บทที่227 เจ้าชายขี่ม้าขาว
เสื้อผ้าถูกถอดออกทีละชิ้น หนานกงหยูนยื่นมือไปจับ ขมวดคิ้วพูดว่า: “ทำไมบาดแผลแปลกแบบนี้?”
“แปลกตรงไหน? อีกฝ่ายบอกว่าเป็นคนของตระกูลเซินถู!” หลินหยางยิ้มแห้ง
“เป็นไปไม่ได้ กำลังภายในของตระกูลเซินถูมีลำดับขั้นและบริสุทธิ์ ไม่ได้วุ่นวายแบบนี้!” หนานกงหยูนส่ายหน้า
หลินหยางครุ่นคิดเซินถูจิงจี๋นั่นไม่ได้พูดหลอก แต่ไม่รู้ว่าสองคนนั้นมาจากไหนกันแน่ ทำไมถึงคิดฆ่าตัวเองกัน
หนานกงหยูนยกมือขึ้นดันตัวหลินหยางลงเตียง เขายิ้มและพูดว่า: “ทำไมเหรอ จะรักษาให้ฉันเหรอ?”
“แน่นอนสิ อาการของนายต้องพึ่งกำลังเจินชี่รักษา!” หนานกงหยูนพูด
หลินหยางหลับตาลง เตรียมรับการ “รักษา” จากเธอ แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกับครั้งก่อน หนานกงหยูนไม่ได้ขี่บนตัวเขา แต่ใช้มือน้อยนุ่มละมุนนั้นนวดท้องให้หลินหยาง
“เธอนวดเป็นเหรอ?” หลินหยางถามอย่างแปลกใจ
“ไม่ใช่นวด นายรวบรวมเจินชี่ไว้ตำแหน่งใกล้ตันเถียนทั้งหมด ฉันกำลังช่วยนายอยู่!” หนานกงหยูนมองบนเขา
หลินหยางยังคงนอนอยู่บนเตียงไม่ขยับ พลังมังกรและหงส์รวบรวมกันไปอยู่ในตำแหน่งตันเถียนทั้งหมด หนานกงหยูนช่วยในการเคลื่อนย้าย หน้าผากหลินหยางเต็มไปด้วยเหงื่อ
“เป็นยังไง?” หนานกงหยูนถาม
“รู้สึกแปลกๆ เหมือนมีอะไรมาทับเจินชี่ฉันไว้!” หลินหยางขมวดคิ้ว
หนานกงหยูนอึ้ง พูดอย่างตกใจว่า: “กำลังภายในที่แปลกประหลาดแบบนี้พึ่งเคยเห็นครั้งแรก คนที่จู่โจมนายหน้าตาเป็นยังไง?”
“คนหนึ่งมีหน้ารอยแผล อีกคนก็หัวล้าน ฉันตัวคนเดียวจะไปรู้ว่าพวกเขามาจากไหนได้ยังไงกัน!” หลินหยางยิ้มแห้ง
“หรือว่าเป็นพี่น้องพิษแมงป่อง? นายถูกยาพิษแล้วหรือเปล่า?” หนานกงหยูนคาดเดา
หลินหยางอึ้ง มองฝ่ามืออีกครั้ง เริ่มมีรอยดำม่วงแล้ว เขาพูดอย่างโมโหว่า: “ติดกับแล้วจริงด้วย! เจ้าสองคนนั้นกล้าใช้วิธีสกปรกแบบนี้! วางกับดักฉันขนาดนี้ พิษแมงป่องพวกนี้มาจากไหนกัน?”
“ฉันแค่เคยได้ยินชื่อพวกเขาและหน้าตาน่ะ ตั้งแต่ที่ถูกพิษร้ายแล้วก็เลยได้เข้าใจพวกที่ชำนาญในการใช้ยาพิษพวกนี้ สองคนนั้นมีแต่ชื่อเสียงไม่ดีน่ะ” หนานกงหยูนพูดด้วยสีหน้าเป็นกังวล
หลินหยางพูดปลอบใจ: “อย่าร้อนรนไปเลย ฉันเป็นหมอเชียวนะ!”
