My Disciples Are All Villains – ตอนที่ 476

ตอนที่ 476

ตอนที่ 476 ความแข็งแกร่งของผู้อาวุโสลู่

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย

ถ้าหากผู้เป็นรองแม่ทัพมีพลังเก่งกาจถึงเพียงนี้ แม่ทัพใหญ่เหวินซู่ หนึ่งในแม่ทัพใหญ่ทั้งแปดก็ย่อมที่จะไม่อ่อนแอไปกว่ารองแม่ทัพแน่นอน

ย้อนกลับไปในสมัยก่อน เหวยซู่หยานเคยขึ้นเป็นแม่ทัพของสามเหล่าทัพมาก่อน เหวยซ้ำหยานกลายเป็นแม่ทัพได้ก็เพราะการสนับสนุนของหลี่จิงยี่ แม้ว่าเหวยซู่หยานจะมีทั้งกองทัพใหญ่และอํานาจสูงส่งมากแค่ไหน แต่ถึงแบบนั้นตัวเขาก็ไม่อาจเทียบเคียงกับแม่ทัพใหญ่ทั้งแปดได้เลย

เมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์เต็มไปด้วยยอดฝีมือที่เก็บซ่อนตัวเอาไว้ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องโกหกแต่อย่างใด

การปรากฏตัวของแม่ทัพหนิงทําให้สาวกของสํานักเฮ้งชูและสถานศึกษาไท่ชูต่างก็ยอมแพ้ให้กับการต่อสู้ไป ถ้าหากเมืองหลวงศักดิ์สิทธิ์ต้องการหญิงสาวคนนี้ ทุกคนที่อยู่ที่นี่ก็คงจะทําได้เพียงหลีกทางเท่านั้น

ธิดาหอยสังข์ยืนอยู่ข้างๆ กับลู่โจว นางในตอนนี้กําลังเฝ้ามองเหตุการณ์รอบตัวอยู่ แม้ในเวลาที่คับขันเช่นนี้แต่นางก็ยังไม่แสดงความกลัวหรือความประหม่าออกมาแม้แต่น้อย มีเพียงความอยากรู้อยากเห็นเท่านั้นที่ปรากฏขึ้นในดวงตาของนาง

แม่ทัพหนิงมองลู่โจวก่อนที่จะถามออกมา “เจ้าพูดอะไรกัน?”

“ข้าเป็นคนที่ไม่ชอบพูดอะไรซ้ำซาก” ลู่โจวไม่ได้สนใจแม่ทัพหนิงคนนี้อีกต่อไป ตัวเขามองไปที่ฮั๊วจงหยางที่กําลังได้รับบาดเจ็บก่อนที่จะพูดออกมา “ไปกันได้แล้ว”

ลู่โจวที่พูดจบก็ได้คว้ามือหญิงสาวเอาไว้ มือที่เหี่ยวแห้งของลู่โจวได้โอบอุ้มมือน้อยๆ ของหญิงสาวก่อนที่จะพากันเดินออกจากแท่นบูชาสวรรค์ไป

ธิดาหอยสังข์ได้ถามออกมาด้วยความสงสัย “พวกเราจะไปไหนกัน?”

“ไปไหนก็ได้ที่เจ้าต้องการ” ลู่โจวตอบกลับมาอย่างไร้อารมณ์

สาวกของทั้งสองสํานักและแม่ทัพหนิงต่างก็จ้องมองดูชายชราและเด็กสาวสนทนากันก่อนที่ทั้งคู่กําลังจะจากไป

แม่ทัพหนิงที่เห็นแบบนั้นรีบโบกมือสั่งการทหารทั้งหมด “จับพวกเขาซะ!”

ด้วยคําสั่งนี้เองทําให้ทหารม้ากว่าหลายสิบนายบุกจู่โจมเข้ามา

ดวงตาของม้าศึกเปล่งประกายแสงสีเขียวเข้มออกมา เห็นได้ชัดว่าม้าศึกเหล่านี้ไม่ใช่ม้าศึกธรรมดาทั่วไป ม้าศึกกว่าสิบตัวที่กําลังใกล้เข้ามาทําให้ทั่วทุกที่ที่พวกมันเคลื่อนที่ผ่านเต็มไปด้วยฝุ่นทหารม้าที่ใกล้เข้ามาคงจะมีพลังวรยุทธอยู่ในขั้นมหาราชครูเป็นอย่างต่ำ หอกในมือของทหารทุกนายส่งเสียงสั่นไหวในขณะที่ทหารทั้งหมดเคลื่อนที่

