“เปิดโรงพยาบาลแพทย์แผนจีน!? รอสักครู่ ให้ฉันคิดหน่อย”
ไป๋เซียนเฉ่าเห็นว่าหลินหยางไม่ได้พูดเล่น ก็เคร่งขรึมขึ้นมา ยืนขึ้นโดนวนไปมาในห้อง ขมวดคิ้วคิดทบทวนไปมา
หลินหยางเห็นแบบนั้น ก็เข้าใจว่าในสมองของไป๋เซียนเฉ่านั้นเริ่มครุ่นคิดแล้ว ไม่ได้รีบร้อนอะไร รอข้อสรุปของเธอ
“คุณอยากจะเปิดโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนใหญ่แค่ไหน”ไป๋เซียนเฉ่าอยู่ดีๆก็เอ่ยถาม
หลินหยางพูด “ขนาดเล็กใหญ่ไม่ได้ใส่ใจ แต่ว่ายังไงจะต้องเป็นโรงพยาบาลแพทย์แผนจีน”
ไป๋เซียนเฉ่าพูด “ขนาดจริงๆแล้วสำคัญมาก ถ้าจะเปิดคลินิกขนาดเล็ก คงจะทำเงินได้ไม่เท่าไหร่ และก็คงจะทำแบรนด์ไม่ได้ ดีที่สุดคือเป็นโรงพยาบาลขนาดใหญ่ ไม่ทำก็จบ ทำแล้วก็เป็นแบบอย่างตัวอย่างของวงการอุตสาหกรรมนี้”
หลินหยางหัวเราะไม่มีเสียง เข้าใจความคิดหลักของไป๋เซียนเฉ่าว่าทั้งหมดไปอยู่ที่ปัญหาว่าโรงพยาบาลแพทย์แผนจีนจะทำเงินได้ยังไง
เขาครุ่นคิด พูด “อันที่จริงแล้วทำรายได้ไม่ได้สำคัญอะไร ได้ช่วยรักษาคนนั้นเป็นเรื่องแรกสุด”
“คุณนี่ช่างสูงส่งเหลือเกิน แต่ว่าถ้าไม่มีเงิน โรงพยาบาลจะดำเนินกิจการได้อย่างไร? โรงพยาบาลที่ไม่ทำกำไร หรือว่าคุณจะผลาญเงินตัวเองเพื่อดำเนินกิจการไปเรื่อยๆ ฉันไม่ทำธุรกิจที่ขาดทุนหรอก”
หลินหยางยักไหล่พูด “เรื่องทางด้านนี้ให้คุณจัดการละกัน เพียงแค่อยากให้คุณช่วยฉันเปิดโรงพยาบาลขึ้นมา ให้ฉันได้ช่วยตรวจรักษาคนป่วยก็พอแล้ว”
ไป๋เซียนเฉ่าคิด พูดออกมา “คุณรักษาได้ทุกโรค?”
หลินหยางพูด “อาการป่วยทั่วไปสามารถหาหมอคนอื่นมาวินิจฉัยได้ ส่วนฉันก็ดูส่วนที่ทั่วไปรักษาไม่ได้ก็พอแล้ว”
ไป๋เซียนเฉ่ายิ้มแล้วพูด “ถ้าคำพูดนี้ของคุณหลุดออกไป อย่างน้อยคนที่ทำงานกับคุณพวกนั้นคงจะโมโหสุดขีดอดกลั้นจนตายแน่ๆ”
หลินหยางหัวเราะ ไม่ได้พูดอะไรมาก ยังไงเขาก็รู้ตัวเองดี ว่าความสามารถของตัวเองนั้นอยู่ตรงไหนแล้ว แสดงศักยภาพออกมาแทนคำพูดก็ได้แล้ว
หัวเราะ หลินหยางพูด “คุณคิดว่าโรงพยาบาลนี้จะเปิดได้เมื่อไหร่?”