“หมอน่ะสิถึงถอนพิษพวกเขาไม่ได้ พวกเขาเชี่ยวชาญในการผสมยาพิษรุนแรงกับพวกที่ฝึกกำลังภายในโดยเฉพาะ ตอนนี้พวกเขาสองคนล่ะ?” หนานกงหยูนถาม
“ถูกเซินถูจิงจี๋นำตัวไปแล้ว เพราะพวกเขาแอบอ้างว่าเป็นคนตระกูลเซินถู น่าจะถูกทรมานหนักเลยล่ะ!” หลินหยางกัดฟันกรอด
หนานกงหยูนจับมือหลินหยางไว้แน่น พูดอย่างกังวลว่า: “โดนพิษอื่นก็ยังรักษาได้ แต่พิษนี้ซับซ้อนมาก นายต้องรีบไปหาเซินถูจิงจี๋ ไปหาเขาเอายาถอนพิษมาเร็ว!”
ฝ่ามือของหลินหยางคันไปหมด คันไปถึงกระดูกภายใน เขารีบกระโดดขึ้นมา สวมเสื้อผ้าและเดินออกไปทันที
กำลังขึ้นรถ เซินถูจิงจี๋ก็ขับรถมาพอดี
เซินถูจิงจี๋เดินลงมาจากรถเบนท์ลีย์ด้วยรอยยิ้ม พูดว่า: “น้องเซียว กำลังไปหายาถอนพิษเหรอ!”
“ใช่ สองคนนั้นล่ะ?” หลินหยางถามต่อ
“ตายแล้ว!” สีหน้าเซินถูจิงจี๋เหมือนกำลังพูดเรื่องที่ธรรมดามาก
หลินหยางถามอย่างกลุ้มใจ: “แล้วนายรู้ได้ยังไงว่าฉันหายาถอนพิษอยู่?”
“เพราะฉันค้นอะไรบางอย่างเจอในตัวพวกเขาไงล่ะ ไม่รู้ว่านายอยากได้ไหม?” เซินถูจิงจี๋หยิบขวดเล็กออกมา
“ฝ่ามือฉันถูกพิษแล้วจริงๆ มีดสั้นของพวกเขามีพิษ แต่ทำไมนายไม่ไว้ชีวิตสองคนนั้นแล้วให้ฉันได้ถามก่อน?” หลินหยางถามอย่างโมโห
เซินถูจิงจี๋เงยหน้ามองเขาและพูดว่า: “เพราะพวกเขาทำลายชื่อเสียงตระกูลเซินถู พวกมันรนหาที่ตายเอง!”
คำพูดนี้เหมือนตั้งใจพูดให้หลินหยางฟัง หลินหยางพยักหน้าพูดว่า: “ดังนั้นฉันก็ต้องตายงั้นเหรอ?”
“ไม่ นายไม่เหมือนกับพวกนั้น ถ้ายอมเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลเซินถูงั้นก็ไม่ต้องตาย!” เซินถูจิงจี๋พูด
“ส่วนหนึ่ง? หมายความว่ายังไง? ทำงานรับใช้ให้พวกนายหรือไงกัน?” หลินหยางแสยะยิ้ม
เซินถูจิงจี๋ส่ายหน้า พูดว่า: “ถึงเวลานายจะรู้เอง ของให้นายก่อน ต่อไปค่อยให้นายทำตามสัญญา!”
