ตอนที่ 490 ทางที่ดี
ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย
ฝัน?
สีวู่หยาเข้าใจก่อนจะพูดขึ้น “วันนี้ท่านดูสูบผอมจริงๆ ศิษย์พี่ใหญ่ ทําไมท่านไม่ปล่อยให้ข้าบริหารสํานักอเวจีและใช้เวลาที่มีพักผ่อนซะล่ะ?”
“นั่นเป็นความคิดที่ดีจริงๆ ศิษย์น้องผู้หลักแหลมของข้า” ยู่เฉิงไห่ยกมือขึ้นมาก่อนที่จะส่องพลังฝ่ามือไปบนอากาศ
ในคอกม้าที่อยู่ใกล้ๆ กุ้ยหนิวสัตว์ขี่ที่มีรูปร่างคล้ายกับวัวรีบวิ่งเข้ามาหาเฉิงไห่
ยู่เฉิงไห่กระโดดขึ้นไปบนหลังมันก่อนที่จะพูดกับสีวู่หยา “อีกสองวันเจอกัน”
“ ขอให้เดินทางปลอดภัยศิษย์พี่ใหญ่”
ม่อออ!
กุ้ยหนิวได้วิ่งไปบนอากาศ
ในขณะที่ฮั๊วจงหยางวิ่งมา ตัวเขาก็มองเห็นยู่เฉิงไห่ที่กําลังจะจากไป “ทําไมท่านเจ้าสํานักถึงได้รีบร้อนเช่นนี้?”
สีวู่หยาไม่ได้สนใจอะไรเขา ตัวเขาเลือกที่จะเดินไปยังห้องประชุมแทน
….
ที่ศาลาปีศาจลอยฟ้า
ต้วนมู่เฉิง, จ้าวยู่, ซู่ฮ่องกง และหยวนเอ๋อต่างก็ล้อมรอบธิดาหอยสังข์เอาไว้ ดูเหมือนว่าทุกคนกําลังกังวลว่านางกําลังจะหนีไป
“ท่านอาจารย์บอกเอาไว้ว่าไม่ให้พวกเรารังแกนาง” ซู่ฮ่องกงยิ้มให้ธิดาหอยสังข์
“ด้วยวัยของท่านอาจารย์ตอนนี้ ทําไมจู่ๆ เขาถึงได้พาเด็กกลับมากัน?”
“ท่านกําลังคิดว่านางเป็นลูกสาวนอกสมรสของท่านอาจารย์อย่างงั้นหรอ” ซูฮ่องกงถามออกมา
ตุ๊บ!
“โอ๊ย!”
“ศิษย์พี่สาม ท่านทําอะไรกัน?” ซู่ฮ่องกงถามออกมา
“เจ้าอยากที่จะตายมากสินะ? กล้าดียังไงกล้านินทาลับหลังท่านอาจารย์ได้?” ต้วนมู่เฉิงพูดออกมาอย่างจริงจัง
“เอ่อ…ท่านพูดถูกแล้วล่ะ ศิษย์พี่สาม”
จ้าวยู่ขยับไปที่ด้านหน้าธิดาหอยสังข์ นางโบกมือให้ก่อนที่จะถามออกมาด้วยรอยยิ้มจางๆ “แล้วเจ้ามีชื่อว่าอะไรกัน?”
“หอ…หอย…หอยสังข์” สาวน้อยในตอนนี้กําลังถือขลุ่ยในมือข้างหนึ่ง ส่วนอีกมือข้างหนึ่งถือหอยสังข์
“ชื่อจริงของเจ้าคือหอยสังข์อย่างงั้นเหรอ?” ซู่ฮ่องกงถามด้วยรอยยิ้ม
หยวนเอ๋อกระโดดไปที่ด้านหน้าธิดาหอยสังข์ก่อนจะเปรียบเทียบความสูงของตนและนาง นางพบว่าความสูงที่มีเท่ากัน จากนั้นนางก็เดินวนรอบสาวน้อยก่อนที่จะถามออกมา “บ้านของเจ้าอยู่ที่ไหน?”
