลของหลินหยางและไป๋เซียนเฉ่าทุกด้านแล้ว แต่ว่าสุดท้ายก็ไม่ได้ตรวจสอบเจอพิเศษอะไร ผลการตรวจสอบไป๋เซียนเฉ่าคือก่อนหน้านั้นเคยเปิดโรงงานผลิตเสื้อและหาเงินได้ก้อนนึง สำหรับการแนะนำของครอบครัว ก็แค่ตรวจสอบคร่าวๆว่าเป็นนักธุรกิจเล็กๆในเมืองยันจิง ไม่ได้มีการแนะนำอย่างอื่นเลย
ส่วนของหลินหยางยิ่งเรียบง่ายแล้ว เป็นคนที่มาจากครอบครัวบ้านนอกล้วนๆ
เหลยหยุนแน่ใจแล้ว หลินหยางก็แค่โชคดี ที่บ้านมีสูตรๆนึงที่เตะตาไป๋เซียนเฉ่าเข้า จากนั้นทั้งสองก็โชคดีเปิดบริษัทขึ้นมาบริษัทนึง………