ขวดเล็กถูกโยนมา รถของเซินถูจิงจี๋หายไปในยามราตรีอย่างรวดเร็ว หลินหยางจับขวดเล็กไว้ ด้านในมีเม็ดยาสีน้ำเงินไม่รู้ว่าเป็นของที่ตัวเองต้องการหรือเปล่า
ส่วนคำขอของเซินถูจิงจี๋นั่น หลินหยางไม่ได้เก็บมาใส่ใจ ตระกูลเซินถูตระกูลใหญ่แบบนี้คงไม่สนใจกับเงินทองและกำลังภายในของเขาหรอก มากสุดคงอยากให้เขาเป็นเบ๊ให้พวกเขาน่ะสิ แต่หลินหยางไม่รู้ว่าจากนี้ไปเพื่อทำตามสัญญานั้นเขาจะต้องเหนื่อยมากแค่ไหน
นำยากลับมาบ้าน หนานกงหยูนแนะนำเขาลองดู กินหนึ่งเม็ดก่อนค่อยว่ากัน ด้วยนิสัยที่ระวังตัวของหลินหยางต้องนำไปทดลองในห้องปฏิบัติการก่อนค่อยว่ากัน ใครจะรู้ว่าเซินถูจิงจี๋เจ้าหมอนี่จะเปลี่ยนของเข้าไปหรือเปล่า
“นายคิดมากไปแล้วล่ะ ตระกูลเซินถูยังไงก็เป็นตระกูลเศรษฐีอันดับสอง เซินถูจิงจี๋ก็เป็นลำดับสามของพวกเขา ไม่คิดทำร้ายนายหรอก” หนานกงหยูนปฏิเสธ
หลินหยางเห็นท่าทางที่เป็นกังวลของหนานกงหยูน ตัดสินใจไปห้องปฏิบัติการตรวจสอบพิษและส่วนผสมของยาตัวนี้ทั้งคืน เพื่อให้พวกเธอสบายใจ
กลับไปถึงเซียนเฉ่าเก๋อ ก็มืดค่ำแล้ว มีแต่ไฟในห้องปฏิบัติการที่ยังสว่างอยู่ หลินหยางตกใจเล็กน้อย เดินเข้าไปก็เห็นอานเสี่ยวซิงกำลังนอนฟุบอยู่ตรงนั้นอ่านบันทึกอยู่
“ทำไมยังอยู่ตรงนี้ กี่โมงกี่ยามแล้วเนี้ย?” หลินหยางพูดด้วยรอยยิ้ม
“ไม่รู้ว่าทำไม นอนไม่หลับทั้งคืนเลย ก็เลยมาตรงนี้ นายมาทำไมเหรอ?” อานเสี่ยวซิงยิ้มหวาน
หลินหยางพยักหน้าพูดว่า: “งั้นดีเลย มาช่วยฉันทดสอบองค์ประกอบหน่อย ฉันถูกวางยาน่ะ”
“ถูกวางยา ยาพิษอะไร?” อานเสี่ยวซิงตื่นเต้นจนหน้านิ่วคิ้วขมวดไปหมด
หลินหยางแบมือออกไป รอยสีดำม่วงที่ฝ่ามือนั้นช่างน่าตกใจมาก อานเสี่ยวซิงดวงตาแดงก่ำ ถามด้วยน้ำเสียงสั่นคลอนว่า: “เป็นไปได้ยังไง?”
“ไม่เป็นไร เธอมาช่วยฉันตรวจสอบยาขวดนี้หน่อย ฉันจะตรวจสอบยาพิษด้านใน!” หลินหยางพูดปลอบใจเธอ
ทั้งสองเป็นนักศึกษาดีเด่น เริ่มตรวจสอบกันอย่างเข้มงวด ด้วยอุปกรณ์ที่พร้อมในห้องปฏิบัติการ ไม่นานก็ได้ผลลัพธ์ออกมา
ถูกวางยาที่ทำให้สารพิษที่ทำให้ไร้สมรรถภาพ ยังเป็นแบบออกฤทธิ์ช้าอีกด้วย แต่เม็ดยาสีน้ำเงินในขวดนี้ก็คือไวอากร้า ไม่ใช่ยาถอนพิษ!
“ที่แท้เจ้าสองตัวนั้นก็ตั้งใจวางยาไร้สมรรถภาพทางเพศเองเหรอ ให้ตายสิ!” หลินหยางกัดฟันกรอด
“ไปโรงพยาบาลไหม?” อานเสี่ยวซิงถาม
หลินหยางพูดอย่างรำคาญใจ: “ไม่มีประโยชน์หรอก ยาพิษที่เจ้าสองคนนั้นทำออกมา ตั้งใจต่อกรกับพวกเราที่ฝึกฝนกำลังภายในเท่านั้น!”
