ตอนที่ 26ช่วยฉันหยุดเขาไว้
หลี่หรูปล่อยตัวตามสบายไม่ระวังตัว นึกไม่ถึงว่าจะหลินหยางไม่สวมเสื้อผ้าเลยแต่ว่าเมื่อมองดูตัวเองก็ไม่มีเสื้อผ้าเลยสักชิ้นเช่นกัน
เมื่อมองดูหน้าอกกลมขาวเกลี้ยงเกลา หลินหยางจึงยื่นมือออกไปคลำ
จากมืออบอุ่นของหลินหยางที่นวดเฟ้นอยู่หลี่หรูมีอาการตอบสนองกลับเล็กน้อย เมื่อคิดถึงฉากดุเดือดร้อนแรงเมือคืนหลินหยางจึงไม่อยากรบกวนการพักผ่อนของเธอ อยากจะขยับออกแต่ก็ถูกหลี่หรูกอดไว้ไม่ปล่อยหลินหยางจึงหลับตาลงนอนต่อ
จนถึงประมาณเก้าโมงครึ่ง หลี่หรูจึงตื่นนอนแล้วลืมตาขึ้น
ขยี้ตามองหลินหยางกลับเห็นตาสว่างใสของเขาจ้องมองตัวเธออยู่ สายตามีแววยิ้มๆ
“มองอะไร ไม่เคยเจอสาวสวยหรือไง ตาไม่กระพริบเลย” หลี่หรูมองค้อนหลินหยาง หลี่หรูจะบิดขี้เกียจแต่กลับมองเห็นท่านอนของตัวเองแล้วดูไม่เรียบร้อยเลย
“ไม่เคยเห็นคนสวยหาวตอนตื่นนอน” หลินหยางยิ้มแล้วบีบที่จมูกของหลี่หรู
เธอเอาขาออกจากขาหลินหยางรู้สึกถึงความร้อนออกมาจากที่ขาหลี่หรูรู้ได้ทันทีเลยว่าขาตัวเองไปสัมผัสอะไรมา คิดถึงฉากร้อนแรงเมื่อคืนใบหน้าหลี่หรูจึงแดงขึ้นมาอีกครั้ง
จำได้ดีว่าตัวเองชอบเรื่องอย่างว่าระหว่างผู้ชายผู้หญิง แต่ว่าก็ไม่ได้มั่วไปเรื่อยถึงขนาดมีอะไรกันกับผู้ชายที่รู้จักกันแค่วันเดียว ทำไมกับหลินหยางถึงไม่รู้สึกเหมือนคนอื่นนะ
“เมื่อวานก็กินไปแล้ว ทำไมยังเป็นแบบนี้” หลี่หรูกำตรงนั้นตรงที่สัมผัสโดนแล้วรูดเข้าออก
“ตอนตื่นนอนตอนเช้ามันก็จะเป็นรูปร่างแบบนี้แหละ” หลินหยางพูดย่างไม่ได้ถือสาอะไร
“ตรงนี้ของนายมันเป็นของล้ำค่าจริงๆ ผู้หญิงทั่วไปต้องถูกคุณทำจนสำลักตายแน่ๆ” หลี่หรูถอนหายใจ ย้อนกลับไปคิดว่าของล้ำค่านี้ทำให้ตัวเองโล่งสบายรสชาติไม่มีอะไรมาเทียบได้
“วันนี้เธอจะไม่กลับจริงๆหรือ” หลินหยางถาม
“ไม่กลับแน่นอนสิ ก็แค่ที่นายนวดให้ฉันก็เป็นเหตุผลให้ฉันไม่กลับ” ก้มหน้ามองดูที่หน้าอกตัวเองที่ดีดกลับเป็นรูปร่างทำให้ตื่นเต้นดีใจและรู้สึกขอบคุณหลินหยางเพิ่มขึ้นอีก
“เธอจะอยู่ที่โรงแรมทุกวันใช่ไหม งั้นช่วงกลางวันนายก็คงมีเวลานวดให้ฉันได้” หลี่หรูกระพริบตาปรอยๆถาม
“ได้สิ” คิดไปคิดมาหลินหยางพูดความจริงออกมา ถึงอย่างไรตัวเองก็ไม่มีธุระอะไร
“ถ้าอย่างนั้นก็ง่าย ช่วงนี้นายก็เดินช้อปปิ้งเป็นเพื่อนฉันแล้วก็ไปเดินเล่นกัน” หลี่หรูยิ้ม “ใช่แล้ว ก่อนหน้านี้ไม่ได้ตั้งใจว่าจะอยู่หลายวัน สักพักพวกเราไปซุปเปอร์มาเก็ตซื้อของสักหน่อยแล้วกัน”