“ที่ที่ไกลแสนไกล” ธิดาหอยสังข์ชี้ไปที่ทิศตะวันออก
หยวนเอ๋อกระโดดกลับมา นางดึงแขนเสื้อจ้าวยู่ก่อนที่จะพูดขึ้น “ศิษย์พี่ข้าคิดว่านางดูไม่ร่าเริงเอาซะเลย”
ธิดาหอยสังข์กะพริบตาก่อนที่จะถามออกมาด้วยความสงสัย “อะไรที่ไม่ร่าเริงกัน?”
“ข้าว่าเจ้าเดือดําเกินไป”
“เด๋อด๋า?”
ทุกคนเข้าใจแล้ว อันที่จริงธิดาหอยสังข์ไม่ได้ไม่ร่าเริง
หยวนเอ๋อหัวเราะคิกตักก่อนที่จะพูดต่อ “นั่นไม่ใช่ปัญหา จากนี้ไปข้าจะปกป้องเจ้าเอง ข้าจะจัดการกับทุกคนที่กล้ารังแกเจ้า!”
“ขอบคุณ” ธิดาหอยสังข์ตอบกลับ
“ไปกันเถอะ..พวกเรามาสนุกกัน”
“อืม”
เด็กสาวทั้งสองคนจับมือกันก่อนที่จะวิ่งลงไปจากภูเขา
ต้วนมู่เฉิง, จ้าวยู่ และซู่ฮ่องกงรู้สึกงุนงงและตกตะลึง ทุกคนจ้องมองเด็กสาวที่กําลังไกลออกไปเรื่อยๆ ไม่ใช่ว่าหยวนเอ๋อควรจะถามสาวน้อยคนนั้นก่อนเหรอ?
ด้านในศาลาทางตะวันออก
ลู่โจวกําลังนั่งอยู่บนเบาะนั่ง ในตอนนี้ตัวเขาเหลือบมองไปที่เมนูระบบที่ตัวเขามี
แต้มบุญ: 54,680
การเดินทางไปมณฑลจึงทําให้ลู่โจวได้รับแต้มบุญมามากกว่าที่คาดการณ์ไว้
มันเป็นแต้มบุญที่ได้มาจากการสังหารเจียงเหรินยีแห่งสถานศึกษาไทชู, จางซงแห่งสํานักเฮ้งชู และรองแม่ทัพหนิงฮั่นแห่งมณฑลจิง ส่วนแต้มบุญที่เหลือจู่โจวได้มาจากยู่เฉิงไห่เป็นส่วนใหญ่
“เจ้าศิษย์ไม่รักดีนั่นเมื่ออยู่ต่อหน้าฉันต้องรู้สึกอึดอัดแค่ไหนกัน? หรือว่าฉันควรจะไปหาเจ้านั่นบ่อยๆ ในตอนที่ไม่มีแต้มบุญกัน?”
ลู่โจวมองดูภารกิจสังสอนเหล่าสาวกที่มีอยู่บนเมนู
ภารกิจในการสั่งสอนเหล่าสาวกทั้งแปดดูเหมือนจะใกล้เสร็จสมบูรณ์เต็มที่
เมื่อมองลงไปที่ด้านล่างลู่โจวก็มองเห็นภารกิจอื่น
ภารกิจ: ค้นหาแม่นางแซ่หลัว
สถานะ: กําลังดําเนินการ
“แม่นางแซ่หลัวคนนี้กุมความลับอะไรเอาไว้กันแน่? แล้วนางไปอยู่ที่ไหนกัน?”