ลู่โจวที่เห็นแบบนั้นส่ายหัว ตัวเขาหยุดเดินก่อนที่จะเหลือบมองไปยังทหารม้าทั้งหมด ตัวเขาที่เห็นแบบนั้นก็ได้ยกมือข้างขวาขึ้นมา

ธิดาหอยสังข์เองก็หยุดเดินเช่นกัน นางยกหอยสังข์ที่มีก่อนที่จะเป่ามันอย่างแผ่วเบา ทันใดนั้นเองเสียงที่ฟังดูลึกล้ำก็ได้ดังไปทั่วแท่นบูชาศักดิ์สิทธิ์ มันเป็นเสียงที่ฟังดูธรรมดา มันไม่มีพลังลมปราณหรือแม้แต่พลังอะไรแอบแฝงอยู่ในนั้น แต่ถึงแบบนั้นเสียงที่ดังขึ้นก็ยังมีความพิเศษอยู่ ม้าศึกทั้งหมดที่กําลังพุ่งตรงมาดูเหมือนจะเข้าใจนาง พวกมันหยุดวิ่งก่อนที่จะยกขาหน้าขึ้น

สีหน้าของผู้ฝึกยุทธทุกคนเปลี่ยนแปลงไปในทันที เป็นไปไม่ได้เลยที่ทหารม้าจะถูกม้าศึกของตัวเองพยศได้ ทหารม้ามักจะเป็นทหารที่ฝึกฝนและเลี้ยงดูม้าศึกที่ตัวเองมีมาเป็นอย่างดี มันไม่มีเหตุผลเลยที่จะทําให้ม้าศึกพวกนั้นพยศขึ้นมาได้

ในตอนนั้นเองม้าศึกก็เริ่มเคลื่อนไหวอย่างบ้าคลั่ง มันได้เหวี่ยงทหารผู้ที่ขี่มันออกไปจากตัว

ลู่โจวมองดูม้าศึกด้วยความสงสัย “เจ้าพูดอะไรกับพวกมันกัน?”

“อิสระ” หญิงสาวตอบกลับมาเบาๆ

ในตอนนั้นเองสีหน้าของฮั๊วจงหยางและแม่ทัพหนิงต่างก็เต็มไปด้วยความหวาดกลัว มันเป็นความสามารถที่น่ากลัวอะไรเช่นนี้! นางสามารถทําให้ม้าที่จงรักภักดีเปลี่ยนแปลงไปด้วยเสียงเป่าหอยสังข์

แม่ทัพหนึ่งที่เห็นแบบนั้นก็ได้กระทืบเท้าลงบนแท่นบูชาสวรรค์ “ใครก็ตามที่กล้าพานางปีศาจออกไปจากที่นี่ มันผู้นั้นจะต้องถูกตัดหัว!”

ตู๊ม!

แท่นบูชาสวรรค์พังทลายลงในทันที

แม่ทัพหนึ่งลอยขึ้นมาบนอากาศก่อนที่จะสั่งการ “ฆ่ามันซะ”

ทหารทั้งหลายต่างก็ทิ้งม้าศึกที่บ้าคลั่งของตัวเองก่อนที่จะกระโจนขึ้นไปบนอากาศ

ลู่โจวที่เห็นแบบนั้นได้หันไปทางด้านข้างแทน “เจ้ากลัวไหม?”

“กลัวอะไร?” ธิดาหอยสังข์ได้ถามออกมา การที่นางจะถามแบบนี้ได้แสดงว่านางไม่ได้รู้สึกเกรงกลัวเลย

ลู่โจวในตอนนี้เป็นผู้ฝึกยุทธขั้นมหาภัยพิบัติศักดิ์สิทธิ์ผู้ที่มีพลังอวตารหนึ่งกลีบ ทหารที่เป็นเหมือนกับปลาซิวปลาสร้อยพวกนี้ไม่เหมาะที่จะทําให้ลู่โจวใช้ไพ่ตายของตัวเอง

“อย่าขยับซะล่ะ”

“ค่ะ”

ลู่โจวได้พลิกฝ่ามือของตน ในตอนนั้นเองพลังลมปราณที่โคจรรอบตัวของเขาก็เพิ่มสูงขึ้นดาบพลังงานกว่าหลายสิบเล่มได้ปรากฏรอบตัวของลู่โจว

พรึ๊บ! พรึ๊บ! พรึ๊บ!