ไป๋เซียนเฉ่ากลอกตาขาว พูด “คุณมองว่าการเปิดโรงพยาบาลมันง่ายนักหรือไง? ความเกี่ยวเนื่องกันมากมายหลายทาง ถึงจะเป็นเทวดา ก็ไม่ใช่ว่าจะมีวิธีเปิดโรงพยาบาลให้คุณเล่นได้ภายในสองสามวันหรอกนะ”
หลินหยางเองก็คิดเช่นนั้น โรงพยาบาลเป็นสิ่งที่อ่อนไหวอย่างมากเรื่องหนึ่งเลยทีเดียว โดยเฉพาะจะเปิดโรงพยาบาลเอกชนภายในประเทศ ถ้าหากเป็นคลินิกเล็กๆคาดว่าจะง่ายกว่าหน่อย แต่ว่าดูจากน้ำเสียงของไป๋เซียนเฉ่าแล้ว ไม่พอใจอะไรประเภทนั้นแน่ๆ อย่างน้อยน่าจะใช้เวลาและกำลังไม่น้อย
แต่ว่าหลินหยางก็ขี้เกียจที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ พูด “เอาเป็นว่าฉันมีความคิดแบบนี้ ส่วนเรื่องที่เหลือให้คุณเป็นคนรับผิดชอบทั้งหมดแล้วกัน”
“ในบริษัทของฉันเองก็ยังมีเรื่องต้องจัดการเป็นกองนะ! คุณจะเอาแต่สั่งคนอื่นก็ช่างเถอะ ตอนนี้ยังจะเอาเรื่องใหญ่ขนาดนี้มาให้ฉันทำอีก คุณอยากให้ฉันเหนื่อยตายหรือไง?”
หลินหยางหัวเราะ โอบไป๋เซียนเฉ่าไว้ในอ้อมกอด พูดออกมาว่า “คุณเหนื่อยเมื่อไหร่ ฉันจะทำให้คุณผ่อนคลายเอง รับรองว่าคุณจะฟื้นคืนชีพเลือดไหลเวียนดีทันที ฮึกเหิมอย่างเต็มเปี่ยม”
“น่าเกลียด!”
ไป๋เซียนเฉ่าหน้าแดง ถูกคำพูดของหลินหยางแกล้งจนหัวใจเต้นแรงไปหมด
สองคนเกาะกุมนัวเนียกันสักครู่ ไป๋เซียนเฉ่าถึงจะพูดออกมา “งั้นคุณก็ใช้โอกาสนี้ผลิตสินค้าออกมา ช่วงนี้แผงวางสินค้าของบริษัทนั้นใหญ่มาก ถึงแม้ว่าเงินทองจะไหลมาเทมา ในบัญชีเองก็มีเงินอยู่บ้าง แต่ว่าถ้าจะพูดถึงการเปิดโรงพยาบาล นั่นไม่พอแน่นอน”
หลินหยางพูด “คุณเองก็มีเงินใช่ไหม? ไม่ตัดสินใจจะมาร่วมลงทุนกับฉันเหรอ?”
ไป๋เซียนเฉ่ากรอกตาขาวพูด “ฉันเอาสินสอดของฉันมารวมเข้าไปแล้ว ยังจะคิดว่าไม่พออีกเหรอ!”
“ตกลง! งั้นฉันรีบกลับไปทำสินค้าใหม่ออกมาอีกล็อต”หลินหยางพูด พร้อมกับจะก้าวขาออกไป
ไป๋เซียนเฉ่าก็มารั้งเขาเอาไว้ พูดว่า “ช้าก่อน! ฉันกำลังหิว คุณอยู่เป็นกันก่อนนะ?”
หลินหยางพูด “อย่างนั้นออกไปกินข้าวกัน”
“ไม่ต้อง ฉันอยากจะกินที่นี่……”ไป๋เซียนเฉ่าเลียริมฝีปาก น้ำเสียงสั่นนิดหน่อย
หลินหยางฟังออกว่าที่แท้ไป๋เซียนเฉ่าอยากกินไม่ใช่ข้าว แต่เป็นอย่างอื่น พูดอย่างตกตะลึง “ด้านนอกมีคนอยู่ไม่ใช่เหรอ? คุณไม่กลัวว่าเคลื่อนไหวดังไปเหรอ?”