เนื่องจากมีภารกิจตามเกิดขึ้นในระบบ นั่นก็หมายความว่าบุคคลที่ระบบให้ตามหาจะต้องมีชีวิตอยู่ในตอนนี้สิ่งที่ทําได้มีเพียงค่อยๆ ตามหานาง
ลู่โจวเหลือบมองแต้มบุญอีกครั้ง ตัวเขาสงสัยว่าควรที่จะซื้อพลังกลีบดอกบัวกลีบใหม่ดีไหม การที่จะสะสมแต้มบุญจนซื้อพลังอวตารสหัสะภพได้ไม่ใช่เรื่องง่าย การที่จะซื้ออวตารสหัสะภพได้ ลู่โจวจะต้องมีพลังอวตารดอกบัวแปดกลีบให้ได้ก่อน ถ้าหากจะพูดอีกนัยหนึ่ง ลู่โจวจะต้องฝึกฝนตัวเองจนมีพลังอวตารดอกบัวเก้ากลีบให้ได้ซะก่อน ดังนั้นการจะซื้อพลังอวตารสหัสะภพได้ ยังคงเป็นเรื่องที่ยังห่างไกล
ในตอนนี้การซื้อกลีบดอกบัวยังเป็นอะไรที่สิ้นเปลืองมากจนเกินไป ลู่โจวสามารถฝึกฝนตัวเองเพื่อผลิกลีบดอกบัวตั้งแต่ 1 กลีบจนไปถึง 5 กลีบเองได้ ลู่โจวที่เห็นแบบนั้นตัดสินใจที่จะเก็บแต้มบุญเอาไว้ก่อน
เมื่อคิดไปคิดมาตัวเขาก็พึมพําออกมา “จับฉลากนําโชค”
“ติ้ง! ใช้แต้มบุญ 50 แต้มสําเร็จ ได้รับการ์ดพลังชีวิต X5”
ถือว่าเป็นการเริ่มต้นที่ดี
แต่เมื่อจับฉลากนําโชคต่อ สิ่งที่ลู่โจวได้มีเพียงรางวัลปลอบใจ ตัวเขาที่ไม่ได้อะไรเลือกที่จะยอมแพ้ไป
ท้ายที่สุดแล้วลู่โจวก็ได้ปิดระบบ
ตัวเขาได้วางฝ่ามือลงบนจุดตันเถียนของตน ในตอนนั้นเองพลังลมปราณก็ได้ไหลมาตามเส้นพลังลมปราณทั้งแปด จุดตันเถียนที่ลู่โจวมีเปรียบเสมือนแหล่งน้ําพุ พลังลมปราณที่ลู่โจวมีค่อยๆ เติมเต็มเข้าสู่จุดตันเถียนของตัวเขา ในตอนนี้ความเร็วในการฟื้นฟูพลังเหนือกว่าก่อนหน้านี้มาก มันเหนือกว่าที่ลู่โจวคาดเอาไว้ซะอีก
ลู่โจวได้สละความคิดทั้งหมดทิ้งไปก่อนที่จะเข้าสู่การทําสมาธิ
ในขณะเดียวกันนั้น
ธิดาหอยสังข์และหยวนเอ๋อก็ได้เดินตรงมา
“ศาลาตะวันออกเป็นที่ที่อาจารย์ของข้าอยู่ทางที่ดีเจ้าควรจะหลีกเลี่ยงเข้ามายังศาลาตะวันออกจะดีกว่า ถ้าหากเจ้าไม่ระวังให้ดี เจ้าจะต้องถูกเฆี่ยนตีแน่ ส่วนนั่นคือศาลาทางใต้ มันเป็นที่ที่ศิษย์อย่างข้าและศิษย์พี่พักอาศัยอยู่ โอ้ ที่นั่นมีผู้อาวุโส 4 คนอยู่ด้วย ส่วนทางทิศนั้นก็คือศาลาตะวันตก มันเป็นที่ที่สาวกคนอื่นๆ ใช้อยู่อาศัย ภายในนั้นมีคัมภีร์, อาวุธ และคัมภีร์เคล็ดวิชาสําหรับ การฝึกตนถูกเก็บเอาไว้ส่วนศาลาทางเหนือเป็นเหมือนกับโกดังเก็บของน่ะ…” หยวนเอ๋อได้ แนะนําศาลาปีศาจลอยฟ้าให้กับธิดาหอยสังข์
“ที่ด้านหลังศาลาทางเหนือก็คือด้านหลังหุบเขา…” หยวนเอ๋อได้พาธิดาหอยสังข์ไปที่ด้านหลังหุบเขา
ในตอนนั้นเองทั้งสองคนก็ได้เห็นยู่ฉางตง ยู่ฉางตงในตอนนี้ยืนอยู่บนยอดไม้พร้อมกับถือดาบยืนยาวเอาไว้ในมือ ตัวเขาในตอนนี้กําลังครุ่นคิดอะไรบางอย่างในขณะที่มืออีกข้างถือบันทึกเอา
“นั่นใครน่ะ? ทําไมเขาดูแปลกจัง” ธิดาหอยสังข์ถามออกมาอย่างสงสัย
หยวนเอ๋อหัวเราะคิกคักก่อนจะตอบกลับ “อย่าไปสนใจเขาเลย เขาอยู่ที่ยอดไม้นั่น มาหลายวันแล้วล่ะ”
ในตอนที่เสียงของนางจางหายไป ยู่ฉางตงก็ได้เก็บบันทึกเอาไว้ก่อนที่จะตีลังกาขึ้นไปบนอากาศ ท้ายที่สุดแล้วตัวเขาก็หยุดเคลื่อนไหวต่อหน้าหยวนเอ๋อ
หยวนเอ๋อที่เห็นแบบนั้นแลบลิ้นของนางก่อนที่จะก้มศีรษะลง “ศิษย์พี่รอง” ยู่ฉางตงยิ้มให้ตัวเขาลูบหัวหยวนเอ๋อก่อนที่จะถามออกมา “แขกอย่างงั้นเหรอ?”