ดาบพลังงานทุกเล่มพุ่งตรงไปด้านหน้า

ฉั๊วะ! ฉั๊วะ! ฉั๊วะ!

ทหารม้าทั้งหมดไม่อาจที่จะต้านทานการโจมตีได้ ดาบพลังงานได้โจมตีทหารทั้งหมดจนเหลือทหารม้าเพียงแค่สองคนเท่านั้น ทหารม้าที่เห็นสหายถูกโจมตีได้ใช้พลังอวตารทศภพก่อนที่จะพุ่งเข้าหาลู่โจวด้วยความแค้น

ลู่โจวที่เห็นแบบนั้นไม่ได้ตกใจอะไร ตัวเขาได้ยกฝ่ามือขึ้นก่อนที่จะผลักไปด้านหน้าอย่างเรียบง่าย

ทหารทั้งสองคนดูเหมือนจะถูกหยุดเอาไว้ได้

ในตอนนั้นเองลู่โจวก็ได้สะบัดฝ่ามือออกไป พลังฝ่ามือสีทองถูกปล่อยออกมาจากการสะบัดฝ่ามือในครั้งนั้น

ตู๊ม!

“นี่มันพลังฝ่ามือไร้ความกลัว!”

ทหารผู้ที่มีพลังวรยุทธขั้นศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองคนถูกพลังฝ่ามือสังหารในทันที

ฮั๊วจงหยางที่เห็นแบบนั้นก็เริ่มสงสัยมากยิ่งขึ้น “เขาเป็นผู้อาวุโสจากสํานักเผิงไหล่ไม่ใช่เหรอไงกัน? ทําไมเขาถึงได้ใช้การโจมตีของชาวพุทธแบบนั้นได้?”

แม่ทัพหนิงที่ลอยอยู่บนอากาศก็สับสนเช่นกัน

เมื่อทหารกลุ่มแรกถูกจัดการลง ทหารกลุ่มต่อไปก็เข้ามาแทนที่ในทันที

“พวกเจ้าประเมินพลังของตัวเองสูงจนเกินไป” ลู่โจวได้สะบัดฝ่ามืออีกครั้ง ในตอนนั้นเองพลังลมปราณก็ได้ควบแน่นจนกลายเป็นพลังฝ่ามือ พลังฝ่ามือสายฟ้าแลบและพลังฝ่ามือลี้ลับถูกปล่อยออกมา พลังฝ่ามือทั้งหมดที่ถูกปล่อยออกมาต่างก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่พลังฝ่ามือเต็มไปด้วยอักษรสีทองที่กําลังเปล่งแสงอยู่ มันเป็นอักษรที่พบได้บนนิ้วทั้งห้าจากพลังฝ่ามือ

มันเป็นกระบวนท่าที่มีความเฉพาะตัวมากจนเกินไป

“พลังฝ่ามือทั้งสองจะต้องเป็นพลังฝ่ามือผนึกทั้งเก้าแน่!”

“ผู้อาวุโสคนนี้คือใครกัน?”

“ใครกันที่ฝึกฝนตัวเองจนเชี่ยวชาญในการใช้กระบวนท่าของชาวพุทธและชาวลัทธิเต๋าได้แบบนี้”

ตู๊ม! ตู๊ม! ตู๊ม!

ทหารกว่าอีกหลายสิบคนเสียชีวิตในทันที

ลู่โจวรู้สึกพอใจที่ตัวเองไม่ต้องพึ่งพาพลังวิเศษจากการ์ดเหมือนเมื่อก่อน ความรู้สึกที่ตัวเขาได้ปล่อยพลังออกมาด้วยตัวเองมันดูสมจริงมากกว่าเดิม

แม่ทัพหนึ่งที่เห็นแบบนั้นรีบพูดขึ้น “พวกเจ้าทั้งสองสํานักจะมายื่นที่อทําอะไรกัน? ถึงเวลาแล้วที่พวกเจ้าต้องรับใช้ราชสํานัก” หลังจากที่สูญเสียคนไปมาก แม่ทัพหนิงก็ตั้งใจที่จะใช้คนจากสถานศึกษาไท่ชูและสํานักเฮ้งชูให้เป็นทหารแนวหน้าแทน

“พวกเรายินดีรับใช้” เจียงเหรินยี่รีบตอบรับก่อนจะโค้งคํานับให้

“ให้สํานักเฮ้งชูของพวกเราได้จัดการเอง” จางซงเองไม่ยอมที่จะปล่อยให้สถานศึกษาไท่ชูรับความดีความชอบไปทั้งหมด

