บทที่226 ลำธารน้อย
หลินหยางกลืนน้ำลายเอื๊อก ยิ้มแหะๆและพูดว่า: “เธอก็เข้ามาแล้วนี่ไง?”
“เหอะ ไม่เพียงฉันที่เข้ามาแล้ว ยังต้องการตรงนี้ของนายเข้ามาด้วย!” หวังเถียนเถียนรีบดึงเชือกเขาออก เผยให้เห็นถึงปืนใหญ่ที่รอคอยมานาน
หวังเถียนเถียนหายใจถี่ หมอนี่เป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าหลงใหลเสียจริง นานแล้วไม่เจอกันก็จะคิดถึงมากกว่าเดิม ร่างกายพองโตขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“เธอจับดูสิ ตรงนี้น้ำไหลแล้ว!” หวังเถียนเถียนชี้ไปที่ของตัวเอง
หลินหยางเสียบเขาไปใต้สะดือเธอ ด้านในเปียกจริงด้วย ไหลออกมาจนกลายเป็นสีขุ่นแล้ว เขากระตุกยิ้ม พูดว่า: “ลำธารน้อย ฉันคงจะว่ายไปไม่ถึงหรอกนะ!”
“นายยังมาแกล้งอีก แท่งนายใหญ่ขนาดนี้ จะทนไม่ไหวได้ยังไง? ฉันอยากได้!” หวังเถียนเถียนพูดอย่างเบลอๆ
หลินหยางก็ไม่พูดมาก ถอดเสื้อบาสของตัวเองโยนออกไป กอดหวังเถียนเถียนไว้และดันไปติดกำแพง ขาข้างหนึ่งของหวังเถียนเถียนล็อกเอวเขาไว้ พูดด้วยรอยยิ้มว่า: “รู้ไหมว่านี่ท่าอะไร?”
“ไม่รู้ สอนหน่อยสิ!” หลินหยางส่ายหน้า
“ท่าเทพธิดาอินเดียไงล่ะ ฉันไปเรียนโยคะมาโดยเฉพาะเลยนะ ท่านี้ฝึกยากมากเลย นายอย่าทำให้ฉันเสียใจล่ะ!” หวังเถียนเถียนกอดคอเขาไว้
เทพธิดาอินเดียดูแลผู้ชายโดยเฉพาะ ฝึกท่ามาตั้งแต่เด็กมากมาย นั่นเป็นท่าที่ผู้ชายต่างก็ใฝ่ฝันกัน ผู้ชายแค่ขยับเบาๆ ก็ทำให้ทั้งสองฝ่ายมีความสุขมากขึ้น
ร่างกายของหลินหยางตอนนี้สบายอย่างมาก ร่างกายขยับเบาๆ หวังเถียนเถียนหน้าผากดันเขาไว้และพูดว่า: “ความรู้สึกแบบนี้แหละ!”
“ยัยบ๊อง ไม่เพียงเท่านี้นะ ยังมีท่าอีกเยอะเลยล่ะ!” หลินหยางหัวเราะ
ใช้แรงยกขึ้น หลินหยางดันขึ้นไปถึงในสุดทันที หวังเถียนเถียนรับไม่ไหว ร่างกายสั่นเทา หลินหยางกอดเธอไว้แน่น ออกแรงสุดกำลัง พาเธอไปผจญภัยขึ้นมา
หวังเถียนเถียนไม่นานจากลำธารน้อยก็กลายมาเป็นแม่น้ำแล้ว ไหลออกมาไม่หยุด หลินหยางรู้สึกว่าตัวเองจะอัดไม่อยู่แล้ว ดึงออกมาเบาๆ น้ำล่อลื่นไหลออกมาจากด้านในลงมายังขาทันที
“ตาบ้า ฉันจะทรมานตายแล้วเนี้ย!” หวังเถียนเถียนพูดบ่น
หลินหยางแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์: “เธอเริ่มเองนะ เด็กดี ฉันจะพาเธอขึ้นสวรรค์เอง!”