“แต่สารพิษไร้สมรรถภาพจะทำให้นายเสียความรู้สึกไปช้าๆ ก่อให้เกิดอาการประสาทหลอนได้ จะทำให้หลอนและเสียสติได้นะ!” อานเสี่ยวซิงพูดอย่างกังวล
หลินหยางสูดหายใจเข้าลึกๆพูดว่า: “ต้องฝึกฝนกำลังบ่อยๆแล้ว ใช้ร่างกายตัวเองต่อกรแล้วกัน!”
อานเสี่ยวซิงรู้สึกปวดใจ น้ำตาไหลลงมาอย่างควบคุมไม่ได้ สาวคนนี้มีหน้าคล้ายเด็กน้อยความรู้สึกที่จริงใจที่เธอแสดงออกมาทำเอาหลินหยางรู้สึกซาบซึ้งใจ
“ร้องไห้อะไร ฉันไม่ได้ไปตายสักหน่อย มากสุดฉันก็แค่เอ๋อเท่านั้น!” หลินหยางบีบแก้มเธอและพูด
อานเสี่ยวซิงกอดหลินหยางไว้แน่นและพูดว่า: “ฉันจะวิจัยยาถอนพิษออกมาให้ได้!”
“ได้ ฉันเชื่อสาวสวยอานคนนี้จะต้องทำได้แน่นอน เธอจะช่วยฉันจากอาการเอ๋อได้แน่!” หลินหยางพูดหยอก
อานเสี่ยวซิงเขย่งเท้าขึ้นและจูบเขา ตอนนี้อารมณ์เธอปั่นป่วนมาก ทันใดนั้นรู้สึกว่าเธอจะเสียผู้ชายตรงหน้าไปไม่ได้ พอนึกถึงอาการที่เขาถูกยาพิษ ก็รู้สึกเจ็บปวดใจอย่างมาก
หลินหยางอยากใช้จูบร้อนแรงของตัวเองคลายความวิตกของเธอ ลิ้นแหย่เข้าปากของอานเสี่ยวซิง พันปลายลิ้นของเธอไว้ อานเสี่ยวซิงไม่ค่อยถนัดเรื่องนี้ ร่างกายกล้ามเนื้อหดเกร็งไปหมดและยังเบลอๆด้วย
จูบร้อนแรงของหลินหยางรุนแรงกว่ายาพิษเสียอีก ออกฤทธิ์อย่างรวดเร็ว อานเสี่ยวซิงรู้สึกตอนนี้ตัวเองเบลอไปหมดแล้ว หายใจลำบากมากขึ้นเรื่อยๆ
ยังดีที่หลินหยางเข้าใจเธอ ไม่ได้จูบเธอต่อไป ใบหน้าของอานเสี่ยวซิงแดงระเรื่อไปหมด เธอพูดด้วยเสียงสั่นคลอนว่า: “คนเลว!”