สาวกจากสํานักเฮ้งชูรีบชักดาบของพวกเขาออกมา

ดาบกว่าหลายสิบเล่มได้ลอยไปบนอากาศ

สาวกทุกคนต่างก็สร้างดาบพลังงานได้ 4-5 เล่มต่อคน ดาบพลังงานทั้งหมดหมุนรอบดาบที่ทุกคนมี

“ผู้อาวุโสลู่ ระวัง!” ฮั๊วจงหยางรีบพูดเตือน

ทันทีที่ฮั๊วจงหยางพูดจบ ดาบพลังงานนับไม่ถ้วนก็ได้พุ่งเข้าหาลู่โจว ดาบพลังงานที่ต่อตัวกันดูราวกับมังกรอันเกรี้ยวกราด

“ค่ายกลแห่งดาบ?” ลู่โจวเหลือบมองไปที่ฝูงดาบ เป็นเพราะประสบการณ์การต่อสู้และความรู้ที่มีกว่า 1,000 ปีทําให้ลู่โจวรู้จักกับค่ายกลแห่งดาบดี

ลู่โจวรีบสะบัดแขนเสื้อของตัวเอง! ในตอนนั้นเองอาวุธนิรนามก็ได้บินออกมา อาวุธนิรนามได้หยุดเคลื่อนไหวอยู่บนฝ่ามือของลู่โจว อาวุธนิรนามที่ถูกควบคุมด้วยพลังลมปราณได้แบ่งตัวออกเป็นสองชิ้น มันเริ่มแบ่งตัวต่อแบบทวีคูณ

ตู๊ม! ตู๊ม! ตู๊ม!

มังกรแห่งดาบถูกอาวุธนิรนามจัดการลงจนได้

สาวกจากสํานักเฮ้งชูต่างก็ตกตะลึงเมื่อได้เห็นการป้องกันลู่โจว

“อาวุธนั่นมันเป็นอาวุธระดับสรวงสวรรค์อย่างงั้นเหรอ?” แม่ทัพหนิงมองลงมาจากด้านบนนี้มันเป็นไปไม่ได้ ท้ายที่สุดแล้วผู้ฝึกยุทธขั้นมหาภัยพิบัติศักดิ์สิทธิ์ผู้ที่มีพลังอวตารดอกบัวหนึ่งกลีบคงไม่อาจต่อสู้เป็นเวลานานแบบนี้ได้

ลู่โจวนึกไปถึงการ์ดแปลงกายที่ใช้ปลอมตัวต่อหน้าทุกคนได้ น่าเสียดายที่การ์ดแปลงกายมีราคาแพงถึง 10,000 แต้มบุญ ในตอนนี้การ์ดแปลงกายที่ใช้กําลังจะเสียเปล่าไป ถ้าหากไม่ใช่เพราะการ์ดแปลงกายที่ต้องเสียเปล่าไป ฉันจะจัดการกับพวกแกทุกคนไปนานแล้ว!”

ในตอนนั้นเองเจียงเหรินยี่และจางซงเป็นฝ่ายที่บินเข้ามาหาลู่โจว

การโจมตีของดาบและพลังฝ่ามือได้เริ่มต้นขึ้น!

การโจมตีของทั้งสองคนเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูง!

“เจ้ากล้าดียังไงกันที่ต่อต้านพวกเราโดยที่มีพลังอวตารกลีบเดียวแบบนี้!”

ถ้าหากทั้งสองคนไม่อาจจัดการชายชราคนเดียวที่ซึ่งไม่ได้มีพลังสูงส่งอะไรได้ ทั้งคู่ก็คงจะถูกผู้ฝึกยุทธทุกคนในยุทธภพหัวเราะเยาะแน่

“พวกเจ้าพูดอะไรกันน่ะ” ลู่โจวได้ลอยขึ้นไปบนอากาศ ในตอนที่พลังดาบและพลังฝ่ามือทุ่งไปใกล้ตัวของลู่โจวจากทางด้านข้าง ในตอนนั้นเองแสงสีฟ้าจางๆ ก็เริ่มส่องสว่างขึ้น! แสงที่ว่าส่องมาจากตัวของลู่โจว ไม่นานนักดาบพลังงานที่ต่อกันจนมีความยาวถึง 100 เมตรก็ได้ปรากฏขึ้น!

ดาบพลังงานนี้มัน!

“เป็นไปไม่ได้”

“ชายคนนี้ไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธผู้มีพลังอวตารกลีบเดียว!”