เขาไม่พูด หวังเถียนเถียนก็จะเอา นานๆทีจะได้อยู่ด้วยกันแบบนี้ เธอไม่ปล่อยโอกาสดีนี้ไปได้หรอก ไม่มีความคิดใดอื่น เพียงแค่อยากระบายความเร่าร้อนในร่างกายออกมา
ทั้งสองรบในห้องพักอยู่นานมาก ฟ้ามืดแล้วถึงจะหยุดลง
ส่งหวังเถียนเถียนกลับไปที่หอ หลินหยางรู้จากปากเธอว่าคู่รักคนอื่นของเขาไปฝึกงานที่เขตชานเมืองแล้ว จุ๊บประโลมเธอเบาๆ จากนั้นก็กลับหลังหันเดินออกไปทันที
ออกมาจากประตูโรงเรียน ฟ้าก็มืดแล้ว หลินหยางเดินกลับไปในทางถนนเล็กช้าๆ
ตอนนี้อยู่ในช่วงปลายฤดูใบไม้ผลิแล้ว มีความหนาวเล็กน้อย ตัวหลินหยางกลับร้อนระอุ ร่างกายร้อนผ่าว
“เพื่อน นายเดินผิดทางแล้ว!” ทันใดนั้นก็มีคนตะโกนเรียกหลินหยาง
หันกลับไปมอง มีคนสองคนขวางทางตัวเองไว้ หลินหยางร่างกายฮึดขึ้นมาทันที ทั้งสองดูแล้วน่าจะมาไม่ดี
“อย่าตื่นเต้นไปสิ ดูนายจะไฟแรงมากเลยนะ น่าจะเป็นคนรุ่นเดียวกัน แต่ทำไมนายถึงทำผิดกับคนที่ไม่สมควรล่ะ?” อีกฝ่ายตะโกน
หลินหยางรู้สึกปวดหัว เจ้าโง่ที่ไหนโผล่มาตรงนี้เนี้ย? ทำผิดกับคนที่ไม่ควร? หรือว่าสองคนนี้คือนักฆ่า?
“ถอยหน่อยได้ไหม!” หลินหยางใจเย็นมาก
“ทางนี้ไปไม่ได้ และนายไม่มีทางให้ถอยแล้วด้วย วันนี้เกรงว่านายจะออกไปไม่ได้นะ!” อีกฝ่ายพูด
ทั้งสองปิดทางเขาไว้ทางหน้าและหลัง หลินหยางแอบคิดคงไม่ใช่สกุลหลัวสั่งมาหรอกนะ? แต่คิดแล้วก็ไม่น่าใช่ สองคนนี้ไม่มีสำเนียงเจียงหลิงเลย เป็นคนทางเหนือ ท่าทางของสองคนก็ดูรวดเร็วมาก ทำงานคู่กันได้ดีมาก
หลินหยางถาม: “หาฉันทำไม อยากสู้กันก็พูดมาตรงๆ!”
“นายเอาการบำเพ็ญเพื่อต่อสู้งั้นเหรอ? ช่างไม่รู้อะไรจริงๆ วันนี้จะทำให้นายรู้ว่าอะไรคือการต่อสู้แล้วกัน!” คนข้างหน้าเดินออกมาจากที่มืด
หลินหยางถึงได้เห็นชัดเจน หมอนี่บนหน้ามีรอยแผลยาว หน้าตาน่ากลัวมาก คนด้านหลังก็เป็นคนหัวล้าน พุ่งกลมโตน่าจะมีน้ำหนักสองร้อยโลได้
“งั้นได้ ให้ฉันดูสิพวกนายเก่งแค่ไหน!” หลินหยางแบมือออกและพูด
หน้ารอยแผลยกมือขึ้นประสานกันและพูดว่า: “ดีมาก หลินหยาง พวกเราเข้าใจกันก็ดี! ฉันชื่อเซินถูกาง ด้านหลังนายชื่อเซินถูลู่ พวกเราสองพี่น้องได้รับคำสั่งมา วันนี้จะมาหักขาและแขนนายรวมไปถึงด้านล่างนั่นของนายด้วย”
หลินหยางอึ้ง คนตระกูลเซินถู? เขาไม่กล้าทำเป็นเล่นอีก เจินชี่จากร่างกายรวบรวมขึ้นมา
หน้ารอยแผลพูดขึ้นว่า: “ไม่คิดว่านายจะมีความสามารถแบบนี้ น่าเสียดายนะ!”