“หลินหยางคิดไปคิดมาก็เห็นด้วย ” คิดว่าจะซื้อครีมบำรุงผิวไปให้เรวดีสักขวดพอดี ไปซุปเปอร์มาเก็ตก็ดีเหมือนกัน “ตกลง ถ้าอย่างนั้น เดี๋ยวอีกสักพักเราไปดูของที่ซุปเปอร์มาเก็ตกัน”
“นายบอกว่าวันหนึ่งนวดสองครั้งใช่ไหม ถ้าอย่างนั้นตอนกลางวันทำเวลาไหนดี” หลี่หรูที่ให้ความสำคัญกับหน้าตารีบถามออกมา
“ทั่วๆไปแล้วทุกเช้าเย็นก็ได้แล้วช่วงเวลานี้จะห่างกันหน่อยผลของการนวดปรับสรีระค่อนข้างจะต้องทำสม่ำเสมอ”
มือของหลี่หรูยังไม่หยุดรูดเข้าออก พูดขึ้นมา “ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ทำให้ฉันเลยสิ”
เปิดผ้าห่มออก ทั้งตัวเผยออกมาเห็นหมด มองครู่หนึ่งเห็นที่ลับที่ไม่มีขนตรงนั้นเป็นสีคล้ำ
ส่วนหลี่หรูกำลังพิจารณามองชองลับของหลินหยาง ที่ได้เห็นและสำรวจรอบๆเ มื่อคืนพอมาพินิจดูอย่างละเอียดก็ยิ่งทำให้เธอเกิดอารมณ์ได้
ทั้งคู่ยังคงทำท่าเหมือนเมื่อคืน หลี่หรูนั่งลงที่ด้านหน้าหลินหยาง หลินหยางเอื้อมมือมาจับหน้าอกกลมอิ่มเอิบเริ่มการนวด
พึ่งจะตื่นนอนความต้องการมันมีมากอย่างไม่ต้องสงสัย เพียงแค่สามนาที หลี่หรูก็เริ่มส่งเสียงครางออกมาทั้งตัวบิดเร้าสุดท้ายจึงยกสะโพกขยับไปนั่งที่ขาของหลินหยาง
แค่ชั่วพริบตรงนั้นก็ถูกโอบล้อมทำให้หลินหยางรู้สึกโล่งสบายอย่างไม่มีอะไรมาเทียบได้
นวดมาได้สักพักหลินหยาง หลินหยางก็เริ่มใช้กำลังทั้งหมดกระตุ้นหลี่หรูอย่างต่อเนื่อง
หลังจากรอจนทั้งสองคนตื่นนอนและกินข้าวเสร็จเวลาเกือบจะเที่ยงพอดี
พอคิดว่ายังเหลือเวลาอีกหกวันหลินหยางจึงออกไปซื้อกางเกงในสองตัวและซื้อเสื้อผ้าหนึ่งชุดเพิ่ม
ส่วนหลี่หรูดูยุ่งยากหลังจากซื้อเสื้อผ้ากับชุดชั้นในเสร็จ ก็ยังซื้อเครื่องสำอางอีกมากมาย หลินหยางยังเลือกเครื่องสำอางที่ดูแพงนิดหน่อยใส่เข้าไปในรถเข็น
“ทำไมน่ะ จะไปจีบสาวหรือ” หลี่หรูคิดไม่ถึงว่าจะเห็นหลินหยางซื้อครีมบำรุงผิว จึงอดไม่ได้ที่จะพูดเหน็บแนม
“มีสาวที่ไหนล่ะ คุณอาสะใภ้ที่หมู่บ้านฝากซื้อต่างหาก ซึ่งปกติวันทั่วไปเขาก็ดีกับผม ผมจึงซื้อของแพงหน่อยเท่านั้นเอง”
“หลี่หรูหัวเราะเบาๆพูดออกมาว่า หาได้ยากที่นายจะมีน้ำใจกับคนอื่น”
“ใช่แล้ว กลับไปตอนนี้ถ้าโรงแรมมีห้องว่าง เธอจะเปิดห้องใหม่ไหม” หลินหยางซึ่งเข็นรถเข็นภายในซุปเปอร์มาร์เก็ตก็ถามขึ้น