“สวัสดี ข้าหอยสังข์” ธิดาหอยสังข์ได้ยื่นมือออกมาพร้อมกับสิ่งยิ้มหวาน
“สวัสดี”
“หอยสังข์อย่างงั้นเหรอ? ช่างเป็นชื่อที่ดีจริงๆ” ยู่ฉางตงกล่าวชมเชย
หยวนเอ๋อรีบดึงตัวสาวน้อยก่อนที่จะวิ่งออกไปทางด้านหลังหุบเขา “ศิษย์พี่รอง ท่านอาจารย์เป็นคนพานางมาที่นี่ ข้าจะพานางไปสํารวจรอบๆ ก่อน”
“ท่านอาจารย์อย่างงั้นเหรอ?”
ยู่ฉางตงมองไปที่สาวน้อยอย่างสงสัย นอกจากที่นางจะดูบริสุทธิ์และไร้เดียงสาแล้ว สาวน้อยคนนี้ไม่ได้มีอะไรพิเศษ อาจารย์ของเขาไม่ค่อยจะพาคนนอกมายังภูเขาทอง แล้วทําไมอาจารย์ถึงได้พานางมากัน? ก่อนที่จะได้ถามอะไรเพิ่มเติมหยวนเอ๋อและสาวน้อยก็ได้จากยู่ฉางตงไปซะแล้ว
ยู่ฉางตงไม่คิดที่จะสนใจเรื่องนี้อีก ตัวเขาลอยตัวขึ้นก่อนที่จะกลับสู่ยอดไม้
ในขณะเดียวกันฝานซงและโจวจี้เพิ่งที่ได้เห็นหยวนเอ๋อและธิดาหอยสังข์ได้แต่พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน
“นั่นมันน้องใหม่สินะ?”
“อย่าชี้ไปทางนาง!”
“พวกเราต่างก็มีประสบการณ์กันมามากแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นอย่าได้เข้าไปยุ่งจะดีกว่า”
“เข้าใจแล้ว! ข้าจะเชื่อฟังพี่โจวเอง! ทางที่ดีพวกเราควรจะหลีกเลี่ยงนางเป็นดีที่สุด!”
ทั้งสองคนหันหลังก่อนที่จะจากไปอย่างไม่ลังเล
ลู่โจวรู้สึกว่าจุดตันเถียน จุดกักเก็บพลังลมปราณบัดนี้ถูกเติมเต็มด้วยพลังลมปราณจนเต็มที่ แล้วบางทีมันอาจจะเป็นเพราะก่อนหน้านี้ลู่โจวมีพลังวรยุทธไม่สูงส่งอะไร เพราะแบบนั้นตัวเขา จึงไม่คิดที่จะใช้พลังลมปราณของตัวเองบ่อยครั้ง ในตอนนี้พลังลมปราณที่มีมันเพิ่มขึ้นกว่าเดิมมาหลายเท่าตัว
“แล้วฉันจะผลิกลีบดอกบัวกลีบใหม่ได้ไหม?” ลู่โจวสงสัยตัวเอง ด้วยประสบการณ์และทักษะที่มีมากพอ ดูเหมือนว่าพลังลมปราณเพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะใช้ผลิกลีบดอกบัวกลีบใหม่
ติดตามแฟนเพจอัพเดทข่าวสารอ่านนิยายก่อนใครได้ที่ FB: ND Translate นิยายแปลไทย