พอพูดจบ คนหัวล้านด้านหลังก็ลงมือก่อน ด้านหลังมีลมพัดมาอย่างเร็ว หลินหยางรีบหลบหัวเอียงข้างออกไป คนหัวล้านต่อยไม่โดนเขา จึงเตะออกไปทันที
หลินหยางตบออกไปด้วยเจินชี่ ขาของคนหัวล้านกับประทับเขากับฝ่ามือเขา เสียงดังปึงหลินหยางถอยหลังไปหลายก้าว คนหัวล้านก็ไม่ได้อยู่ดี ขาเขาถอยไปด้านหลัง ดึงร่างไว้ถึงจะหยุดถอยหลังได้
“หมอนี่ เมื่อกี้นายยังถ่อมตัวอยู่เลย? วันนี้ต้องเอาขาและแขนนายเพิ่มอีกข้างแล้ว!” คนหัวล้านตะโกนสุดเสียง
เสียงตะโกนดังทะลุเข้าแก้วหู พลังเต็มเหนี่ยว หลินหยางร้องเสียงดังและจู่โจมกลับ วิชาวรยุทธ์บทหลงเถิ่งฟิ่งอู่เขาฝึกฝนมานานมาก ครั้งก่อนตอนต่อสู้กับตระกูลเซินถูหลังจากนั้นก็พัฒนาขึ้นมามาก หลินหยางจู่โจมหนักหน่วง หมัดเท้าสลับกันไป คนหัวล้านไม่นานก็เสียแรงไปมาก ยิ่งไปกว่านั้นคือกำลังภายในพลังมังกรและหงส์ของหลินหยางจู่โจมเขาอย่างหนักจนแทบจะรับไม่ไหวแล้ว
หน้ารอยแผลเห็นดังนั้น จะมานั่งดูอยู่แบบนี้ไม่ได้แล้ว เขาไม่ลงมืออีกคนหัวล้านคงสู้เขาไม่ไหวแน่ หน้ารอยแผลพุ่งเข้าไปเงียบๆ รูปร่างรวดเร็ว ภายในความมืดไม่สามารถสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของเขาได้เลย
หลินหยางไม่กล้าประมาท กระโดดถอยหลังการจู่โจมของหน้ารอยแผล พระจันทร์สาดส่องลงมา ภายในซอยเล็กๆก็สว่างไปทั่ว
“ไปพร้อมกันเลย เอาให้มันตาย!” คนหัวล้านตะโกนอย่างโกรธแค้น
หลินหยางในตอนนี้ถึงรู้สึกกดดันขึ้นมา สองคนถ้าจู่โจมมาแค่คนเดียว เขายังพอรับไหว แต่มาพร้อมกันแบบนี้คงจะยากขึ้นมาอีกระดับ ยิ่งเป็นหน้ารอยแผลนั่นอีก ลงมือได้อย่างโหดเหี้ยม เป็นการต่อสู้ของพวกคนเลวหมดเลย นี่คิดจะทำให้หลินหยางไม่มีลูกเลยเหรอ
คนหัวล้านพอเห็นว่าอาจจะชนะ สองมือดันออกไปพร้อมกัน หลินหยางรับมือศัตรูด้วยสองมือ ดันพวกเขาไว้ หน้ารอยแผลก็พุ่งเข้ามาพร้อมกัน เล็งไปที่ด้านล่างของหลินหยางตรงๆ กำลังจะปล่อยมือ หลินหยางถึงรู้สึกตัวว่าฝ่ามือของคนหัวล้านเหมือนกับแม่เหล็กที่ดูดเขาเอาไว้ไม่ให้ออกไป