“ใช่สิ ต้องโทษยาพิษนี้ ที่จริงฉันยังเป็นคนดี ตอนนี้กลายเป็นคนเลวไปแล้ว!” หลินหยางมองดูฝ่ามือและพูด
อานเสี่ยวซิงหัวเราะออกมา รอยยิ้มบาดใจมาก สายตาเธอเต็มไปด้วยไฟร้อนแรง หลินหยางเห็นชัดเจน หัวใจก็ร้อนแรงขึ้นมาด้วย
ปลดกระดุมตัวเองออกอย่างรวดเร็ว อานเสี่ยวซิงเผยลูกบอลสีชมพูอันนุ่มเด้งสองลูกออกมา สองจุกไม่หดอยู่ด้านในอีกต่อไปและตึงออกมา อานเสี่ยวซิงเหมือนกำลังแสดงความสวยของตัวเองต่อหน้าเขา และแสดงความสามารถของเขาด้วย หลินหยางโอบกอดเธอไว้อย่างเข้าใจ ดมกลิ่นผมหอมหวานของเธอ ไฟร้อนปะทุขึ้นในร่างกายทำให้ด้านล่างของเขาแข็งตัวขึ้นมาทันที
เป้าหมายของอานเสี่ยวซิงเล็งไปที่ตรงนั้น เธอยื่นมือไปคว้าอาวุธเขาออกมา จับไว้ในฝ่ามือเล็ก ร้อนผ่าวจนทำให้เธอหายใจถี่ขึ้น
“ใหญ่จัง!” อานเสี่ยวซิงเอ่ยชม
“ต้องยกคุณงามความดีนี้ให้เธอ!” หลินหยางเอ่ยชม
อานเสี่ยวซิงถอดเสื้อในสีชมพูตัวเองออกมา นั่งอยู่ตรงโต๊ะการทดลอง โต๊ะการทดลองที่แข็งแรงนี้ก็คือเตียงที่ดีที่สุด
“รีบมาเร็ว ที่นี่ต้องการนาย!” อานเสี่ยวซิงชี้นำปืนใหญ่ของเขาและพูด
ถูไถที่หน้าประตูสักพัก และรู้สึกถึงความเปียกชื้นของด้านใน หลินหยางดันเข้าไปช้าๆ ทั้งสองแนบติดกัน หลินหยางคิดในใจแรงรับของผู้หญิงแข็งแกร่งจริงๆ อานเสี่ยวซิงผู้หญิงที่ตัวเล็กขนาดนี้ก็ยังทนรับมันไหว
“พองจัง!” อานเสี่ยวซิงพูดด้วยใบหน้าแดงจัด
“เธอผ่อนคลายหน่อย หนีบฉันไว้อย่าขยับ!” หลินหยางพูดอย่างเขินๆ
อานเสี่ยวซิงก็เหมือนกับคีมขนาดใหญ่ ทำให้หลินหยางเข้าออกไม่ได้ อานเสี่ยวซิงยิ้มอ่อนๆ ร่างกายก็ผ่อนคลายลงไปด้วย หลินหยางถึงได้รู้สึกด้านในยังมีที่ว่างมาก ดันเข้าไปทั้งสองก็ถอนหายใจอย่างพอใจ
ขยับก้นเบาๆ อานเสี่ยวซิงเกี่ยวเอวของหลินหยางไว้ เธออยากจะสร้างความสุขให้หลินหยางบ้าง แต่มันยากเกินไป ทำได้แค่ถูไถไปหน้าหลัง
ร่างกายของหลินหยางก็ใช้พลังมังกรและหงส์อย่างไม่ตั้งใจ เจินชี่ที่ร้อนแรงระบายออกมา ร่างกายอานเสี่ยวซิงทั้งแดงและร้อน สาวน้อยพึมพำว่า: “เจ็บจัง……จะ……”
“จะอะไร?” หลินหยางบีบแก้มเธอและแสยะยิ้มเจ้าเล่ห์
“จะเอานาย!” อานเสี่ยวซิงตะโกนออกมาสุดแรง
หลินหยางไม่หยอกเธอเล่นอีก เริ่มขยับเพิ่มแรงมากขึ้น เขาเหมือนกำลังขี่ม้าวิ่งอยู่ก็ไม่ปาน ร่างกายอ่อนแอของอานเสี่ยวซิงส่ายไปมาภายใต้พายุฝนฟ้าคะนอง เธอสูญเสียทิศทางไป ร่างกายเดี๋ยวสูงเดี๋ยวต่ำ ความรู้สึกขึ้นลงแบบนี้ทำให้จิตใจเธอทั้งหวาดกลัวและสบายใจ
ในตอนนี้อานเสี่ยวซิงเหมือนถูกวางยาพิษ ภาพตรงหน้าเบลอไปหมด ตัวของหลินหยางมีแสงสีทองเปล่งประกาย สวมชุดเกราะกำลังวิ่งมาหาตัวเองอยู่
“เจ้าชายขี่ม้าขาวของฉัน มาเร็วๆสิ!” อานเสี่ยวซิงตะโกนออกมาเสียงดัง