หลี่หรูกระพริบตาอย่างมีเลศนัยถามกลับ “ถ้าฉันบอกว่าฉันต้องการเปิดห้องใหม่ล่ะ นายจะผิดหวังไหม”
“เรื่องนี้ตามใจเธออยู่แล้ว เพราะว่ายังไงฉันก็ต้องนวดให้เธออยู่ดี ถึงเวลานั้นฉันก็ทำไปด้วยเลยก็ได้”
หลี่หรูได้ยินอย่างนั้นจึงอดไม่ได้มองค้อนใส่หลินหยาง “ ถ้าอย่างนั้นจะเปลืองเงินไปทำไมอยู่ห้องเดียวกันนี่แหละ อ้อใช่ละ ฉันยังไม่ได้ซื้อชุดชั้นใน นายไปดูเป็นเพื่อนฉันหน่อย” พอหลี่หรูคิดขึ้นมาได้ ก็รีบลากหลินหยางขึ้นไปโซนเครื่องแต่งกายผู้หญิงที่ชั้นสี่
เดินตรงไปที่ขายชุดชั้นในโดยเฉพาะ พนักงานขายผู้หญิงมองหลินหยางด้วยสายตาแปลกๆทำให้ใบหน้าของหลินหยางออกร้อนขึ้นมา แต่หลี่หรูไม่ได้สังเกตเรื่องสายตาคนอื่นๆ รีบมองกวาดชุดชั้นในรูปแบบต่างๆไปทั่ว
“หลินหยาง ฉันใส่แบบไหนถึงจะดูดี” หลี่หรูถามหลินหยาง
“ไม่รู้สิ เธอดูคอวีนั่นสิเป็นอย่างไรบ้าง” หลินหยางชี้ไปตัวสีดำโปร่งแสงที่บนชั้น
“คุณผู้ชายมีรสนิยมที่ดีมากค่ะ รุ่นนี้นำเข้าจากอิตาลี ทำจากผ้าฝ้ายทั้งหมดไม่ได้เสริมโครงเหล็กทำหน้าอกชิดได้รูป ช่วงนี้ราคาพิเศษแค่หนึ่งพันห้าร้อยบาท ” พนักงานขายรีบแนะนำสินค้า
เสื้อผ้าทั้งตัวที่หลินหยางใส่อยู่แค่หนึ่งพันบาท พอได้ยินราคาเขาจึงอดตกใจไม่ได้แต่ดวงตาของหลี่หรูกลับเป็นประกายรีบถือเข้าไปในห้องลองเสื้อผ้า
ผ่านไปไม่นานหลี่หรูเดินออกมาจากห้องลองเสื้อผ้าอย่างดีใจ เห็นชัดว่าถูกใจของรุ่นนี้ จ่ายเงินเสร็จอย่างรวดเร็วทั้งสองคนจึงเดินออกมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ต
“คิดไม่ถึงจริงๆว่าของชิ้นเล็กอย่างนี้จะมีราคาแพง” เดินออกมาจากซุปเปอร์มาร์เก็ต หลินหยางอดไม่ได้พูดออกมา
หลี่หรูหัวเราะเบา ซื้อของราคาเท่าไหนก็ได้ของคุณภาพเท่านั้น ฉันใส่แล้วรู้สึกสบายตอนเย็นจะใส่ให้นายดูนะหลี่หรูพูดที่ข้างหูหลินหยาง พูดทะเล้นแล้วแลบลิ้นออกมาเลียที่หูของเขาทันใดนั้นหลินหยางรู้สึกมีอารมณ์ร้อนรุ่มขึ้นมาทันที
“ไว้จัดการเธอตอนเย็น” หลินหยางพูดโหดๆ ทั้งสองคนถือถุงที่ไปซื้อของมาทั้งใหญ่ทั้งเล็กเดินกลับโรงแรม
“จับเขาไว้ จับไว้” ตอนที่ทั้งหลินหยางและหลี่หรูกำลังจะกลับโรงแรม ทันใดนั้นมีเสียงรีบร้อนดังเข้ามา หลินหยางหันไปมองเห็นชายวัยรุ่นถือกระเป๋าเงินสีแดงวิ่งอย่างรวดเร็ว ด้านหลังชายวัยรุ่นมีผู้หญิงกำลังวิ่งไล่ตาม