ไป๋เซียนเฉ่าหน้าแดงหูแดงไปหมด พูดเบาๆ “ถึงเวลากินข้าว เวลานี้ด้านนอกไม่มีคนแน่นอน”
ไม่ต้องพูดอะไรอีก หลินหยางและไป๋เซียนเฉ่าอยู่บนโซฟาที่สำนักงาน กอดจูบเกาะเกี่ยวกัน ป้อนไป๋เซียนเฉ่าจนอิ่มหนำสำราญเรียบร้อยแล้ว หลินหยางก็จากไปอย่างหน้าบานระรื่น
หลินหยางกลับมาที่บ้านอยากรีบร้อนไม่หยุดพัก ภายในห้องไม่มีคนเลย โทรศัพท์ไปถามฉีเยนเอ๋อร์ ถึงจะรู้ว่าพวกผู้หญิงร่วมเดินทางไปเดินเล่นด้วยกัน หลินหยางฟังแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก รู้สึกเป็นสุขสงบ
ผ่านไปสักพัก ไป๋เซียนเฉ่าจัดการให้คนนำวัตถุดิบที่จำเป็นของต้นหญ้ากรดน้ำและการทำครีมแผลลายหนึ่งกองและครีมโต้วโค่วส่งมาให้โดยใช้รถบรรทุกคันเล็ก
หลินหยางและพนักงานทั้งหมดนำของทั้งหมดย้ายเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง จากนั้นก็ทุ่มเททำออกมา
หลังจากที่พลังมังกรและหงส์นั้นเข้าสู่ระดับต้นขั้นที่สองแล้ว หลินหยางทำการผลิตครีมแผลลายและครีมโต้วโค่ว ทำทุกอย่างได้อย่างราบรื่น และที่เห็นได้อย่างชัดเจนนั่นก็คือความกระฉับกระเฉง ประสิทธิภาพในการทำงานนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก
แต่ว่า การผลิตครีมแผลลายและครีมโต้วโค่วล็อตใหม่ให้เสร็จนี้ หลินหยางยังจะต้องใช้เวลาถึงสามวันเต็มๆ
หลินหยางเช็ดเหงื่อ ถอนหายใจยาว จากนั้นโทรศัพท์ไปหาไป๋เซียนเฉ่า ให้เขาจัดหาคนมานำสินค้าไปบรรจุขวด ทำการโปรโมท
หลินหยางคำนวณคร่าวๆ ยาที่ตัวเองผลิตขึ้นมาใหม่พวกนี้นั้น อย่างน้อยก็จะเปลี่ยนมาเป็นครีมแผลลายและครีมโต้วโค่วได้ราวๆห้าร้อยขวด ถ้าเอาออกไปวางขาย เปลี่ยนเป็นเงินสด ก็น่าจะได้สองร้อยล้านกว่าๆได้!
นอกจากนี้ หลินหยางเองก็ยังมีกำลังเหลือ ผลิตครีมแผลลายเกรดต่ำจำนวนไม่น้อย แต่ว่ายังไม่ได้เป็นสินค้าที่สมบูรณ์ ยังจำเป็นต้องเอาสินค้าเข้าสู่สายการผลิต ค่อยๆแปรรูปและหลังจากบรรจุหีบห่อถึงจะสามารถโปรโมทได้ แต่ว่าอย่างน้อยก็จะเปลี่ยนมาได้อีกสิบแปดล้าน
เกี่ยวกับผลลัพธ์ที่ได้ของสามวันนี้ หลินหยางค่อนข้างพอใจอย่างมาก แต่ว่าก็พอว่าตัวเองนั้นลำบากถึงสามวันเต็มๆ เปลี่ยนเป็นคนป่าไปแล้วอย่างรวดเร็ว ร่างกายเหม็นหึ่ง ถอดเสื้อผ้าเข้าไปอาบน้ำในห้องน้ำ
“เยนเอ๋อร์ คุณว่าหลินหยางเจ้าหมอนี่ ปิดตัวเองอยู่ในห้องสามวันเต็มๆ จะทำงานเสร็จเรียบร้อยแล้วหรือยัง?”ซินเสี่ยวลื่อและฉีเยนเอ๋อร์ปรากฏตัวอยู่หน้าประตูห้องของหลินหยาง ฟังการเคลื่อนไหวข้างใน
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไง? ทำไมเหรอ ก็แค่สามวันเอง คุณทนไม่ไหวแล้วเหรอ?”ฉีเยนเอ๋อร์หัวเราะกวนโมโหซินเสี่ยวลื่อ บนใบหน้าหัวเราะอย่างคลุมเครือ
ซินเสี่ยวลื่อค้อนฉีเยนเอ๋อร์ พูดว่า “คุณมันเป็นผู้หญิงตายด้าน นี่เป็นเสียงจากใจของคุณจริงๆเหรอ?”
“ฮิฮิ! เมื่อคืนใครนะตอนนอน ตะโกนร้องไม่หยุดในฝัน หลินหยาง อย่า อย่า! อืม?”