ในขณะไฟฟ้าปะทุ สองขาหลินหยางก็เตะออกไป คนหัวล้านถูกเตะที่ท้องอย่างแรง ล้มลงไปนอนด้านล่างและดึงหลินหยางลงไปด้วย
“รีบลงมือเร็วเข้า เจ้าหมอนี่ถูกฉันจับไว้แล้ว!” คนหัวล้านพูดโดยสายตาเปล่งประกาย
หลินหยางก้มหน้าลงมอง เอวตัวเองมีขาสองขาเกาะไว้ เหมือนกับหินหนักหลายพันปอนด์หล่นทับร่างตัวเองขยับไม่ได้ หน้ารอยแผลคำรามเสียงดัง หยิบมีดสั้นที่ส่องประกายแพรวพราวออกมาและแทงลงไป
ในตอนที่มีดสั้นห่างจากด้านล่างของหลินหยางไม่กี่เซนแล้ว ก็มีกำลังภายในจากในท้องก่อตัวขึ้นมา หลินหยางร้องเฮือกออกมา ออกจากการจับตัวของคนหัวล้าน ต่อมาก็จับมือสั้นนั้นไว้ ใช้พลังมังกรและหงส์ให้ติดกับหน้ารอยแผล
หน้ารอยแผลอยากจะดึงออกมาอย่างหวาดกลัว แต่ดึงยังไงก็ไม่ออกมา ตอนนี้มือของหลินหยางถูกบาดไปแล้ว เลือดกำลังไหลออกมาทีละหยด
“หมอนี่ รนหาที่! ปล่อยมือเดี๋ยวนี้นะ!” คนที่เป็นหน้ารอยแผลหน้าก็เริ่มแดงขึ้นเรื่อยๆ
หลินหยางมองด้วยสองตา เจินชี่พองโตออกมา ย้อนเข้าไปในตัวของคนหน้ารอยแผลจากมีดสั้น คนหน้ารอยแผลร้องอย่างทรมานและปล่อยมือ หลินหยางแย่งมีดสั้นมาและชี้ไปที่หัวของคนหัวล้าน
คนหัวล้านตัวสั่นขึ้นมา ไม่คิดว่าเขากับคนหน้ารอยแผลจะจัดการหมอนี่ไม่ได้
“บอกว่า ใครสั่งพวกนายมา!” หลินหยางตะโกนอย่างโมโห
คนหน้ารอยแผลเห็นว่าสถานการณ์เปลี่ยนไป ร่างกายหดตัว คิดอยากจะหนี เสียงดังเคร้ง มีดหลินหยางก็ตัดผ่านใบหูของเขาพอดี เสียงดังฉับ ใบหูหนึ่งข้างตกลงพื้นทันที
คนหน้ารอยแผลร้องเสียงดังและล้มกองลงไปบนพื้น เลือดไหลออกมาไม่หยุด
“พอ ตอนนี้ตานายแล้ว ใครสั่งพวกนายมา!” สีหน้าหลินหยางโมโหอย่างมาก
“ฉัน……ฉันไม่รู้!” คนหัวล้านพูดติดอ่าง
ในตอนนี้เองก็มีรถเก๋งคันหนึ่งขับมา จอดอยู่หน้าปากซอย ชายวัยกลางคนเดินออกมาด้วยสีหน้าบึ้งตึง
“คืนนี้วุ่นวายจริงเลยนะ!” หลินหยางพูด
“หลินหยาง ปล่อยคนหัวล้านนั่นไป เรื่องนี้ฉันจัดการเอง!” ชายวัยกลางคนเดินด้วยไม้เท้าและพูด
หลินหยางมองไปที่เขา และถามว่า: “นายเป็นใครอีกล่ะ?”