“แม่งเอ้ย หลีกไปให้หมด” มีดในมือชายวัยรุ่นแกว่งไปมา คนที่อยู่บริเวณรอบๆทยอยหลบไปดูจากทิศทางแล้วเชื่อว่าสักพักน่าจะหลบหนีเข้าไปในซอย
ผู้หญิงคนนั้นที่ตามหลังมา ดูมีความคล่องแล่ววิ่งช้ากว่าผู้ชายแค่นิดเดียวเอง
“พ่อหนุ่มคนหล่อ ช่วยฉันจับเขาไว้หน่อย” ดูแล้วชายวัยรุ่นจะวิ่งผ่านไปทางที่หลินหยางอยู่ ผู้หญิงคนนั้นรีบบอกขึ้นมา
“หลินหยาง ในมือเขามีมีดนะ พวกเรารีบไปกันเถอะ” หลี่หรูลากแขนของหลินหยางเดิน
“ไม่เป็นไรช่วยเธอหน่อยแล้วกัน” หลินหยางพูดแล้วจึงมายืนตรงหน้าชายวัยรุ่น
“ถอยไป” คิดไม่ถึงว่าจะมีคนมาขวางที่ตรงหน้าตัวเอง ชายวัยรุ่นจึงใช้มีดในมือตวัดไปมาอย่างโหดเหี้ยม
หลินหยางไม่ได้หวาดกลัวชายที่วัยรุ่นตะโกนใส่หากกลับดูสุขุมรอให้ชายวัยรุ่นนั้นวิ่งเข้ามา
ชายวัยรุ่นนั้นไม่ได้อยากจะปะทะกับใคร รีบหลบหนีจึงวิ่งอ้อมปภาร คิดไม่ถึงว่าแค่หลินหยางขยับตัวแค่นิดเดียวก็มายืนอยู่ตรงหน้าไม่ไกลจากชายวัยรุ่น
“บอกให้ถอยไป” เห็นหลินหยางขวางทางไม่ยอมให้ไป ชายวัยจึงจำเป็นต้องยื่นมีดออกไปแทงหลินหยาง
“กรี๊ด” หลี่หรูที่อยู่ข้างๆเห็นอย่างนั้นจึงร้องเสียงขึ้นมา
คนที่ยืนดูอยู่ไกลก็ล้วนหลับตาส่ายหัวกันไม่กล้าดูหลินหยางถูกแทง
“โอ้ย” เสียงเจ็บปวดดังสะท้อนขึ้นมาตามด้วยเสียง “กริ๊ง”เหมือนกับเสียงเงินหล่นกระทบพื้น
ได้ยินเสียงเจ็บปวดดังออกมาหลี่หรูรับรู้ด้วยความรวดเร็วว่านี่ไม่ใช่เสียงของหลินหยาง จึงรีบลืมตาขึ้นมองไปที่ด้านหน้าอ้าปากค้าง
เห็นแค่หลินหยางยืนอยู่ตรงนั้นโดยไม่ได้รับอันตรายใดๆ ส่วนขาของหลินหยางนั้นเหยียบอยู่บนหลังของชายวัยรุ่นซึ่งเขาก็พยายามดิ้นรนขัดขืนเพื่อจะลุกขึ้น แต่ด้วยพละกำลังของหลินหยางทำให้หัวโมยวัยรุ่นไม่มีทางจะพลิกตัวขึ้นมาได้
“ไอ้หนุ่ม รีบปล่อยฉัน มิฉะนั้นมีเรื่องแน่”เจ้าขี้โมยที่อยู่ข้างล่างเท้าหลินหยางพูดจาข่มขู่หลินหยาง
“ไอ้โง่ ถึงตอนนี้แล้วยังจะพูดมากอยู่อีก” หลินหยางเหยียดริมฝีปากอย่างเหยียดหยาม ผู้หญิงที่วิ่งตามมาวิ่งมาถึงด้วยความรวดเร็ว
พิจารณาผู้หญิงที่หอบหายใจอยู่ อายุน่าจะราวๆสามสิบสี่ หน้ากลมรีรูปไข่ มัดผมหางม้า ชุดรัดรูปสีแดงเห็นได้ชัดว่าเป็นคนมีความสามารถในการทำงาน
รูปร่างทรวงอกกลมกลึงนั้นทำให้หลินหยางกลืนน้ำลายลงคออย่างอดไม่ได้เสียดายที่เสื้อของผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่คอวีจึงไม่สามารถสำรวจรูปทรงข้างในนั้นนั้นได้