“ชิ! แล้วใครกันละที่เอาฉันไปเป็นหลินหยาง จับมั่วซั่วตรงนั้นของคนอื่น! ฉันก็แค่ฝันไปเท่านั้นเอง แต่คุณนั้นลงมือเลยทีเดียว ไม่ใช่ว่าปรารถนามากกว่าฉันอย่างนั้นเหรอ?”
ผู้หญิงสองคนเถียงกันประโยคต่อประโยคอยู่หน้าประตู แต่ว่ายากที่จะรู้แพ้รู้ชนะกันได้ ทำให้อีกฝ่ายหน้าแดงไปหมด
“เอะ เหมือนว่ามีเสียงน้ำ หลินหยางอยู่ในห้องน้ำ?”ฉีเยนเอ๋อร์เอาหูแนบติดประตูห้อง
“เหมือนว่าจะใช่ หรือว่าในที่สุดก็ทำเสร็จแล้ว?”
“ถ้าอย่างนั้น พวกเราเข้าไปดูกันหน่อยไหม?”ฉีเยนเอ๋อร์กัดริมฝีปาก พูดเสียงต่ำ แต่ว่าในดวงตาเต็มไปด้วยภาพแห่งการหื่นกระหาย เหมือนว่าจะเชื่อมโยงไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
“เจ้าเด็กหน้าด้าน ฉันว่าคุณอยากที่ใช้โอกาสที่หลินหยางอาบน้ำบุกเข้าจู่โจมใช่ไหม?”
“คุณอย่าบอกฉันนะว่าคุณไม่อยาก ถ้าไม่อยาก งั้นฉันจะเข้าไปเองแล้วนะ!”
“ฮาฮา! คุณคนเดียว จะรับมือกับเขาไหวเหรอ? ช่างเถอะ ในเมื่อเราเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน ฉันจะช่วยคุณแบ่งเบาหน้าที่ด้วยกันเอง!”
ผู้หญิงสองคนที่ประสบการณ์ในการร่วมรักพร้อมกันกับหลินหยาง ตอนแรกรู้สึกเขินอายเป็นอย่างมาก แต่หลังจากได้ลิ้มลองรสชาติแล้ว ก็รู้สึกติดใจ อีกทั้งสองคนนี้ยังเป็นเพื่อนสนิทที่ตัวติดกัน พอตอนที่คิดถึงหลินหยาง ก็จะรู้อยู่แก่ใจโดยไม่ต้องอธิบายอะไรมาก
ผู้หญิงสองคนปรึกษากันเสร็จเรียบร้อย ก็เอากุญแจ ค่อยๆย่องเปิดเข้าไปในห้องของหลินหยาง หลังจากแน่ใจแล้วนะหลินหยางอยู่ในห้องน้ำ ก็รีบถอดเสื้อผ้าออกทั้งหมดอย่างตื่นเต้นและดีใจ เดินเข้าไปในห้องน้ำที่ไม่ได้ล็อกประตูไว้
ในห้องอาบน้ำไอน้ำอบอ้าว หลินหยางกำลังนอนอยู่ในอ่างอาบน้ำ ปิดตาผ่อนคลาย เพลิดเพลินกับความสบายที่ไม่ได้พบมาเป็นเวลานาน คาดไม่ถึงว่าจะมีร่างกายที่เรียบลื่นอ่อนนุ่มทั้งสองเข้ามาขนาบจากทั้งสองข้าง กระโจนเข้ามาในอ้อมกอดของตัวเองในเวลาเดียวกัน
และแท่งที่อยู่ระหว่างขาทั้งสองของตัวเองนั้น ก็ถูกทั้งสองข้างยึดครองทั้งบนทั้งล่าง
หลินหยางจ้องมองอย่างตกตะลึง เห็นซินเสี่ยวลื่อและฉีเยนเอ๋อร์เปลือยเปล่าเอนตัวเข้ามาในอ้อมกอดของตัวเอง เหมือนกับกระต่ายขาวตัวน้อยที่น่าสงสาร กำลังรอที่การปลอบโยนของตัวเอง
หลินหยางหัวเราะไม่มีเสียง และก็ไม่ได้พูดมาก ยื่นมือไปโอบกอดผู้หญิงทั้งสองคนทันที
ภายในห้องอาบน้ำ มีเสียงน้ำไหลออกมา ไม่นาน ก็เริ่มมีเสียง**เริ่มแผ่ซ่านออกมาภายในห้อง
“ว้าว! ไอ้บ้ากาม พี่เยนเอ๋อร์ พี่เสี่ยวลื่อ พวกคุณมาเล่นน้ำด้วยกันคิดไม่ถึงเลยว่าจะไม่เรียกฉัน!?ฉันเองก็อยากเล่นด้วย!”
ขณะที่หลินหยางกำลังเปิดศึกอย่างดุเดือดจะถึงจุดที่รุนแรงที่สุดนั้น มีร่างหนึ่งปรากฏกายออกมาอย่างไม่คาดคิดที่ประตูห้องอาบน้ำ ร้องตะโกนออกมาอย่างประหลาดใจ เริ่มลงมือถอดเสื้อผ้า
คนที่มาคงจะไม่ใช่เสี่ยวชัยหงใช่ไหม?
หลินหยางตกใจจนเกือบจะหยุดมือ รีบหยุดศึกนี้ ฉีเยนเอ๋อร์และซินเสี่ยวลื่อที่ถูกหลินหยางใช้กำลังที่เหลือประคองพลิกตัวอย่างยากลำบาก เข้าไปนอนในอ่างอาบน้ำอย่างไร้เรี่ยวแรง
หลินหยางหยิบผ้าขนหนูมาพันรอบตัวเอง จากนั้นรีบออกจากห้องอาบน้ำและปิดประตู คว้ามือของเสี่ยวชัยหง “อย่าถอด เกมจบแล้ว คราวหน้าค่อยพาคุณมาเล่นอีกที!”
“ไม่ได้นะ! ไอ้บ้ากาม พี่เยนเอ๋อร์กับพี่เสี่ยวลื่อเหนื่อยแล้วเหรอ? ถ้าอย่างนั้นก็ดีเลย พวกเราไปห้องของฉันกัน คุณไปเล่นกับฉันคนเดียว!”
หลินหยางแววตาหดหู่ ไม่มีใบหน้าที่สั่นไหวอีกต่อไป ดึงเสี่ยวชัยหงกลับเข้าไปในห้องของเธอ
“เสี่ยวชัยหง เชื่อฟังนะ พวกเราครั้งหน้าค่อยมาเล่นน้ำกัน ตอนนี้ฉันจะช่วยรักษาให้คุณก่อน เป็นยังไง?”
“งั้นรักษาเสร็จแล้ว คุณก็มาเล่นเป็นเพื่อนฉันนะ และอีกอย่าง ฉันอยากเล่นแบบที่พวกคุณเล่นกันเมื่อกี้!”เสี่ยวชัยหงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน
หลินหยางพูดอะไรไม่ออก ถึงแม้ว่าฉันนั้นจะสนใจที่จะเล่นกับคุณ แต่ก็กลัวว่าแม่ของคุณคงจะไม่ยอม
หลินหยางยิ้มแห้งๆออกมา พูดแบบขอไปทีออกไปกับเสี่ยวชัยหงประโยคหนึ่ง จากนั้นก็แสดงออกอย่างเคร่งขรึม พูดว่า “เสี่ยวชัยหง ตอนนี้ฉันจะเริ่มรักษาคุณแล้วนะ คุณนอนลงก่อน”
“ต้องถอดเสื้อผ้าหรือเปล่า? ”เสี่ยวชัยหงนอนลงไปอย่างว่าง่าย ลงมือถามออกมา
“เรื่องนี้ ก็จำเป็นอยู่เหมือนกัน ถอดออกเถอะ”
หลินหยางลูบจมูก แอบพูดเงียบๆอยู่ในใจ ไม่ใช่ว่าฉันจงใจจะเอาเปรียบคุณนะ โรคของคุณนี้ ถ้าถูกคั่นด้วยเสื้อผ้าอาจจะรักษาได้ไม่ค่อยดี
เสี่ยวชัยหงไม่ได้คิดอะไร รีบถอดเสื้อผ้าตัวเองจนเปลือยเปล่า นอนลง ยิ้มอย่างมีความสุขไปที่หลินหยาง
หลินหยางมองเสี่ยวชัยหงด้วยสายตาชื่นอย่างมีเหตุผลอยู่หลายครั้ง จากนั้นก็เก็บกวาดความคิดไร้สาระพวกนั้นออกไป เตรียมตัวที่จะรักษาโรคให้กับเสี่ยวชัยหง