“เซินถูจิงจี๋ แต่ไม่ใช่พวกเดียวกับสองคนนี้ พวกเขาไม่ใช่คนตระกูลเซินถู แต่เป็นตัวปลอม!” ชายวัยกลางคนพูดด้วยน้ำเสียงใจเย็น
“ฉันกับตระกูลเซินถูของพวกนายน่าจะมีปัญหากันมาก่อน คำพูดของนายตอนนี้ฉันยังเชื่อไม่ได้!” หลินหยางส่ายหน้า
เซินถูจิงจี๋หัวเราะและพูดว่า: “ฉันรู้ว่านายไม่เชื่อ แต่สองคนนั้นไม่ใช่คนตระกูลเซินถูแน่นอน เพราะพวกเขาไม่รู้วรยุทธ์ของตระกูลเซินถู! เมื่อกี้นายสู้กับพวกเขาก็น่าจะรู้ดีนะ!”
คำพูดนี้หลินหยางก็เชื่ออยู่ เจ้าสองคนนี้เทียบกับเซินถูอ๋างหรันในเมื่อก่อนก็มองออกแล้ว
“วันนี้พวกเรามาหานายจริงๆ แต่ไม่ได้มาหาเรื่อง แต่มาบอกว่าที่ยันจิงมีคนจะหาเรื่องนาย! สองคนนี้ไม่รู้ว่าได้ข่าวมาจากไหน ได้รับคำสั่งมาฆ่านาย!” เซินถูจิงจี๋พูด
“หาเรื่องฉัน? ยันจิงทางนั้นนอกจากจะมีเรื่องกับตระกูลพวกนายแล้วก็มีแต่ตระกูลจ้าว ไม่มีเรื่องกับใครอีกเลย ใครจะมาหาเรื่องพวกเรากัน!” หลินหยางพูดอย่างเย็นชา
เซินถูจิงจี๋ขมวดคิ้วพูด: “ฉันก็กำลังตรวจสอบเรื่องนี้อยู่ สองคนนี้ฉันจัดการเองเป็นยังไง? ฉันจะรายงานนายแน่นอน! เพราะยังไงนี่ก็เกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของตระกูลเซินถูของพวกเราเหมือนกัน!”
ครุ่นคิดสักพัก หลินหยางก็พยักหน้าพูดว่า: “ได้ แต่ฉันหวังว่าพวกนายเข้าใจเรื่องนี้แล้วอย่ามารบกวนฉันอีก!”
หลินหยางเก็บมีดสั้นและเดินออกไปทันที เซินถูจิงจี๋มองดูสองคนที่กองอยู่บนพื้น สายตาเฉียบคมขึ้นมาทันที
เดินออกจากซอยแล้ว หลินหยางก็ได้ยินเสียงกรีดร้องอย่างทรมาน แม้จะไม่รู้ว่าใครจะฆ่าตัวเอง แต่เขารู้ว่าต่อไปคงต้องระวังมากขึ้น
พอกลับมาถึงบ้าน สีหน้าหลินหยางเหนื่อยล้าและโทรมมาก พวกผู้หญิงต่างล้อมกันเข้ามา
“เป็นอะไรไปเหรอ? มือของนายทำไมถึงมีเลือดไหลล่ะ!” จ้าวจินฟ่งปวดใจจนน้ำตาแทบจะไหลออกมาแล้ว
“นายไปสู้กับใครมาน่ะ? ใครมันกล้าทำแบบนี้กัน!” จางยี่พูดอย่างโมโหจัด
หนานกงหยูนขยับเข้ามา ขมวดคิ้วพูดว่า: “ไม่สิ เขาบาดเจ็บภายในด้วย ไม่ใช่คนธรรมดาแน่!”
“เป็นอะไรกัน!” พวกผู้หญิงไล่ถามกันใหญ่
หลินหยางฝืนยิ้มส่ายหน้า ไม่ได้พูดอะไร
หนานกงหยูนไม่วางใจ ลากเขาไปห้องตัวเอง ให้นั่งลง
“ฉันไม่เป็นไร!” หลินหยางพูดด้วยรอยยิ้ม
“อย่างนั้นก็ไม่ได้ ครั้งก่อนเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนั้น จะประมาทไม่ได้!” หนานกงหยูนขมวดคิ้วพูด
หลินหยางกำลังจะปฏิเสธ หนานกงหยูนกลับเริ่มถอดเสื้อตัวเอง สาวคนนี้จะรักษาให้ตัวเองเหรอ?