ยังไม่ทันได้ชื่นชมความสวยของผู้หญิง ก็เห็นผู้หญิงชุดแดงเดินเข้าไปนั่งลงที่พื้นข้างๆผู้ชายวัยรุ่นคนนั้นอย่างโมโห ยกเท้าเตะเข้าไปที่ชายวัยรุ่น
“โอ้ย” เสียงเจ็บปวดจากชายวัยรุ่นดังขึ้น
ตอนนี้จึงพึ่งจะสังเกตเห็นว่าผู้หญิงคนนี้สวมรองเท้าส้นสูง สวมรองเท้าส้นสูงยังวิ่งได้เร็วขนาดนี้ ร่างกายผู้หญิงคนนี้ต้องไม่ใช่ธรรมดาอย่างแน่นอน
มองเห็นชายวัยรุ่นที่อยู่ใต้เท้าหลินหยางก็ให้เกิดความสงสารรู้สึกว่าตัวเองโหดร้ายที่หยุดชายวัยรุ่นไว้
“กล้าขโมยกระเป๋าของฉัน แกยังกล้าร้องอีกเห็นว่าใส่ร้องเท้าส้นสูงเตะเจ็บใช่ไหม ถ้าวันนี้ฉันใส่รองเท้าผ้าใบ คนขี้ขลาดอย่างแกฉันไม่ต้องวิ่งตามนานขนาดนี้หรอก” ผู้หญิงชุดแดงแผ่กระจายรังสีความป่าเถื่อนและแข็งแกร่งออกมาทำให้คนรู้สึกถึงความเฉียบขาดเด็ดเดี่ยว
“ถึงอกถึงใจจริงๆ” หลินหยางถอนหายใจ
“กร๊อบ” เสียงแตกร้าว ผู้หญิงชุดแดงเตะไปอีกสองสามครั้งตามด้วยหยิบกุญแจมือออกจากเข็มขัดและล็อกข้อมือของชายวัยรุ่นอย่างชำนาญ
“เสี่ยวหลี่ พบโจรถนนที่ถนนจิ่นซิ่ว รีบส่งคนมาจัดการ เอาโทรศัพท์ออกมาแล้วกดหมายเลขโทรออกสั่งการ จากนั้นจึงหันมาพิจารณาหลินหยาง
“ฉันชื่อหยางถิงถิง วันนี้ขอบใจนายมาก” หยางถิงถิงยื่นมืออกมาจับทักมายหลินหยาง
จับมือทักทายกับหยางถิงถิง หลินหยางให้เกิดความสงสัยพูดออกมา “คุณเป็นตำรวจหรือ”
“ถูกต้อง” เธอตอบกลับ
ได้ยินการยอมรับจากหยางถิงถิงใบหน้าของหลินหยางจึงเหยเกประหลาดใจ เป็นตำรวจแต่ถูกโจรขโมยกระเป๋าเงินนี่นะ
เห็นสายตาของหลินหยางหยางถิงถิงจะดูไม่ออกว่ามันแฝงความประหลาดใจในนั้นด้วยได้อย่างไรจึงกระทืบเท้าแรงๆลงไปอีกครั้ง ชายวัยรุ่นจึงร้องเจ็บปวดออกมาอีก
เวลาไม่นานรถตำรวจเปิดหวอเสียงดังแล่นเข้ามา ชั่วพริบสีหน้าของหัวขโมยก็ซีดเผือด
“อย่าจับผม อย่าจับผม เอากระเป๋าเงินคืนให้แล้ว ตีก็ตีแล้ว” เจ้าหัวขโมยพูดขอร้อง
“อย่าพูดมาก” เดิมทีอารมณ์หยางถิงถิงก็ไม่ดีอยู่แล้ว
“ถ้าอย่างนั้นฉันไปก่อนล่ะ” ตำรวจหญิงกล่าวลาพร้อมกับถามต่อ “อ้อใช่ละ คุณชื่ออะไร”
“ผมชื่อหลินหยางครับ”
“ถ้าว่างฉันจะเลี้ยงข้าวคุณ”
ได้ยินเสียงที่ไล่ตามมาด้านหลังแต่หลินหยางไม่ได้สนใจ เรียกหลี่หรูที่ยืนช็อคอยู่ เดินกลับไปที่โรงแรมพร้อมกัน