จางซงและเฉียงเหรินยี่เกือบจะหยุดหายใจเมื่อได้เห็นดาบพลังงานขนาดมหึมารอต้อนรับอยู่

พรึ๊บ! พรึ๊บ! พรึ๊บ!

ดาบพลังงานได้ซัดหาพวกเขาทั้งคู่ราวกับคลื่นยักษ์ที่กําลังโถมเข้าหาฝั่ง ทั้งคู่ถูกดาบพลังงานจู่โจมเข้าไปเต็มๆ ทั้งจางซงและเฉียงเหรินยไม่มีแม้แต่จะเวลาส่งเสียงกรีดร้อง

ดาบพลังงานดูเหมือนจะมีดวงตาเป็นของตัวเอง มันได้เคลื่อนที่ไปรอบๆ ธิดาหอยสังข์ก่อนที่จะจู่โจมทุกอย่าง

“ศิษย์พี่ใหญ่!”

“ผู้อาวุโส!”

สาวกของสถานศึกษาไท่ชูและสาวกจากสํานักเฮ้งชูต่างก็ตกตะลึง

สายตาของแม่ทัพหนิงเปลี่ยนไปจนมีแต่ความเย็นชา ตัวเขารีบพุ่งมาบนอากาศก่อนที่จะใช้กําปั้นที่มีจู่โจมใส่ลู่โจว การโจมตีของแม่ทัพหนิงหนักแน่นราวกับหินผา

ลู่โจวในตอนนี้ยังคงถูกดาบพลังงานล้อมรอบเอาไว้

แต่ถึงแบบนั้นแม่ทัพหนิงก็สามารถฝ่าดาบพลังงานทุกเล่มออกมาได้ด้วยกําปั้นสีทองของเขา!

หืม? พลังวิเศษที่ฉันมีมันไม่มากพออย่างงั้นเหรอ?” ลู่โจวไม่ได้ดูตกใจอะไร ตัวเขาได้ดึงแขนกลับมาก่อนที่จะวางมันไว้ที่หน้าจุดตันเถียนของตัวเอง ในตอนนั้นเองแสงจากดาบพลังงานก็ได้หายจางไป

“ตายซะ!” หนิงฮั่น ผู้ที่รอคอยโอกาสมาโดยตลอดได้ชกลู่โจวด้วยความเร็วสูง แม่ทัพหนึ่งได้ใช้กําปั้นขวาที่มีชกลู่โจวไปอย่างสุดแรง

แม่ทัพหนึ่งไม่แม้แต่จะพักหายใจ ตัวเขาได้ชกลู่โจวด้วยความเร็วราวกับสายฟ้าฟาด

ตู๊ม!

กําปั้นของเขากระแทกเข้ากับหน้าอกของลู่โจว

โดน!? หนิงฮั่นรู้สึกพอใจในการโจมตีครั้งนี้ ใครก็ตามที่ถูกตัวเขาโจมตีในระยะประชิดย่อมต้องบาดเจ็บสาหัส หนิงฮั่นสัมผัสได้ว่าหมัดของตัวเขาจู่โจมโดนเป้าหมายเข้าอย่างจัง แต่เมื่อแสงทั้งหมดเริ่มจางหายไป หนิงฮั่นก็ได้เห็นหมัดของตัวเอง หมัดของเขาอยู่บนหน้าอกของลู่โจว แต่เมื่อมองดูให้ดีหนิงฮั่นก็พบม่านพลังสีฟ้าล้อมรอบร่างกายของลู่โจวเอาไว้

ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย

My Disciples Are All Villains

My Disciples Are All Villains

เรื่องย่อ

ลู่โจว ชายคนหนึ่งที่ตื่นขึ้นมาจากการหลับใหลและพบว่าตัวเขานั้นกำลังอยู่ในร่างกายของใครบางคนอยู่ เขาคนนี้กำลังอยู่ในร่างกายของปรมาจารย์ผู้ชั่วร้ายนามว่าจีเทียนเด๋า

ชายคนนี้เป็นผู้ที่ยืนอยู่ในจุดสูงสุดของโลกใบใหม่นั่นเอง! แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็ได้เกิดขึ้น ร่างกายของจีเทียนเด๋าผู้นี้นั้นแก่ชราเกินไป

พลังวรยุทธ์ทั้งหมดที่เคยมีเองยังสูญหายไปอีกด้วย นี่ฉันจะต้องกลายเป็นคนแก่ไร้ค่าไปแล้ว

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท